Skip to content

King of Gods 1538

King Of Gods

บทที่ 1538 เนตรเทพวิถีฟ้า (1)

“เนตรอัสนีบริสุทธิ์!”

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงโคจรขึ้น พลังที่ปั่นป่วนสอดประสานกันอยู่ข้างใน แล้วก่อตัวเป็นกระบี่อัสนีเล็กๆ เล่มหนึ่งทันที บนนั้นยังหุ้มล้อมไปด้วยเพลิงดวงตากลุ่มหนึ่ง

ทูตสวรรค์พลันสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเห็นภาพนี้

ฟุ่บ!

เขากระตุ้นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทเวลา เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว

จะรับมือกับวิชาดวงตาที่สำแดงชั่วพริบตา ต้องเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเท่านั้น เพื่อไม่ให้โดนศัตรูเล็งเป้าเอาได้

ทูตสวรรค์อู่บีบเข้ามายังจ้าวเฟิงอย่างว่องไว เพราะหากเขาโจมตีไป ก็จะถูกวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงโจมตีโดน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแลกกันหมัดต่อหมัด สำแดงการโจมตีสุดกำลัง เช่นนี้ต่อให้โดนการโจมตีจากจ้าวเฟิงก็ไม่นับว่าขาดทุนนัก

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว~

ฝ่ามือของจ้าวเฟิงสะบัดไป กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ฉบับง่ายหลายสิบเล่มรวมตัวออกมา จากนั้นเขาจึงซัดกระบี่อัสนีเทวะทั้งหมดนี้ไปทันที

ทูตสวรรค์อู่กระตุ้นกายเทพมาร เส้นแสงสีม่วงบนกายวิญญาณไหลวน รัศมีสีม่วงดำจางๆ ชั้นหนึ่งแผ่ออกมาจากรอบกาย

ครืน ตู้ม ผัวะ!

ทูตสวรรค์อู่ฝืนต้านทานการโจมตีพวกนี้ไว้ โฉบบินเข้ามาใกล้จ้าวเฟิง

“เทพมารคำรามลั่น!”

แสงมารพุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองของทูตสวรรค์อู่ เขารวบรวมพลังมารมืดดำมหาศาลขึ้นในกาย ก่อนจะอ้าปากพ่นมันออกมา

ครืน ฟู่ ฟู่! วงแหวนคลื่นแรงปะทะขนาดมหึมา บดขยี้ไปยังจ้าวเฟิงพร้อมด้วยอำนาจมหาศาล

ในขณะเดียวกัน เนตรอัสนีบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงก็ถูกสำแดง

ครืน ฉัวะ!

เนตรอัสนีบริสุทธิ์คือวิชาดวงตาที่สำแดงชั่วพริบตา เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็โจมตีไปยังร่างของทูตสวรรค์อู่

เห็นเพียงบนร่างของทูตสวรรค์อู่มีรอยกระบี่ปรากฏอีกครั้งหนึ่ง บนแผลมีพลังที่แข็งแกร่งพวยพุ่งเข้าไปทำลายอวัยวะภายในกายเทพมาร

แน่นอนว่าทูตสวรรค์อู่คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ จึงเตรียมการเอาไว้ ต้านทานพลังกลุ่มนี้สุดกำลัง

หลังจากสำแดงเนตรอัสนีบริสุทธิ์แล้ว สีหน้าของจ้าวเฟิงก็หนักอึ้ง

เห็นเพียงคลื่นโจมตีวงแหวนสีม่วงดำโอบล้อมเข้ามา พลังมารมืดทะมึนที่แฝงอยู่ข้างในทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ทำลายทุกอย่างตามทางจนสลายกลายเป็นเถ้าธุลี หากถูกโจมตีเข้าไม่ตายก็บาดเจ็บหนัก

แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงอยู่ในมิติห้วงฝัน พลังแท้จริงทั้งหมดเพิ่มขึ้น สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

“หลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังบริสุทธิ์และพลังอัสนีเทวะออกมาจำนวนมาก ก่อร่างเป็นหลุมอัสนีดำมืด

วู้ม ครืน!

คลื่นโจมตีสีม่วงดำตรงดิ่งเข้ามา

มิติห้วงฝันรอบกายจ้าวเฟิงสั่นไหวเล็กน้อย เกิดอาการไม่มั่นคง

“ท่าทางข้าจะดูถูกกระบวนท่านี้ไปแล้ว!”

จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย แม้แต่มิติห้วงฝันของตนยังโดนผลกระทบ สมกับที่เป็นเผ่าเทพมาร

วู้ม~

จ้าวเฟิงรีบย่นระยะห่างของมิติห้วงฝัน สุดท้ายย่อส่วนลงจนเหลือขนาดเท่ากับหลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ ทั้งสองทับซ้อนกันโดยสมบูรณ์

ขณะเดียวกันจ้าวเฟิงก็โคจรพลังศาสตร์ลวงตา เพิ่มแรงป้องกันให้กับหลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ทุกด้าน

ครืน ตูม ตูม!

คลื่นโจมตีวงแหวนกลบจ้าวเฟิงจนมิด

ตรงใจกลาง พลังมารมืดที่เหี้ยมโหดบ้าคลั่งกัดกินหลุมอัสนีไม่หยุด

ยามนี้พลังของหลุมอัสนีกำลังถูกลดทอนไปทีละนิด

จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้าย ปล่อยพลังมายาดั้งเดิมออกมามากมาย และโคจรพลังความคิดไปในขณะเดียวกัน

การป้องกันของหลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ค่อยๆ ได้รับการยกระดับขึ้น ส่วนการโจมตีทุกอย่างที่จ้าวเฟิงเผชิญหน้าอยู่ก็อ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ

สุดท้ายคลื่นโจมตีม่วงดำเคลื่อนผ่านไป หลุมอัสนีพลังบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงยังคงอยู่ แค่เสียหายบ้างเล็กน้อย จ้าวเฟิงที่อยู่ข้างในก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

อั้ก!

ไกลออกไป ทูตสวรรค์อู่เห็นภาพนี้ก็มีสีหน้าดิ้นรน กระอักเลือดออกมา

กระบวนท่าเมื่อครู่แทบจะเป็นการโจมตีสุดกำลังของเขาแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะยังฆ่าจ้าวเฟิงไม่ได้ กระทั่งไม่สร้างผลกระทบให้ศัตรูเท่าไหร่เลย

ตอนนี้ จ้าวเฟิงกลับทอดถอนใจให้กับพลังของเนตรเทพมายา

เขาพบว่าพลังเนตรเทพเจ้าที่ตนสำแดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อก่อน ถึงแม้จะไม่ได้มอบการโจมตีที่แข็งแกร่งให้กับจ้าวเฟิงมากเท่าใด แต่สามารถเปลี่ยนแก่นแท้ของสิ่งต่างๆ ทำให้เขาพลิกจากร้ายกลายเป็นดีได้ตลอด

ยามมองนายเหนือหัวเนตรชีวิตที่อยู่บนท้องฟ้าแวบหนึ่ง จ้าวเฟิงจินตนาการไปว่าตอนตนใช้พลังเนตรเทพมายาได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนั้นบ้างแล้ว

“ตอนนี้ควรจะกำจัดเจ้าได้แล้ว!”

สายตาของจ้าวเฟิงจ้องเพ่ง ทูตสวรรค์อู่คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ เป็นผู้ไร้พ่ายในขั้นสาม สังหารเขาจะสร้างผลกระทบกับสถานการณ์ศึกได้ค่อนข้างมาก

“เนตรอัสนีบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง รวมกระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์เล่มหนึ่งออกมาอีกครั้ง

ในยามที่จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตานี้สำเร็จ ต่อให้ไม่อยู่ในมิติห้วงฝันก็สามารถปลดปล่อยออกมาได้

“แย่แล้ว!” ทูตสวรรค์อู่สีหน้าตื่นตกใจ ฉายแววหวาดกลัว

เขาโดนเนตรอัสนีบริสุทธิ์สองครั้งจากจ้าวเฟิงโจมตี ต่อให้เป็นกายเทพมารก็เจ็บสาหัส

ฟิ้ว! ทูตสวรรค์อู่หมุนตัวหนีไปทันที แต่ทว่า ยามที่เขาเพิ่งจะเคลื่อนไหว พลังที่ทำให้สั่นสะท้านก็ทะยานเข้ามา

ครืน บึ้ม!

