Skip to content

King of Gods 1537

King Of Gods

บทที่ 1537 เนตรอัสนีบริสุทธิ์

เพียงเสี้ยววินาทีที่นายเหนือหัวเนตรชีวิตก้าวเข้ามาในสนามรบ สนามรบที่อึมครึม เหี้ยมโหด และมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งก็สงบลงทันใด

พลังไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งลอยตลบเข้าครองท้องฟ้าทั่วทุกทิศ

นายเหนือหัวเนตรชีวิตในตอนนี้ราวกับเป็นศูนย์กลางของฟ้าดิน แผ่หมอกพร่างพรายหนาทึบออกมา

ผีร้ายวิญญาณชั่วนับไม่ถ้วนในฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ตัวสั่นงันงก ผลของคำสาปลดลงไปครึ่งหนึ่ง

“ท่านนายเหนือหัว!”

ราชาเทพหวาเฟิงก้มหัวลง ใบหน้าฉายแววเคารพยำเกรง

ครั้งนี้เขาไม่อาจทำลาย ‘คำสาปภูตผีคลั่งวิญญาณมรณะ’ ของผู้คุมกฎจั่วได้ จึงจำต้องให้นายเหนือหัวเนตรชีวิตลงมือเอง

“นายเหนือหัวเนตรชีวิตรึ?” ร่างของผู้คุมกฎจั่วหนักอึ้ง ในใจค่อนข้างกดดัน

“สมกับที่เป็นนายเหนือหัว!”

จ้าวเฟิงที่อยู่ในสนามรบก็มองไปยังนายเหนือหัวเนตรชีวิตเช่นกัน

นางในตอนนี้ทั้งสูงส่ง สง่างาม หยิ่งทะนงอยู่ในคราวเดียวกัน มีความงดงามทั้งหลายของอิสตรี และมีความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของบุรุษ เปล่งประกายเจิดจ้า ดึงดูดความสนใจจากทุกคน

แม้แต่ราชันอสูรฝันมายาก็ยังไม่กล้าส่งเสียงดัง ยืนเงียบอยู่กับที่

ส่วนฟ้าดินก็ราวหมอบคลานแทบเท้านายเหนือหัวเนตรชีวิต หมุนโคจรโดยมีนางเป็นจุดศูนย์กลาง

วู้ม~

ดวงตาของนายเหนือหัวเนตรชีวิตพลันหมุนโคจร พลังชีวิตมหาศาลแผ่ระลอกออกมาอย่างไม่สิ้นสุด

พลังชีวิตลอยอบอวลไปทั่วทั้งโลก หอบม้วนบรรยากาศเย็นเยียบของสนามรบหายไปสิ้น ราวกับเปลี่ยนเป็นผืนป่ากว้างไกล

ภายใต้พลังชีวิตที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้ ภูตผีปีศาจทั้งหมดถูกบีบคั้นและกดดันอย่างหนักหน่วง

ผีร้ายวิญญาณแค้นพวกนั้นส่งเสียงร้องแหลมน่าสังเวช ร่างค่อยๆ จางหายไปโดยไร้ร่องรอย

“ใช้พลังเจตจำนง ทำลายสิ้นทันที!” ราชาเทพหวาเฟิงอุทานอย่างตะลึง

เจตจำนงของนายเหนือหัวแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง อยากให้ผู้ใดตาย ผู้นั้นก็ต้องตาย!

นายเหนือหัวเนตรชีวิตไม่ชำนาญด้านวิญญาณสักเท่าใดนัก แต่ก็ยังลงมือทำลายคำสาปผีคลั่งวิญญาณมรณะได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

“ข้าจะช่วงชิงชีวิตเจ้ามา!”

สายตาของนายเหนือหัวเนตรชีวิตเพ่งไปยังผู้คุมกฎทันที

วู้ม! ดวงตาของนางเขียวมรกตวาวแวว เต็มไปด้วยพลังชีวิตมหาศาล

แต่ผู้คุมกฎที่ถูกนายเหนือหัวจ้องมองกลับสัมผัสถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ราวกับว่าเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่ในเวลาข้างหน้านี้

นายเหนือหัวเนตรชีวิตคิดจะช่วงชิงชีวิตใครก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก

วู้ม ฟู่ ฟู่!

