Skip to content

King of Gods 1539

King Of Gods

บทที่ 1539 เนตรเทพวิถีฟ้า (2)

ประกายแสงที่มืดหม่นขุ่นข้นพวยพุ่งสู่ชั้นเมฆ ทะลุผ่านผืนฟ้า พุ่งไปยังธารดาราเวิ้งว้าง เปล่งแสงประชันกับสรรพสิ่งในจักรวาล

ท้องฟ้าไกลลิบของดินแดนเทพรกร้าง ชายคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ ลวดลายขนนกสีแดงอมทองกระจายทั่วร่าง เปล่งประกายแสงร้อนระอุหาที่สุดไม่ได้

ทันใดนั้น ชายคนนี้ลืมตาที่ราวเพลิงร้อนแรงมองไปยังแสงเทพที่สะเทือนทั่วฟ้า

“กลิ่นอายเนตรเทพเจ้าที่ไม่เคยมีมาก่อน…”

ชายคนนี้ผุดลุกขึ้นทันที

“หรือจะเป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า?”

ช่วงนี้เขาไม่เคยได้สัมผัสกับดินแดนเทพรกร้าง ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับจ้าวเฟิงเลยแม้แต่น้อย จึงวิเคราะห์ออกมาเช่นนี้

วู้ม วู้ม~

แสงและความร้อนมหาศาลรอบกายชายผู้นี้ค่อยๆ หดกลับเข้าไปในกายเขา

ทั่วทั้งมิติก็หม่นแสงลงทีละนิดเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้นกับดินแดนเทพรกร้าง?”

ร่างของเขากะพริบแล้วหายวับไป

ในขณะเดียวกัน ณ ดินแดนเทพรกร้าง จอมเทพทั้งหลายและนายเหนือหัวล้วนสั่นสะท้านกับแสงเทพสะท้านฟ้านี้

ระหว่างดินแดนเทพรกร้างและมิติรอบนอกมีกระแสพลังปั่นป่วนต้องห้าม จอมเทพทั่วไปบุ่มบ่ามบุกเข้าไปแทบเอาชีวิตไม่รอดกันทั้งนั้น

ครืน ตูม ตูม!

ตอนนี้ ในกระแสพลังปั่นป่วนสะท้านฟ้า แสงอัสนีสีขาวทองสะเทือนเลื่อนลั่นกลุ่มหนึ่งกำลังสอดประสานกับกระแสแสงแห่งความตายอันมืดมิด

ใจกลางความปั่นป่วน มีเงาคนสองคน ชายชุดขาวทองคนหนึ่งในนั้นรูปร่างสูงใหญ่ เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม

ส่วนผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งหลังโค้งค่อม ชุดดำปลิวสะบัดอย่างบ้าคลั่ง มือถือเคียวยักษ์มืดทะมึน บนนั้นมีไอเพลิงดำแห่งความตายพันล้อม ไม่รู้ว่าสังหารสิ่งมีชีวิตไปมากน้อยเท่าใดแล้ว

“ฮี่ๆ เทียนฝา (ทัณฑ์สวรรค์) ข้าจะต้องเป็นคนแรกที่สังหารนายเหนือหัวได้!”

ผู้อาวุโสเงาดำคนนั้นหัวเราะชั่วร้าย เคียวยักษ์ในมือกวัดแกว่ง ปล่อยจันทร์เสี้ยวเพลิงดำใหญ่มหึมาออกมา

ในขณะเดียวกัน ดวงตาของผู้อาวุโสไหววูบ พลังแห่งความตายที่น่ากลัวเพิ่มพลังลงไปบนนั้น

“หึ พลังทัณฑ์สวรรค์ต้องสังหารนักโทษอย่างเจ้าได้แน่!”

สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์เย็นชาทรงอำนาจ แสงอัสนีพุ่งออกมาจากดวงตา ก่อเป็นลูกอัสนีสีขาวทองลูกหนึ่ง

ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายในดินแดนเทพรกร้างต่างรู้กันว่า ในบรรดาเนตรเทพเจ้าทั้งแปด เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์และเนตรเทพมรณะมีความแค้นผูกพยาบาทที่ไม่อาจแก้ได้มายาวนาน

ไม่รู้ว่าทั้งสองผ่านศึกใหญ่มามากน้อยเท่าไหร่ สู้รบกันมาไม่รู้ต่อกี่ปี

ในตอนนี้เอง สายตาของนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์มองไปยังที่ไกลๆ

