บทที่ 1473 แย่งชิงดุเดือด

ตลอดทางเจ้าหอหงส์เพลิงคอยระวังเจ้าสำนักวายุลมกรดมาโดยตลอด กลับคาดไม่ถึงว่าสำนักวายุลมกรดจะซ้อนแผนหลอกเขา

“แผนไม่ราบรื่นเท่าใดนัก!” เจ้าสำนักวายุลมกรดจ้องจ้าวเฟิงอย่างเกลียดชัง

หากไม่ใช่ว่าพลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งเกินไป พลิกสถานการณ์ของกลุ่มถังไป๋ขึ้นมาได้ คนพวกนี้คงถูกจัดการไปนานแล้ว ถึงตอนนั้นสำนักวายุลมกรดหลักๆ ก็แค่สกัดกั้นหอหงส์เพลิงและคนอื่นๆ ไว้เท่านั้น เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนก็จะได้มาอย่างราบรื่นแล้ว

แผนการที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้กลับถูกจ้าวเฟิงคนเดียวทำลายเสียได้

ตอนนี้กลุ่มของถังไป๋ไม่ตายแม้แต่คนเดียว สำนักวายุลมกรดก็ไม่มีทางสกัดกั้นขั้วอำนาจทั้งสองนี้ได้เช่นกัน

“หึ บัญชีนี้ข้าจะมาคิดกับเจ้าแน่นอน!” เจ้าหอหงส์เพลิงเค้นเสียงโมโห มุ่งหน้าไปยังใจกลางมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ทันที

ถึงแม้ตอนนี้ในใจของเขาจะโกรธแค้นมาก อยากลงมือกับเจ้าสำนักวายุลมกรดเสียเดี๋ยวนั้น แต่เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสำคัญกว่า หากได้เศษเสี้ยวอาวุธนรกเพลิงมา พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ถึงตอนนั้นเจ้าสำนักวายุลมกรดก็ไม่เป็นปัญหาใดเลย

ฟิ้ว! เจ้าสำนักวายุลมกรดโคจรกฎเกณฑ์เวลา แปลงกายเป็นลมคลั่งเปล่งแสงสีขาว นำหน้าเจ้าหอหงส์เพลิงไปไกลในชั่วพริบตา

ในขณะเดียวกันเขายังมีเวลาว่างลงมือก่อกวนเจ้าหอหงส์เพลิงอีก

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

เจ้าสำนักวายุลมกรดสะบัดฝ่ามือ คมวายุสีขาวไม่มีสิ้นสุดพัดออกมาเฉือนทะเลเพลิงเป็นส่วนๆ

ที่ไกลโพ้น

“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น?” สีหน้าของถังไป๋อึ้งตะลึง

แต่เดิมเขาคิดว่าผู้ดูแลสูงสุดทั้งสองที่คอยดูสถานการณ์ต่อสู้จะลงมือกับตน แต่ผลคือไม่รู้ทำไมผู้กุมอำนาจทั้งสองจึงสู้กันเอง

“ท่าทางครั้งนี้พวกเราจะพ้นเคราะห์ไม่ตายแล้ว!”

มุมปากของจอมเทพขวงเจี้ยนยกยิ้มขึ้น

จู่ๆ ข้อขัดแย้งระหว่างสองขั้วอำนาจก็ปะทุขึ้น พวกเขาไม่มีทางต่อกรกับกลุ่มของถังไป๋ต่อไปได้แล้ว

“บัดซบ พวกเศษสวะสำนักวายุลมกรด!” จอมเทพจวี้หลิงสบถด่าออกมาด้วยสีหน้าโกรธแค้น

เมื่อครู่นี้สมาชิกของหอหงส์เพลิงได้รับกระแสจิตของเจ้าหอ จึงเข้าใจแผนการของสำนักวายุลมกรด

“ถอย!” สตรีชุดแดงตะโกนทันที จากนั้นสมาชิกของหอหงส์เพลิงก็ล่าถอยไปทั้งหมด

“พวกเราก็ไป!” จอมเทพสำนักวายุลมกรดที่เหลือสามคนรีบจากไปเช่นกัน

เพียงชั่วพริบตาเดียว ศัตรูก็ถอนตัวไปไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

