บทที่ 1490 ตำราเทพบริสุทธิ์
“เจ้าหนุ่ม เจ้าจะมั่นใจเกินไปหน่อยกระมัง!” เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพอดหัวเราะไม่ได้
นับจากอดีตมา เขาไม่เคยได้ยินจอมเทพขั้นหนึ่งคนไหนกล้าชี้ขาดว่าตนจะต้องกลายเป็นนายเหนือหัวราชาเทพได้อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นจอมเทพขั้นสองที่พรสวรรค์ล้ำเลิศก็ไม่กล้าพูดเช่นนี้
แต่น้ำเสียงของเศษเสี้ยวความคิดราชาเทพก็ไม่ได้ปฏิเสธจ้าวเฟิงไปเสียทั้งหมดเขาเป็นแค่เศษเสี้ยวความคิดราชาเซียน สายตาอาจไม่แม่นยำ สิ่งที่ได้เห็นไม่มาก แต่เขารู้สึกว่าคนหนุ่มเบื้องหน้าคนนี้มีจุดที่ไม่ธรรมดาอยู่
“ก่อนจะมอบตำราเทพสูงสุดให้กับเจ้า ข้าจะช่วยผนึกพลังบริสุทธิ์ในแท่นเทวะแห่งนี้ไว้ในกายเจ้าก่อนแล้วกัน!”
เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพกลับมายังเรื่องหลัก
แท้จริงแล้วมรดกตำราเทพสูงสุดก็คือเขาและแท่นเทวะ หากจ้าวเฟิงได้ตำราเทพสูงสุดแล้วไปแล้ว เขาก็จะหายไป ดังนั้นก่อนหน้านั้นจะต้องจัดการเรื่องอื่นๆ ให้เสร็จสิ้นก่อน แท่นเทวะสามชั้นนี้ถึงแม้จะเสียหาย แต่ข้างในยังมีเศษเสี้ยวพลังบริสุทธิ์ขั้นราชาเทพหลงเหลืออยู่ ช่างล้ำค่ายิ่งนัก
“พลังบริสุทธิ์ของราชาเทพ!” ใจของจ้าวเฟิงสั่นไหว
ถึงแม้ราชาเทพคนนี้จะแตกดับไปนานแล้ว ปริมาณและคุณภาพของพลังบริสุทธิ์เทียบไม่ได้กับระดับในตอนที่มีชีวิตอยู่ แต่อย่างไรก็เป็นพลังขั้นราชาเทพ
ในวันข้างหน้าเมื่อจ้าวเฟิงถึงขั้นสาม จะถึงขั้นสามารถดูดซับและรับรู้พลังกลุ่มนี้ ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนขั้นเป็นราชาเทพได้มาก
“ลำบากผู้อาวุโสแล้ว!” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างซาบซึ้ง
เวลาต่อมา เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพก็ช่วยจ้าวเฟิงผนึกพลังบริสุทธิ์ที่หลงเหลืออยู่ไม่มากในแท่นเทวะไปยังข้างๆ แท่นเทวะในกายของจ้าวเฟิง
“ในขณะเดียวกับที่เจ้าฝึกฝนตำราเทพสูงสุด ก็สามารถรับรู้พลังเทพบริสุทธิ์กลุ่มนี้ไปพร้อมๆ กันได้ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการยกระดับพลังฝึกตน!” เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพเอ่ยเตือน
พลังเทพบริสุทธิ์ขั้นราชาเทพสูงส่งไร้ที่เปรียบ ข้างในยังมีความเข้าใจในสำนึกรู้ของราชาเทพหลงเหลืออยู่ด้วย กระทั่งในยามยากที่จะพัฒนาต่อ ก็ยังสามารถดูดซับไปบ้างเล็กน้อยเพื่อทะลวงจุดติดขัด
“หากเจ้าสามารถไปถึงขอบเขตพลังนายเหนือหัวได้จริงๆ ถ้าเป็นไปได้แล้วละก็ เจ้าช่วยฆ่าคนคนหนึ่งล้างแค้นให้นายท่านของข้าด้วย!” เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพเผยความโกรธแค้นชิงชัง
“ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ!” จ้าวเฟิงไม่กล้ารับประกัน
