บทที่ 1544 ปฏิบัติการอันตราย
หลังจากที่จัดการสมาชิกทหารยามทั้งห้าแล้ว จ้าวเฟิงก็สำรวจสถานที่เพาะปลูกของล้ำค่าที่ระดับสูงยิ่งกว่า ที่เพาะปลูกทุกแห่งล้วนเป็นมิติเอกเทศ มิติเอกเทศของที่แห่งนี้เล็กกว่าข้างนอกมาก แต่มีจำนวนมากกว่า
“ที่เพาะปลูกทรัพยากรที่ระดับสูงยิ่งกว่ากลับมีมาก?”
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้
เดินไปข้างหน้าสามสี่ก้าว เขาก็มองเห็นอุปกรณ์กลไกเครื่องหนึ่ง ข้างในนั้นมืดสนิท รอบๆ โอบล้อมไปด้วยหมอกดำไร้ขอบเขต ส่วนบนพื้นเต็มไปด้วยกระดูกขาวโพลน ในกองกระดูกมีดอกไม้ประหลาดลวดลายสีดำขาวตัดกันดอกหนึ่ง
“ดอกเขมือบกระดูก!” ดวงตาของจ้าวเฟิงส่องประกาย ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นทรัพยากรล้ำค่านี้ในคลังตำราลับเผ่าความลับสวรรค์ เป็นของล้ำค่าที่พวกความลับสวรรค์สร้างขึ้น
ของล้ำค่านี้ต้องปลูกอยู่ในซากศพกองกระดูกที่ไอความตายเข้มข้นถึงจะเจริญเติบโตได้ แต่การแตกดับของผู้แข็งแกร่งล้วนแต่ร่างพินาศไปทั้งสิ้น ไม่เหลืออะไรทั้งนั้น ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงต้องสร้างขึ้นเอง นับว่าเป็นผลงานค้นคว้าที่ค่อนข้างสำเร็จของพวกฝืนชะตาฟ้า เห็นได้ชัดว่าจ้าวเฟิงไม่ขาดของล้ำค่านี้ เขารีบไปยังมิติเอกเทศถัดมาทันที
ตอนนี้จ้าวเฟิงเข้าใจแล้วว่า เหตุใดจำนวนพื้นที่เพาะปลูกของล้ำค่าระดับสูงยิ่งกว่ากลับมีมาก เพราะในทุกที่พื้นที่เพาะปลูกแทบจะมีของล้ำค่าเพียงชนิดเดียว กระทั่งว่าต้นเดียวด้วยซ้ำ แต่ระดับกลับสูงจนน่าอัศจรรย์ ยกตัวอย่างเช่นดอกเขมือบกระดูกเมื่อครู่ ก็แทบจะฝึกฝนทายาทเนตรเทพมรณะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้คนหนึ่งแล้ว
“นี่มัน…ไผ่เก้าอัสนีสวรรค์!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุปราการมิติ เห็นของล้ำค่าที่ปลูกอยู่ในมิติแห่งที่สอง
ผิวดินข้างในขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อไหม้เกรียม ท้องฟ้ามีเมฆดำถาโถม พลังทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาไม่หยุด ที่ใจกลางมิติมีไผ่โปร่งแสงแวววาว ทั่วลำต้นมีแสงอัสนีเคลื่อนไหวหลายต้น ซึ่งก็คือ ‘ไผ่เก้าอัสนีสวรรค์’
ตามบันทึกว่าไว้ ที่ที่ไผ่เก้าอัสนีสวรรค์เติบโตอยู่จะต้องเป็นพื้นที่ต้องห้ามอัสนีสวรรค์ คนทั่วไปยากจะเข้าใกล้ แต่สำหรับผู้ฝึกฝนศาสตร์อัสนี บริเวณที่มีไผ่เก้าอัสนีสวรรค์ก็คือพื้นที่มงคลในการฝึกฝน ของล้ำค่าชนิดนี้ถือกำเนิดในสายฟ้า รวมไว้ด้วยแก่นสำคัญของอัสนี ไม่เพียงแต่สามารถนำมาทำความเข้าใจต่อกฎเกณฑ์อัสนีเท่านั้น ยังนำมายกระดับความสามารถในการเรียนรู้กฎเกณฑ์อัสนีของผู้ฝึกฝนได้อีกด้วย อีกทั้งไผ่เก้าอัสนีสวรรค์หลายต้นที่พวกฝืนชะตาฟ้าเพาะปลูกยังเติบโตอยู่ในพลังทัณฑ์สวรรค์ ระดับขั้นน่ากลัวว่าจะสูงเป็นอย่างมาก
จ้าวเฟิงไม่พูดให้มากความ สำแดงส่งวิญญาณเข้าไปข้างใน
ทันใดนั้น พลังทัณฑ์สวรรค์บนท้องฟ้าส่วนหนึ่งฟาดผ่าลงมายังจ้าวเฟิง
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
จ้าวเฟิงปล่อยพลังอัสนีที่แข็งแกร่งโอบล้อมทั่วร่าง ต้านทานมันเอาไว้
เขาเคยเจอกับพลังทัณฑ์สวรรค์ของนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์มาแล้ว ยังจะกลัวพลังทัณฑ์สวรรค์แค่นี้เสียที่ไหนกัน
ทัณฑ์สวรรค์ที่โจมตีจ้าวเฟิงยิ่งหนักหน่วงขึ้นเมื่อเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ไม่ต้องสงสัยในพลังของทัณฑ์สวรรค์เลย ต่อให้จ้าวเฟิงป้องกันสุดกำลังก็เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างเหนื่อยล้า
“เก็บมา!”
