บทที่ 1555 ผู้แข็งแกร่งรวมตัว
ในท้องฟ้า เจ้าสวรรค์กางสองแขนออก รับพลังนายเหนือเนตรหัวดับสูญที่ลงมาเยือนจากเบื้องบน
กลิ่นอายที่แผ่กระจายออกมาจากดวงตาที่หว่างคิ้วของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สั่นสะเทือนไปทั่วดินแดนเทพรกร้าง ทำให้สรรพสิ่งต่างศิโรราบ ระเบียบของทั้งโลกสั่นสะเทือน ราวกับเจ้าสวรรค์ในตอนนี้อยู่เหนือทุกสิ่ง
ทุกคนที่นั่นจิตใจสั่นสะท้านอย่างน่าประหลาด รวมถึงนายเหนือหัวเนตรมรณะ มิติและอาทิตย์ ทุกคนพลันรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปสิ่งเล็กจ้อยด้อยค่า
นายเหนือหัวเนตรมิติที่เพิ่งจะเตรียมตัวลงมือหยุดฝีเท้าลงอย่างอดไม่ได้
เนตรเทพวิถีฟ้าข่มแปดเนตรเทพเจ้าใดๆ ก็ตามได้เป็นอย่างมาก และเจ้าสวรรค์ในตอนนี้ก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แกร่งจนทำให้นายเหนือเนตรหัวมิติไม่กล้าที่จะลงมือ!
เมื่อรับพลังนายเหนือหัวเนตรดับสูญเสร็จสิ้นลงแล้ว กลิ่นอายที่สั่นสะเทือนฟ้าดินก็หดกลับเข้าไปในร่างเจ้าสวรรค์
“แปดเนตรเทพเจ้า พวกเจ้าเหลือเวลาที่จะมีชีวิตอยู่อีกแค่ช่วงสุดท้ายเท่านั้นแล้ว!”
เจ้าสวรรค์หัวเราะเสียงต่ำแล้วจากไปไกลทันที
สมาชิกฝืนชะตาฟ้าที่อยู่ไกลลิบมีการคุ้มกันจากเรือรบ จึงบาดเจ็บสูญเสียไม่มากนัก
“ไป!” เจ้าสวรรค์พาสมาชิกพวกฝืนชะตาฟ้าไปจากที่นี่
ไม่นานนัก กลิ่นอายที่แข็งแกร่งสุดยอดก็แผ่มา ผู้มาเยือนก็คือนายเหนือหัวเนตรชีวิตและทัณฑ์สวรรค์
ดูจากเหตุการณ์ พวกเขาก็เดาสถานการณ์ได้คร่าวๆ แล้ว
“เจ้าสวรรค์อันตรายนัก!” เนตรเทพมิติก้มหน้าลงเล็กน้อย จำต้องยอมรับในจุดนี้
“จะต้องกำจัดมันทิ้งให้เร็วที่สุด!” สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ยิ่งเคร่งขรึมน่าเกรงขาม
“พวกเราไม่กี่คนเกรงว่าจะไม่ใช่คู่มือของเขา!”
นายเหนือหัวเนตรชีวิตพูดขึ้นทันที
นายเหนือหัวเนตรมรณะและดับสูญร่วมมือกัน เจ้าสวรรค์ยังสังหารไปได้คนหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะนายเหนือหัวเนตรมิติและอาทิตย์ตามมาได้ทันเวลา เกรงว่าเนตรเทพมรณะคงยากจะรอดพ้นจากเคราะห์ไปได้
อีกทั้งเจ้าสวรรค์ก็ได้พลังดั้งเดิมของเนตรเทพเจ้าดวงที่สองมาแล้ว พลังยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม ต่อให้นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งสี่ร่วมมือกันพุ่งสังหารไปก็เกรงว่าจะไร้ประโยชน์ หากตกหลุมพรางแผนร้ายของเจ้าสวรรค์อีกครั้ง แล้วสูญเสียเนตรเทพเจ้าไปอีกดวง เช่นนั้นพวกเขาคงจบสิ้นแน่แล้วจริงๆ ดังนั้นตอนนี้รีบฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ รวบรวมพละกำลังของดินแดนเทพรกร้าง และหารือแผนรับมือจะดีกว่า
ในตอนนี้เอง
วู้ม ฟู่ ฟู่!
