บทที่ 1444 หลุมดำรวมศูนย์

ในขณะนั้น จู่ๆ จอมเทพอิ๋นอวี้ก็เข้ามาแทรกการต่อสู้ของจ้าวเฟิง

เขามีสายเลือดเผ่าแสง พลังแข็งแกร่งกว่ายอดผู้อาวุโสตำหนักเทพยักษ์อยู่มาก

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพผู้หนึ่งสามารถเอาชนะจอมเทพชั้นยอดได้ ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว แต่หากต้องเผชิญหน้ากับจอมเทพสองคนเล่า?

ยามนั้น พวกตำหนักเทพยักษ์ในสนามรบต่างนึกเป็นห่วงจ้าวเฟิงขึ้นมา ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจช่วยจ้าวเฟิงได้ สมาชิกขั้นต่ำกว่าจอมเทพลงไปไม่กล้าเข้าร่วมการต่อสู้ของพวกจอมเทพ

ทว่า ยอดผู้อาวุโสและซินอู๋เหินมีศัตรูที่แข็งแกร่ง ไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้

“ผู้เยาว์ ต้องโทษที่เจ้าโอหังจนเกินไป!” จอมเทพอิ๋นอวี้หัวเราะเรียบๆ ก่อนจะรุกคืบเข้าไปใกล้จ้าวเฟิง

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ! ปีกสีเงินด้านหลังเขาโบกกระพือ ดาบขนนกประหลาดที่บางเฉียบนับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิง

ในเวลานี้ พลังของกฎเกณฑ์เวลาพุ่งไปหาจ้าวเฟิง ทำให้ความคิดและการเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าลงไปอย่างมาก

“ดี สังหารมันเสีย!” นัยน์ตาโหดเหี้ยมของจอมเทพเทียนฮ่าวเปล่งประกาย สีหน้ายินดีนัก

เขาถูกจ้าวเฟิงบีบเสียจนตรอก จึงย่อมเกลียดฝ่ายตรงข้ามเข้ากระดูกดำ!

ตอนนี้ดาบขนนกที่เล็กบางมากมายกำลังจะพุ่งทะลุร่างจ้าวเฟิงไป

ฟิ้ว โครม! เวลานี้เอง กฎเกณฑ์เวลาที่ทรงพลังก็สาดซัดออกจากร่างจ้าวเฟิง

ทันใดนั้น กฎเกณฑ์เวลารอบตัวเขาถูกจำกัดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย พลานุภาพของดาบขนนกแต่ละชั้นอ่อนลงไปไม่น้อย

โครม แซ่ด แซ่ด!

เมื่อกวัดแกว่งกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์แล้ว ดาบขนนกที่บางเฉียบทั้งหมดก็ถูกทำลายลงไป

“หืม? กฎเกณฑ์เวลาแกร่งถึงขนาดนี้เชียว!”

จอมเทพอิ๋นอวี้ตกตะลึง

ถึงแม้ว่าเขาจะล่วงรู้มาก่อนว่าจ้าวเฟิงมีกฎเกณฑ์เวลา แต่กฎเกณฑ์เวลาที่จ้าวเฟิงปลดปล่อยออกมาในตอนนี้อยู่เหนือกว่าคราวก่อนถึงหนึ่งขั้นเต็มๆ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน? เมื่อครู่มันยังไม่ได้ลงมือสุดกำลังหรอกหรือ?”

จอมเทพเทียนฮ่าวโมโหโกรธาอย่างยิ่ง

“สังหารเจ้าก่อนแล้วกัน!”

หลังจากจัดการการโจมตีของจอมเทพอิ๋นอวี้แล้ว จ้าวเฟิงจึงโบยบินไปหาจอมเทพเทียนฮ่าว ก่อนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะอาศัยกฎเกณฑ์ของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน แต่ก็ปลดปล่อยพลังออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนตอนนี้ จ้าวเฟิงใช้พลังกฎเกณฑ์เวลาของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนในขั้นสูงสุด มิฉะนั้นเขาเองก็ยากจะรับมือกับกฎเกณฑ์เวลาของจอมเทพอิ๋นอวี้

“ไม่…”

เมื่อถูกพันธนาการจากกฎเกณฑ์เวลา ใบหน้าจอมเทพเทียนฮ่าวฉายแววหวาดกลัว อุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ

โครม โครม!