จ้าวเฟิงเข้าไปใกล้ไผ่เก้าอัสนีสวรรค์ เก็บมันเข้าไปในอาณาจักรเทพ
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
ทันใดนั้น พลังทัณฑ์สวรรค์บนท้องฟ้าโจมตีมายังจ้าวเฟิงทั้งหมด
จ้าวเฟิงรีบหนีไปยังพื้นที่ชายขอบทันที ถึงจะหลุดพ้นจากการโจมตีทัณฑ์สวรรค์ได้ สุดท้ายก็สำแดง ‘ส่งวิญญาณ’ จากไป
“ระดับขั้นของไผ่เก้าอีสนีสวรรค์ไม่ธรรมดา ช่วยกระตุ้นกฎเกณฑ์อัสนีของข้าได้เป็นอย่างมาก!” จ้าวเฟิงพอใจมาก
แต่ว่าต่อมาเขาก็ต้องเร่งฝีเท้าแล้ว
การกระทำของเขาทุกอย่างที่นี่ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกพบ หากถูกศัตรูควบคุมอำนาจเหนือกว่าได้ก็แย่แล้ว ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงตัดสินใจ เอาของล้ำค่าไปอีกสักหน่อยก็จะจากไปอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อเขาแฝงตัวเข้ามายังส่วนในของพวกฝืนชะตาฟ้า ก็ยังมีภารกิจอื่นอีก
หลังจากสำรวจ จ้าวเฟิงพบว่าพื้นที่เพาะปลูกทั้งแปดแห่งแรกเป็นธาตุที่ตรงกับเนตรเทพเจ้าทั้งแปด
นี่ก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล พวกฝืนชะตาฟ้ามีทายาทเนตรเทพเจ้าที่แข็งแกร่งมากขนาดนั้น ย่อมไม่มีทางถือกำเนิดขึ้นเอง แต่ใช้ค่าตอบแทนมหาศาลเพาะปลูกทรัพยากรล้ำค่า สุดท้ายถึงอาจจะมีโอกาสเป็นผู้แข็งแกร่งได้
จ้าวเฟิงมาถึงยังที่ที่สอดคล้องกับของล้ำค่าประเภทมิติ
นั่นเป็นท้องฟ้าที่เงียบสงัด ข้างในมีก้อนหินน้อยใหญ่มากมายลอยอยู่ ทั้งหมดต่างส่องประกายแสงสีขาวรางเลือนราวกับหยกล้ำค่า และในใจกลางหยกล้ำค่าพวกนี้มีผลึกหยกทรงกลมที่เจิดจ้า ส่องประกายแสงดุจแสงจันทร์อย่างไรอย่างนั้น
“หยกศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทมิฬ!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงตื่นตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นของล้ำค่าชั้นยอดระดับนี้
หยกศักดิ์สิทธิ์มิติ นับตั้งแต่การแตกสลายของมหาทวีปอันกว้างใหญ่ ต้องอยู่ภายในท้องฟ้ากระแสปั่นป่วนหรือรอยแตกต้องห้ามที่ไหนสักแห่ง จึงจะมีโอกาสเป็นรูปเป็นร่างได้ ทั้งยังต้องใช้เวลามหาศาลถึงจะค่อยๆ ก่อตัว
นี่คือเหตุที่ทำไมผู้ฝึกฝนมิติทั้งหลายจึงชอบท่องไปตามมิติถึงเพียงนั้น ไม่แน่ว่าอาจโชคดีเจอของล้ำค่าระดับนี้ก็เป็นได้
จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง สำแดงส่งวิญญาณเข้าไปข้างในทันที
ทันใดนั้นมีพลังมิติกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมา ทำให้ความคิดและการเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าผิดปกติ
จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังกฎเกณฑ์มิติเข้าต้านทานทันที มิฉะนั้นเขาอยู่ในนี้จะช้าเหมือนทากคลาน
อันที่จริง หากจ้าวเฟิงทำลายมิติแห่งนี้ไปเลยก็ไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้แล้ว สามารถได้ของล้ำค่าไปในทันที แต่ทำเช่นนั้นจะเป็นการเผยตัวออกมา