ในเมื่อสามารถเป็นราชาเทพได้ จะแตกดับง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ศัตรูของราชาเทพคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ขวับ! เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพสะบัดฝ่ามือ บนฉากแสงเงามืดหม่นมีผู้อาวุโสหลังค่อมปรากฏขึ้น
“ผู้คุมกฎเผ่าความลับสวรรค์!” ใจจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน
คิดไม่ถึงว่าความตายของราชาเทพจะเกี่ยวพันกับเผ่าความลับสวรรค์ด้วย มิน่าเล่า หลังจากที่เข้ามาที่นี่แล้ว แมวขโมยตัวน้อยก็ไม่โผล่ออกมาเลย
หากเศษเสี้ยวความคิดราชาเทพเห็นแมวความลับสวรรค์ เขายังมอบมรดกให้กับจ้าวเฟิงก็แปลกเต็มทีแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะเหนี่ยวนำพลังบริสุทธิ์ที่เหลืออยู่ให้พินาศไปพร้อมกับจ้าวเฟิงเลยด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็ประเมินพลังแท้จริงของผู้คุมกฎคนนี้ได้แล้วในระดับหนึ่ง
มีตำแหน่งเหนือกว่าทูตสวรรค์ในเผ่าความลับสวรรค์ได้ พลังจะอ่อนแอไปได้อย่างไร แน่นอน สิ่งที่จ้าวเฟิงเห็นในตอนนั้นน่ากลัวว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดของเผ่าความลับสวรรค์สรุปแล้วจะประมาทเผ่าพันธุ์นี้ไม่ได้เด็ดขาด
“ตอนนั้น ถึงแม้คนคนนี้จะไม่ได้สังหารนายท่าน แต่ก็เกี่ยวข้องกับมันมากที่สุดเช่นกัน!” เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพพยายามนึกย้อนความทรงจำอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แล้วจึงพูดออกมา
ในเมื่อเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวความคิด เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เรื่องที่เขาจำได้มีไม่มากแล้วจริงๆ
หลังผ่านไปนาน พลังบริสุทธิ์ในแท่นเทวะก็ผนึกอยู่ข้างแท่นเทวะของจ้าวเฟิงทั้งหมด ต่อมาต่างหากถึงจะเป็นขั้นตอนสำคัญ!
“ผู้เยาว์ สืบทอดตำราเทพสูงสุดของ ‘ราชาเทพฮุ่นหลิง’ (วิญญาณผสาน) ไปเสียสิ!”
สายตาของเศษเสี้ยวความคิดราชาเทพเพ่งไปที่ร่างของจ้าวเฟิง ภารกิจของเขาบรรลุแล้ว
ราชาเทพฮุ่นหลิงที่ว่าน่าจะเป็นเจ้านายของเขา
วู้ม! เศษเสี้ยวราชาเทพพลันผสานไปในแท่นเทวะสามชั้นที่อยู่ข้างล่าง จากนั้นทั้งแท่นเทวะก็กลายเป็นแสงดาราพร่างพรายหลากสีพรั่งพรูไปยังจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อน รับรู้ทุกอย่างโดยละเอียด
ข้อมูลการตระหนักรู้มากมายค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวของเขา อีกทั้งยิ่งสะสมก็ยิ่งมาก ทำให้จ้าวเฟิงเปิดอ่านไม่ทัน
“เอ๋ กลิ่นอายกลุ่มนี้!” ในแท่นเทวะ เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพร้องอย่างตกใจ
ขณะกำลังจะส่งมอบตำราเทพสูงสุดให้กับจ้าวเฟิง เขาก็สัมผัสได้ถึงสภาพในวิญญาณของจ้าวเฟิงได้ ในสายตาเขา กายวิญญาณอัสนีไม่ได้มีอะไรพิเศษ
ประเด็นคือเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า!