กระบี่อัสนีเทวะอีกทางหนึ่งปะทะลงบนส่วนหัวของเขา ทิ้งรอยกระบี่ไหม้เกรียมเอาไว้

ขณะเดียวกัน พลังมหาศาลก็ทะลักล้น ทำลายกายเทพมารของทูตสวรรค์อู่อย่างบ้าคลั่ง ทูตสวรรค์อู่แข็งเกร็งทั้งร่าง ควันดำลอยโขมงขึ้นมา

กายเทพมารของเขาหดเล็กลงไปเท่าหนึ่ง รัศมีอำนาจสายมารก็ลดลงหลายส่วน

“ตายซะ!” จ้าวเฟิงตามมาจากข้างหลังทันที

พรึ่บ! ทูตสวรรค์อู่ตัวสั่นเทา หลบหนีไปโดยพลัน

ช่วงเวลาที่ทูตสวรรค์อู่ใช้สายเลือดเผ่าเทพมารสองครั้งนั้นสั้นมาก ทำให้เลือดบางส่วนที่เพิ่งจะฟื้นฟูของเขาถูกใช้หมดไปในทันที

ตอนนี้ทั้งสองฝั่งเปิดศึกเต็มรูปแบบแล้ว จ้าวเฟิงไม่มีทางปล่อยทูตสวรรค์อู่ไปง่ายๆ

“กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงสลายเนตรอัสนีบริสุทธิ์ สำแดงกระบี่อัสนีแทน

สำหรับศัตรูที่กำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เนตรอัสนีบริสุทธิ์ยากที่จะเพ่งเป้าหมาย กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์กลับใช้ได้ผลมากกว่า

ครืน ฟิ้ว!

แสงอัสนีวูบวาบบนสนามรบ กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ที่มืดหม่นทะยานผ่านไปอย่างบ้าคลั่ง

ทูตสวรรค์อู่สัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นน่าหวาดกลัวข้างหลัง จึงรีบหลบหลีกทันใด แต่สภาพของเขาตอนนี้ไม่สู้ดี กายได้รับบาดเจ็บหนัก หลบได้ไม่ทัน

ครืน ฉัวะ~

กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์แทงทะลุผ่านไหล่ของทูตสวรรค์อู่ไป

“เฮือก เจ้าเด็กนี่…” ทูตสวรรค์อู่กัดฟันร้องลั่น สีหน้าฉายแววโกรธแค้น

ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่าตนมัวแต่คิดล้างแค้น จึงได้เลือกทางผิด

จ้าวเฟิงเป็นถึงผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า เนตรเทพเจ้ากำลังอยู่ในการแปรสภาพและตื่นขึ้น หากจ้าวเฟิงสำแดงพลังของเนตรเทพเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ จะต้องได้เป็นนายเหนือหัวอีกคนหนึ่งแน่นอน!

แต่เข้าใจเรื่องพวกนี้เอาตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าสายไปแล้ว

“บิดเบือนมิติ!”

จ้าวเฟิงกระตุ้นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนทั้งหลาย ซัดกลุ่มแสงสีเงินที่สอดประสานกันจนสมจริงไปกลุ่มหนึ่ง

เสี้ยวขณะที่กลุ่มแสงสีเงินปรากฏขึ้น มิติรอบด้านก็ปั่นป่วน

ขวับ!

กลุ่มแสงสีเงินกะพริบแล้วหายวับไป ทะลุผ่านอากาศไปโผล่อยู่ที่ปลายขอบฟ้าไกลลิบ

ทูตสวรรค์อู่สัมผัสได้ถึงพลังมิติที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้ จึงรีบกระตุ้นสายเลือดเผ่าเทพมาร แสงเพลิงม่วงดำขยับวูบไหวทั่วร่าง ความเร็วเพิ่มขึ้นทบเท่า เคลื่อนตัวไปทางซ้ายระยะหนึ่ง

ตอนนี้เอง

ครืน ฉัวะ!

กลุ่มแสงสีเงินลอยขึ้นแล้วระเบิดออก ทำให้มิติแหลกละเอียด ทั้งยังเกิดพายุมิติหอบม้วนไปทั่วฟ้าดิน ถึงแม้ทูตสวรรค์อู่จะหลบการโจมตีนี้ได้ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากพายุมิติ ความเร็วช้าลง

จ้าวเฟิงอาศัยจังหวะนี้ดึงระยะเข้าไปใกล้ทูตสวรรค์อู่

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ฝ่ามือเพียงสะบัดไป กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์แบบง่ายหลายร้อยเล่มก็พุ่งโจมตี สอดประสานเป็นตาข่ายกระบี่สายฟ้า ปกคลุมไปยังทูตสวรรค์อู่