ส่วนผู้อาวุโสเงาดำคนนั้นก็ลุกขึ้น ดวงตามืดดำฉายประกายแปลกประหลาด

“กลิ่นอายเนตรเทพที่ไม่เคยมีมาก่อน…”

สีหน้าผู้อาวุโสเงาดำเคร่งเครียดไปทันที จากการรับรู้ของเนตรเทพมรณะ พลังเนตรเทพเจ้ากลุ่มนี้ไม่ธรรมดาเลย

“ไม่ใช่เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า!” สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ตื่นตกใจ

นอกจากเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า กลับยังมีกลิ่นอายเนตรเทพดวงใหม่อีก

“พอกันแค่นี้!”

นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ปรายตามองผู้อาวุโสเงาดำแวบหนึ่ง จากนั้นเคลื่อนตัวจากไป

ในเวลาเดียวกัน สถานที่ลับของฝั่งพวกผู้ทรงภูมิ

นักปราชญ์ทั้งหลายสัมผัสได้ ภายใต้การอนุมาน พวกเขาต่างกระอักเลือดออกมาทุกคน

กลิ่นอายเนตรเทพเจ้าที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อครู่ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะอนุมานหรือทำนายได้ตามใจ

ในใจกลางหอคอยหกเหลี่ยมสีดำ อวี่เทียนอูก็ตกอยู่ในห้วงการอนุมานเช่นเดียวกัน

ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของเขาก็ซีดขาว เลือดไหลออกจากมุมปาก “แผนการของเขา หรือจะเป็น ‘ต้นกำเนิดดวงตาสูงสุด’!”

ณ แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต

เสี้ยวขณะที่ดวงตาแนวตั้งตรงหว่างคิ้วเจ้าสวรรค์ลืมขึ้น ฟ้าดินสั่นสะเทือน เหมือนกำลังหวาดกลัวยำเกรง

สมาชิกทุกคนบนสนามรบกว้างไกลต่างสัมผัสได้ถึงพลังไร้เทียมทานที่ไม่อาจต้านได้ เจ้าสวรรค์ในตอนนี้รัศมีอำนาจเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัด กลายเป็นผู้ปกครองฟ้าดิน สิ่งมีชีวิตทุกอย่างต่างหมอบคลานตัวสั่นแทบเท้าเขา

“เป็นไปได้อย่างไร? เนตรเทพเจ้า?”

สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรชีวิตตื่นตะลึง

ในโลกมีเพียงแปดเนตรเทพเจ้าเท่านั้น เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงแค่ตำนาน จนกระทั่งจ้าวเฟิงปรากฏตัวขึ้น ถึงได้เปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องจริง

แต่วันนี้ไยจึงมีเนตรเทพเจ้าโผล่มาอีกหนึ่งกันเล่า?

อีกทั้งเป็นเนตรเทพเจ้าเหมือนกัน แต่ในยามที่นายเหนือหัวเนตรชีวิตมองไปยังดวงเนตรที่แนวตั้งตรงหว่างคิ้วเจ้าสวรรค์ เนตรเทพชีวิตก็สั่นสะท้าน

เห็นเพียงในดวงตาตรงหว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์มีลูกตาดำแปดดวง แปลกประหลาดพิสดาร แผ่กระจายกลิ่นอายที่ชวนให้สั่นสะท้านออกมา

“เนตรเทพเจ้า?” จ้าวเฟิงตกใจยิ่งนัก

ตามตำนานก็มีเพียงเก้าเนตรเทพเจ้าเท่านั้น หากเนตรของเจ้าสวรรค์เป็นเนตรเทพเจ้า เช่นนั้นดวงตาของตนคือสิ่งใดกันเล่า?

ในขณะเดียวกันนี้เอง เนตรเทพเจ้ามายาของเขาก็เต้นรัว พลังมายาดั้งเดิมในมิติเนตรเทพก็กระเพื่อมไหวเป็นระลอก ร้อนรนเป็นอย่างยิ่ง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นั่นคือเนตรเทพเจ้างั้นรึ?”

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด…”

ใจของทุกคนบนสนามรบต่างผุดความสงสัยนี้ขึ้นมา

ส่วนผู้คุมกฎจั่วใบหน้ายิ้มแย้ม มองไปยังเจ้าสวรรค์อย่างเลื่อมใสศรัทธา “แผนของนายท่านเจ้าสวรรค์จะต้องสำเร็จแน่นอน!”