ในยามที่สลักตำราเทพสูงสุดลงไป เศษเสี้ยวราชาเทพพบว่าที่ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเป็นเขตต้องห้ามเดียวที่เขาสำรวจไม่ได้
“กลิ่นอายเนตรเทพเจ้า เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้ารึ?”
นายของเศษเสี้ยวความคิดเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเทพ เคยพบกับผู้ครองเนตรเทพเจ้าเช่นกัน จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับกลิ่นอายพลังกลุ่มนี้
“ท่าทางข้าจะประเมินเจ้าผิดไปจริงๆ ต่อให้ไม่มีตำราเทพสูงสุด อย่างไรเจ้าก็สามารถเป็นนายเหนือหัวราชาเทพได้!” เศษเสี้ยวความคิดราชาเทพยิ้มอย่างเข้าใจ
ตอนนี้ ความคิดส่วนใหญ่ของจ้าวเฟิงอยู่ที่ตำราเทพสูงสุด ในหัวของเขามีข้อมูลและการตระหนักรู้ที่ล้ำลึกมากบางอย่างลอยเข้ามาไม่หยุด อีกทั้งจ้าวเฟิงยังพบว่าข้อมูลพวกนี้เหมือนผสานเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณของเขา สลักลึกลงบนนั้น หรือก็คือ หากจ้าวเฟิงส่งมอบข้อมูลพวกนี้ให้คนอื่น วิญญาณจะได้รับบาดเจ็บมหาศาล
“มิน่าเล่า ตำราเทพสูงสุดจึงไม่อาจใช้วิธีธรรมดาส่งมอบให้กับผู้อื่นได้!”
ตอนนี้จ้าวเฟิงเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
แท่นเทวะในมิติปั่นป่วนค่อยๆ หายไปทีละน้อย ส่วนข้อมูลในหัวของจ้าวเฟิงก็สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงชั่วขณะหนึ่ง แท่นเทวะสามชั้นและเศษเสี้ยวความคิดราชาเทพก็หายไปโดยสมบูรณ์
“ ‘ตำราเทพบริสุทธิ์’ รึ?” ยามนี้ตำราเทพสูงสุดในหัวจ้าวเฟิงสมบูรณ์ครบถ้วนและชัดเจน
ใน ‘ตำราเทพบริสุทธิ์’ บันทึกเคล็ดวิชาฝึกตนของจอมเทพขั้นหนึ่งไปจนถึงขั้นราชาเทพ
ขั้นแรกของการฝึกก็สามารถรวมพลังบริสุทธิ์ออกมาได้อย่างรวดเร็ว แน่นอน นี่นับว่าเป็นเพียงแค่ต้นแบบของพลังบริสุทธิ์เท่านั้น
ขั้นตอนการฝึกต่อมา พลังบริสุทธิ์จะเกิดการแปรสภาพในด้านคุณภาพและรากฐานไม่หยุด
พลังบริสุทธิ์สามารถยกระดับทุกสรรพสิ่ง และสามารถควบคุมทุกสรรพสิ่งได้ด้วยเช่นกัน นับเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าดินชนิดหนึ่ง
จากคำพูดของ ‘ราชาเทพฮุ่นหลิง’ หากฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนถึงขั้นบริบูรณ์และวิวัฒนาการได้ถึงขีดสูงสุด จะสามารถก่อกำเนิดได้กระทั่ง ‘แหล่งกำเนิดพลังบริสุทธิ์’
ตอนนี้จ้าวเฟิงยังไม่อาจเข้าใจความแตกต่างของพลังบริสุทธิ์และแหล่งกำเนิดพลังบริสุทธิ์ บางทีอาจเป็นความแตกต่างของระดับขอบเขตพลัง รอให้เขาฝึกฝนจนถึงขั้นนั้นแล้วก็ย่อมเข้าใจได้เอง นอกจากวิธีฝึกฝนพลังบริสุทธิ์ ใน ‘ตำราเทพบริสุทธิ์’ ยังมีวิชาที่เกี่ยวข้องกับเผ่าทำนุฟ้ามากมาย ราคาสูงค่า ยากจะจินตนาการได้
จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง นั่งลงขัดสมาธิแล้วเริ่มฝึกฝน
เขาเลือกเริ่มฝึกจากส่วนจอมเทพขั้นหนึ่งก่อน เพื่อเป็นการวางรากฐานที่ดีไว้
ขั้นแรก จ้าวเฟิงใช้พลังบริสุทธิ์ที่เขารวมได้ก่อนหน้านี้มาฝึกฝน ไม่ถึงเสี้ยวขณะ พลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้ก็ผสานอยู่ในพลังเทพของจ้าวเฟิงได้สำเร็จ
ตอนนี้เขาไม่ต้องโคจร ‘วิชาพลังฟ้าประสานหนึ่ง’ ในพลังเทพก็มีคุณลักษณะของพลังบริสุทธิ์แล้ว ต่อมาต้องแปลงพลังเทพของตนให้เป็นพลังบริสุทธิ์ทั้งหมด
ภายในชุดคลุมมิติ จ้าวเฟิงฝึกนานถึงห้าปี แต่โลกภายนอกเพิ่งจะผ่านไปสิบวันเท่านั้น
“เปลี่ยนพลังเทพเป็นพลังบริสุทธิ์ได้แปดส่วนแล้ว!” จ้าวเฟิงลืมตาขึ้น
จนถึงตอนนี้ พลังของเขาไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าใด
ถึงอย่างไรพลังเทพรวมศูนย์ของเขาก่อนหน้านี้ก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ตอนนี้พลังเทพของเขาเปลี่ยนเป็นพลังเทพบริสุทธิ์ อานุภาพของพลังเทพรวมศูนย์ไม่สามารถนำมารวมกันได้ เท่ากับว่าจะไม่นำมาใช้อีก แต่ในยามที่พลังของจ้าวเฟิงเปลี่ยนเป็นพลังบริสุทธิ์ทั้งหมดแล้ว จะแข็งแกร่งกว่าพลังเทพรวมศูนย์ก่อนหน้านี้แน่นอน อีกทั้งในภายภาคหน้าจะล้ำหน้าเกินกว่าพลังเทพรวมศูนย์!
ขณะนี้แปลงพลังบริสุทธิ์ไปถึงแปดส่วนแล้ว การแปรเปลี่ยนต่อไปจะยากกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จ้าวเฟิงจึงยุติการปิดด่าน
มิติปั่นป่วนแห่งนี้มีพลังของแท่นเทวะราชาเทพค้ำจุนเอาไว้ ตอนนี้แท่นเทวะและพลังเทพบริสุทธิ์หายไปหมดแล้ว มิติจึงไม่มั่นคง คงอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน
มิติลับมังกรเหลือง ณ มุมหนึ่งในป่า จอมเทพทั้งหลายซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เขาคลื่นเงาสูญเสียจอมเทพไปหนึ่งคน ทั้งสองฝ่ายต่างมีจอมเทพกันสามคน
จอมเทพทั้งหกซ่อนตัวได้อย่างชำนาญมาก สัตว์ประหลาดหายากขั้นเทพแท้จริงจำนวนไม่น้อยเดินเตร็ดเตร่อยู่บริเวณนี้ แต่สัมผัสพวกเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ไยเจ้านั้นจึงไม่ออกมาอีก หรือจะตายอยู่ข้างในนั้นแล้ว?”
เจ้าตำหนักและเจ้าเขาคลื่นเงาส่งกระแสจิตสื่อสารกัน
ตั้งแต่ที่จ้าวเฟิงเข้าไปในมิติลับแห่งนั้นก็ผ่านไปถึงสิบกว่าวันแล้ว
“รออีกห้าวัน หากเจ้าเด็กนั่นยังไม่ออกมาอีก พวกเราก็บุกเข้าไปสืบดูให้รู้!”