“ไป ไปดูลาดเลากัน!” ถังไป๋พูดเสียงต่ำ

เพราะเหตุใดจู่ๆ ข้อขัดแย้งระหว่างสองขั้วอำนาจถึงปะทุขึ้น? คำตอบเห็นได้อย่างชัดเจน…เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน

“อืม จะให้เจ้าพวกนี้อยู่เป็นสุขไม่ได้!” นัยน์ตาของจอมเทพขวงเจี้ยนฉายแววเหี้ยมโหด

ต่อให้ไม่ได้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมา เขาก็จะพยายามก่อกวนขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสอง สามารถสังหารจอมเทพได้สักคนหนึ่งก็ถือว่ากำไรแล้ว

ใจกลางมหาสมุทรเพลิงสวรรค์

ครืน ตูม บึ้ม! เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้นรอบเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน

ถึงแม้ขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสองจะร่วมมือกันจัดการกลุุ่มของถังไป๋ แต่พวกเขาก็ทิ้งกำลังคนส่วนหนึ่งไว้เฝ้าอยู่ที่ใจกลางมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ เพียงแต่ว่าพลังของสมาชิกที่เฝ้าอยู่ที่นี่ต่างกันเป็นอย่างมาก

ครืน บึ้ม! ฝั่งหอหงส์เพลิง จอมเทพสองคนร่างกระเด็นออกมา กระอักเลือดติดๆ กันมาตามรายทาง เสี้ยวขณะที่เลือดสาดกระเซ็นก็ถูกมหาสมุทรเพลิงสวรรค์แผดเผากลายเป็นไอ

“บัดซบ เป็นจอมเทพเสียอวี่ (ฝนโลหิต) งั้นรึ!” จอมเทพคนหนึ่งของหอหงส์เพลิงมีสีหน้าโกรธแค้น

จอมเทพเสียอวี่เป็นจอมเทพของเขตลำนำดารา แต่ว่ากันว่าเขาปิดด่านฝึกตนไปนานแล้ว หมื่นปีนี้ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

“ฮ่าๆ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปปรโลกเอง!” ผู้อาวุโสเปล่งแสงสีเลือดคนหนึ่งหัวเราะชั่วร้าย

เขาคือจอมเทพที่เพิ่งตามมาช่วยสำนักวายุลมกรดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้

แน่นอน ข่าวที่จอมเทพเสียอวี่มาถึง นอกจากสำนักวายุลมกรดก็ไม่มีใครอื่นล่วงรู้เพราะเหตุนี้ หอหงส์เพลิงจึงประเมินพลังของสำนักวายุลมกรดผิดไป

“ตายเสียเถอะ!” ฝ่ามือหนึ่งของจอมเทพเสียอวี่สับออกไป แสงโลหิตเหี้ยมโหดทะยานไปยังที่ไกลอย่างรวดเร็ว

ครืน บึ้ม! จอมเทพของหงส์เพลิงสองคนร่วมมือกันก็ยังยากจะต้านทานการโจมตีของจอมเทพเสียอวี่เอาไว้ได้ บาดแผลยิ่งทวีความสาหัส

อีกด้านหนึ่ง

วูบ! เงาเลือนรางของวิหคไฟสีแดงทองโฉบผ่านมา ในกายของวิหคไฟตัวนั้นมีขนนกสีแดงทองที่สว่างเจิดจ้าอยู่อันหนึ่ง

ขนนกอันนี้คือส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งบนอาวุธบรรพชนนรกเพลิง

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน ศิโรราบต่อสำนักวายุลมกรดเสียเถอะ!”

จอมเทพขั้นหนึ่งของสำนักวายุลมกรดคนหนึ่งไล่ตามไปไม่ลดละ ตอนนี้เขากำลังควบคุมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน พยายามจะเก็บมันมาเป็นของตน แต่เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ พลังเลยเพิ่มขึ้นทบเท่า ปะทุพลังออกมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขาไม่กล้าประมาทเลินเล่อ

“น่าขันนัก จอมเทพต่ำต้อยพวกนี้คิดจะให้ข้าศิโรราบ!” เสียงคำรามแก่ชราดังมาจากในขนนกนั้น

“ไม่ทันแล้ว!” จอมเทพขั้นหนึ่งคนนี้ค่อนข้างร้อนรน

แต่ลำพังกำลังของเขาคนเดียวยังไม่อาจสยบเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนได้

ในตอนนี้เอง เสียงต่ำทุ้มก้องกังวานก็ลอยมา “ข้าเอง!”

