Skip to content

King of Gods 1413

King Of Gods

บทที่ 1413 เทพโบราณอั้นเมี่ย

การมาถึงของเทพโบราณหยวนเหยาแห่งเผ่าพันธุ์วิญญาณ ทำให้สำนักเทียนหลัวที่สิ้นหวังมองเห็นความหวัง

“เทพโบราณหานเยี่ยน?”

เทพโบราณหยวนเหยามองไปยังเทพโบราณหานเยี่ยน สงสัยก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นก็หัวเราะเสียงเย็น

อีกด้านหนึ่ง เทพโบราณหานเยี่ยนยืนอยู่บนพื้นที่แทบจะเป็นน้ำแข็ง ทั่วทั้งร่างอยู่ภายในหมอกเหมันต์สีเทาอ่อน

“เป็นเจ้านี่เอง?” เทพโบราณหานเยี่ยนจ้องเทพโบราณหยวนเหยา ไอเย็นในดวงตายิ่งเข้มข้น

ฟิ้ว! ลำแสงสีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้นข้างกายเทพโบราณหานเยี่ยน

“เป็นไปได้อย่างไร? เผ่าพันธุ์วิญญาณรู้ได้อย่างไรว่าท่านจะมา ทั้งยังส่งครึ่งก้าวสู่จอมเทพมาอีก!” เทพโบราณอั้นเมี่ยแอบตกใจ

แต่เดิมคิดว่าเทพโบราณหานเยี่ยนออกโรง จะต้องจัดการทุกอย่างได้แน่ ทว่าคิดไม่ถึง มีครึ่งก้าวสู่จอมเทพเผ่าพันธุ์วิญญาณผู้หนึ่งมาเยือน

ครืน ตูม ตูม! ฟ้าดินทั้งสองฝั่ง ครึ่งก้าวสู่จอมเทพผู้งดงามทั้งสองยืนอยู่กลางอากาศ พลังฟ้าดินที่ไร้รูปร่างปะทะเข้าด้วยกัน ทำเอาท้องฟ้าสะเทือนเลื่อนลั่นไม่ขาดสาย

ในสำนักเทียนหลัว สายตาของทุกคนต่างมองมายังร่างของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสอง

นี่ไม่ใช่เพียงเพราะการปะทะกันอย่างไร้รูปร่างของครึ่งก้าวสู่จอมเทพเท่านั้น แต่เป็นเพราะใบหน้างามล่มเมืองด้วย

เทพโบราณหานเยี่ยนดุจเทพธิดาหิมะ งามล้ำและหยิ่งทะนง

ส่วนเทพโบราณหยวนเหยาดุจราชินีหยกแวววาว สูงส่งงดงาม

แต่ทั้งสองมีจุดที่เหมือนกัน นั่นก็คือทำให้คนยากที่จะเข้าใกล้ ไม่อาจเอื้อมได้

“บรรยากาศของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองค่อนข้างประหลาด!”

“เจ้าไม่รู้รึ? พวกนางทั้งสองตั้งแต่เด็กก็เฉลียวฉลาดเกินผู้ใด เป็นสตรีอัจฉริยะในยุคเดียวกัน ยิ่งมีการแข่งขันของเผ่าพันธุ์วิญญาณกับเผ่าเปลวทอง พวกนางทั้งสองต่างต่อสู้และแข่งขันกันมาตั้งแต่ยังเล็ก!”

“คิดไม่ถึงเลยว่าสตรีอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์วิญญาณและเผ่าเปลวทองในตอนนั้น จะมีโอกาสได้ประมือกันอีกครั้ง!”

ในสำนักเทียนหลัว คนส่วนใหญ่รู้เรื่องของเทพโบราณหยวนเหยาและเทพโบราณหานเยี่ยนค่อนข้างดี

“พวกเราประมือกันครั้งที่แล้ว ก็แปดร้อยปีก่อนแล้วกระมัง ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้าพัฒนาไปมากน้อยเท่าใด!”