“นายเหนือหัวเนตรชีวิต ท่าทางเจ้าจะสงสัย ‘เนตรเทพวิถีฟ้า’ ของข้าเป็นอย่างมาก ไม่มาสำรวจด้วยตัวเองหน่อยรึ?”

เจ้าสวรรค์แย้มรอยยิ้มอบอุ่น

ที่จริงแล้วเนตรเทพวิถีฟ้าก็เพิ่งจะสำเร็จในช่วงนี้เอง เจ้าสวรรค์กำลังอยู่ระหว่างศึกษาพลังกลุ่มนี้เช่นกัน

“ชีวิต…พรากชีวิต!”

ดวงตาทั้งสองของนายเหนือหัวเนตรชีวิตหมุนโคจร แสงระยิบระยับสีเขียวมรกตกะพริบวูบวาบ พลังของนายเหนือหัวเนตรชีวิตแผ่ระลอกคลื่นมา

ฟิ้ว! พลังไร้รูปร่างกลุ่มนี้พุ่งโจมตีมายังรอบกายเจ้าสวรรค์ทันที

“พลังแห่งวิถีฟ้า!”

ประกายแสงมหาศาลเปล่งออกมาจากตาทั้งสองของเจ้าสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

วู้ม วู้ม~

เนตรเทพวิถีฟ้าตรงหว่างคิ้วโคจร ลูกตาดำทั้งแปดดวงหมุนวนเล็กน้อย แสงเทพสีเทาขาวขุ่นข้นหมุนวนออกมา แล้วผสานเข้าไปในฟ้าดินมิติ

“ย้อนกลับ!” เจ้าสวรรค์คำรามลั่น พลังนายเหนือหัวที่แปลกประหลาดพลันถูกปล่อยออกมา

เสี้ยววินาทีต่อมา

ฟิ้ว! พลังช่วงชิงชีวิตที่นายเหนือหัวเนตรชีวิตปลดปล่อยออกมาพลันหมุนเปลี่ยนทิศ โจมตีไปยังนายเหนือหัวเนตรชีวิตเอง

“กรี๊ด…” นายเหนือหัวเนตรชีวิตเผยสีหน้าตกใจทันใด เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

วู้ม ฟู่ ฟู่~ ผิวพรรณของนางหมองหม่นไปทันที แก่ไปหลายปีในชั่วพริบตา

นางรีบควบคุมเนตรชีวิต แผ่พลังชีวิตที่แข็งแกร่งออกมาหล่อเลี้ยงร่างกาย

นางค่อยๆ ฟื้นสภาพกลับคืนมา แต่ความตื่นตกใจกลับยากจะสงบลงได้

พลังเนตรเทพเจ้าที่นางปลดปล่อยออกมา เหตุใดจู่ๆ จึงโจมตีตัวเองได้?

ด้วยประสบการณ์ของนางผู้เป็นนายเหนือหัวเนตรชีวิต ก็ยังยากจะอธิบายทุกอย่างนี้

การโจมตีของตนไม่ได้เปลี่ยนทิศทางเลย สิ่งที่เปลี่ยนเหมือนจะเป็นทั่วทั้งมิติและทั้งโลก…

จ้าวเฟิงมองภาพนี้จากข้างล่าง

“เปลี่ยนทิศทางโดยไร้ซึ่งวี่แววใดๆ ค่อนข้างคล้ายกับพลังของเนตรเทพมายา แต่เหมือนจะมีความแตกต่างของพลังดั้งเดิม!” จ้าวเฟิงครุ่นคิด

ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต สมาชิกทั้งหลายที่เห็นภาพนี้ต่างพากันสั่นสะท้าน

ต่อให้เจ้าสวรรค์ครอบครองเนตรเทพเจ้า แต่จู่ๆ กลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตเสียเปรียบได้เล่า?