จอมเทพเทียนฮ่าวฟาดระลอกแสงฝ่ามือสีดำออกมาติดต่อกัน ให้มันพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิงอย่างมืดฟ้ามัวดิน แต่จ้าวเฟิงถือกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์ไว้ในมือ รอบตัวยังมีวงแสงรวมศูนย์อยู่ด้วย จึงไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย

“ผู้เยาว์ มีข้าอยู่ เจ้าจะสังหารใครไม่ได้ทั้งนั้น!” น้ำเสียงเย็นชาของจอมเทพอิ๋นอวี้ดังมาจากด้านหลัง

จ้าวเฟิงรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่จอมเทพอิ๋นอวี้ว่องไวยิ่งกว่า เขาเองก็ชำนาญในกฎเกณฑ์เวลาอาวุธเทพระดับสุดยอดบริเวณหลังก็ส่งผลช่วยเพิ่มความเร็วเช่นกัน

‘จอมเทพอิ๋นอวี้คนนี้จัดการยากเย็นเหลือเกิน!’ แววตาจ้าวเฟิงหนักอึ้งลงเล็กน้อย

สายเลือดสิบลำดับแรกในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์ ย่อมไม่ใช่เพียงเรื่องคุยโวแน่

“พิฆาต!” จอมเทพอิ๋นอวี้ตะโกนเสียงต่ำ

ปีกขวาด้านหลังทะลักพลังมหาศาลออกมาทันที แล้วส่งคมแสงขนนกขนาดยักษ์สายหนึ่งออกมา

ฟุ่บ เปรี๊ยะ! คมแสงขนนกดังกล่าวทะลวงออกไปด้วยความรวดเร็วสูงยิ่ง

ขวับ! จ้าวเฟิงสะบัดกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์ และยังโคจรวงแสงรวมศูนย์เพื่อตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่าย

ความสามารถแต่ละด้านของจอมเทพอิ๋นอวี้อยู่เหนือจอมเทพเทียนฮ่าวไปมาก ด้วยพลังในตอนนี้ของจ้าวเฟิง เมื่อต่อสู้ด้วยก็เปลืองแรงเอาการ!

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสองจอมเทพ หากไม่สังหารคนหนึ่งในนั้นก่อน อาจถึงขั้นที่ว่าต้องตายอยู่ที่นี่ หนำซ้ำยังมีจอมเทพจากเผ่าความลับสวรรค์ที่คอยลอบสังเกตการณ์อยู่ด้วย

“ยกเจ้าเด็กนี่ให้ข้าจัดการ ส่วนเจ้าคอยรังควานมันจากที่ไกลๆ ก็พอ!”

จอมเทพอิ๋นอวี้ส่งกระแสจิตบอกจอมเทพเทียนฮ่าว เป้าหมายของเขาคือจับเป็นจ้าวเฟิง การจับเป็นยากกว่าการสังหารอีกฝ่ายมาก

จอมเทพอิ๋นอวี้ย่อมไม่ประมาท เขาจะใช้ทุกสิ่งที่สามารถใช้ได้ รีบบรรลุภารกิจให้เร็วที่สุด

“ได้!” จอมเทพเทียนฮ่าวถอยไปด้านหลังจอมเทพอิ๋นอวี้

“ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าใช้กฎเกณฑ์เวลาต่อหน้าเผ่าแสง มาโอ้อวดฝีมือต่อหน้าผู้ชำนาญ!”

จอมเทพอิ๋นอวี้หัวเราะเยาะหยัน ก่อนที่พลังจากกฎเกณฑ์เวลาจะสาดซัดออกทั่วร่าง ทำให้ทุกสิ่งในฟ้าดินฟากหนึ่งเชื่องช้าลงไป

พรึ่บ! เขากลายเป็นระลอกแสงสายหนึ่ง ขยับวูบวาบไปปรากฏกายที่ด้านหน้าจ้าวเฟิง

ข้างกายจอมเทพอิ๋นอวี้มีดาบขนนกนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้น จากนั้นพุ่งลงมาราวสายฝนห่าใหญ่

ครืน~ จอมเทพเทียนฮ่าวและอสูรวิญญาณด้านหลังส่งพายุวารีทมิฬสายหนึ่งตรงมาสังหาร

เมื่อเผชิญกับการโจมตีของจอมเทพที่แข็งแกร่งสองคน ต่อให้เป็นวงแสงรวมศูนย์ คาดว่าก็ยังยากจะต้านทานได้