อีกด้านหนึ่ง พลังดั้งเดิมมายามหาศาลในตาของจ้าวเฟิงทะลักออกมา ทำให้ฟ้าดินอาบย้อมด้วยสีสันมายาเป็นชั้นๆ ทั้งยังสั่นไหวไม่หยุด
“นี่มัน?”
สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรอาทิตย์ตะลึงเล็กน้อย จ้องไปยังจ้าวเฟิงที่อยู่ไกลๆ
“เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า!” นายเหนือหัวเนตรชีวิตก็มองไปเช่นกัน
“พลังเนตรเทพเจ้าของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์จ้องไปยังตาซ้ายของจ้าวเฟิง ตื่นตะลึงไปขณะหนึ่ง
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานจากตัวจ้าวเฟิง ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้
พลังเนตรเทพเจ้าเป็นพลังที่ไม่อาจขาดไปได้ในการต่อกรกับเจ้าสวรรค์!
“อาจเป็นเพราะการกระตุ้นจากเนตรเทพวิถีฟ้า!”
นายเหนือหัวเนตรมรณะพึมพำ
พวกเขาแปดเนตรเทพเจ้าล้วนมีปฏิกิริยาต่อเนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์ ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงไม่สามารถสำแดงพลังของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าออกมาได้อย่างสมบูรณ์ แต่หลังจากได้รับการกระตุ้นจากเนตรเทพวิถีฟ้าแล้วน่าจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้นายเหนือหัวเนตรมรณะไม่สนใจเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิงแล้ว
ขณะนี้รับมือกับเจ้าสวรรค์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด การเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างเนตรเทพเจ้าไม่มีอีกต่อไปแล้ว
เขากลับหวังว่าจ้าวเฟิงจะสามารถไปถึงระดับสูงเช่นเดียวกับพวกเขา และสามารถเป็นประโยชน์ในระดับหนึ่งในยามที่ต่อกรกับเจ้าสวรรค์
“ถอยเถอะ!” นายเหนือหัวเนตรมิติถอนใจ
“ทุกท่าน ไม่เช่นนั้นก็ไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตของข้าแล้วกัน!”
เนตรเทพชีวิตเป็นฝ่ายเอ่ยเชิญ ถึงแม้เจ้าสวรรค์จะถอยไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นแผนร้ายของเขาหรือไม่
ดังนั้นพวกเขาสี่เนตรเทพเจ้าอย่าได้แยกกันไปจะดีกว่า หลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าสวรรค์ฉวยโอกาสโจมตี อีกทั้งนายเหนือหัวเนตรชีวิตยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเนตรเทพเจ้าคนอื่น ช่วยพวกเขาฟื้นฟูจนถึงสภาพสมบูรณ์ให้เร็วที่สุด
“เนตรเทพชีวิต ไม่รังเกียจข้ากระมัง!”
นายเหนือหัวเนตรมรณะหัวเราะสัพยอก
“จะต้องกำจัดเจ้าสวรรค์ให้เร็วที่สุด เช่นนั้นมาหารือแผนการกันที่แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตแล้วกัน!”
นายเหนือหัวเนตรอาทิตย์เอ่ยเสนอแนะขึ้น
“ได้!” นายเหนือหัวเนตรชีวิตเห็นด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ นายเหนือหัวทั้งหลายจึงกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จ้าวเฟิงก็ตามพวกเขากลับไปด้วย
ไม่นานนัก ข่าวการสิ้นชีพของเนตรเทพสังสารวัฏและดับสูญก็แพร่ไปทั่วดินแดนเทพรกร้าง ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงยิ่งนัก
ในใจของทุกคน นายเหนือหัวคือผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในดินแดนเทพรกร้างมาตลอด ไม่ตายและไม่แตกดับ
ไม่เคยมีใครคิดมาก่อนว่าสองนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าในบรรดาเนตรเทพเจ้าทั้งแปดจะดับดิ้นลงติดๆ กัน
หลังจากที่นายเหนือหัวทั้งหลายกลับมายังแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาก็ออกคำสั่งรวมพล รวมตัวผู้แข็งแกร่งแต่ละทิศในดินแดนเทพรกร้าง แล้วจึงหารือแผนรับมือ
แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตเริ่มสร้างอาคารบ้านเรือนขึ้นใหม่อีกครั้งหลังสงคราม
ส่วนนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหลายอยู่ในสภาวะการปิดด่าน
การระเบิดของอาวุธบรรพชนและอาณาจักรเทพของพวกฝืนชะตาฟ้าก่อนหน้านี้ทำร้ายไปถึงพลังดั้งเดิม จึงฟื้นฟูได้ช้า ต้องใช้พลังของนายเหนือหัวเนตรชีวิต
ในห้องลับ พลังชีวิตบริสุทธิ์เข้มข้นลอยอวล ข้างในมีเงาคนสี่คนนั่งขัดสมาธิอยู่ คือนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งสี่นั่นเอง
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่แปดเนตรเทพเจ้าตกต่ำเหมือนกัน!”