จากนั้นจึงเห็นพายุสีขาวสว่างสายหนึ่ง แผ่กระจายพลังพายุที่หอบม้วนทุกสรรพสิ่ง เข้าประชิดไปยังเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนอย่างรวดเร็ว

คนคนนี้ก็คือเจ้าสำนักวายุลมกรดนั่นเอง

ทว่าเขายังไม่ทันลงมือ ข้างหลังก็มีคลื่นพลังเทพที่ทำให้คนใจสั่นสะท้านทะลักมา

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนเป็นของข้า!”

ปีกไฟที่หลังเจ้าหอหงส์เพลิงกระพืออย่างรวดเร็ว ทั้งยังปลดปล่อยคลื่นไฟมหาศาลโจมตีไปยังเจ้าสำนักวายุลมกรด สมาชิกคนอื่นของขั้วอำนาจทั้งสองพากันตามมาอยู่ข้างหลัง

“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น?” จอมเทพเสียอวี่มองไปยังเจ้าสำนักวายุลมกรด ค่อนข้างตกใจระคนโกรธเคือง

แผนของเขาไม่มีทางพลาดเด็ดขาด ขอเพียงเจ้าสำนักวายุลมกรดตรึงกำลังหอหงส์เพลิงเอาไว้ได้อีกเสี้ยวขณะหนึ่ง เขาก็จะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ

ไม่ไกลนัก กลุ่มของถังไป๋ค่อยๆ ใกล้เข้ามา

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนปรากฏขึ้นแล้ว!” ชายตัวโตเกราะดำทำหน้าตาตื่นตะลึง สีหน้าท่าทางตื่นเต้นยิ่งนัก

“ใช่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้พวกเราผ่านศึกใหญ่มา ทุกคนต่างมีบาดแผลไม่น้อย ให้ดูสถานการณ์ไปก่อน!” ถังไป๋พูดเสียงต่ำ

สำนักวายุลมกรดและหอหงส์เพลิงต่างมีจอมเทพสองคน พลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานอีกทั้งก่อนหน้านี้สำนักวายุลมกรดเล่นงานหอหงส์เพลิง รวมกับว่าสองขั้วอำนาจเดิมก็มีความแค้นหยั่งลึกอยู่แล้ว โอกาสที่พวกเขาจะร่วมมือกันจึงน้อยนิดนัก

ดังนั้นทุกคนจึงทำแค่รอเท่านั้น รอให้ขั้วอำนาจทั้งสองสู้กันประมาณหนึ่งแล้วจึงค่อยลงมือ อัตราความสำเร็จก็จะสูงขึ้น

ไกลโพ้นออกไป

สถานการณ์การต่อสู้ของหอหงส์เพลิงและสำนักวายุลมกรดดุเดือดราวกับไฟ

ตอนนี้คือช่วงเวลาสำคัญสุดท้ายของการช่วงชิงเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน ทั้งสองฝั่งไม่ออมมือแม้แต่น้อย สำแดงไพ่ตายบางอย่างออกมาทันใด

“ตายเสีย!” ปีกที่หลังของเจ้าหอหงส์เพลิงบดบังฝืนฟ้า รวมพลังเปลวเพลิงที่แข็งแกร่งขึ้นแล้วปลดปล่อยออกมา

ครืน วูบ วูบ!

เปลวเพลิงม้วนตัวขึ้นมา กินพื้นที่กว้างยิ่ง จอมเทพขั้นหนึ่งทั่วไปโดนเข้ายังต้องเจ็บตัว

“อย่าได้หวั่นไหว พวกเราหยุดลงมือกันก่อน จัดการพวกถังไป๋แล้วค่อยชิงเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน มิฉะนั้นถึงตอนนั้นพวกเราสู้กันจนตายไปข้าง พวกมันก็จะชุบมือเปิบได้ผลประโยชน์ไป!”

เจ้าสำนักวายุลมกรดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“หอหงส์เพลิงจะไม่เชื่อพวกเจ้าอีกเป็นครั้งที่สอง!” ไฟโทสะของเจ้าหอหงส์เพลิงคุกรุ่น

สีหน้าของเจ้าสำนักวายุลมกรดย่ำแย่นัก ปรายตามองกลุ่มของถังไป๋ในที่มืดอยู่ตลอด

“สู้กันต่อไปจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา!” แววตาของเจ้าสำนักวายุลมกรดหนักอึ้งตอนนี้เอง เขามองไปยังฝั่งจอมเทพเสียอวี่ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ครืน! จอมเทพเสียอวี่ปะทุพลังที่แข็งแกร่งออกมาทันที แสงโลหิตท่วมฟ้าสาดส่องไปทั่วทั้งทะเลเพลิง

ครืน บึ้ม!

ชั้นป้องกันของจอมเทพจวี้หลิงที่เป็นคู่มือของเขาแหลกสลาย ร่างลอยกระเด็นออกไปพร้อมกระอักเลือด แต่เดิม ในการต่อสู้กับถังไป๋ก่อนหน้านี้ จอมเทพจวี้หลิงถูกผนึกพลังไปเยอะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คลายผนึกโดยสมบูรณ์ หนำซ้ำพลังของจอมเทพเสียอวี่ก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว จอมเทพจวี้หลิงจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

หลังจากโจมตีจอมเทพจวี้หลิง จอมเทพเสียอวี่ก็แปลงเป็นแสงโลหิตสีแดงเข้มเข้ามาใกล้ๆ กับเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน

ครืน! พลังเทพแสงโลหิตที่ยิ่งใหญ่กลุ่มนั้นตลบกระจายไปใกล้ๆ เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน

เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนดิ้นรนสุดกำลัง แต่มันก็ยังคงถูกแสงโลหิตกลุ่มนั้นหุ้มล้อมเอาไว้ เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนถูกจอมเทพเสียอวี่ควบคุมไว้แล้ว

“ไปเร็ว!” จอมเทพเสียอวี่คำรามเสียงต่ำ

“ได้!” เจ้าสำนักวายุลมกรดเผยสีหน้าลิงโลด

สำนักวายุลมกรดได้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมา เห็นทีคงต้องขอบคุณถังไป๋แห่งเผ่าผนึกเทพแล้ว

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ~

สมาชิกสำนักวายุลมกรดทั้งหมดร่นถอยไปข้างหลัง ทั้งยังกระตุ้นเคล็ดวิชาลับความเร็วขึ้นเตรียมจะหลบหนี ตอนนี้พวกเขาได้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องสู้อีกต่อไป

สมาชิกหอวายุลมกรดเชี่ยวชาญด้านความเร็ว หากตั้งใจจะหนี คนของหอหงส์เพลิงไม่มีทางตามทันเด็ดขาด ขอเพียงแค่พวกเขาสามารถสลัดหอหงส์เพลิงทิ้งได้ เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นนี้ก็จะเป็นของสำนักวายุลมกรดแล้ว!

“แย่แล้ว จะให้พวกมันหนีไปไม่ได้!” ปีกเพลิงที่หลังของเจ้าหอหงส์เพลิงขยับกระพือไล่ตามไป

สมาชิกหอหงส์เพลิงที่เหลือก็ไล่ตามสังหารอย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยการโจมตีมืดฟ้ามัวดินออกมา

ถังไป๋และคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังอึ้งตะลึงเล็กน้อย

“ไม่ดีแล้ว คิดไม่ถึงว่าสำนักวายุลมกรดจะได้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนไปเร็วถึงเพียงนี้!” แววตาถังไป๋เคร่งเครียด

ตามที่คิดเอาไว้ ควรจะเป็นสองขั้วอำนาจสู้กันพอประมาณแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ลงมือชิงเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนทันที แต่เรื่องไม่เป็นไปตามคาด เหตุการณ์ที่นกปากซ่อมสู้กับหอย สุดท้ายชาวประมงได้ประโยชน์[1]กลับไม่เกิดขึ้น อีกทั้งสำนักวายุลมกรดเชี่ยวชาญด้านความเร็ว หอหงส์เพลิงตามไม่ทัน พวกเขาเองก็ยากจะตามทันเช่นกัน

ชั่วขณะนี้เอง!

