Skip to content

King of Gods 1561

King Of Gods

บทที่ 1561 กวาดเหนือเก็บใต้

กลางอากาศไร้พรมแดน การสู้รบระหว่างราชันและเจ้าสวรรค์ทำให้ผู้คนมองด้วยความหวาดเกรง

ทางฝั่งเนตรเทพเจ้า มีเนตรเทพเจ้าห้าคน บวกกับนายเหนือหัวอาทิตย์ นายเหนือหัวเทียนเจี้ยน รวมไปถึงซือคงเต้า รวมเป็นยอดฝีมือขั้นนายเหนือหัวทั้งหมดแปดคน

ในเนตรเทพเจ้าทั้งห้า เนตรเทพหมื่นปรากฏการณ์ เนตรเทพชีวิต และอัจฉริยะนายเหนือหัวซือคงเต้ามีหน้าที่คอยป้องกัน

ส่วนเนตรเทพมรณะ เนตรเทพมิติ เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์ นายเหนือหัวอาทิตย์ และนายเหนือหัวเทียนเจี้ยน รับผิดชอบบุกโจมตี

แต่สถานการณ์แบบนี้ พวกเขาก็ยังไม่ใช่ฝ่ายได้เปรียบ

“ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถขวางข้าได้!” สีหน้าเจ้าสวรรค์ราบเรียบ เอ่ยอย่างน่าเกรงขามและวางอำนาจบาตรใหญ่

โครม เปรี้ยง เปรี้ยง~

รอบตัวเจ้าสวรรค์เต็มไปด้วย ลมไฟสายฟ้าสอดประสานไปกับจิตแห่งการทำลายล้าง แผ่พวยพุ่งตามอำเภอใจ ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ หลังจากกลืนกินพลังดั้งเดิมทำลายล้างแล้ว พลานุภาพการโจมตีของเจ้าสวรรค์ก็เพิ่มขึ้นอีกขั้น นายเหนือหัวทั่วไปรับมือไม่ได้แม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ พันธมิตรเนตรเทพเจ้าถึงให้นายเหนือหัวสามคนรับผิดชอบด้านการป้องกันโดยเฉพาะ

“สังหาร!” นายเหนือหัวเนตรมรณะตะโกนลั่น

นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าสามคนที่รับผิดชอบโจมตีเปิดฉากโจมตีในเวลาเดียวกัน

ระลอกพลังปั่นป่วนสีดำสายหนึ่งที่ผสมผสานพลังอัสนีทัณฑ์สวรรค์ และถูกพลังมิติล้อมเอาไว้ชั้นหนึ่ง พุ่งตรงไปโจมตีจ้าวสวรรค์

ยามนี้ เนตรเทพเจ้าสามคนที่รับผิดชอบบุกโจมตีร่วมมือกันเป็นอย่างดี สามารถหลอมรวมการโจมตีของแต่ละคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พลานุภาพเพิ่มสูงขึ้น

อีกฟากหนึ่ง นายเหนือหัวเทียนเจี้ยนกำกระบี่ชำรุดเล่มหนึ่งเอาไว้ กวัดแกว่งเบาๆ แสงกระบี่ขาวสว่างที่กระเทือนฟ้าดินสายหนึ่งก็ฟันฉับลงมา

ส่วนนายเหนือหัวอาทิตย์กลายร่างเป็นนกยักษ์สีทองอมแดง อ้าปากพ่นวายุเพลิงที่ร้อนระอุกลุ่มหนึ่งออกมา

“ไสหัวไป!” เจ้าสวรรค์แค่นเสียงหยัน กายเทพมารบรรพกาลระเบิดพลังเทพที่น่ากลัวออกมา ทำให้อากาศรอบบริเวณพังทลายลง

เขาส่งสองหมัดไปไม่หยุด พลังหมัดที่ทรงพลังหลายสายกวาดออกไป ทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง

การประจันหน้าของทั้งสองฝ่ายประหนึ่งสายฟ้าแลบ ไม่ถึงชั่วขณะก็ประมือกันไปแล้วหลายสิบกระบวนท่า

‘การเทพมารบรรพกาลแข็งแกร่งเหลือเกิน แกร่งกว่าที่ผ่านมา!’

จ้าวเฟิงลอบตะลึงในใจ

ตามหลักเหตุผลแล้ว เจ้าสวรรค์พัฒนาขึ้นเพียงแค่เนตรเทพวิถีฟ้า แต่จ้าวเฟิงกลับรู้สึกว่ากายเทพมารบรรพกาลของเจ้าสวรรค์แข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา

หากตัดเนตรเทพวิถีฟ้าออกไป อาศัยเพียงแค่กายเทพมารบรรพกาล เจ้าสวรรค์ก็แข็งแกร่งกว่าผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้าคนใดๆ แล้ว

หากเป็นเช่นนี้ เจ้าสวรรค์จะต้องครอบครองสายเลือดเผ่าบรรพกาลโดยสมบูรณ์แล้วแน่นอน และยังสามารถใช้พลังทั้งหมดออกมาได้!

