Skip to content

King of Gods 1493

King Of Gods

บทที่ 1493 ต่อกรจอมเทพขั้นสาม

เมื่อโคจรเนตรเทพมายาและสำแดงเปลี่ยนมายาแล้ว พื้นที่รอบตัวเขาถูกบดบังด้วยสีสันพร่าเลือนราวมายา

สถานการณ์ทางฟากจ้าวคง เจ้าแมวขโมยน้อย และมังกรทมิฬล้างโลกาไม่ได้ดีมากนัก ดังนั้นฝั่งจ้าวเฟิงต้องทำให้ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบ มิฉะนั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงยากจะได้ชัยชนะ

หลังจากจอมเทพจินหวงกระตุ้นสายเลือด จ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยพลังของเนตรเทพมายาออกมา

“นี่มัน…เรื่องอะไรกัน?” ใบหน้าจอมเทพจินหวงฉายแววตื่นตกใจ

ในเวลานั้น เขารู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณในแต่ละด้านของตัวเองได้รับผลกระทบ ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

“นี่พลังพิเศษของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า?” แววตาจอมเทพจินหวงแข็งค้าง จ้องดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง

สามารถเรียกว่าเป็นดวงตาเทพเจ้า จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ในขณะนั้นเอง ดวงตาของจ้าวเฟิงจับจ้องไปบนร่างจอมเทพจินหวง “ทำลาย!”เขาโคจรพลังความคิด จนเกิดความคิดอย่างแรงกล้าเช่นนี้ในใจ

ทันใดนั้น ปรากฏการณ์สายเลือดที่จอมเทพจินหวงกระจายออกมากำลังค่อยๆ สลายหายไป จู่ๆ ใจเขาก็รู้สึกไม่ปลอดภัย สภาวะในแต่ละด้านของร่างกายลดลงอย่างประหลาด เหมือนว่าวินาทีต่อมาร่างกายของเขาจะแตกสลายเหมือนฟองน้ำ…

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…ข้าต้องแย่แน่!”

ดวงตาจอมเทพจินหวงฉายแววลนลาน หากเขาไม่ทำอะไรแล้วละก็ มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะถูกจ้าวเฟิงสังหาร ถึงแม้ไม่อาจเข้าใจความสามารถของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิง แต่จอมเทพจินหวงก็สำแดงพลังและวิชาต่างๆ เพื่อขัดขวาง

จนสุดท้ายเขาก็ค้นพบว่าพลังสายเลือดกับกฎเกณฑ์ของตนเองสามารถต้านทานพลังเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิงได้

วู้ม! เมื่อกระตุ้นสายเลือดจนสุดแรง ปลดปล่อยพลังกฎเกณฑ์ออกมา

จอมเทพจินหวงต้านพลังลึกลับของจ้าวเฟิงเอาไว้ได้ และฟื้นฟูสภาพตนเองอย่างช้าๆ แต่ว่าเขาจำเป็นต้องต้านทานพลังกลุ่มนี้ไว้ตลอด ส่งผลให้ใช้สายเลือดและจิตใจหมดไปมาก

“สังหาร!” แววตาจ้าวเฟิงเคร่งเครียด ร่างสว่างวาบก่อนจะหายไป รุกเข้าไปใกล้จอมเทพจินหวง

ฝ่ายตรงข้ามสามารถต้านทานเปลี่ยนมายาของเขาได้ ซึ่งก็อยู่ในความคาดหมายของจ้าวเฟิงพอดี อย่างไรเสีย ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นจอมเทพขั้นที่สาม ระดับขั้นสายเลือดสูงส่งอย่างยิ่ง กฎเกณฑ์ยังไปแตะขั้นสูงด้วย แต่เปลี่ยนมายาของจ้าวเฟิงยังคงจำกัดและตัดทอนกำลังจอมเทพจินหวงดังเดิม

จ้าวเฟิงอาศัยโอกาสนี้โบยบินเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว!

เขากำกระบี่อัสนีเทวะแฝงพลังบริสุทธิ์ เข้าใกล้จอมเทพจินหวง จากนั้นฟาดฟันกระบี่ออกมา

“ผู้เยาว์ ข้าเคยบอกแล้ว ต่อให้เจ้ามีเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้!”