พลังไร้รูปร่างของระดับนายเหนือหัวแผ่กระจายเข้ามา

แต่ในตอนนี้ เบื้องหน้าของผู้คุมกฎจั่วมีผู้อาวุโสชุดขาวร่างสูงใหญ่คนหนึ่งปรากฏขึ้น คนผู้นี้คือเจ้าสวรรค์นั่นเอง

พลังช่วงชิงชีวิตถูกเจ้าสวรรค์สกัดเอาไว้

ครืน ฟู่ ฟู่! พลังเทพทรงอานุภาพที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่งพลันปะทุออกมาจากในกายของเจ้าสวรรค์ สาดส่องแสงเทพสีเงินทองชั้นหนึ่ง เข้าม้วนวนกับพลังกลุ่มนั้นของนายเหนือหัวเนตรชีวิต

การปะทะกันโดยไร้รูปร่างของทั้งสองฝ่าย ทำเอามิติรอบด้านบิดม้วนแหลกละเอียด

ตูม ตูม ตูม!

พลังสองกลุ่มปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดพายุต้องห้ามทำลายล้าง สุดท้ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ท่าทางเจ้าคงผสานพลังสายเลือดของเผ่าบรรพกาลแล้วสินะ!”

ใบหน้างามของนายเหนือหัวเนตรชีวิตสงบนิ่ง

เรื่องนี้ไม่ผิดจากที่นางคาดการณ์ไว้ ในเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้เห็นสายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากมายถึงเพียงนั้นแล้ว

เจ้าสวรรค์กล้าโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต แน่นอนว่าต้องมีไพ่ตายสุดยอดอยู่

“นายเหนือหัวเนตรชีวิต ในเมื่อเจ้าอดรนทนไม่ไหวแล้ว เช่นนั้นก็เปิดศึกอย่างสมบูรณ์กันเลย!”

มุมปากของเจ้าสวรรค์ยกยิ้ม

ครืน วู้ม วู้ม~

ฟ้าดินด้านหลังบิดม้วน ข้างในมีเงาดำมหึมาหลายสายปรากฏขึ้น

เงาดำนั้นค่อยๆ ปรากฏชัด เรือรบที่ติดตั้งยุทธโธปกรณ์ครบครันแต่ละลำเผยออกมาทันที บนยอดเรือรบทุกลำล้วนมีป้อมปืนสีดำทองใหญ่โต

รอบด้านป้อมปืนทุกป้อมมีคนเผ่าความลับสวรรค์นั่งขัดสมาธิคอยควบคุมอุปกรณ์นี้

“อาวุธประเภททำลายล้าง!”

ราชาเทพหวาเฟิงจ้องเพ่ง

อาวุธประเภททำลายล้างของเผ่าความลับสวรรค์มีพลังโจมตีแข็งแกร่ง ทั้งยังกินบริเวณกว้างไกลยิ่ง

นึกถึงตอนนั้น เผ่าความลับสวรรค์ก็ใช้อาวุธประเภทนี้ทำลายขั้วอำนาจใหญ่เขตอื่นที่อยู่ห่างไปไกล

นอกจากอาวุธพวกนี้ บนเรือรบทั้งสามลำยังมีอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักอื่นๆ อีก เต็มไปด้วยพลังที่เหนือกว่า

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว~ ในขณะเดียวกัน เงาแสงหลายสายพุ่งออกมาจากในเรือรบ ทั้งหมดล้วนเป็นหุ่นเชิดกลไกรวมถึงองครักษ์เทพมรณะที่ระดับสูงยิ่งกว่า

“เป็นขั้วอำนาจที่น่ากลัวยิ่งนัก!” จ้าวเฟิงทอดถอนใจ

กำลังพลที่พวกฝืนชะตาฟ้าส่งออกมาในสนามรบแห่งนี้เกินกว่าความคาดหมายของจ้าวเฟิงนัก

มิน่าเล่า สมาชิกของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตาถึงต้านทานได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกทำลาย กระทั่งผู้นำระดับสูงทั้งหลายยังถูกควบคุมไม่ก็จับเป็นเชลย

แน่นอน แดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีนายเหนือหัวดูแลเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเทพรกร้าง

ถึงแม้กำลังรบของนายเหนือหัวเนตรชีวิตจะไม่แข็งแกร่ง แต่เส้นสายนางกว้างขวาง ตอนนี้มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังต่อสู้ทั้งหมดของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตในตอนนี้ก็มากมายจนน่าตกใจเช่นกัน

ครืน บึ้ม!