จ้าวเฟิงคำนวณในใจ
ในขณะเดียวกัน นอกอาณาจักรเทพของพวกฝืนชะตาฟ้า
ศึกของนายเหนือหัวเนตรยังคงดำเนินต่อไป กระทั่งยิ่งสู้ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แทบจะทำให้มิติฝั่งหนึ่งแหลกลาญเป็นผุยผง หากไม่มีผู้แข็งแกร่งเผ่าทำนุฟ้าก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลากี่ล้านปีจึงจะซ่อมได้
มิติ ทัณฑ์สวรรค์ และชีวิต สามนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้ามีสีหน้าค่อนข้างย่ำแย่
นี่ยังเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาสามนายเหนือหัวร่วมมือกัน หากเปลี่ยนเป็นนายเหนือหัวคนอื่นคงยังต้องเป็นกังวลเรื่องชีวิต ส่วนเจ้าสวรรค์ถึงแม้จะมีบาดแผลแต่ไม่นับว่าสาหัสอะไร
“รอยมิติ!”
ดวงตาของนายเหนือหัวเนตรมิติส่องประกายแสงสีเงิน สายตากวาดมองไป
ฟิ้ว วู้ม วู้ม~
ฟ้าดินไกลโพ้น ในท้องฟ้าพลันเกิดรอยแยกมิติน่ากลัวขึ้น พลังมิติข้างในที่พุ่งเชือดเฉือนอย่างรวดเร็วมากพอจะทำให้ทุกสิ่งแหลกเป็นชิ้นๆ
รอยแยกมิตินี้รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ไล่ตามเจ้าสวรรค์ไป
“ค้อนทัณฑ์สวรรค์!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ก็โคจรดวงตาขึ้นเช่นกัน พลังดวงตาควบคุมทัณฑ์สวรรค์มหาศาลในท้องฟ้า หลอมรวมค้อนทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสะพรึงออกมา
ส่วนนายเหนือหัวเนตรชีวิตก็ควบคุมเถาวัลย์หนามมากมายกวาดไปในฟ้าดินและอากาศ ปิดทางหนีของเจ้าสวรรค์ไว้
เจ้าสวรรค์ใกล้จะถูกการล้อมโจมตีของนายเหนือหัวเนตรทั้งสามล้อมกำราบ และตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
“สลาย!”
เจ้าสวรรค์กระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า ปลดปล่อยพลังกฎเกณฑ์และหลักการที่ทำลายล้างทุกสิ่งออกมา ทำลายทุกสิ่งรอบข้างให้สูญสิ้น
“พลังนี้อีกแล้วรึ!”
นายเหนือหัวเนตรชีวิตใจหนักอึ้ง สีหน้าฉายแววตกใจ
สู้กับเจ้าสวรรค์มานานถึงเพียงนี้ วิชาบางอย่างของเจ้าสวรรค์พวกเขาก็พอจะรู้บ้าง
หนึ่งในวิชาที่ไม่อาจทำลายได้ก็คือพลังที่เจ้าสวรรค์สำแดงออกมาเมื่อครู่ สามารถทำลายกฎเกณฑ์และลำดับของทุกสิ่งรอบๆ ในชั่วพริบตา หรือก็คือเสี้ยวขณะนี้พลังใดๆ ก็ทำร้ายเจ้าสวรรค์ไม่ได้
แน่นอน กระบวนท่าที่แข็งแกร่งเช่นนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน อีกทั้งยังใช้พลังมากเจ้าสวรรค์หอบหายใจ จ้องไปยังนายเหนือหัวทั้งสามเขม็ง สายตาเย็นเยือก
เผชิญหน้ากับการร่วมมือของนายเหนือหัวทั้งสาม หากมีแต่เนตรเทพวิถีฟ้าไม่มีกายเทพมาร ไม่แน่ว่าเขาอาจจะแพ้ไปตั้งนานแล้วก็ได้
“จะแค้นก็แค้นตัวเองเถอะ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเพราะผลที่มาจากความชั่วร้ายของเจ้า”
สีหน้าของเนตรเทพทัณฑ์สวรรค์เย็นชา
เจ้าสวรรค์ปรายตามองไปยังอาณาจักรเทพของพวกฝืนชะตาฟ้า
ครืน บึ้ม ตูม!
แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตโจมตีค่ายกลป้องกันของพวกฝืนชะตาฟ้าไม่หยุด
แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตในตอนนี้แข็งแกร่งไร้เทียมทานจากการเข้าร่วมของผู้แข็งแกร่งที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สมาชิกฝั่งพวกฝืนชะตาฟ้ายากจะหลบหนีเข้าไปในอาณาจักรเทพได้อย่างราบรื่น
หากยืดเยื้อต่อไป สุดท้ายผู้ที่แพ้จะเป็นพวกฝืนชะตาฟ้าแน่นอน
“ค่อยสู้ครั้งต่อไป…”
เจ้าสวรรค์กวาดตามองนายเหนือหัวทั้งสาม หมุนตัวถอยไปยังอาณาจักรเทพพวกฝืนชะตาฟ้า
“คิดหนีรึ?”
นายเหนือหัวเนตรมิติแค่นเสียงต่ำ รุดหน้าไปขัดขวาง
“หมัดเทพบรรพกาล!”
เจ้าสวรรค์ไม่พูดให้มากความ กระตุ้นกายเทพมารบรรพกาลซัดหมัดที่ทรงอำนาจสะเทือนฟ้าดินออกมาหมัดหนึ่ง ทำเอานายเหนือหัวเนตรมิติต้องล่าถอยไป
ส่วนการเปลี่ยนแปลงของศึกนายเหนือหัวก็ดึงความสนใจจากสมาชิกที่เหลือของทั้งสองฝั่ง
ราชาเทพหวาเฟิงที่กำลังโจมตีอาณาจักรเทพพวกฝืนชะตาฟ้าเห็นเจ้าสวรรค์บินโฉบมาอย่างรวดเร็ว ขาทั้งสองก็สั่นเทาในทันใด
“ถอยเร็ว!” ราชาเทพหวาเฟิงตะโกนอย่างร้อนใจ
เจ้าสวรรค์สามารถมีชีวิตรอดจากการล้อมโจมตีโดยนายเหนือหัวเนตรทั้งสาม ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งของเขา นอกจากนายเหนือหัว เจ้าสวรรค์แทบจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลย
และในตอนนี้ เจ้าสวรรค์ยังพุ่งเป้ามายังสมาชิกแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต โจมตีออกมาหมัดหนึ่ง
“ถอยเร็ว!”
สมาชิกฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตหวาดกลัวสุดขีด หนีไปสุดชีวิต แต่ว่าการโจมตีของเจ้าสวรรค์ก็ช่างเร็วยิ่งนัก แทบจะซัดลงมาในชั่วพริบตา
“หมุนเปลี่ยนมิติ!”
สุดท้าย นายเหนือหัวเนตรมิติลงมือสำแดงหลุมดำมิติออกมาหลุมหนึ่ง ย้ายการโจมตีของเจ้าสวรรค์ไป
ส่วนเจ้าสวรรค์ก็ฉวยโอกาสนี้เปิดเส้นทางอาณาจักรเทพ
สมาชิกเผ่าความลับสวรรค์ทั้งหมดกรูเข้าไปข้างในในชั่วพริบตา
“ฝันไปเถอะ!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์สีหน้าเฉียบขาด บดขยี้เข้าไปพร้อมด้วยแสงอัสนีมหาศาล
ครืน บึ้ม!
หมัดทั้งสองของเจ้าสวรรค์ชกออกมา ต้านทานไว้ข้างหน้า ปกป้องสมาชิกฝั่งพวกฝืนชะตาฟ้าเอาไว้
สุดท้าย สมาชิกที่เหลือก็เข้าไปในอาณาจักรเทพได้ทั้งหมด
“รอข้าทำลายอาณาจักรเทพของมันก่อนเถอะ!”
นายเหนือหัวเนตรมิติแค่นเสียงเย็น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว~
สามนายเหนือหัวเนตรมาถึงพร้อมกัน สำแดงการโจมตีสุดยอด
หากปล่อยให้เจ้าสวรรค์หนีไปเช่นนี้ พวกเขานายเหนือหัวเนตรทั้งสามจะมีหน้าอะไร อีกทั้งภัยคุกคามร้ายแรงเพียงนี้จะปล่อยไปได้อย่างไร
“ย้อนกลับ!”