สีหน้าจอมเทพจินหวงตึงเครียด มือสะบัดหนามแสงทองออกมา

“ปราการมิติ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นชุดคลุมมิติ แสงสีเงินที่เกี่ยวกระหวัดกันค่อยๆ คลี่กระจายตัว

ชั่วเวลานั้น การจำกัดของกฎเกณฑ์มิติเวลากลุ่มนี้ปกคลุมรอบตัวจอมเทพจินหวง ทำให้แต่ละด้านของเขาถูกจำกัดไว้ การเคลื่อนไหวและความคิดจึงเชื่องช้าลงไปหลายส่วน

“กฎเกณฑ์มิติเวลา!” จอมเทพจินหวงตื่นตะลึงไปเล็กน้อย

จ้าวเฟิงเป็นแค่จอมเทพขั้นหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีกฎเกณฑ์ที่แก่กล้าขนาดนี้ถึงสองประเภท

เมื่อถูกจำกัดจากทั้งเปลี่ยนมายาและกฎเกณฑ์มิติเวลา สภาวะของจอมเทพจินหวงไม่ถึงเจ็ดส่วนในช่วงสุดยอดด้วยซ้ำไป

โครม บึ้ม! กระบี่อัสนีเทวะของจ้าวเฟิงหลบหลีกการโจมตีของจอมเทพจินหวง และฟันลงบนร่างฝ่ายตรงข้าม

พลังบริสุทธิ์อัสนีเทวะทิ้งรอยเลือดเป็นทางไว้บนร่างจอมเทพจินหวง แต่เรื่องยังไม่สิ้นสุดลง มืออีกข้างของจ้าวเฟิงมีกระบี่อัสนีเทวะเกาะกลุ่มกันขึ้นมา แล้วจึงรุกโจมตีติดต่อกัน

“อ๊าก…” จอมเทพจินหวงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด กระตุ้นเคล็ดวิชาอย่างรีบร้อน

รอบตัวเขาค่อยๆ ปรากฏแสงลายมังกรทองขึ้นมา จนกลายเป็นเกราะทรงกลม ถึงพอจะต้านทานพลานุภาพการโจมตีของจ้าวเฟิงได้ อีกฟากหนึ่ง จอมเทพขั้นสองของแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองทั้งสองมีสีหน้าอึ้งงัน

“ท่านจินหวง?”

“คิดไม่ถึงว่านายท่านจะถูกจ้าวเฟิงทำร้ายได้!”

สองจอมเทพตื่นตะลึงอย่างมาก นี่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาจนเกินไป ทางฝั่งสองจอมเทพจากแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองที่กำลังต่อสู้อยู่ก็ตื่นตะลึงกันมาก

“ไม่เสียทีที่เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!”

สตรีตัวลายทองผู้เป็นจอมเทพขั้นสองสุดยอดอดร้องตกใจไม่ได้

ด้านล่าง เจ้าเขาคลื่นเงาและคนจากเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตื่นตระหนกเกินบรรยาย ไม่นึกเลยว่ากระทั่งจอมเทพขั้นสาม จ้าวเฟิงยังสามารถทำให้บาดเจ็บได้!

แต่ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในตอนที่จ้าวเฟิงกำลังใช้ ‘เปลี่ยนมายา’

กระบวนท่านี้ทำให้สิ้นเปลืองพลังมาก ยิ่งเป้าหมายเป็นคนระดับขั้นสูง ยิ่งใช้พลังมากขึ้น ในวินาทีนั้น จ้าวเฟิงจำต้องหยุดการใช้วิชาดวงตานี้เอาไว้

สีสันในฟ้าดินค่อยๆ ฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ จอมเทพจินหวงจึงไม่ได้รับผลกระทบจากเปลี่ยนมายาอีก แต่ก่อนนี้จอมเทพจินหวงถูกกระบี่อัสนีเทวะของจ้าวเฟิงฟันโดนหลายครั้ง ร่างกายได้รับบาดเจ็บพอควร

ตอนนี้จ้าวเฟิงหยุดโคจรเปลี่ยนมายาไปแล้ว จอมเทพจินหวงก็ยังไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อม

“จ้าวเฟิง ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!” สีหน้าจอมเทพจินหลงเหี้ยมเกรียม ยามโบกมือขวากระบี่สั้นสีทองก็ปรากฏขึ้น กระบี่สั้นสีทองเป็นแค่อาวุธระดับสุดยอด แต่ด้านบนกลับมีกฎเกณฑ์ลอยอยู่เบาบาง

วู้ม โครม! จู่ๆ บนกระบี่สั้นก็เปล่งแสงสีทองแสบตา ส่องสะท้อนไปทั่วผืนฟ้า

“หนามมังกรทอง!”

จอมเทพจินหวงแค่นเสียงต่ำ กระบี่สั้นสีทองกลายเป็นหนามแสงสีทองอันหนึ่ง ด้านบนนั้นหมุนวนด้วยริ้วลายมังกรสีเดียวกัน พลานุภาพสะเทือนฟ้า เขย่าขวัญคนทั่วไป

ฟุ่บ โครม!