ฟิ้ว! พลังมิติกลุ่มหนึ่งแผ่ระลอกมา จ้าวเฟิงที่อยู่ข้างกายพวกเขาโฉบออกไป

“ข้าตามได้ทัน ขอแค่สกัดกั้นสำนักวายุลมกรดไว้ชั่วขณะ แล้วรอให้หอหงส์เพลิงตามมา…”

จ้าวเฟิงแอบหัวเราะ

ขอเพียงสำนักวายุลมกรดถูกก่อกวน หอหงส์เพลิงตามมาทัน ขั้วอำนาจทั้งสองก็จะสู้เอาเป็นเอาตายอีกครั้ง

ตอนนี้จ้าวเฟิงไม่เพียงกระตุ้นพลังมิติเท่านั้น ยังใช้เคล็ดวิชาโบยบินปีกแสงอัสนีทองยกระดับความเร็วจนถึงขีดสูงสุด

พรึ่บ! ระลอกกลิ่นอายพลังเฉียดผ่านข้างกายของเจ้าหอหงส์เพลิงไป

“เป็นเจ้านั่น!” เจ้าหอหงส์เพลิงตะลึงงัน

เจ้าสำนักวายุลมกรดที่อยู่เบื้องหน้าก็สัมผัสได้

“แย่แล้ว!” สีหน้าของเขาตกตะลึงปนโกรธแค้น

“เจ้านี่คือต้นเหตุที่ทำให้แผนของพวกเราล้มเหลวใช่หรือไม่?” จอมเทพเสียอวี่จ้องไปยังจ้าวเฟิง จิตสังหารในดวงตาช่างน่าหวาดกลัว

จอมเทพขั้นหนึ่งกลับสามารถปะทุความเร็วที่ล้ำหน้าจอมเทพขั้นสองได้ ช่างชวนให้ตื่นตะลึงนัก

“อัสนีรวมศูนย์พิฆาต!” จ้าวเฟิงหลอมกระบี่เทพรวมศูนย์ขึ้นเล่มหนึ่งแล้วฟาดฟันออกไปทันที

ฟิ้ว ครืน! ประกายกระบี่อัสนีเทวะขนาดมหึมาทะยานไปเบื้องหน้า พลังที่น่าหวาดหวั่นนั้น แม้กระทั่งเจ้าสำนักวายุลมกรดก็ยังไม่กล้าประมาท

สมาชิกที่เหลือรีบขยับกายหลบหลีกทันที

ภาพที่จ้าวเฟิงสังหารจอมเทพขั้นหนึ่งติดๆ กันก่อนหน้านี้ยังติดอยู่ในหัวของพวกเขา

ครืน! ในตอนที่อัสนีรวมศูนย์พิฆาตปะทะเข้ามา แม้จะแผ่ระลอกโดนคนไม่กี่คน แต่กลับกระจายประกายแสงประหลาดออกมา ทำให้ฟ้าดินบิดเบี้ยวและเชื่องช้าลง

“แย่แล้ว เป็นกฎเกณฑ์เวลา!” เจ้าสำนักวายุลมกรดหน้าเปลี่ยนสีไปทันที อยากจะสับจ้าวเฟิงเป็นหมื่นๆ ชิ้นเสียเดี๋ยวนั้น

เสี้ยวขณะนี้ ผลกระทบจากกฎเกณฑ์เวลาที่สำนักวายุลมกรดทั้งหลายได้รับ ทำให้พวกเขาถูกควบคุมไปชั่วครู่

ส่วนด้านหลัง สมาชิกหอหงส์เพลิงตามมาอย่างรวดเร็ว

เจ้าหอหงส์เพลิงรู้ว่าจ้าวเฟิงตั้งใจสกัดกั้นสำนักวายุลมกรด เพื่อให้พวกเขาสู้กันเอาเป็นเอาตายอีกครั้ง แต่ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นแผนของจ้าวเฟิง เจ้าหอหงส์เพลิงก็คงไม่มีทางปล่อยสำนักวายุลมกรดไป

……………….

[1] นกปากซ่อมสู้กับหอย สุดท้ายชาวประมงได้ประโยชน์ คือนิทานสุภาษิตของจีน กล่าวถึงการไม่ลดราวาศอกซึ่งกันและกัน สุดท้ายต่างต้องพบกับหายนะ และฝ่ายที่สามกลายเป็นผู้ได้ประโยชน์ไป