เทพโบราณหยวนเหยาแค่นเสียงต่ำ ร่างพลันพุ่งทะยานออกไป

“วันนี้ข้าจะให้เจ้าตายอยู่ที่นี่!” แววตาเย็นเยียบของเทพโบราณหานเยี่ยนเป็นประกาย ก่อนทะยานออกไปทันใด

ครืน ตูม บึ้ม! ฟ้าดินพลันสั่นไหว คลื่นพลังเทพที่น่าพรั่นพรึงแผ่ระลอก เศษผลึกน้ำแข็งนับไม่ถ้วนแตกกระจายร่วงลงมา

โชคดีที่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองสู้กันอยู่ค่อนข้างไกลจากสำนักเทียนหลัว มิฉะนั้น ควันหลงจากการต่อสู้ของพวกนางก็สามารถทำลายได้ทั้งสำนักเทียนหลัว

“นี่ก็คือครึ่งก้าวสู่จอมเทพ พลังเสวียนอ้าวเก้าขั้น ไม่ธรรมดาจริงๆ!”

เจ้าสำนักเทียนหลัวพึมพำอย่างตื่นตะลึง

เทพโบราณหลันหย่วนและสมาชิกสำนักเทียนหลัวคนอื่นๆ ต่างจ้องเขม็งไปบนฟ้าไกล

แต่พวกเขาเห็นเพียงเงาร่างขมุกขมัวสองร่างในม่านหมอกผลึกน้ำแข็ง พุ่งตัดสลับปะทะเข้าด้วยกัน

“ไยเจ้าจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?” เทพโบราณหยวนเหยาถามขึ้น

ตามหลักแล้ว ในช่วงนี้ยังไม่ถึงขั้นที่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพต้องเข้าร่วมรบด้วยตนเอง

“แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?” สีหน้าของเทพโบราณหานเยี่ยนเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง

คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ นางลงมือเองก็ยังจะมีเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้เกิดขึ้น นางเชื่อว่าเทพโบราณหยวนเหยาจะต้องมีเหตุผลถึงมาที่นี่

“แล้วมันเรื่องอะไรของเจ้า?” สีหน้าของเทพโบราณหยวนเหยาฉายแววโกรธแค้น กระบี่ผลึกมรกตเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ แล้วฟาดฟันออกไปทันใด

วู้ม ครืน! คมคลื่นผลึกน้ำแข็งสีเขียวอ่อนสายหนึ่งทำลายพื้นดินน้ำแข็ง ฟันตรงไปยังเทพโบราณหานเยี่ยน

“เสี้ยวเหมันต์พินาศ!” เทพโบราณหานเยี่ยนยื่นมือขาวนวลเนียนออกมา ปลดปล่อยเปลวไฟสีเทาอ่อนที่เย็นเยียบน่าหวาดหวั่นออกมาสองกลุ่ม

เปลวเพลิงสองกลุ่มนั้นปะทะไปยังคมคลื่นสีเขียวอ่อนขนาดมหึมา ทันใดนั้น คมคลื่นผลึกน้ำแข็งก่อตัวเป็นน้ำแข็งขึ้นบริเวณที่ปะทะเข้ากับเพลิงเหมันต์สองกลุ่ม

ไม่นานนัก คมคลื่นผลึกน้ำแข็งสีเขียวอ่อนก็ถูกแช่แข็งทุกส่วน

“เหมันต์แหลกลาญ!”

“ระเบิดผลึกแก้ว!”

สตรีสองนางตะโกนลั่น

ครืน ตูม ตูม!

คมคลื่นผลึกที่แข็งตัวระเบิดออกทันที เศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนพุ่งเฉียดไปยังพื้นดิน ราวกับเป็นฝนผลึกน้ำแข็งอันน่าอัศจรรย์ ทิวเขาใกล้สำนักเทียนหลัวบ้างแหลกลาญพังทลาย ไม่ก็มีน้ำแข็งเกาะตัวกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง

“เป็นแบบนี้ต่อไป ค่ายกลป้องกันสำนักเทียนหลัวอาจจะต้านทานต่อไปไม่ได้!”