หนามลายมังกรทองพลันพุ่งออกมา พลานุภาพที่แข็งแกร่งของมันทำให้ทั้งฟ้าดินสั่นไหว

“จอมเทพจินหวงโกรธสุดขีดแล้ว!” จ้าวเฟิงพึมพำ

วินาทีนี้ พลังที่จอมเทพจินหวงปลดปล่อยออกมาคงจะเป็นท่าไม้ตายของเขา ต่อให้เป็นหลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงก็ยากจะต้านทานได้

“เนตรเทพมายา…ทำลายล้าง!” ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงหมุนวนอีกครั้ง หมอกแสงมายาชั้นหนึ่งม้วนตัวออกมา

สถานที่อื่นในครรลองสายตาอ่อนแสงลงจนอับแสง มีเพียงหนามลายมังกรทองที่ถูกย้อมด้วยสีสันมายาพร่าเลือน

เมื่อโคจรพลังความคิด ความปรารถนาอันแรงกล้าก็ปรากฏขึ้น ชั่วขณะต่อมา ส่วนหัวของหนามลายมังกรหายไปบางส่วนทันควัน

“อะไรกัน?” เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ จอมเทพจินหวงตะลึงจนหน้าถอดสี

ทำไมอยู่ๆ การโจมตีของเขาถึงสลายหายไปส่วนหนึ่ง?

“จง…สลาย!” ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง พลังดั้งเดิมกระเพื่อมรุนแรง พลังความคิดภายในใจถูกกระตุ้นขึ้นมา

วูบ~ พลังทำลายล้างกลุ่มนั้นแข็งแกร่งขึ้นทันใด หนามแหลมลายมังกรหายไปอีกครั้ง ตั้งแต่หัวไปจนท้าย ในที่สุดก็หายไปทั้งหมด!

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” จอมเทพจินหวงตระหนกตกใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าการโจมตีของตนเองจะหายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ นี่มันชักจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว แต่ทว่าเรื่องที่เกินความคาดหมายยังไม่จบลง

“เนตรเทพลอกแบบ หนามมังกรทอง!” ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงพลันอับแสงลงไป

ในเวลาเดียวกัน พื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลด้านหลังเขาก็ปรากฏดวงตาขนาดยักษ์ เปล่งแสงงดงามระยิบระยับออกมา

ในดวงตาสีเงินปกคลุมไปด้วยหมอกแสงมายา

โครม~ ในหมอกแสงมายา จู่ๆ ก็มีหนามแหลมสีเงินอันหนึ่งพุ่งออกมา พลานุภาพของมันสะเทือนฟ้าดิน พุ่งตรงไปหาจอมเทพจินหวงทันที

“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้!” แววตาจอมเทพจินหวงตะลึงค้าง จ้าวเฟิงกลับเรียกท่าโจมตีไม้ตายของเขาออกมาได้ แต่ภายใต้ความตื่นตัวจากอันตราย เขารีบสลัดความสงสัยในหัวทิ้งไป

โครม! เมื่อพลังเทพกลุ่มหนึ่งสาดซัดมาหา จอมเทพจินหวงก็ทุ่มเทพพลังทั้งหมดเรียกวิชาป้องกัน สร้างเกราะแสงลายมังกรปกคลุมรอบตัวไว้อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ภาพฉายอาณาจักรเทพขนาดใหญ่ก็ปกคลุมเขาเอาไว้ด้านใน

โครม ตูม~ วินาทีต่อมา เมื่อหนามแหลมลายมังกรมาถึง พลังทำลายล้างพุ่งปะทะและม้วนตัวไปรอบบริเวณ

ในตอนนั้น ทั้งตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ถูกทำลายเสียหายมากกว่าครึ่ง สภาพพังเละเทะ

ไม่ไกลออกไป เจ้าแมวขโมยน้อยกับพวกแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองที่กำลังสู้รบกันต่างหยุดชะงัก และมองมาที่สนามรบฝั่งจอมเทพจินหวงด้วยความแปลกใจ

ฟิ้ว~ แสงสีทองกระจายตัวออกไป ใจกลางของระเบิดปรากฏเงาร่างที่สภาพยับเยิน ร่างกายไหม้เกรียม

“จ้าวเฟิง ข้าจะต้องทำให้เจ้าทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส!” ใบหน้าจอมเทพจินหวงโหดเหี้ยมน่าพรั่นพรึง จ้องจ้าวเฟิงเขม็ง

บนกายเทพมีของเหลวสีทองหมุนวนรักษาอาการบาดเจ็บช้าๆ

“ท่านจินหวง!” จอมเทพขั้นหนึ่งสองคนอุทานอยู่ด้านหลัง

นึกไม่ถึงเลยว่าจอมเทพจินหวงจะเสียเปรียบหนักเมื่อสู้กับจ้าวเฟิง ถ้าหากภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว แดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองคงเสียหน้าหมดแน่