เจ้าสวรรค์หมุนย้อนฟ้าดิน นำอาณาจักรเทพขนาดใหญ่หนีจากไป
บนโลกนี้ก็มีสิ่งที่ต้านทานนายเหนือหัวเนตรทั้งสามไม่มากเท่าใด โดยเฉพาะนายเหนือหัวเนตรมิติที่สามารถสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับอาณาจักรเทพได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาจึงต้องปกป้องอยู่ข้างนอกอาณาจักรเทพ และเจ้าสวรรค์คนเดียวถูกสามนายเหนือหัวล้อมโจมตีอย่างไรก็ต้านทานไม่อยู่
“เปิดค่ายกลป้องกันอาณาจักรเทพฝืนชะตา!”
เจ้าสวรรค์ส่งข่าวไปในอาณาจักรเทพ
วังใต้พิภพ ใจกลางเกาะในอาณาจักรเทพ
มีผู้อาวุโสชราคนหนึ่งมือถือไม้เท้าขาว เคราขาวยาวระพื้น “ขับเคลื่อนค่ายกลป้องกันอาณาจักรเทพ!”
“ขอรับผู้คุมกฎโย่ว!”
รอบวังล้วนเป็นอุปกรณ์กลไกมหึมาและสมาชิกที่ควบคุมทั้งหลาย
“เปิดค่ายกลป้องกันอาณาจักรเทพ!”
คำสั่งที่ราวกับเครื่องจักรกลดังมาไม่ขาดสาย
ในขณะเดียวกัน เกาะเยื้องไปด้านซ้าย ในที่เพาะปลูกทรัพยากรล้ำค่า
“ได้มาแล้ว!” ใบหน้าของจ้าวเฟิงฉายรอยยิ้ม มือถือผลึกหยกรูปร่างกลมเอาไว้ชิ้นหนึ่ง มันคือหยกศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทมิฬนั่นเอง
หลังจากได้มาแล้ว จ้าวเฟิงก็ไม่อาลัยอาวรณ์ของล้ำค่าที่นี่อีก วางแผนจากไปทันที
เพิ่งมาถึงเส้นทาง ตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็เห็นกลุ่มคนมหาศาลกลับมาในอาณาจักรเทพของพวกฝืนชะตาฟ้า
“คนเยอะแยะนัก!” จ้าวเฟิงหน้าเปลี่ยนสี
คนของพวกฝืนชะตาฟ้ากลับมายังอาณาจักรเทพ หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผยก็แทบจะต้องเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีจากพวกฝืนชะตาฟ้าทั้งหมด
แต่สำรวจให้ละเอียดเขาก็พบว่าไม่ใช่เช่นนั้น
สมาชิกที่กลับมาในอาณาจักรเทพกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ปลายฟ้าไกล เหมือนกำลังวางค่ายกลอะไรอยู่
‘ท่าทางสงครามจะยังไม่จบ!’ จ้าวเฟิงแอบพูดในใจ
ต่อมาเขาก็สำแดงตราผนึกประสานฟ้า ผนึกกลิ่นอายของตนรวมถึงกลิ่นอายเนตรเทพเจ้าไว้ หลังจากเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตนแล้วถึงจะออกมา
จ้าวเฟิงไม่ได้ลืมเป้าหมาย ที่เขาแฝงตัวเข้ามาในอาณาจักรเทพพวกฝืนชะตาฟ้าก็เพื่อทำลายโครงสร้างสำคัญหรือกระทั่งศูนย์กลางอาณาจักรเทพ ทำให้ความสามารถในการป้องกันของอาณาจักรเทพพวกฝืนชะตาฟ้าลดลง เช่นนี้แล้วแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตก็จะโจมตีเข้ามาได้อย่างราบรื่น
เมื่อออกจากเกาะแห่งนี้ จ้าวเฟิงก็เข้ามาใกล้เกาะความลับสวรรค์ที่อยู่ตรงกลาง
เขาพบว่าคนของพวกฝืนชะตาฟ้าไม่มีความคิดที่จะป้องกันผู้บุกรุกเลย หรือบางทีสำหรับพวกเขา อาจไม่มีทางมีคนบุกรุกเข้ามาโดยที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ตลอดทางมีอุปสรรคบ้าง แต่ไม่เป็นอันตรายอะไร
“ศูนย์กลางอาณาจักรเทพอาจจะอยู่ที่นั่น!”
สายตาของจ้าวเฟิงมองไปยังพื้นที่ต้องห้ามไกลโพ้น ครั้งที่แล้วตอนที่ถูกจับมาเขาก็มั่นใจในเรื่องนี้แล้ว