เจ้าสำนักเทียนหลัวมีสีหน้าขมขื่น

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุสิ่งกีดขวางแต่ละชั้น มองไปยังการต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสอง

“ทั้งสองคนพลังพอๆ กัน อีกทั้งยังลงมือสุดกำลัง ล้วนแต่จะจัดการอีกฝ่ายให้ถึงแก่ความตาย ยากจะคาดผลแพ้ชนะ แต่พวกนางน่าจะยืนหยัดต่อไปได้ไม่นาน กำลังรบก็จะค่อยๆ ลดลง!” จ้าวเฟิงพูดวิเคราะห์

นับแต่เด็ก เทพโบราณหยวนเหยาและเทพโบราณหานเยี่ยนก็เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ต่อสู้กันมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ พบกันครั้งนี้ พวกนางทั้งสองไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย แต่ละกระบวนท่าถึงแก่ชีวิตทั้งสิ้น

“เอ๋?” การต่อสู้ที่วุ่นวายในครรลองสายตาของจ้าวเฟิง พลันปรากฏลำแสงมืดหม่นขึ้น

“แย่แล้ว คนเผ่าเงาราตรี!”

จ้าวเฟิงเปลี่ยนสีหน้าไปทันที

เทพโบราณอั้นเมี่ยแห่งเผ่าเงาราตรีเชี่ยวชาญด้านอำพรางตนลอบโจมตี จับจุดอ่อน สำแดงกระบวนท่าถึงแก่ชีวิต

หากเปลี่ยนเป็นปกติ เทพโบราณหยวนเหยาจะเกรงกลัวการลอบโจมตีของเทพโบราณอั้นเมี่ยเสียที่ไหน?

แต่เทพโบราณหยวนเหยาและเทพโบราณหานเยี่ยนฝีมือพอๆ กัน ทั้งยังลงมือเต็มกำลัง การต่อสู้อันตรายเป็นที่สุด จะเสียสมาธิแม้แต่นิดเดียวไม่ได้เด็ดขาด

“หากเทพโบราณหยวนเหยาพ่ายแพ้ อย่างไรเสียข้าก็ต้องเผยพลังที่แท้จริง!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงคร่ำเคร่ง จากนั้นวูบไหวกายออกไปทันใด

“สหายจ้าว เจ้าจะทำอะไร?” เจ้าสำนักเทียนหลัวร้องขึ้นทันที

“เจ้าเด็กนี่คิดว่าตัวเองเก่งกาจนักรึไง ถึงกล้าเข้าใกล้สนามต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ!” เทพโบราณหลันหย่วนเห็นภาพนี้ก็หัวเยาะเหยียดหยาม

เขากับจ้าวเฟิงอย่างไรเสียก็มีความขัดแย้งกัน หากไม่ใช่จ้าวเฟิงมีพลังแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เขาจะยอมศิโรราบต่อจ้าวเฟิงได้อย่างไร

ตอนนี้จ้าวเฟิงจะไปรนหาที่ตาย เขายินดียิ่งนัก

“กระบี่เทพรวมศูนย์!” พลังเทพรวมศูนย์ก่อตัวเป็นกระบี่ขนาดเล็กออกมาจากในตาซ้ายของจ้าวเฟิงทันใด

ฟิ้ว! กระบี่เทพรวมศูนย์ขนาดเล็กพุ่งออกไปทันที ทะลวงผ่านเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วน

เทพโบราณอั้นเมี่ยที่เตรียมจะเข้าใกล้สนามต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ สังเกตได้ถึงคลื่นพลังที่แข็งแกร่งทันใด

“เจ้าเด็กนี่!” แววตาของเทพโบราณอั้นเมี่ยเคร่งเครียด

หากเขามุ่งหน้าต่อไป ก็จะถูกจ้าวเฟิงโจมตีเอาได้ เขาเคยเห็นกระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิง พลังไม่ธรรมดาเลย

“บัดซบ โอกาสดีเช่นนี้…” เทพโบราณอั้นเมี่ยกัดฟันกรอด เลือกที่จะถอยไป

“ครั้งนี้เจ้าไม่ต้องมีชีวิตรอดออกไปแล้ว!”

จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ ไล่ตามเทพโบราณอั้นเมี่ยไป

ฟุ่บ! ขวับ! ทั้งสองทะยานเข้าไปในพายุการต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ ทำให้คนของสำนักเทียนหลัวมองสถานการณ์ได้ไม่ชัด

“วงแสงรวมศูนย์!” พลังเทพรวมศูนย์ทะลักล้นรอบกายจ้าวเฟิง ก่อเป็นวงแสงสีเงินเข้มขุ่นข้น รอบวงแสงรวมศูนย์แผ่กระจายพลังที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งออกมา สูบกลืนคลื่นพลังที่เหลือรอบด้าน

“เคล็ดวิชาป้องกันของเจ้าเด็กนี่สามารถกลืนกินพลังอื่น มาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง!” สีหน้าของเทพโบราณอั้นเมี่ยหนักอึ้งเล็กน้อย

ฟุ่บ! เขารีบออกจากห่างพื้นที่การต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทันที จ้าวเฟิงก็รีบไล่ตามไป

‘เช่นนี้เคล็ดวิชาป้องกันของเจ้าก็ไม่อาจดูดซับพลังอื่นๆ ได้แล้ว!’ เทพโบราณอั้นเมี่ยแอบหัวเราะในใจ

“ดูนั่นเร็ว จ้าวเฟิงกำลังสู้อยู่กับอีกคนหนึ่ง!”

“ที่แท้ ผู้แข็งแกร่งเผ่าเงาราตรีแอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ การต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสอง!”

คนสำนักเทียนหลัวจำนวนไม่น้อยกระจ่างแจ้งทันที

แต่ไม่นานนัก เทพโบราณอั้นเมี่ยและจ้าวเฟิงก็ออกไปไกลจากครรลองสายตาของพวกเขา

ฟิ้ว! หลังพ้นจากสนามต่อสู้ที่วุ่นวายของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ ความเร็วของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นมาก ไม่นานเท่าใดก็ไล่ตามเทพโบราณอั้นเมี่ยทัน

“รนหาที่ตาย กล้าเข้าใกล้ข้ารึ!” เทพโบราณอั้นเมี่ยหัวเราะเยาะหยัน

ถึงแม้วิชาดวงตาของจ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็ยากที่จะโจมตีเขาที่เป็น ‘ร่างเงาราตรี’ ให้ถึงแก่ชีวิตในกระบวนท่าเดียว

อีกทั้งเมื่อกระตุ้นวิชาดวงตา จ้าวเฟิงก็จะเผยจุดอ่อนให้เห็น ในสถานการณ์ที่เข้าประชิดตัว เทพโบราณอั้นเมี่ยจะสามารถโจมตีถึงชีวิตในกระบวนท่าเดียว

“กระบี่เทพรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงแปลงวงแสงรวมศูนย์เป็นกระบี่สีเงินขุ่นข้นที่ทรงพลัง ก่อนจะฟันออกไปทันที

“ร่างแยกลอบสังหาร!”

ร่างของเทพโบราณอั้นเมี่ยบิดม้วน แปลงเป็นลำแสงสีดำมืดหม่นสามกลุ่ม หลบหลีกการโจมตีของจ้าวเฟิงไป ทั้งยังพุ่งมาจากด้านซ้าย ขวา และข้างหลังของจ้าวเฟิง

นี่คือเคล็ดวิชาลับสายเลือดของเผ่าเงาราตรี แยกร่างออกเป็นหลายร่างในชั่วพริบตา อีกทั้งร่างแยกมีพลังโจมตีของร่างหลักแปดเก้าส่วน

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปในยามที่สู้ระยะประชิด จู่ๆ เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ จะต้องลนลานทำอะไรไม่ถูกแน่นอน

“ตาย!”เงาดำสามกลุ่มก่อรูปหนามแหลมสีดำทมิฬขึ้นมา จากนั้นแทงออกไปโดยพลัน

“วงแสงรวมศูนย์!” เผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ จ้าวเฟิงไม่รีบร้อนลนลาน แต่สำแดงเคล็ดวิชาป้องอีกครั้ง รอบกายรวมวงแสงสีเงินเข้มขึ้นมาชั้นหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน กระบี่รวมศูนย์ในมือของจ้าวเฟิงฟันไปยังข้างหลังเงาดำทมิฬ