นายเหนือหัวเนตรมรณะทอดถอนใจ
ถึงแม้เขาจะเป็นนายเหนือหัวเนตรมรณะ แต่ก็เกือบจะสิ้นชีพในมือของเจ้าสวรรค์แล้ว
“อย่าเพิ่งคิดมากเช่นนั้น หากพวกเราสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก่อนเจ้าสวรรค์ ถึงตอนนั้นก็โจมตีจนเขาแบบไม่ทันตั้งตัวได้!”
เสียงอ่อนโยนของนายเหนือหัวเนตรชีวิตดังมา
ในระหว่างขั้นตอนการรักษา นายเหนือหัวเนตรชีวิตพบว่าระหว่างเนตรเทพเจ้าทั้งสี่มีความเชื่อมโยงกันบางอย่าง ผลของการรักษาในเวลาเดียวกันดีเกินกว่าที่คิดไปมาก
เช่นนี้แล้วละก็ บางทีพวกเขาอาจจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ก่อนเจ้าสวรรค์
“ใช่!” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์รับคำเสียงต่ำ
ที่วังแห่งหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต
“พี่เฟิง หากเจ้าสวรรค์ผสานต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้าได้จริงๆ ท่านว่าโลกใบนี้จะหายไปราวความฝันเหมือนตามตำนานว่าไว้หรือไม่!”
จ้าวหยูเฟยนอนอิงแอบอยู่ในอ้อมอกของจ้าวเฟิง พูดด้วยสีหน้าสงบเยือกเย็น
“ไม่มีทาง!” จ้าวเฟิงลังเลไปชั่วขณะหนึ่ง ถึงค่อยพูดขึ้น
แต่แท้ที่จริงแล้วเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น จากที่จ้าวเฟิงรู้มา เป้าหมายของพวกฝืนชะตาฟ้าก็คือไปจากโลกใบนี้ และเจ้าสวรรค์ผสานต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้าก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้
เช่นนั้นตำนานที่ว่ามีอัตราจะเป็นเรื่องจริงสูงมาก
“ในที่สุดเจ้าสวรรค์ก็ตัวคนเดียว เหล่านายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าจะกำจัดเขา แล้วหยุดยั้งทุกอย่าง!”
จ้าวเฟิงลูบผมนุ่มสลวยของจ้าวหยูเฟย
“พี่เฟิง!” จ้าวหยูเฟยมองหน้าจ้าวเฟิง ค่อนข้างเป็นกังวล
นางเคยดีใจที่จ้าวเฟิงมีเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า เพราะเขาจะต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งแน่นอน แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงที่เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าก็เป็นเป้าหมายของเจ้าสวรรค์เช่นกัน ทั้งยังต้องเข้าร่วมการต่อสู้ต้านทานเจ้าสวรรค์ด้วย
จ้าวเฟิงกำหมัดแน่น เจ้าสวรรค์จะต้องถูกกำจัด มิเช่นนั้นก็คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับดินแดนเทพรกร้าง
เวลาค่อยๆ เคลื่อนไป พวกฝืนชะตาฟ้าและเจ้าสวรรค์ราวกับระเหยกลายเป็นไอ ไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย ทั่วทั้งดินแดนเทพรกร้างกลับสู่ความสุขสงบทีละน้อย
ครั้นได้รับคำเรียกจากสี่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตและนายเหนือหัวเนตรอาทิตย์ ผู้แข็งแกร่งมากมายทั่วทั้งดินแดนเทพรกร้างรวมตัวกันมาไม่ขาดสาย
หนึ่งในนั้น เนตรเทพหมื่นปรากฏการณ์ หนึ่งในแปดเนตรเทพเจ้าที่รักษาความเป็นกลางมาตลอดก็มาถึงในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตหลังจากนั้นหนึ่งปี
ห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สี่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้ารีบเร่งปิดด่านรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเลย เรื่องทุกอย่างมอบหมายให้เนตรเทพหมื่นปรากฏการณ์และเนตรอาทิตย์จัดการ
