บทที่ 1547 รบราชาเทพ
นอกอาณาจักรเทพกลุ่มฝืนชะตาฟ้า
เนตรเทพเจ้าทั้งสามประจันหน้ากับเจ้าสวรรค์อยู่ไกลๆ
“สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว รับความตายไปซะ!”
เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์สีหน้าเรียบนิ่ง คำพูดน้ำเสียงเย็นชา
“ฮ่าๆ ต่อให้พวกฝืนชะตาฟ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป พวกเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้!”
เจ้าสวรรค์ยิ้มเหี้ยมเกรียม ขอแค่เขาไม่ตาย ทุกอย่างก็ยังไม่จบ
ขวับ!
เจ้าสวรรค์สะบัดมือ ดาบยาวสีทองเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเขา ลวดลายโบราณแปลกประหลาดกระจายอยู่บนนั้น แผ่กลิ่นอายพลังน่าหวาดกลัว ราวกับผู้แข็งแกร่งสุดยอด ทำเอาฟ้าดินสั่นสะเทือน
เมื่อกระตุ้นเบาๆ แสงที่ส่องกะพริบบนนั้นก็ทะลุผืนฟ้าไป ทุกสิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นล้วนถูกพุ่งทะลวง สลายเป็นเถ้าธุลีทันที
“กฎเกณฑ์แห่งทองขั้นบริบูรณ์!”
สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรชีวิตอึ้งตะลึง
ผู้ที่มีกฎเกณฑ์ขั้นบริบูรณ์ ปกติแล้วล้วนเป็นราชาเทพ แต่อาวุธชิ้นนี้กลับมีกฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้
รวมกับกลิ่นอายบรรพกาลที่แผ่ออกมา จิตต่อสู้ที่ชวนให้คนหวาดหวั่น ก็พิสูจน์ถึงความไม่ธรรมดาของมันแล้ว
นี่คืออาวุธบรรพชน!
“อาวุธบรรพชน ‘อาญาสวรรค์’!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์มองอาวุธบรรพชนชิ้นนี้ออก
อาวุธบรรพชนอาญาสวรรค์ คืออาวุธคุ้มครองเผ่าของเผ่าเทพสงครามในยุคบรรพกาล
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะยังมีไพ่ตายระดับนี้!” นายเหนือหัวเนตรมิติแอบตกใจ
ในยุคบรรพกาลเกิดสงครามใหญ่ของเทพและมารอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้แข็งแกร่งไม่รู้มากน้อยเท่าไหร่แตกดับอยู่ในนั้น รวมถึงอาวุธบรรพชนของจริงก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ส่วนที่รักษาไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ก็น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
เจ้าสวรรค์มีอาวุธบรรพชนที่แข็งแกร่งเช่นนี้แต่กลับไม่เอาออกมาใช้ตั้งแต่แรก เห็นได้ว่าเป็นคนที่รู้จักอดกลั้นเพียงใด
เพราะหากนำอาวุธบรรพชนออกมา จะต้องดึงความสนใจจากราชาเทพคนอื่นๆ และนายเหนือหัวแน่นอน ต่อให้ไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้น พวกเขาก็จะจับจ้องอาวุธบรรพชนตาเป็นมันและลงมือแย่งชิง
แต่ตอนนี้ ถึงช่วงเวลาสำคัญ เจ้าสวรรค์ไม่สนใจอะไรมากแล้ว จึงหยิบอาวุธบรรพชน ‘อาญาสวรรค์’ ออกมา
ในอาณาจักรเทพพวกฝืนชะตาฟ้า
กฎเกณฑ์แห่งทองทะลุผ่านเข้ามา กายเทพและวิญญาณของสมาชิกทั้งสองฝั่งที่ต่อสู้กันอยู่ในอาณาจักรเทพรู้สึกเจ็บปวด
ยามนี้ยังอยู่ในอาณาจักรเทพ หากตัวอยู่ข้างนอกไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
“เจ้าสวรรค์ใช้ไพ่ตายใบนั้นแล้วรึ?”