ในวินาทีนี้ จ้าวเฟิงนึกถึงเคล็ดวิชาที่ระดับสูงกว่าของวงแสงรวมศูนย์…หลุมดำรวมศูนย์

การป้องกันของกระบวนท่านี้เพิ่มขึ้นสูงมาก ในเวลาเดียวกันยังมีการโจมตีที่ทรงพลังด้วย แต่เคล็ดวิชานี้ต้องใช้เมื่อ ‘วิชาพลังฟ้าประสานหนึ่ง’ ถึงขั้นที่ห้าสุดยอด ถึงจะพอฝืนสำแดงออกมาได้

“หลุมดำรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงร้องเสียงต่ำ พลังเทพรวมศูนย์ในร่างก็ทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง

กลุ่มแสงสีเงินเข้มรอบตัวเขาค่อยๆ หนักอึ้งขึ้นทีละน้อย

พรึ่บ! ชุดคลุมมิติบนร่างจ้าวเฟิงโบกสะบัด ปราการมิติปรากฏขึ้นทีละชั้น

ในเวลาเดียวกัน เขายังอาศัยพลังจากเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนในระดับสูงสุดด้วย

วู้ม วู้ม! กลุ่มแสงสีเงินเข้มรอบตัวเขาหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ และยังขยายออกไป

ในตอนที่พลังในร่างเขาไปถึงระดับขั้นหนึ่งอย่างกะทันหันนั้นเอง กลุ่มแสงสีเงินมืดหม่นพลันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท พลังกลืนกินด้านบนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

เมื่อตามองไป เหมือนว่าในอากาศปรากฏหลุมมืดทมิฬที่กลืนกินสรรพสิ่งในพื้นที่ใกล้เคียง

“สำเร็จแล้ว!” เหตุเพราะอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่างชุดคลุมมิติ และยังมีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน เขาจึงสามารถกระตุ้น ‘หลุมดำรวมศูนย์’ เกินขีดความสามารถของตนเองได้

โครม ตูม! คมดาบขนนกบางเฉียบที่กระจายอยู่ทั่วระเบิดการโจมตีอย่างบ้าคลั่งแต่คมดาบขนนกยังไม่ทันได้เข้าใกล้หลุมดำนั้น ก็บิดเบี้ยวเพราะสนามพลัง พลานุภาพลดลงอย่างรวดเร็ว

ตอนที่เข้าไปใกล้ แรงดูดกลืนมหาศาลก็ปรากฏขึ้นมาในฉับพลัน

ฟิ้ว! ในขณะที่คมดาบขนนกบางเฉียบปะทะเข้ากับหลุมดำ ก็เหมือนกลายเป็นหยดน้ำหยดหนึ่ง สลายหายไปในทันที

วูบ วูบ วูบ!

การโจมตีของคมดาบขนนกที่กระจายเต็มท้องฟ้า ท้ายที่สุดแล้วก็ถูกหลุมดำหยุดยั้งเอาไว้ได้สำเร็จ

“แข็งแกร่งจริงๆ!” จ้าวเฟิงยินดีอย่างยิ่ง

ในเวลาเดียวกัน การโจมตีของจอมเทพเทียนฮ่าวก็มาถึง

“สังหาร!” จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งออกไปปะทะทันใด

โครม ตูม! ทั้งสองประสานงากัน แล้วพายุวารีทมิฬก็ถูกหลุมดำรวมศูนย์พุ่งทะลวงผ่านทั้งหมด

หลุมดำรวมศูนย์ไม่เพียงแต่เป็นเคล็ดวิชาป้องกัน แต่ยังมีพลังโจมตีที่แกร่งมากด้วย

“นี่มันเคล็ดวิชาอะไรกัน?” จอมเทพเทียนฮ่าวตระหนกตกใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าการโจมตีที่แข็งแกร่งของตนจะถูกจ้าวเฟิงทำลายลงทันที

“พลานุภาพของเคล็ดวิชานี้แข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง!” จอมเทพอิ๋นอวี้ก็ตะลึงเช่นกัน อีกทั้งเคล็ดวิชาของจ้าวเฟิงยังสามารถต้านทานกฎเกณฑ์เวลาของเขาได้อย่างดีเยี่ยมด้วย

“สังหาร!”