“ฮ่าๆ รับการโจมตีจากข้าไปซะ!” เจ้าสวรรค์หัวเราะลั่น

นายเหนือหัวเนตรชีวิตเผยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อได้ยินคำพูดนี้

เนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์มีพลังอะไร จนถึงตอนนี้นางก็ยังมองไม่ออก จะต้องระวังเอาไว้

ครืน! เจ้าสวรรค์กระตุ้นกายเทพมาร ซัดลำแสงสีเงินทองออกมากลุ่มหนึ่ง

“แค่หมัดนี้งั้นรึ?” นายเหนือหัวเนตรชีวิตสีหน้าเคร่งขรึม รู้สึกว่าไม่น่าจะง่ายดายเช่นนั้น

เจ้าสวรรค์ยื่นมือออกมา เนตรเทพวิถีฟ้าที่หว่างคิ้วโคจรขึ้น

“ไฟ!” ขณะกระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า เจ้าสวรรค์คำรามเสียงต่ำ

ทันใดนั้น ลำแสงสีเงินทองกลุ่มนั้นก็มีแสงเพลิงแผดเผาเจิดจ้าลุกไหม้

“อัสนี!” ลูกไฟร้อนระอุส่งพลังอัสนีที่ยิ่งใหญ่ออกมา

“แรงดูด!” ลูกไฟแสงอัสนีพลันหนักหน่วงเป็นที่สุด มิติรอบด้านต่างหนักอึ้งและสั่นไหวเบาๆ

“เป็นไปได้อย่างไร?”

สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรชีวิตตกใจเป็นอย่างมาก

การโจมตีที่เจ้าสวรรค์ปลดปล่อยออกมาเปลี่ยนไปไม่หยุด การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง พลังจะยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

และในยามที่นางตื่นตกใจ ลูกไฟแสงอัสนีก็พลันปรากฏที่เบื้องหน้า

หลบไม่ได้แล้ว!

ครืน ตูม!

ฟ้าดินพังทลาย พายุต้องห้ามทำลายล้างหอบม้วนไปทั่วทิศ

มิติถูกฉีกทึ้ง ทั่งทั้งโลกราวกับตกอยู่ในวันโลกาวินาศ

สนามรบด้านล่างราวกับหยุดสู้รบแล้วอย่างไรอย่างนั้น ทุกคนต่างให้ความสนใจกับบนท้องฟ้า ร่างสั่นสะท้านไม่หยุด

“พลังแข็งแกร่งยิ่งนัก!” ใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน

เนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์ราวควบคุมฟ้าดินได้ แก้ไขกฎเกณฑ์ของฟ้าดินอย่างกำแหง

วู้ม วูบ วูบ~

ลมพายุสลายไป ใจกลางท้องฟ้าที่ปั่นป่วนเบื้องหน้า ร่างของนายเหนือหัวเนตรชีวิตขาดวิ่นดูไม่ได้ แต่ไม่นานนักกายเทพของนางก็ได้รับพลังชีวิตมหาศาล ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว ฟื้นคืนสภาพจนสมบูรณ์

“ถอย!” นายเหนือหัวเนตรชีวิตรีบบัญชาทันที

สมาชิกฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์บนสนามรบใจสั่นสะท้าน ค่อนข้างยากจะเชื่อได้

นายเหนือหัวเนตรชีวิตยอมแพ้อย่างนั้นหรือ!

ต่อให้เจ้าสวรรค์มีเนตรเทพเจ้า แต่จะทำให้นายเหนือหัวเนตรชีวิตยอมแพ้ ไม่กล้าสู้ศึกด้วยข้อได้เปรียบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร

แต่ว่าทุกคนก็เห็นสถานการณ์การต่อสู้อยู่กับตา

“ถอย!” ราชาเทพหวาเฟิงบัญชาการอีกครั้ง

ทันใดนั้น ทั่วทั้งสนามรบแตกตื่นโกลาหล สมาชิกฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตทั้งหมดถอยไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์

จ้าวเฟิงก็ไม่แตกต่างกัน กระทั่งว่าเป็นคนที่ถอยไปเร็วที่สุดด้วยซ้ำ

เจ้าสวรรค์ในตอนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่นายเหนือหัวเนตรชีวิตก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขา หากเจ้าสวรรค์จะจับตนต่อ เนตรเทพมายาก็ยากจะรอดพ้นได้

“ฮ่าๆ นายเหนือหัวเนตรชีวิต ตอนนี้เจ้ายังทบทวนได้อีกสักนิด ศิโรราบต่อข้าเสีย!”

เจ้าสวรรค์หัวเราะ ทั่วทั้งโลกสั่นไหวทันที

“ศิโรราบ? เจ้ามีเป้าหมายอะไรกันแน่ ดวงเนตรนี้มาจากที่ไหน?”

สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรชีวิตคร่ำเคร่งเย็นชา

“ข้าว่าเจ้าน่าจะเคยได้ยินตำนาน ‘ต้นกำเนิดดวงตาสูงสุด’ มากระมัง!”