ช่วงเวลานี้จ้าวเฟิงก็ไม่ได้หยุดพัก ตระเวนไปทั่วสารทิศ
จ้าวเฟิงไม่รู้ว่าเจ้าสวรรค์ยังจับจ้องตนอยู่อีกหรือไม่ แม้แต่เนตรเทพเจ้ายังไม่อาจต้านทานเจ้าสวรรค์ได้ หากเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของตนก็อยู่ในขอบเขตการล่าสังหารของเจ้าสวรรค์ เช่นนั้นจ้าวเฟิงก็เสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว
ต่อให้เขามีเนตรเทพมายา แต่ก็ยังคงเล็กจ้อยด้อยค่าสำหรับเจ้าสวรรค์ ฝ่ายตรงข้ามสามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้จ้าวเฟิงจึงตระเวนไปทั่วสารทิศ รวบรวมสะสมเศษเสี้ยวอาวุธประเภทมิติ หากเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติทั้งหมดมาอยู่ในมือ ‘ทะยานฟ้า’ ก็จะสามารถดูดซับผสานจนกลายเป็นอาวุธบรรพชนสมบูรณ์ได้เอง
หากมีอาวุธบรรพชนป้องกันที่สมบูรณ์ ก็เท่ากับเขาเพิ่มไพ่ตายรักษาชีวิตที่แข็งแกร่งอีกใบหนึ่ง
ในการต่อสู้กับพวกฝืนชะตาฟ้า สินสงครามที่จ้าวเฟิงได้มามีมาก ในนั้นมีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนอยู่มากมาย
เขาใช้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนรวมกับผลประโยชน์อื่น แลกกับเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติของผู้แข็งแกร่งคนอื่นในดินแดนเทพรกร้าง
ในห้าปีนี้ จ้าวเฟิงแลกมาได้สองชิ้น ตัวเองขุดค้นมาได้อีกหนึ่งชิ้น
“กลับมาที่นี่อีกแล้ว!” วันนี้จ้าวเฟิงกลับมายังเขตผาเก่า
จากรายงานข่าวที่จ้าวเฟิงได้มา ‘ราชาเทพทุนซื่อ(กลืนกิน)’ แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาในเขตผาเก่า มีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติอยู่ชิ้นหนึ่ง
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาลอยอยู่กลางท้องฟ้าผืนหนึ่งของดินแดนเทพรกร้างเขตผาเก่า
ในยามที่จ้าวเฟิงมาถึงก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาแตกตื่นกัน
“ใครมาเยือนที่นี่?”
เสียงแก่ชราทรงพลังดังออกมาจากในเขตพลังของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภา
“จ้าวเฟิง!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงราบเรียบ
หลังจากนั้นชั่วขณะหนึ่ง เขตพลังก็เปิดออกเป็นประตูทางเข้า ผู้อาวุโสผมขาวก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ สองข้างแก้มของเขามีอักขระสีดำโบราณที่แปลกประหลาดสลักเอาไว้
“คิดไม่ถึงว่าเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าจ้าวเฟิงจะมาเยี่ยมเยือน ขออภัยหากต้อนรับไม่ทั่วถึง!”
ผู้อาวุโสคนนี้รีบต้อนรับจ้าวเฟิงเข้าไปข้างใน
เรื่องราวของจ้าวเฟิงเลื่องลือกันนานแล้ว แต่เดิมควรเป็นเรื่องใหญ่ที่โด่งดังไปทั่วดินแดนเทพรกร้าง เพียงแต่ถูกเรื่องที่เจ้าสวรรค์ก่อขึ้นกลบไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในดินแดนเทพรกร้างจึงไม่มีใครดูถูกจ้าวเฟิง อย่างน้อยคนที่เคยดูถูกเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าต่างก็ละทิ้งความคิดนี้ไป
จ้าวเฟิงมาถึงยังโถงหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาภายใต้การนำทางของผู้อาวุโสคนนี้
ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปในตำหนัก เสียงก้องกังวานก็ดังมา “เนตรเทพเจ้ามาเยี่ยมเยือนด้วยตนเองเช่นนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด?”