จ้าวเฟิงประคับประคองหลุมดำรวมศูนย์ให้ตรงไปสังหารจอมเทพเทียนฮ่าว

พรึ่บ! เมื่อเห็นดังนั้น จอมเทพเทียนฮ่าวรีบถอยไป

“ฝันไปเถอะ!” จอมเทพอิ๋นอวี้กระพือปีกด้านหลัง คมแสงปีกใหญ่ยักษ์สายหนึ่งฟาดฟันออกมา

ครืน ตูม!

แต่เมื่อการโจมตีของเขาตกกระทบลงบนหลุมดำรวมศูนย์แล้ว ไม่นานพลานุภาพก็อ่อนลงอย่างช้าๆ และถูกจ้าวเฟิงพุ่งกระแทกจนกลายเป็นผุยผง

“เคล็ดวิชาป้องกันของเจ้าคนนี้แกร่งขึ้นเรื่อยๆ!” แววตาจอมเทพอิ๋นอวี้คร่ำเคร่ง

“ขวางเอาไว้ไม่ได้!” จอมเทพเทียนฮ่าวลนลานนัก รีบถอยร่นไปอีกครั้ง

“หลุมดำกลืนกิน!” ทันใดนั้นเอง จู่ๆ หลุมดำรวมศูนย์รอบตัวจ้าวเฟิงก็แผ่แรงดึงดูดที่แข็งแกร่ง ฉุดดึงทุกอย่างในฟ้าดินเข้ามา

“แย่ล่ะ หากมันทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พลังของเคล็ดวิชาป้องกันก็จะแข็งแกร่งขึ้น!”

จอมเทพอิ๋นอวี้หน้าเปลี่ยนสี รีบปลดปล่อยพลังกฎเกณฑ์เวลามากดข่มพลังกลืนกินของวงแสงรวมศูนย์!

“สังหาร!” ในมือจ้าวเฟิงพลันปรากฏเสี้ยวกระจกสีขาวบานหนึ่ง นั่นคือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน แต่เพราะอยู่ในหลุมดำรวมศูนย์ จึงไม่มีใครเห็นชัดเจน ทว่าหลังจากจ้าวเฟิงฟันลงมาอย่างรวดเร็ว ก็เก็บมันเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง

โครม วูบ คมดาบนี้ทำลายพลังกฎเกณฑ์เวลาที่จอมเทพอิ๋นอวี้ปลดปล่อยออกมา อีกทั้งยังกลายเป็นการโจมตีไม่น้อยด้วย

“แข็งแกร่งเหลือเกิน…พลังเวลากลุ่มนี้!”

จอมเทพอิ๋นอวี้สั่นสะท้าน ตื่นตะลึงเกินจะเปรียบ

ส่วนอีกฟากหนึ่ง จอมเทพเทียนฮ่าวไม่เพียงแต่ถูกหลุมดำรวมศูนย์ฉุดดึง แต่พลังเวลายังส่งผลกระทบจนเชื่องช้าลง

“ตายซะ!” ในหลุมดำรวมศูนย์มีกระบี่อัสนีเทวะยืดยาวออกมาในฉับพลัน

วู้ม แซ่ด แซ่ด! เมื่อตวัดกระบี่อัสนีไป จอมเทพเทียนฮ่าวถูกฟันขาดเป็นสองท่อน บริเวณปากแผลไหม้เกรียม ยากจะรักษาได้

“ดาราทลายผืนดิน!”

จ้าวเฟิงดึงพลังเทพรวมศูนย์รอบตัวมาใช้ ส่งดวงดาวสีเงินมืดหม่นที่มีพลังผสมยุ่งเหยิงดวงหนึ่งออกมา

โครม ตูม!

เมื่อดวงดาวมืดหม่นระเบิดออกบนร่างจอมเทพเทียนฮ่าว พลังนับไม่ถ้วนพุ่งทะลวงทำลาย ล้างผลาญทุกอย่าง

ในเวลาเดียวกัน คมกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์สายหนึ่งก็พุ่งเข้าไปในความโกลาหลวุ่นวายนั้น!

บึ้ม! เมื่อพลังนั้นหายไป จอมเทพเทียนฮ่าวก็ถูกระเบิดไม่เหลือซาก!

จอมเทพเทียนฮ่าว…ดับดิ้น!