“หลบไม่พ้นแล้ว!” สีหน้าของทูตสวรรค์อู่ย่ำแย่ คิดทางหนีเอาชีวิตรอดไม่ออก

“ระเบิด!” จ้าวเฟิงตะโกนเสียงต่ำ กระบี่อัสนีที่เข้าใกล้ทูตสวรรค์อู่ต่างระเบิดขึ้นพร้อมกัน

ครืน ตูม! ทูตสวรรค์อู่โดนระเบิดใส่จนกระเด็น กายเทพมารหดเล็กลงหลายส่วน บนกายเทพยังมีรอยบาดแผลกระจายตัวมากขึ้น

“โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงยื่นสองมือออกมา ส่งพลังบริสุทธิ์ราวกับคลื่นคลั่งถาโถมไปโอบล้อมรอบกายทูตสวรรค์อู่

“ตายซะ!” จ้าวเฟิงคำรามเสียงเย็น มือทั้งสองประกบเข้าด้วยกัน

ฉับพลันนั้น พลังบริสุทธิ์มหาศาลก่อเป็นหลุมพลังปั่นป่วน หุ้มล้อมทูตสวรรค์อู่ไว้ข้างใน พลังบริสุทธิ์มีคุณสมบัติกลืนกิน และการกลืนกินของวิชานี้ทรงพลังยิ่งกว่า

เมื่อถูกโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์ขังเอาไว้ พลังในกายของทูตสวรรค์อู่ค่อยๆ หลั่งไหลหายไป สูญเสียแรงต้านทาน

“จ้าวเฟิง เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของเจ้าสวรรค์!”

เสียงอาฆาตแค้นต่ำทุ้มของทูตสวรรค์อู่ดังมาจากโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์

“เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจ ข้ารู้แต่ว่าตอนนี้เจ้าต้องตายในน้ำมือข้า!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งเครียด พลันปล่อยพลังออกมา

ครืน ตูม!

พลังบริสุทธิ์พลันหดเล็กลงแล้วระเบิดปะทุ ก่อให้เกิดพายุปั่นป่วนทำลายล้าง

ทูตสวรรค์อู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ ถูกจ้าวเฟิงสังหารในตอนนี้เอง

แน่นอนว่าภาพนี้ปรากฏอยู่ในสายตาของผู้แข็งแกร่งที่เหลือ ทูตสวรรค์ทั้งหลายของพวกฝืนชะตาฟ้าใจสั่นสะท้าน มองจ้าวเฟิงเป็นคนต้องห้ามไปแล้ว

ผู้คุมกฎจั่วแค่นเสียงหยัน แต่ตอนนี้เขาถูกราชาเทพหวาเฟิงสกัดเอาไว้ ไม่อาจไปสนใจเรื่องอื่นได้

ผู้คุมกฎจั่วชำนาญเรื่องวิชาอาคม คำสาป ความสามารถแต่ละอย่างทำให้คนหวาดกลัว

แต่ราชาเทพหวาเฟิงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตชำนาญด้านกฎเกณฑ์ชีวิตและศาสตร์แพทย์ สามารถรับมือกับอาคมและคำสาปส่วนใหญ่ได้

และหากพูดถึงการต่อสู้ ผู้คุมกฎจั่วก็สู้ราชาเทพหวาเฟิงไม่ค่อยได้

หลังจากสังหารทูตสวรรค์อู่แล้ว จ้าวเฟิงก็เบิกบานใจยิ่ง เคลื่อนตัวไปในสนามรบ สังหารศัตรูคนอื่นอย่างบ้าระห่ำ

ตอนนี้เอง

ครืน ตูม ตูม!

เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังมาจากปลายขอบฟ้าไกล

เห็นเพียงดวงตาทั้งสองของนายเหนือหัวเนตรชีวิตส่งแสงสีเขียวมรกตวาววับสะท้อนบนร่างเจ้าสวรรค์

ต่อให้เป็นเจ้าสวรรค์ที่มีกายเทพมารของเผ่าบรรพกาล พลังชีวิตในกายเทพก็ถูกช่วงชิงกัดกินไปเช่นกัน

ครืน ตูม!

ร่างของเจ้าสวรรค์ถูกโจมตีลอยกระเด็นไปหลายร้อยจั้งถึงจะประคองตัวได้

“ดี ต่อให้เจ้าสวรรค์มีสายเลือดเผ่าบรรพกาลก็ยังไม่ใช่คู่มือของนายเหนือหัวเนตรชีวิต!”