เจ้าสวรรค์ยิ้มถาม

ในตำนานว่าไว้ เมื่อแปดเนตรเทพเจ้ารวมตัวครบจะเรียกต้นกำเนิดดวงตาสูงสุดออกมาได้ จากนั้นจะสามารถผันเปลี่ยนฟ้าดิน ทำได้ทุกสิ่ง!

นายเหนือหัวเนตรชีวิตพยักหน้า สีหน้ายิ่งเคร่งเครียดกว่าเดิม

จากการต่อสู้เมื่อครู่ ข้อมูลที่นางได้รับมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจคาดเดาไม่หยุด แต่กลับยากจะยืนยันแน่ชัด

“แต่เจ้าที่เป็นเนตรเทพเจ้าอาจจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดดวงตาสูงสุดมีชื่อว่า ‘เนตรเทพวิถีฟ้า’!”

เจ้าสวรรค์พูดขึ้นอีกครั้ง เนตรเทพเจ้าที่อยู่ตรงหว่างคิ้วสั่นไหวเล็กน้อย แผ่กระจายพลังน่าอัศจรรย์ที่ครอบครองฟ้าดินออกมา

“อะไรนะ?”

นายเหนือหัวเนตรชีวิตยืนแข็งทื่ออยู่กับบที่ราวถูกสายฟ้าฟาด

นางไม่ได้ตกใจ ‘เนตรเทพวิถีฟ้า’ ชื่อนี้ แต่ตกใจว่าระหว่าง ‘เนตรเทพวิถีฟ้า’ ของเจ้าสวรรค์กับต้นกำเนิดดวงตาสูงสุดน่าจะมีความสัมพันธ์อะไรกันบางอย่าง…

“ชีวิตของเจ้าจบลงแค่นี้แล้ว มอบเนตรเทพชีวิตมาเสีย!”

สีหน้าของเจ้าสวรรค์พลันเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง พร้อมเผยความปรารถนาอันแรงกล้า

แผนของเขาคือผสานต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า ครอบครองพลังสูงสุดในฟ้าดินนี้

แต่เขาไม่มีเนตรเทพเจ้า และก็ไม่ใช่คู่มือของเนตรเทพเจ้าด้วยเช่นกัน จึงไม่อาจช่วงชิงเนตรเทพเจ้าอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการควบรวมพลังแปดเนตรเทพเจ้าเลย ดังนั้นเจ้าสวรรค์จึงลงมือกับทายาทเนตรเทพเจ้า หลังผ่านการศึกษาค้นคว้าหมื่นล้านปี การทดลองนับครั้งไม่ถ้วน แปดเนตรปฐมเทพจึงรวมเป็นหนึ่ง

แปดเนตรปฐมเทพรวมเป็นหนึ่งสามารถทำให้เกิดพลังเบาบางที่ใกล้เคียงกับต้นกำเนิดดวงตาสูงสุด แต่การผสานรวมนี้ไม่มั่นคง ผสานได้ชั่วครู่ก็คลายออก

เจ้าสวรรค์ประมาณการไว้ว่าอย่างน้อยๆ ต้องใช้เวลาอีกแสนปีหรือกระทั่งนานกว่านั้นจึงจะแก้ปัญหานี้ได้

จวบจนกระทั่งผู้คุมกฎจั่วได้เลือดของจ้าวเฟิงมา

ในฐานะที่เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าเนตรเทพเจ้าจะหล่อเลี้ยงและเปลี่ยนแปลงกายเทพ เลือด และวิญญาณของจ้าวเฟิง

และเพราะเลือดนี้จึงทำให้แปดเนตรเทพเจ้าผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลอมรวมพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าขึ้นมา ก่อเป็นดวงเนตรที่แฝงด้วยพลัง ‘ต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า’ เอาไว้เบาบาง

เรื่องนี้ตัวเจ้าสวรรค์เองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

“ฝันไปเถอะ!”

นายเหนือหัวเนตรชีวิตร้องตวาด บนใบหน้างามล้ำตัดสินใจแน่วแน่ มีทีท่าเหมือนจะยอมพินาศไปพร้อมกัน

หลังจากได้รู้ถึงที่มาที่แท้จริงของเนตรเทพวิถีฟ้า นายเหนือหัวเนตรชีวิตยิ่งไม่มีทางมอบเนตรเทพชีวิตให้กับฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version