ตุบๆ! ตุบๆ!

เมื่อเพ่งมองการต่อสู้ของเนตรเทพเจ้าและเจ้าสวรรค์ครู่หนึ่ง ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเต้นกระตุกอย่างห้ามไม่ได้

ลูกทรงกลมสีเงินมายาสั่นไหว พลังมายาดั้งเดิมทะลักออกมา

“ตอนนี้ ก็ทำในสิ่งที่ข้าพอจะทำได้แล้วกัน!” จ้าวเฟิงหันหน้า กวาดสายตามองสนามรบของคนระดับต่ำกว่านายเหนือหัว

ถึงแม้เขาจะครอบครองเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า แต่พลังแท้จริงของจ้าวเฟิงในตอนนี้ยังไม่เพียงพอจะเข้าร่วมศึกของนายเหนือหัว กลับกันจะกลายเป็นช่องโหวให้ศัตรู และเจ้าสวรรค์จะอาศัยช่องเอาได้

อีกอย่างเมื่อถูกกระตุ้นจากเนตรเทพเจ้ารวมไปถึงเนตรเทพวิถีฟ้า เนตรเทพมายาของจ้าวเฟิงเหมือนจะตื่นตัวมาก พลังมายาดั้งเดิมจำนวนมหาศาลทะลักออกมา

เวลานี้จ้าวเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังมายาดั้งเดิมที่มีมาไม่ขาดสาย สามารถระบายออกได้ผ่านสงครามพอดี

“สังหาร!” ร่างจ้าวเฟิงกะพริบวาบ บินโฉบออกมา

เขาครอบครองอาวุธบรรพชนเทียมประเภทมิติ รวมกับกฎเกณฑ์มิติ ความเร็วของเขาจึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นที่สุดในสนามรบแล้ว

โครม—— ในขณะที่โบยบินไปข้างหน้า เมื่อแสงอัสนีมืดหม่นโฉบผ่านไป จะทิ้งคราบเลือดเอาไว้เป็นทาง วิ่งกวาดเหนือเก็บใต้

จ้าวเฟิงที่ลงมืออย่างสุดสังหารราชาเทพชั้นยอดได้ พวกนั้นแทบไม่มีภัยคุกคามใดๆ ในสนามรบ

สำหรับศัตรูแล้ว เขาเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย เป็นบุคคลต้องห้าม

“ถอยไปเร็ว…” เสียงร้องตกใจดังขึ้นติดต่อกัน ยอดฝีมือที่อยู่ใกล้เคียงต่างถอยร่น

แต่จ้าวเฟิงรวดเร็วจนเกินไป คนที่เขาต้องการจะสังหาร ไม่ว่าอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถหนีรอดไปได้

ในสนามรบ จ้าวเฟิงเข่นฆ่าสังหารไม่หยุดตามอำเภอใจ

“แย่ล่ะ!” สีหน้าทูตสวรรค์อู่ตกตะลึง ใจสั่นระรัว

เขาถูกจ้าวเฟิงหมายหัวเสียแล้ว!

เปรี๊ยะ! ทูตสวรรค์อู่ระเบิดพลังมารชั่วร้ายบ้าคลั่งกลุ่มหนึ่งออกมาจากในร่าง ระลอกแสงดำหมุนวนรอบร่าง ก่อนจะโบยบินหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ตายเสียเถอะ!” จ้าวเฟิงไล่ตามไปติดๆ รุกคืบเข้าไปเรื่อยๆ

“ไม่…” ทูตสวรรค์อู่โมโหโกรธา

ก่อนหน้านี้ เขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับการสู้รบของสองราชาเทพกับจ้าวเฟิง

หลังจากราชาเทพทั้งสองพ่ายแพ้ไป เขาก็พยายามอยู่ให้ไกลจากจ้าวเฟิงที่สุด แต่กลับถูกอีกฝ่ายเจอตัวจนได้

ขนาดราชาเทพกายวัฏสงสารทั้งสองยังตายด้วยเงื้อมมือจ้าวเฟิง หากเขาเผชิญหน้ากับจ้าวเฟิงจะไปมีแรงต่อต้านอะไรได้

หรือก็คือ ขนาดเขาจะหนีก็ยังไร้ซึ่งประโยชน์ใด

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!