“เป็นไปได้อย่างไร?” เทพโบราณอั้นเมี่ยตื่นตกใจ จ้าวเฟิงสังเกตเห็นร่างแท้จริงของเขาได้อย่างไร

ฉัวะ ฉึก! กระบี่ของจ้าวเฟิงฟันเข้าไปในร่างของเทพโบราณอั้นเมี่ย ถึงแม้เขาจะพยายามหลบหลีกเต็มที่ แต่ก็ยังคงโดนกระบี่ฟัน

“บัดซบ ประเมินสายเลือดดวงตาของเจ้าเด็กนี่ต่ำไป!”

เทพโบราณอั้นเมี่ยคาดเดาได้ในพริบตา จะต้องเป็นสายเลือดดวงตาพิเศษของจ้าวเฟิงที่สามารถแยกแยะร่างที่แท้จริงของเขาได้

เวลาเดียวกัน การโจมตีของร่างแยกเขาก็ปะทะเข้าไป

การโจมตีของมันถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ในยามที่สัมผัสเข้ากับวงแสงรวมศูนย์ พลังก็ค่อยๆ อ่อนลง ถึงแม้ร่างแยกของเทพโบราณอั้นเมี่ยมีพลังโจมตีของร่างหลักแปดเก้าส่วน แต่ร่างแยกสร้างจากพลังเทพของเขา ยิ่งถูกวงแสงรวมศูนย์ดูดซับได้ง่าย เทียบกับการโจมตีจากอาวุธเทพของเขาเองไม่ได้เลย

“ถอย!” เทพโบราณอั้นเมี่ยได้รับบาดเจ็บ ใจเกิดความคิดจะถอยหนี

“มิติพันธนาการ!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงแผ่ระลอกพลังดวงตา พลังมิติชั้นหนึ่งตลบอบอวลออกมา

วู้ม ครืน!

ทันใดนั้น พลังประหลาดกึ่งจริงกึ่งมายาชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนร่างเทพโบราณอั้นเมี่ย

ความเร็วของเขาลดลงทันควัน เหมือนกับเต่าตัวหนึ่งในสายตาของจ้าวเฟิง

นี่ยังเป็นตอนที่จ้าวเฟิงยังไม่ได้สำแดงวิชาดวงตาทั้งหมด มิฉะนั้นเทพโบราณอั้นเมี่ยจะไม่มีทางขยับได้เลย

“ตาย!” จ้าวเฟิงประชิดเข้าไปใกล้ กระบี่รวมศูนย์ในมือส่งเสียง ‘ฉัวะ’ ออกมา ฟันเทพโบราณอั้นเมี่ยขาดออกเป็นสองท่อน

วู้ม ฟุ่บ~ เทพโบราณอั้นเมี่ยที่แยกเป็นสองท่อน ราวกับเงาของเหลวสีดำเย็นเยือก รวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วด้วยวิธีแปลกประหลาด

การโจมตีตามหลักทั่วไปยากจะสร้างอาการบาดเจ็บถึงแก่ชีวิตให้เผ่าเงาราตรีได้

“กระบี่เทพรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงกลับป้องกันเอาไว้ก่อนแล้ว กระบี่เทพรวมศูนย์ที่ก่อตัวขึ้นในมือแผ่เงากระบี่สีเงินที่ตัดสลับปั่นป่วนออกมา จากนั้นสอดประสานขึ้นเป็น ‘หลุมกระบี่เงิน’ ที่บิดโค้งอยู่รางๆ

“อ๊าก…” เทพโบราณอั้นเมี่ยร้องอย่างน่าอนาถ กายเนื้อและวิญญาณถูกฉึกทึ้งกัดกินไม่หยุด ไม่นานนักก็ถูก ‘หลุมกระบี่เงิน’ ที่น่ากลัวกลืนกินไป

หลังจากสังหารเทพโบราณอั้นเมี่ยแล้ว จ้าวเฟิงก็กลับไปยังสำนักเทียนหลัว

เนื่องจากเขตพื้นที่ที่จ้าวเฟิงสู้กับเทพโบราณอันเมี่ยอยู่ค่อนข้างไกล ขั้นตอนทั้งหมดก็รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง คนอื่นๆจึงไม่สังเกตเห็น

“จ้าวเฟิง ดีที่เมื่อครู่เจ้าลงมือ ไม่ให้คนเผ่าเงาราตรีไปรบกวนเทพโบราณหยวนเหยา!”