จ้าวเฟิงดวงตาเป็นประกาย

สมกับที่เป็นนายเหนือหัว ต่อให้ไม่ชำนาญด้านการต่อสู้ แต่กำลังรบก็ยังแข็งแกร่งไร้เทียมทาน

แต่ไม่รู้ทำไม ใจของจ้าวเฟิงกลับเกิดความรู้สึกหวาดหวั่น

“ฮ่าๆ สมกับที่เป็นหนึ่งในแปดเนตรเทพเจ้า ลำพังความสามารถนี้ก็ยังทำอะไรเจ้าไม่ได้!”

เจ้าสวรรค์ที่ถูกโจมตีจนถอยร่นพลันหัวเราะเสียงดัง

“ยังมีความสามารถอะไรก็เอาออกมาให้หมดเถอะ!”

ใบหน้างามสูงส่งของนายเหนือหัวเนตรชีวิตหยิ่งทะนงนัก

“ข้าแซ่อวี่ยังใช้วิชาดวงตาบางอย่างได้อีก อยากจะขอคำแนะนำจากนายเหนือหัวเนตรชีวิตสักหน่อย!” เจ้าสวรรค์ยกมุมปากยิ้มชั่วร้าย

สายตาของนายเหนือหัวเนตรชีวิตตะลึงไปเล็กน้อย

ขอคำแนะนำวิชาดวงตากับเนตรเทพเจ้า เป็นเรื่องน่าหัวเราะอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นายเหนือหัวเนตรชีวิตกลับร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก

ก่อนหน้านี้เจ้าสวรรค์ก็ทำให้นางรู้สึกประหลาดมาก หลังจากที่เจ้าสวรรค์พูดประโยคนี้ออกมานายเหนือหัวเนตรชีวิตก็พลันคิดโยงไปถึงอะไร…

“วิชาดวงตา?” จ้าวเฟิงก็ตกใจอย่างไร้สาเหตุ

เขาพลันนึกขึ้นได้ว่าความลึกซึ้งในวิชาดวงตาของเจ้าสวรรค์ก็ล้ำลึกจนทำให้คนนับถือเช่นกัน

“ฮ่าๆ ให้ดินแดนเทพรกร้างสั่นสะท้านขึ้นเถิด เนตรเทพวิถีฟ้า!”

เจ้าสวรรค์หัวเราะเหี้ยมเกรียม

มือทั้งสองประสานสัญลักษณ์มือ กลิ่นอายสายเลือดที่แข็งแกร่งหลายกลุ่มทะลักออกมาจากร่างของเจ้าสวรรค์

ดวงตาทั้งสองของเขากลายเป็นสีดำมืดลุ่มลึก ซึ่งก็คือเนตรมรณะ แต่เสี้ยวขณะต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเนตรชีวิตเขียวพร่างพราย จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเนตรทำนาย…

ส่วนกลิ่นอายบนร่างของเขาก็พุ่งเพิ่มขึ้นไม่หยุดตามการปรากฏขึ้นของสายเลือดเนตรเทพเจ้าทุกชนิด

หลังจากที่เนตรเทพเจ้าทั้งแปดปรากฏขึ้นทีละดวงๆ ดวงตาของเจ้าสวรรค์ก็กลับมาเป็นดวงตาปกติ แต่หว่างคิ้วพลันมีรอยแยกเผยขึ้น แล้วส่งแสงเทพมืดหม่นที่สั่นสะท้านทั่วภพออกมา

วู้ม~ ดวงตาที่หว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์ลืมขึ้นอย่างยากลำบาก

ในขณะเดียวกัน เงาเลือนรางของเนตรทั้งแปดก็ค่อยๆ ปรากฏ เนตรของสายเลือดเนตรเทพเจ้าทั้งแปดโผล่ขึ้นมาข้างหลังเขาทันที

ยามที่ดวงเนตรตรงหว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์ลืมขึ้นอย่างสมบูรณ์ เนตรดำมืดที่ตั้งเป็นแนวดิ่งก็ส่งงแสงสะท้านภพมืดหม่นขุ่นข้นออกมา

ทุกที่ที่แสงนี้พาดผ่าน ทุกสรรพสิ่งแหลกลาญ ฟ้าดินพังทลาย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version