จ้าวเฟิงโบกมือ กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์หลายสิบเล่มข้ึนรวมตัวขึ้นแล้วพุ่งออกไป ปิดทางหนีทั้งหมดของทูตสวรรค์อู่

กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์สองเล่มในนั้นพุ่งผ่านร่างทูตสวรรค์อู่ ทำให้ตัวของเขาค้างแข็งไป

“เนตรอัสนีบริสุทธิ์!” เมื่อโคจรดวงตาซ้าย วิชาดวงตาที่แก่กล้าก็ระเบิดออกมาในทันที

โครม ตูม!

เห็นส่วนศีรษะของทูตสวรรค์อู่ จู่ๆ ก็ปรากฏตราประทับกระบี่อัสนีที่บิดเบี้ยวขึ้น

เมื่อสายฟ้ากัมปนาท ร่างทูตสวรรค์อู่สูญสลายไป!

หลังจากสังหารทูตสวรรค์อู่ จ้าวเฟิงก็พุ่งตรงไปสังหารที่อื่นอีก เป้าหมายก็คือคนอื่นที่เหลือในบรรดาทูตสวรรค์

เป็นคนตายดีๆ ไม่ชอบ กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาให้ตนได้สังหารอีกครั้ง

ทว่าจ้าวเฟิงก็ไม่ได้เสียดายกระบี่ในมือ!

จิตสังหารที่หนาวเหน็บโหดเหี้ยมทำให้ฝ่ายตรงข้ามตกอยู่ความหวาดกลัวและแตกฮือกันไป ไม่นานนักก็มีทูตสวรรค์อีกคนหนึ่งดับดิ้น

คนที่สอง คนที่สาม จนถึงคนที่สี่…

ในเรือรบสีทองดำ พวกฝืนชะตาฟ้าย่อมเห็นภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน

“หากปล่อยให้เจ้าเด็กนี่สังหารคนต่อไป คนของพวกเราต้องจบเห่แน่!”

สายตาผู้อาวุโสเผ่าความลับสวรรค์ผู้หนึ่งฉายแววโกรธเกรี้ยว

“คิดไม่ถึงเลยว่าในเวลาสั้นๆ เขาจะเติบโตไปจนถึงขั้นนี้แล้ว!” อวี่หลิวผิงตกตะลึง ความเก่งกาจของจ้าวเฟิงทิ้งเงาดำมืดไว้ในใจเขาแล้ว

“คงทำได้แค่ส่งราชาเทพคนหนึ่งไปยื้อเจ้านี่เอาไว้ชั่วคราวก่อน!”

ผู้คุมกฎโย่วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน อับจนหนทางเล็กน้อย

ทางฝั่งพันธมิตรเนตรเทพเจ้าเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี และยังได้รับความช่วยเหลือจากพวกผู้ทรงภูมิ พลังอยู่เหนือจินตนาการของพวกฝืนชะตาฟ้ามาก ถึงจะเป็นเช่นนั้น กลุ่มฝืนชะตาฟ้าก็ยังเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ดี ทว่าการล่าสังหารอย่างโหดเหี้ยมของจ้าวเฟิงสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลต่อทั้งสนามรบ จนแทบจะพลิกสถานการณ์ศึกทั้งหมดไป

ตามการคาดคะเนของผู้คุมกฎโย่ว ทางฝั่งพวกเขาไม่มีใครสังหารจ้าวเฟิงได้เลย

และเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำได้เพียงแค่ตรึงกำลังจ้าวเฟิงเอาไว้ก่อน ไม่ปล่อยให้เขาไล่ล่าสังหารคนอื่นต่อ

โครม— จ้าวเฟิงโฉบไปมาในสนามรบ ศัตรูที่สังหารไปล้มตายเป็นแถบ ใจสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้เอง มีเสียงเกรี้ยวกราดกระหายเลือดดังมา “เจ้าเด็กนี่ อย่าได้ใจไป!”

ทันทีที่เอ่ยจบ แสงสีแดงฉานก็พุ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว กลายร่างเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีแดง

“ ‘ราชาเทพซย่าเสวี่ย (โลหิตมาร)’ แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์วิญญาณโลหิต”

แดนศักดิ์สิทธิ์วิญญาณโลหิตเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเจ้าสวรรค์โจมตีก่อนเป็นลำดับแรก ยามนี้ราชาเทพซย่าเสวี่ยกลายเป็นกายวัฏสงสารแล้ว

“อยากสู้ก็สู้!” จ้าวเฟิงระเบิดพลัง อัสนีเทวะบริสุทธิ์ หมุนวนรอบร่าง

ชั่วพริบตาที่เขาประชิดราชาเทพซย่าเสวี่ย รอบตัวจ้าวเฟิงก็กลายเป็นกระบี่อัสนีเทวะหลายสิบเล่มพุ่งออกไป