จ้าวเฟิงทำลายหนึ่งพันภาพมายามารออกมาจากมิติห้วงฝัน

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของสงครามแล้ว แต่ผลแพ้ชนะไม่ว่าใครก็ฟันธงไม่ได้ดังนั้นจ้าวเฟิงจะต้องพยายามทำลายฝั่งศัตรูอย่างเต็มที่ ช่วยชิงชัยชนะของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตมาให้ได้

ในขณะนี้เอง

บนท้องฟ้า พลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานสองกลุ่มระเบิดออก ทั่วทั้งผืนฟ้าราวปริแตกออก ปั่นป่วนอลหม่านไปทั่ว

ฝั่งหนึ่งของท้องฟ้าที่ปั่นป่วน เห็นเพียงสตรีงามล้ำองอาจยืนนิ่งอยู่กับที่ กายอยู่ภายในแสงเทพสีเขียววาววับ

ข้างหลังนายเหนือหัวเนตรชีวิตมีเงาเนตรเทพเจ้ามหึมาข้างหนึ่งฝังลงในท้องฟ้า เขย่าขวัญทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน

ส่วนอีกด้านหนึ่ง

เจ้าสวรรค์แปลงเป็นเทพมารบรรพกาล ทั่วร่างเต็มไปด้วยเส้นแสงสีเงินทอง แผ่กระจายกลิ่นอายบรรพกาลกวาดไปทั่วทุกทิศอย่างหยิ่งผยอง

สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งเบื้องล่าง สายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์ ต่างกดดันหายใจไม่ออกภายใต้สายเลือดเผ่าบรรพกาลนี้

ครืน ตูม!

เพียงชั่วพริบตา ทั้งสองก็ประมือกันหลายสิบกระบวนท่า

ประกายเขียวมรกตและเส้นแสงสีเงินทองนับไม่ถ้วนสอดประสาน เข้าปะทะ และทำลายล้างกันระหว่างพวกเขาทั้งคู่

“นี่ก็คือพลังของเจ้าสวรรค์?”

จ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย

เจ้าสวรรค์สามารถต้านทานนายเหนือหัวเนตรชีวิตอย่างซึ่งหน้าได้ แสดงให้เห็นว่าพลังของเขาหากไม่ใกล้เคียงกับนายเหนือหัวก็ถึงขั้นนายเหนือหัวแล้ว

แน่นอน สิ่งที่เจ้าสวรรค์อาศัยเป็นหลักก็คือสายเลือดเผ่าบรรพกาล

ในตอนนั้น ระดับการผสานรวมสายเลือดเผ่าบรรพกาลของอวี่เหิงมีเพียงแค่สองสามส่วนเท่านั้น

ตอนนี้จ้าวเฟิงคิดว่าอย่างน้อยระดับการผสานสายเลือดเผ่าบรรพกาลของเจ้าสวรรค์ก็ถึงเก้าส่วน หรือกระทั่งว่าสูงยิ่งกว่านั้น

ในยามที่นายเหนือหัวเนตรชีวิตและเจ้าสวรรค์เข้าห้ำหั่นกัน ขั้วอำนาจทั้งสองก็เปิดศึกเต็มรูปแบบ

เพียงชั่วพริบตา ป้อมปืนสีดำทองบนเรือรบทั้งสามลำก็ยิงออกมาทันที

ครืน ฟิ้ว!

ลำแสงสีทองมหึมากวาดออกมา พลังของมันต่อให้เป็นจอมเทพขั้นสามก็ไม่กล้าประมาท

แต่ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ป้องกันรอเอาไว้นานแล้ว

ในค่ายกลแดนศักดิ์สิทธิ์ โล่แสงมรกตสุกใสสามอันก่อร่างออกมา แล้วยิงออกไปทันใด

ครืน ตูม บึ้ม!