คนทั้งหมดที่นั่นรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงกลิ่นอายดวงวิญญาณของจอมเทพที่ดับสูญไป

“นี่มัน…” จอมเทพอิ๋นอวี้ชะงักค้าง

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตนช้าไปเพียงชั่วขณะ จอมเทพเทียนฮ่าวก็ถูกจ้าวเฟิงสังหารลงทันที

“นี่…เป็นไปได้อย่างไร?”

“จอมเทพเทียนฮ่าวตายแล้วหรือ?”

เจ้าตำหนักวิญญาณบรรพกาลและจอมเทพกุ่ยอู๋แข็งทื่อเป็นท่อนไม้ สีหน้าคาดคิดไม่ถึง

จอมเทพเทียนฮ่าวไม่ได้ร่วมมือกับจอมเทพอิ๋นอวี้รับมือจ้าวเฟิงหรอกหรือ? ทำไมถึงตายไปได้?

มองไปทางฝั่งตำหนักเทพยักษ์ นอกจากจะตื่นตะลึงอย่างยิ่งแล้ว สมาชิกทั้งหมดยังร้องอุทานด้วยความยินดี

“เหนือความคาดหมายเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าเขาจะสังหารจอมเทพเทียนฮ่าวได้!”

ยอดผู้อาวุโสยังไม่อาจเชื่อได้

นี่เป็นจอมเทพคนแรกที่ตายลงนับตั้งแต่ที่การต่อสู้เริ่มขึ้น หนำซ้ำจ้าวเฟิงยังสามารถสังหารอีกฝ่ายลงได้ทั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูถึงสองคน!

จอมเทพซิงเซี่ยงที่อยู่ไกลออกไปมองตาค้าง

“เจ้าเด็กนี่ อาจจะเกี่ยวข้องกับการตายของเหิงเอ๋อร์ก็เป็นได้!” จอมเทพซิงเซี่ยงตะลึงงัน พลางเอ่ยขึ้นทันใด

ในสถานการณ์แบบนี้ จ้าวเฟิงยังสามารถปลิดชีพจอมเทพเทียนฮ่าว นับว่าเหลือเชื่อจริงๆ

ตามรายงานข่าวที่ได้รู้มา ตอนนั้นจ้าวเฟิงก็ติดตามซินอู๋เหินเข้าไปในคลังสมบัติของเผ่าแสงด้วย อีกอย่าง เขาเองก็ยากจะคาดเดาสาเหตุการตายของอวี่เหิง รวมถึง และยากจะคาดการณ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับจ้าวเฟิง

เรื่องนี้ทำให้จอมเทพซิงเซี่ยงอดสงสัยไม่ได้ว่าการตายของอวี่เหิงจะเกี่ยวกับจ้าวเฟิง

“ให้ข้าจับเป็นเจ้าด้วยตนเองแล้วกัน!” แววตาจอมเทพซิงเซี่ยงเปล่งประกายแวววับ

การหาสาเหตุการตายของอวี่เหิงสำคัญยิ่งกว่าการต่อสู้ของตำหนักเทพยักษ์และตำหนักวิญญาณบรรพกาลมาก

ครั้งนี้ ถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ประจำเขตดาราชาดจะเพ่งเล็งเขา เขาก็ต้องจับจ้าวเฟิงให้ได้ เพื่อสืบสวนทุกสิ่งให้กระจ่าง!

วูบ! จอมเทพซิงเซี่ยงโบยบินออกไปทันที มือสองข้างประสานเรียกวิชาออกมา

อักขระเผ่าความลับสวรรค์ยาวเป็นสายกระจายออกมา จากนั้นผสานเข้าในฟ้าดิน

ในขณะนี้ สองเผ่าตรงสนามรบไกลออกไป ล้วนสัมผัสกลิ่นอายที่แข็งแกร่งนี้ได้เช่นกัน!

“จอมเทพขั้นสอง!” ยอดผู้อาวุโสสูดลมหายใจเย็น ทั่วร่างสั่นเทิ้ม

“เมื่อครู่คนผู้นี้กางค่ายกลความลับสวรรค์ทำร้ายมู่กู่…” แววตาซินอู๋เหินเคร่งขรึมลงไป ในใจรู้สึกเคว้งคว้าง

เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นจอมเทพขั้นสอง และยังเป็นคนเผ่าความลับสวรรค์!