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ~

จอมเทพขั้นหนึ่งทั้งสองจึงตัดสินใจลงมือ พวกเขารู้ดีว่าจ้าเฟิงแข็งแกร่ง จึงไม่เข้าไปใกล้มากนัก เพียงแต่คอยโจมตีอยู่ไกลๆ เพื่อช่วยจอมเทพจินหวงรบกวนจ้าวเฟิง

“รนหาที่ตาย!” จ้าวเฟิงจ้องเขม็ง แสงมายาวิจิตรงดงามกะพริบวิบวับอีกครา

จอมเทพจินหวงหัวใจบีบรัด เขาถูกพลังของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าเขย่าขวัญเข้าแล้วจริงๆ

“สู่ห้วงฝัน!” จ้าวเฟิงรีบสร้างมิติห้วงฝันแห่งหนึ่งขึ้นและกวาดดวงตาซ้ายไปด้านหน้า

พริบตานั้น จอมเทพขั้นหนึ่งทั้งสองไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต่อต้าน จิตสำนึกถูกจ้าวเฟิงดึงให้ดำดิ่งลงไปในมิติความฝัน

ส่วนจอมเทพจินหวงผู้เป็นถึงจอมเทพขั้นสาม ยังมีแรงต่อต้านค่อนข้างจะแข็งแกร่ง

ในเวลาเดียวกัน จอมเทพจินหวงก็พบว่าจอมเทพขั้นหนึ่งสองคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองแววตาค้างแข็งเหมือนหมดสติไปแล้วอย่างนั้น

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” จอมเทพจินหวงรู้สึกว่าทุกอย่างไม่ชอบมาพากล จึงทุ่มเทพลังทั้งหมดต่อต้านแรงดึงจากดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างสุดแรง

โครม ตูม! ชั่วขณะต่อมา บนกายเทพของจอมเทพทั้งสองด้านหลังเขาปรากฏบาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วน จนสุดท้ายกายเทพและวิญญาณก็ระเบิดออก

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จอมเทพจินหวงขนลุกขนพองขึ้นทันที

จอมเทพขั้นหนึ่งสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเขา และอยู่ห่างไกลจากจ้าวเฟิงยิ่งนัก ทว่าเพียงแค่สายตาเดียวเท่านั้น ก็ทำลายร่างของจอมเทพสองคนจนระเบิดไม่เหลือซาก ที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นก็คือ จอมเทพจินหวงไม่สามารถขัดขวางได้เลย และยิ่งไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น

พรึ่บ~ ในขณะที่จอมเทพจินหวงประหวั่นพรั่นพรึง ร่างจ้าวเฟิงก็ขยับไหววูบหายไป รุกคืบเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เป็นตอนที่จอมเทพจินหวงอ่อนแอที่สุด จะให้โอกาสเขาได้หายใจหายคอไม่ได้ ตัวของจ้าวเฟิงอยู่ในหลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ กำกระบี่อัสนีเทวะฟันออกไปอย่างบ้าคลั่ง

“เจ้านี่ เมื่อครู่นี้ทำอะไรกันแน่?” จอมเทพจินหวงยังหวาดกลัวเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า

เปรี๊ยะ! ชุดคลุมมิติโบกสะบัด คมดาบเวลาสายหนึ่งหมุนวนออกมา

เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสองชิ้นในชุดคลุมมิติ จ้าวเฟิงยังคงสามารถกระตุ้นพวกมันให้โจมตีออกมา

โครม เปรี้ยง! จอมเทพจินหวงกำกระบี่สั้น ก่อนจะทุ่มสุดแรงเพื่อตั้งรับการโจมตีที่บ้าคลั่งราวห่าฝนของจ้าวเฟิง แต่อาการบาดเจ็บจากเนตรเทพลอกแบบของจ้าวเฟิงเมื่อครู่ยังไม่หายสนิท

ส่วนพลังบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงมีความพิเศษในการดูดซับสูบกิน จึงทำให้ยิ่งนานไปยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…สถานการณ์คงไม่ดีแน่!” ในที่สุดจอมเทพจินหวงก็เริ่มรับมือการโจมตีติดต่อกันของจ้าวเฟิงไม่ไหว หากเป็นแบบนี้ต่อไป อาการบาดเจ็บของเขาจะยิ่งหนักขึ้น จอมเทพจินหวงกัดฟัน ถอยไปด้านหลังเพื่อหลบหนี

“คิดจะหนีหรือ?” จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็นแล้วไล่ตามมา

“ท่านจินหวง!” สองยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองที่กำลังประมือกับเจ้าแมวขโมยน้อยและจ้าวคงร้องเสียงหลง

จอมเทพจินหวงเป็นถึงจอมเทพขั้นสาม แต่กลับพ่ายแพ้จ้าวเฟิงจนต้องหนีไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version