เสาแสงทองโจมตีไปยังโล่แสงมรกตวาววับ พลังทำลายล้างกวาดออกไปทั่วทิศ

ท่ามกลางความปั่นป่วน กลิ่นอายแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งบีบประชิดมายังจ้าวเฟิง

“ทูตสวรรค์อู่!” จ้าวเฟิงมองไปยังที่ไกลๆ

หลังจากที่ทูตสวรรค์อู่ล้มเหลวก่อนนี้ก็กลับไปรักษาตัวที่อาณาจักรเทพของพวกฝืนชะตาฟ้า ตอนนี้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้วแปดส่วน จะประมาทไม่ได้

ครืน~ ทูตสวรรค์อู่ไม่พูดให้มากความ กระตุ้นสายเลือดเผ่าเทพมารแปลงเป็นมารยักษ์กายม่วงดำ แผ่กระจายกลิ่นอายสายมารที่สะเทือนไปทั่วสารทิศ

“ฝ่ามือมารสวรรค์!”

ทูตสวรรค์อู่หลอมพลังมารดำมืด ซัดฝ่ามือแสงมหึมาสีดำม่วงออกมาสายหนึ่ง

ก่อนหน้านี้เขาประมาทเลินเล่อ จ้าวเฟิงจึงพลิกสถานการณ์ได้รับชัยชนะไป ครั้งนี้เขาจะต้องล้างความอัปยศนั้นลงให้จงได้

“เขตแดนพลังบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงปล่อยพลังบริสุทธิ์มหาศาลออกมาทันที ฟ้าดินรอบด้านกลายเป็นอาณาเขตปั่นป่วนมืดมิด

พลังของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นในเขตแดนพลังบริสุทธิ์แห่งนี้

วู้ม แซ่ด แซ่ด!

ขณะมือถือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทบริสุทธิ์ จ้าวเฟิงหลอมกระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ขึ้น จากนั้นกระหน่ำฟันออกไป

“กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์!”

จ้าวเฟิงโคจรตาซ้าย ควบรวมกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์เล่มหนึ่งออกมาแล้วส่งออกไป

ครืน ฉัวะ~

แสงอัสนีแลบแปลบปลาบ พุ่งทะลุฝ่ามือแสงม่วงดำไปในทันที ทั้งยังบดขยี้มันร่วมกับกระบี่อัสนีเทวะ

จากนั้น กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ก็พุ่งไปหาทูตสวรรค์อู่

ในตอนนี้เอง ทูตสวรรค์อู่หยิบเศษกระจกสีขาววาววับชิ้นหนึ่งออกมา แล้วปล่อยพลังเวลาที่แข็งแกร่งไปทันที

หลังจากความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ ทูตสวรรค์อู่ก็ยืมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นนี้มาจากขั้วอำนาจ

กฎเกณฑ์เวลาแผ่ลามมาทันใด ร่างของทูตสวรรค์อู่เคลื่อนไหวหลบกระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

“ตาแก่นี่เตรียมตัวเอาไว้นานแล้วจริงๆ ด้วย!” จ้าวเฟิงแววตาเคร่งเครียด

วิชาดวงตาของเขามีผลต่อการสู้กับเผ่าเทพมารมากที่สุด

ในบรรดาวิชาดวงตามากมาย วิชาที่พลังแข็งแกร่งที่สุดก็คือกระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์

แต่กระบี่อัสนีเทวะไม่ใช่วิชาดวงตาชั่วพริบตา จึงอาจจะหลบหลีกได้ แน่นอนว่าทูตสวรรค์อู่ก็จับสังเกตได้ถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงยืมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทเวลามาต้านทานการโจมตีของศัตรู เพิ่มพลังให้กับตัวเอง ใช้มันหลบกระบี่อัสนีบริสุทธิ์

ตลอดมา เป้าหมายของจ้าวเฟิงคือหลอมเพลิงดวงตาอัสนีเทวะเข้าไปในกระบี่พลังบริสุทธิ์ เพื่อให้เพิ่มพลังและสำแดงออกมาได้ในชั่วพริบตา

แต่ก็ไม่สำเร็จมาโดยตลอด สาเหตุคือพลังที่แฝงอยู่ในวิชาดวงตามากเกินไป ค่อนข้างปั่นป่วน ควบคุมลำบาก

“แต่หากอยู่ในมิติห้วงฝัน ทุกๆ ด้านต่างได้รับการเพิ่มพลังแล้วละก็ อาจจะสำเร็จก็ได้!” จ้าวเฟิงคาดเดา

“ฮ่าๆ จ้าวเฟิง ครั้งนี้ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น!”