สีหน้าของผู้คุมกฎโย่วยิ่งอึมครึม
“ท่าทางพวกฝืนชะตาฟ้าจะจนตรอกเสียแล้ว!” จ้าวเฟิงยิ้มบางๆ
“พวกเจ้าไปฆ่ามันซะ!” ผู้คุมกฎโย่วบัญชาแล้วจากไป
ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาจัดการจ้าวเฟิง เขาจะต้องเคลื่อนย้ายอาณาจักรเทพไปจากสนามต่อสู้ของนายเหนือหัว นอกจากนั้นสถานการณ์ของฝั่งฝืนชะตาฟ้าอยู่ในอันตราย จะต้องคิดวางแผนอื่น ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงควบคุมอาณาจักรเทพพลางควบคุมกายวัฏสงสารให้สังหารจ้าวเฟิงเต็มกำลัง
“แค่ขั้นสองสุดยอด ถึงกับให้ข้าต้องลงมือ!”
ผู้อาวุโสผมฟ้าที่แผ่กระจายไอเย็นยะเยือกเป็นระลอกสนใจในตัวจ้าวเฟิง
ผู้อาวุโสผมฟ้าคนนี้คือกายวัฏสงสารขั้นราชาเทพคนนั้น ข้างกายเขายังมีกายวัฏสงสารจอมเทพขั้นสามสองคน และขั้นหนึ่งขั้นสองอีกมากมาย
“ออกมาเถอะ!” จ้าวเฟิงเปิดเส้นทางอาณาจักรเทพ นำบริวารและร่างแยกทั้งหลายของตนออกมา
ต้องเผชิญหน้ากับกำลังคนมากมายเพียงนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางประมาท อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นช่วงสงคราม เป็นโอกาสอันดีงามที่จะสังหารพวกฝืนชะตาฟ้า
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ~
ร่างเงาแต่ละร่างโผล่ออกมาจากเส้นทางในอาณาจักรเทพ จำนวนมากกว่ากายวัฏสงสารของผู้คุมกฎโย่วมากนัก แต่แน่นอน บริวารของจ้าวเฟิงสู้กายวัฏสงสารไม่ได้ในด้านพลังฝึกตน
“เอ๋? ไอ้หนู เจ้ายังมีผู้ช่วยมากถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
น้ำเสียงของชุดคลุมผลึกหยกเนิบช้าลงไปหลายส่วน
หากเป็นสถานการณ์ก่อนหน้า ยามเผชิญกับผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ จ้าวเฟิงต้องตายอย่างแน่นอน ส่วนมันก็จะถูกพวกฝืนชะตาฟ้าควบคุมอีกครั้ง
ตอนนี้จ้าวเฟิงเรียกบริวารออกมามากมายเพียงนี้ จึงยังพอมีโอกาสหนี
“ผู้เยาว์ ตายซะเถอะ!”
ผู้อาวุโสผมฟ้าคำราม พายุหิมะน้ำแข็งน่าสะพรึงที่ปะทุในกายทำให้ฟ้าดินรอบด้านตกอยู่ในดินแดนเหมันต์ทันที
“เจ้าหนุ่ม หนีเร็ว!” ชุดคลุมผลึกหยกร้องลั่น
มันเป็นเพียงอาวุธบรรพชน เมื่ออยู่ในสภาพที่ไม่มีคนควบคุมจะไม่มีทางต้านทานผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเทพได้เลย
ส่วนจ้าวเฟิงเป็นเพียงขั้นสองสุดยอด ยังไม่ได้รับการยอมรับจากมันและทำให้มันศิโรราบ จึงสำแดงพลังของอาวุธบรรพชนเทียมออกมาได้ไม่เท่าไหร่
“หนีอะไรกัน? สู้!”
จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ ปลดปล่อยพลังบริสุทธิ์มหาศาลออกมา พุ่งทะยานไปข้างหน้า
“อะไร?” เห็นได้ชัดว่าชุดคลุมผลึกหยกตกใจเป็นอย่างมาก
แต่เดิมมันคิดว่าจ้าวเฟิงจะให้พวกบริวารคุมเชิง ถ่วงเวลาให้พวกเขาหลบหนีไป สุดท้ายจ้าวเฟิงกลับเตรียมตัวสู้รบซึ่งหน้า
“เขตแดนพลังบริสุทธิ์!”