เจ้าสำนักเทียนหลัวรีบพูดขึ้น

“คนเผ่าเงาราตรีเล่า?”

ประสาทสัมผัสเทพของเจ้าสำนักเทียนหลัวกวาดมอง แต่ไม่พบเทพโบราณอั้นเมี่ย

“เขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว!” จ้าวเฟิงตอบง่ายๆ

คนอื่นก็ไม่คิดอะไรมาก ในเมื่อตอนนี้พวกเขาสนใจการต่อสู้ของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองมากกว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันกับวิกฤตความเป็นความตายของพวกเขา

ครืน ตูม ตูม!

บนท้องฟ้า ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองยังสู้เอาเป็นเอาตาย

“บ้าเอ๊ย พลังของนางสูสีกับข้า หากจะสู้กันให้ตายกันไปข้างก็อันตรายเกินไป!”

สายตาของเทพโบราณหานเยี่ยนเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนั้น ที่นี่เป็นอาณาเขตอำนาจของเผ่าพันธุ์วิญญาณ ข่าวที่นางมาถึงที่นี่จะต้องกระจายออกไปแล้วอย่างแน่นอน เกรงว่าอีกไม่นานเท่าใดก็จะมีผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์วิญญาณตามมา

“ถอยก่อน!” เทพโบราณหานเยี่ยนซัดเปลวเพลิงสีเทาอ่อนกลุ่มมหึมาออกไป ร่างถอยไปข้างหลัง

ทันใดนั้น สีหน้าของนางแข็งค้าง

“เอ๋? เทพโบราณอั้นเมี่ยเล่า?” ประสาทสัมผัสเทพของนางกวาดหา แต่ไม่พบเงาของเทพโบราณอั้นเมี่ย

นางจำได้ว่าเมื่อครู่ เทพโบราณอั้นเมี่ยเตรียมลอบโจมตีเทพโบราณหยวนเหยา จ้าวเฟิงเข้ามาแทรกแซง จากนั้นทั้งสองปะทะเข้าด้วยกันอยู่ชั่วขณะก็จากไปไกล

“เจ้าเทพโบราณอั้นเมี่ยที่ไร้ประโยชน์ ถูกจ้าวเฟิงโจมตีจนล่าถอยไปเสียได้!”

เทพโบราณหานเยี่ยนก็ไม่ไปสนใจอะไรให้มาก ถอยร่นไปทันที

กลิ่นอายกดดันในฟ้าดินค่อยๆ จางไป

เทพโบราณหยวนเหยาไม่ได้ไล่ตาม แต่กลับค่อยๆ ลอยลงมายังสำนักเทียนหลัว

เมื่อเห็นเซียนที่งดงามสูงส่งเช่นนี้ลอยต่ำลงมา บุรุษในสำนักเทียนหลัวมากมายใจเต้นโครมคราม

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ

“เจ้าคือจ้าวเฟิงกระมัง!” สายตาของเทพโบราณหยวนเหยาจ้องมายังร่างของจ้าวเฟิง

ภาพนี้ทำให้คนทั้งหมดที่นั่นตะลึงตาค้าง

หากพวกเขาจำไม่ผิดแล้วละก็ ก่อนหน้านี้ยามเทพโบราณหานเยี่ยนมาถึงที่นี่ ประโยคแรกที่พูดก็เป็นประโยคนี้เช่นกัน

เหตุใดสตรีที่เคยเป็นอัจฉริยะของทั้งสองเผ่าล้วนแต่มาหาจ้าวเฟิงกันหมด?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version