ทูตสวรรค์อู่หัวเราะลั่น บินมายังจ้าวเฟิง ฝ่ามือปล่อยพลังมารมืดทะมึนมหาศาล พลังไร้เทียมทาน

“ปลดปล่อยห้วงฝัน!”

จ้าวเฟิงโคจรพลังดั้งเดิมมายาและพลังความคิด สร้างห้วงฝันออกมาแห่งหนึ่ง จากนั้นค่อยแผ่ขยายห้วงฝันออกไป ทั่วบริเวณหลายหมื่นลี้รอบๆ จ้าวเฟิงค่อยๆ กลายเป็นภาพมายาอีกภาพหนึ่ง

ในห้วงความฝัน พลังของจ้าวเฟิงในด้านต่างๆ ล้วนได้รับการยกระดับ กระทั่งสามารถทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

ครืน ตูม เปรี้ยง!

เขตแดนพลังบริสุทธิ์และมิติห้วงฝันผสานเข้าด้วยกัน อานุภาพเพิ่มขึ้นมหาศาล

พลังบริสุทธิ์ที่ย้อมไปด้วยสีสันมายาทะลักออกมาต้านทานการโจมตีทุกอย่างของทูตสวรรค์อู่ไว้

ใจกลางเขตแดนพลังบริสุทธิ์ ตาซ้ายของจ้าวเฟิงโคจรขึ้น

พลังบริสุทธิ์ พลังอัสนีเทวะ และพลังมายาดั้งเดิมสอดประสานเข้าด้วยกัน ก่อเป็นกระบี่อัสนีมืดหม่นที่ส่องประกายแสงแปลกประหลาดเล่มหนึ่ง

“ไป!” จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ

เสี้ยวขณะที่ส่งกระบี่เล่มนี้ออกมา เขาก็รู้ว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว

ทูตสวรรค์อู่ที่เตรียมทำลายชั้นป้องกันสัมผัสได้ถึงอันตรายทันใด

ครืน ฉวัะ!

กระบี่อัสนีมืดหม่นแทงเข้ามายังกายเทพมารของเขา พลังข้างในกระบี่ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด เห็นเพียงที่หน้าอกของทูตสวรค์อู่มีรอยกระบี่ที่บริเวณรอบๆ ไหม้เกรียมทิ้งเอาไว้ อีกทั้งภายในกายก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส อัสนีเทวะและเพลิงปั่นป่วนกวาดทำลายไปอย่างบ้าคลั่ง

“เป็นไปได้อย่างไร?” สีหน้าของทูตสวรรค์อู่ดิ้นรน ยากที่จะเชื่อลงได้

ครั้งนี้พลังวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงทรงอานุภาพกว่ากระบี่อัสนีบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้มาก ทั้งยังปล่อยออกมาได้ในชั่วพริบตา ยากจะหลบหลีกไปไหน

การเตรียมการของเขาก่อนหน้านี้ไร้ประโยชน์ไปในทันที

“สำเร็จแล้ว!” มุมปากของจ้าวเฟิงเหยียดยิ้ม

วิชาดวงตาที่เขาสำแดงเมื่อครู่ พลังล้ำยิ่งกว่ากระบี่อัสนีบริสุทธิ์ ผสานไว้ด้วยกระบี่พลังบริสุทธิ์ เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ และความลึกซึ้งในวิชาดวงที่ล้ำลึกตัวเขา

รอยกระบี่อัสนีบริสุทธิ์ที่จู่ๆ ประทับไปบนร่าง ทูตสวรรค์อู่ไม่อาจจะหลบหลีกได้เลย อีกทั้งยังทรงพลังมากอีกด้วย

“เนตรอัสนีบริสุทธิ์!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงหมุนโคจร พลังบริสุทธิ์สอดประสานอยู่ภายใน ก่อร่างเป็นกระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ขนาดเล็กเล่มหนึ่งโดยพลัน บนกระบี่มีเพลิงดวงตากลุ่มหนึ่งหุ้มล้อมอยู่ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version