จ้าวเฟิงปล่อยพลังบริสุทธิ์มหาศาล ก่อตัวเป็นเขตแดนพลังบริสุทธิ์ที่ปั่นป่วนมืดหม่นออกมา
เนื่องจากคู่ต่อสู้เป็นราชาเทพ ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงย่อส่วนพื้นที่ของเขตแดนพลังบริสุทธิ์ลง เอามาเพิ่มพลังให้กับตัวเองเท่านั้น มิฉะนั้นด้วยความสามารถของราชาเทพแล้ว คงสามารถทำลายเขตแดนพลังบริสุทธิ์ได้อย่างง่ายดาย
“ตายซะ!” ผู้อาวุโสผมฟ้าสะบัดมือไป หิมะเหมันต์สังหารขนาดยักษ์สายหนึ่งโจมตีมา
เสี้ยวขณะนี้ จ้าวเฟิงรู้สึกเหมือนมีภูเขาหิมะเหมันต์ทุ่มลงมา ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น
กฎเกณฑ์เหมันต์แข็งแกร่งสะท้านฟ้าดิน ต่อให้จ้าวเฟิงมีพลังบริสุทธิ์ก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
“สังหาร!” จ้าวเฟิงกุมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทพลังบริสุทธิ์ หลอมกระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์มหึมาออกมาเล่มหนึ่งแล้วฟาดฟันออกไป
ครั้งที่แล้วเขาไร้กำลังต้านทานราชาเทพจื้อเหยียนแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์โลกันตร์ แต่หลังผ่านการฝึกฝนชี้แนะจากนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ พลังของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
ครั้นมาเผชิญหน้ากับราชาเทพอีกครั้ง ความกดดันของจ้าวเฟิงมีไม่มากนัก
ครืน ตูม!
กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์และหิมะเหมันต์สังหารปะทะกันอย่างรุนแรง พลังปั่นป่วนบ้าคลั่งทะลักออกมาจากทั้งสองข้าง มือทั้งสองของจ้าวเฟิงสั่นระริก รู้สึกถึงความเย็นเยียบที่โจมตีมา ช่างหนาวเย็นเสียดกระดูก
“ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย!” ผู้อาวุโสผมฟ้าหัวเราะชั่วร้าย แต่ไม่สนใจ
การโจมตีเมื่อครู่ของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งมาก สามารถต้านทานเขาไว้ได้ แต่ว่าขอบเขตพลังของทั้งสองต่างกันมากเกินไป กฎเกณฑ์เหมันต์ขั้นบริบูรณ์ของเขาได้เปรียบยิ่งนัก
“กฎเกณฑ์ต่างกันมากเกินไปอย่างนั้นรึ?” จ้าวเฟิงสังเกตตรงจุดนี้ได้เช่นกัน
ต่อให้ตนมีกฎเกณฑ์มิติ นอกจากนั้นแล้วยังรวมกฎเกณฑ์อัสนี ตอนเผชิญหน้ากับกฎเกณฑ์เหมันต์ขั้นบริบูรณ์ก็ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ในตอนนี้เอง
“เจ้าหนุ่ม ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง!”
ชุดคลุมผลึกหยกตัวนั้นแปลงเป็นแสงสีเงินเข้มลอยไปยังข้างกายจ้าวเฟิง แล้วโอบล้อมเขาเอาไว้ ก่อนหน้านี้มันเตรียมหนีไปเพียงลำพัง แต่พลังของจ้าวเฟิงทำให้มันต้องมองใหม่ รวมกับตัวมันเองก็เคียดแค้นชิงชังพวกฝืนชะตาฟ้าเป็นอย่างมากอยู่แล้ว หากสามารถโจมตีพวกฝืนชะตาฟ้าให้สาสมในตอนนี้ได้ มันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เลยตัดสินใจช่วยจ้าวเฟิงอีกแรง
ทันใดนั้น กฎเกณฑ์มิติขั้นบริบูรณ์กลุ่มหนึ่งก็ตลบลอยมา ถึงแม้จะไม่มั่นคงนัก แต่ก็เป็นกฎเกณฑ์ขั้นบริบูรณ์
เนื่องจากจ้าวเฟิงยังไม่ได้สยบอาวุธบรรพชนเทียมชิ้นนี้ ตอนนี้จึงทำได้เพียงหยิบยืมพลังกฎเกณฑ์บางส่วนของเสื้อหยกผลึกมาเท่านั้น
สำหรับจ้าวเฟิง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“เยี่ยม!” สีหน้าของจ้าวเฟิงลิงโลด จ้องไปยังราชาเทพกายวัฏสงสารคนนั้นอีกครั้ง
“อาวุธบรรพชนเทียม!”