พอเข้ามาในโถงใหญ่ จ้าวเฟิงก็มองเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหยาบกระด้างคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างบน
“นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งสี่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตประกาศรวมพลผู้แข็งแกร่ง เพื่อร่วมกันหารือวางแผนต่อต้านเจ้าสวรรค์ ราชาเทพทุนซื่อไยจึงยังไม่ออกเดินทาง?”
จ้าวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปดเนตรเทพเจ้าก่อขึ้น ข้าเชื่อว่าบรรดานายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าสามารถรับมือได้!” ราชาเทพทุนซื่อหัวเราะ
สำหรับเขา เป้าหมายของเจ้าสวรรค์คือเนตรเทพเจ้าเท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขามากนัก นอกจากนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าสองคนที่แตกดับไป ก็ยังมีอีกหกเนตรเทพเจ้าไม่ใช่รึ? ไปรับมือกับเจ้าสวรรค์ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
คนที่มีความคิดเช่นนี้ไม่ใช่เพียงราชาเทพทุนซื่อคนเดียวเท่านั้น ในระหว่างการค้นหาเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน จ้าวเฟิงก็ได้พบราชาเทพเช่นนี้หลายคน
“เจ้ามาในครั้งนี้คงไม่ใช่เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ข้าเข้าร่วมกองกำลังต้านทานเจ้าสวรรค์กระมัง?” ราชาเทพทุนซื่อถามขึ้น
เห็นราชาเทพทุนซื่อตรงไปตรงมาเช่นนี้ จ้าวเฟิงก็ไม่พิธีรีตองอีกต่อไป ถามไปตรงๆ ว่า “ได้ยินมาว่าราชาเทพทุนซื่อมีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติชิ้นหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“เอ๋? เจ้าสนใจในเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติของข้า?”
ราชาเทพทุนซื่อหรี่ตามอง
อันที่จริงเขาก็ได้ยินมานานแล้วว่าจ้าวเฟิงกำลังตามหาเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน เหมือนอยากจะผสานอาวุธบรรพชนที่สมบูรณ์ เพราะเหตุนี้เอง ราชาเทพทุนซื่อจึงตั้งใจปล่อยข่าวนี้ออกไป
“ราชาเทพทุนซื่อมีเงื่อนไขอะไร?”
จ้าวเฟิงหัวเราะเย็นชา เขาเชื่อว่าราชาเทพทุนซื่อรู้เป้าหมายของเขา
“จ้าวเฟิง เจ้ารวบรวมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนก็เพื่อต่อต้านเจ้าสวรรค์กระมัง หากเจ้ายินดีแลกอาวุธบรรพชนเทียมประเภทมิติในมือของเจ้ากับข้า ข้าราชาเทพทุนซื่อจะเข้าร่วมกองกำลังต่อต้านเจ้าสวรรค์ด้วย!”
ราชาเทพทุนซื่อเผยสีหน้าร้อนใจ พูดอย่างองอาจทรงคุณธรรม
ดวงตาของจ้าวเฟิงฉายประกายวูบผ่าน ที่แท้ราชาเทพทุนซื่อหมายตาอาวุธบรรพชนเทียมของเขาไว้
“อีกทั้งเจ้ายังสำแดงพลังเนตรเทพเจ้าออกมาได้ไม่สมบูรณ์ ข้าเข้าร่วมสู้กับเจ้าสวรรค์แทนเจ้า จะมีประโยชน์มากยิ่งกว่า!”
ราชาเทพทุนซื่อพูดขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังแผ่กระจายกลิ่นอายแรงกดดันที่น่ากลัวออกมารางๆ
อันดับของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาอยู่ระดับกลางในบรรดาแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบแปดแห่งของดินแดนเทพรกร้าง ส่วนราชาเทพทุนซื่อยิ่งมีพลังราชาเทพชั้นยอด และหากว่าราชาเทพทุนซื่อมีอาวุธบรรพชนสมบูรณ์ก็จะสามารถสำแดงกำลังรบของนายเหนือหัวได้ ต่อให้เป็นอาวุธบรรพชนเทียมประเภทมิติ พลังแท้จริงของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาก ใกล้เคียงกับนายเหนือหัวอย่างไร้ขีดจำกัด