สีหน้าของเจ้าเขาคลื่นเงาเคร่งเครียด ที่จริงแล้วเขายิ่งไว้หวังว่าจ้าวเฟิงจะเอาของล้ำค่ากลับออกมาด้วย
หากจ้าวเฟิงตายอยู่ข้างใน จะไม่เป็นการพิสูจน์ว่าข้างในอันตรายมากอย่างนั้นหรือ พวกเขาหกคนร่วมมือกันเกรงว่าจะได้ของล้ำค่าข้างในมายาก
วู้ม~ ในตอนนี้เอง ลึกลงไปใต้ดินเกิดคลื่นมิติรุนแรงขึ้น
จอมเทพทั้งหกรีบอำพรางตัวและเก็บซ่อนพลังสุดกำลัง แต่ในใจของพวกเขาต่างเต้นระรัว อดรนทนไม่ไหวแล้ว
ขวับ! ร่างเงาสีเงินโผล่ออกมาจากในนั้นพร้อมด้วยกระแสปั่นป่วนของพลังบริสุทธิ์
“จอมเทพขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสองต่างมาต้อนรับเช่นนี้ ข้าแซ่จ้าวรู้สึกเป็นเกียรตินัก!”จ้าวเฟิงกวาดสายตามอง ยิ้มพลางทอดถอนใจ
“มันรู้ตัวแล้ว!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตกใจ
“ไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ ลงมือตามแผนที่วางไว้!” เจ้าเขาคลื่นเงาส่งกระแสจิตให้กับจอมเทพทุกคน
“ค่ายกลเงาสังหาร!” เงาดำบนพื้นดินบิดม้วน หนามแสงสีดำนับไม่ถ้วนก่อขึ้นเป็นค่ายกลพิเศษ มันหดตัวลงในฉับพลัน ตรงไปรัดพันธนาการจ้าวเฟิง
ในขณะเดียวกัน จอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็ปรากฏกายขึ้นในท้องฟ้า
วู้ม ครืน! ร่างของจอมเทพทั้งสามปะทุแสงเพลิงสีแดงร้อนแรง ย้อมจนท้องฟ้ากลายเป็นสีเดียวกัน
“ฝ่ามืออาทิตย์พิสุทธิ์!” จอมเทพทั้งสามสำแดงเคล็ดวิชาลับตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ รวมฝ่ามือแสงเพลิงสามสายบดขยี้ลงไป ทั่วทั้งป่าเขาพังทลายกลายเป็นไอไปทั้งแถบภายใต้พลังกลุ่มนี้ เหลือเพียงแค่จ้าวเฟิงคนเดียวเท่านั้น
เวลาเดียวกัน เจ้าเขาคลื่นเงาและจอมเทพอวิ๋นเยวี่ยปรากฏตัวขึ้นฝั่งตะวันตกและตะวันออก
“มายาเมฆาคล้อย!” ดาบยาวเย็นยะเยือกในมือจอมเทพอวิ๋นเยวี่ยสำแดงหมอกควันสลัวราง คมแสงจันทร์มายานับไม่ถ้วนข้างในพุ่งออกไป ทำให้หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เจ้าเขาคลื่นเงาก็ผสานกระบวนท่าสังหารออกมา กรงเล็บสีเทาเงินในมือเขาตวัดหนามดำออกมาห้าสาย ตรงไปฉีกทึ้งจ้าวเฟิง
ทันใดนั้น จอมเทพทั้งหกก็ทำตามแผนการซุ่มโจมตีที่วางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ ทั่วทั้งฟ้าดินสั่นไหว จิตสังหารมหาศาลโจมตีมายังจ้าวเฟิงจากทั่วทุกด้าน
หากเปลี่ยนเป็นจอมเทพขั้นสอง คงได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน ต่อให้เป็นจอมเทพขั้นสองสุดยอด ถึงไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก
“ไว้ชีวิตไร้ค่าของพวกเจ้าไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่กลับไม่รู้จักประมาณตน เดินมาหาความตายเอง!”
จ้าวเฟิงค่อนข้างเฉยชาที่ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีพวกนี้ เพียงแค่เผยสีหน้าเอือมระอาเท่านั้น