สายตาของผู้อาวุโสผมฟ้าฉายประกายเย็นเยือก
ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ยังไม่มีอาวุธบรรพชนเทียม แต่ตอนนี้จอมเทพขั้นสองสุดยอดคนหนึ่งกลับได้รับความสำคัญจากอาวุธบรรพชนเทียม
ผู้คุมกฎโย่วรู้สถานการณ์ต่อสู้อย่างกระจ่างผ่านครรลองสายตาของกายวัฏสงสาร
เขาเรียกจอมเทพขั้นสามคนหนึ่งออกมา ส่งไปยังสนามต่อสู้ของผู้อาวุโสผมฟ้า ให้ช่วยกันจัดการจ้าวเฟิง
“บุก!” จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ มังกรทมิฬล้างโลกา ร่างแยกทั้งหลาย แมวขโมยน้อย และหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณที่แข็งแกร่งในอาณาจักรเทพมายาพากันออกมาทั้งหมด
“ทัณฑ์เหมันต์สังหารเทพ!”
ผู้อาวุโสผมฟ้าปล่อยจิตเหมันต์เย็นเยียบเสียดกระดูก เข้าประชิดมายังจ้าวเฟิงทันที
ฝ่ามือของเขาเพียงสะบัดไป พลังเหมันต์ยะเยือกก็หลอมรวมก่อเป็นคมแสงผลึกเหมันต์แล้วฟาดฟันลงมา
วู้ม! จ้าวเฟิงยืมกฎเกณฑ์มิติขั้นบริบูรณ์จากชุดคลุมผลึกหยก กวัดแกว่งกระบี่อัสนีบริสุทธิ์ เห็นเพียงคมแสงกระบี่อัสนีขนาดมหึมาโจมตีไปในชั่วพริบตา ฟันลงไปยังคมแสงผลึกเหมันต์
ครืน บึ้ม!
พลังสองกลุ่มทำลายกันไปติดๆ แต่กฎเกณฑ์เหมันต์ถูกกฎเกณฑ์ของจ้าวเฟิงต้านทานเอาไว้ได้อย่างราบรื่น
ภายใต้การปะทะกันครั้งนี้ จ้าวเฟิงกับผู้อาวุโสผมฟ้าไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
ในตอนนี้เอง กายวัฏสงสารจอมเทพขั้นสามข้างหลังลอบโจมตีจ้าวเฟิง
ครืน ตูม ตูม!
เห็นเพียงขวานอัสนีน่าสะพรึงพุ่งออกไปในชั่วพริบตา
“ฮี่ๆ วางใจเถอะ ข้าเป็นถึงอาวุธบรรพชนเทียมประเภทป้องกันเชียวนะ!”
ชุดคลุมผลึกหยกที่ปกคลุมจ้าวเฟิงไว้หัวเราะเสียงต่ำ
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะสำแดงพลังของมันออกมาไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ความสามารถในการป้องกันของมันก็โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง
จ้าวเฟิงพยักหน้า กระตุ้นเขตแดนพลังบริสุทธิ์เข้าขัดขวางและควบคุมพลังอัสนีกลุ่มนี้
สุดท้ายการโจมตีอัสนีที่เหลือก็ถูกชุดคลุมผลึกหยกต้านทานเอาไว้อย่างง่ายดาย จ้าวเฟิงจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
“เนตรอัสนีบริสุทธิ์!”
ในขณะเดียวกับที่ต้านทานการโจมตีนี้ จ้าวเฟิงก็สำแดงการโจมตี ตาซ้ายโคจรขึ้น หลอมตรากระบี่อัสนีเทวะออกมา
ครืน ฉัวะ!
พลังอัสนีเทวะบริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งพลันระเบิดไปที่ร่างของผู้อาวุโสผมฟ้า ทิ้งรูใหญ่เอาไว้รูหนึ่ง ถึงแม้ผู้อาวุโสผมฟ้าจะเป็นกายวัฏสงสาร ร่างแหลกสลาย แต่วิญญาณกลับถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส
“รนหาที่ตาย!”
ผู้อาวุโสผมฟ้าโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก สะบัดฝ่ามือไปติดๆ กัน ภูเขาหิมะเหมันต์แต่ละลูกก่อตัวขึ้น บดขยี้ไปยังจ้าวเฟิง
ครืน บึ้ม ตูม!
กระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์กวัดแกว่ง ฟาดฟันภูเขาหิมะเหมันต์หลายลูกจนแหลกลาญ
พายุหิมะเหมันต์มหาศาลพร้อมด้วยก้อนน้ำแข็งมหึมาระเบิดออก
“หลุมอัสนีบริสุทธิ์!”
จ้าวเฟิงใช้พลังเขตแดนพลังบริสุทธิ์ ก่อร่างเป็นหลุมอัสนีบริสุทธิ์
ครืน ตูม บึ้ม!
พายุหิมะเหมันต์บ้าคลั่งพัดโจมตีไปยังหลุมอัสนี ไม่ถึงเสี้ยวขณะก็ทำให้มันเสียหายได้ แต่ว่าในหลุมอัสนีบริสุทธิ์กลับเป็นชั้นป้องกันของอาวุธบรรพชนเทียม
“เจ้าหนู ไม่เลว ข้ายอมรับในพลังของเจ้า!”
ชุดคลุมผลึกหยกหัวเราะดังลั่น
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงพุ่งออกไปในชั่วพริบตา ถือกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์ เข้าปะทะผู้อาวุโสอย่างรุนแรง
มีกฎเกณฑ์มิติขั้นบริบูรณ์จากอาวุธบรรพชนเทียม ทำให้ความเร็วของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นทบเท่า สามารถหลบการโจมตีที่มีพลังแข็งแกร่งบางอย่างได้ รวมกับมีอาวุธบรรพชนเทียมและเคล็ดวิชาลับป้องกัน ในด้านป้องกันจึงไม่มีปัญหานัก
สำหรับกายวัฏสงสารขั้นสามตนนั้น จ้าวเฟิงเมินเฉยไป
กายสังสารวัฏจัดการยากกว่าคนจริงๆ เพราะไม่ตายไม่สลาย แต่สูญเสียสายเลือดที่แต่เดิมมีมา พลังทั้งหมดเทียบกับเมื่อมีชีวิตอยู่แล้วด้อยกว่าเล็กน้อย
“อ๊าก…” ผู้อาวุโสผมฟ้าร้องเจ็บปวดไม่หยุด
ตนทำอะไรเจ้าเด็กที่เป็นขั้นสองไม่ได้ อาวุธบรรพชนเทียมเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าพลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง
โครม ตูม!
จ้าวเฟิงประมือกับผู้อาวุโสผมฟ้าหลายร้อยกระบวนท่า ต่างไม่เป็นสองรองกัน
แต่นับดูให้ละเอียดแล้ว ผู้อาวุโสผมฟ้าบาดเจ็บค่อนข้างมาก เพราะเนตรอัสนีบริสุทธิ์ของจ้าวเฟิงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลบหลีกได้เลย เพียงแต่เขาเป็นกายวัฏสงสาร ร่างไม่สลายไม่แตกดับ
จ้าวเฟิงก็ไม่เคยคิดจะสังหารราชาเทพ หากไม่มีอาวุธบรรพชนเทียมช่วยเหลือแล้วละก็ เขาต้องเอาไพ่ตายออกมาทั้งหมดจึงจะสามารถต้านทานกับราชาเทพได้
ถึงแม้จะทำอะไรผู้อาวุโสผมฟ้าไม่ได้ แต่เขาที่เป็นขั้นสองสุดยอดสามารถทำร้ายราชาเทพ ก็นับเป็นการดูหมิ่นอย่างร้ายแรงสำหรับตัวราชาเทพเองแล้ว