ฟิ้ว ฟิ้ว! ราชาเทพซย่าเสวี่ยโผบินขึ้น เขาปลดปล่อยระลอกโลหิตสีแดงฉาน หลบการโจมตีนี้ของจ้าวเฟิงให้บาดเจ็บน้อยที่สุด

“สังหาร!” จ้าวเฟิงจ้องเขม็ง ในมือรวมขึ้นเป็นกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์ที่หนักอึ้งเกินจะเปรียบเล่มหนึ่ง จากฟาดฟันออกมา

ราชาเทพซย่าเสวี่ยสะบัดมือ ส่งระลอกวารีสีโลหิตออกมาขวางไว้ด้านหน้า พลังเทพในระลอกน้ำวนโลหิตระเบิดออกอย่างรุนแรง พลานุภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

เปรี๊ยะ! เมื่อจ้าวเฟิงทำลายน้ำวนนั้นได้ ร่างราชาเทพซย่าเสวี่ยก็ถอยหลบการโจมตีนี้ไป

“คิดจะรั้งข้าไว้” จ้าวเฟิงเข้าใจในทันที

ถึงแม้ว่าราชาเทพซย่าเสวี่ยจะคุกคามเขา แต่ก็แค่รั้งเอาไว้ได้เท่านั้น จิตสังหารที่มากับตัวราชาเทพซย่าเสวี่ยไม่ได้คุกคามจ้าวเฟิงแม้แต่น้อย

“เจ้ารู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้!” ราชาเทพซย่าเสวี่ยหัวเราะเจ้าเล่ห์

ในฐานะที่เป็นราชาเทพชั้นยอด เขาไม่ได้สู้ตัวตายกับจ้าวเฟิง จ้าวเฟิงจะสังหารเขาได้อย่างนั้นหรือ?

เขาก็ไม่เชื่อว่าจ้าวเฟิงเลือกจะหนีไป

“เจ้ามั่นใจมากเกินไปแล้ว อีกทั้งยังประมาทเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าเกินไปด้วย!”

จ้าวเฟิงอดหัวเราะไม่ได้

ระลอกแสงมายาหมุนวนอยู่ในดวงตาซ้าย ก่อนที่พลังมายาดั้งเดิมจำนวนมากจะแผ่พวยพุ่งออกมา

“เปลี่ยนมายา!”

ในฟ้าดินปกคลุมไปด้วยสีสันมายาชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว โดยมีจ้าวเฟิงเป็นจุดศูย์กลาง

ยามอยู่ในมิติที่พร่างพรายแห่งนี้ ทุกคนต่างมีความรู้สึกประหลาดทันที สภาพในแต่ละด้านของตนลดลงอย่างรวดเร็ว

จ้าวเฟิงจัดการเอาพลังของเปลี่ยนมายาจดจ่อไปที่ร่างของราชาเทพซย่าเสวี่ยทันที

ไป! เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ราชาเทพซย่าเสวี่ยจึงรีบถอยไปทันใด อย่างน้อยๆ จะต้องถอยออกจากอาณาเขตของเปลี่ยนมายา

“ผนึกมิติ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นอาวุธบรรพชนเทียมทะยานฟ้า

ในฐานะที่เป็นอาวุธบรรพชนเทียม มันไม่ได้มีเพียงความสามารถป้องกันเท่านั้น ‘ผนึกมิติ’ ก็เป็นหนึ่งในความสามารถของมันด้วย

ฟิ้ว! อากาศด้านหลังของราชาเทพซย่าเสวี่ย กระเพื่อมไหว กลายเป็นปราการมิติที่หนาแน่นเกินจะเปรียบกั้นขวางอากาศทั้งหมดไว้

“อาวุธบรรพชนเทียม!” สีหน้าราชาเทพซย่าเสวี่ยหนักอึ้ง ลอบก่นด่าในใจ ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการ

เมื่อใช้ปราการมิติขวางราชาเทพซย่าเสวี่ยเอาไว้ชั่วคราวแล้ว จ้าวเฟิงก็จะไม่ปล่อยฝ่ายตรงข้ามไปอย่างง่ายดาย

“เขตแดนพลังบริสุทธิ์!” พลังบริสุทธิ์แผ่พวยพุ่งออกมา พื้นที่บิดเบี้ยวมืดดำผืนหนึ่งกับอาณาเขตเปลี่ยนมายาทับซ้อนอยู่ด้วยกัน

ท่ามกลางพลังของอาณาเขตทั้งสอง แรงกดดันที่ราชาเทพซย่าเสวี่ยได้รับก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ความเร็วของเขาและท่าร่างล้วนแต่ไม่เลวเลย แต่ตอนนี้กลับถูกกดดันไว้อย่างสิ้นเชิง ใช้การอะไรไม่ได้

“ระเบิดวิญญาณโลหิต!” สีหน้าราชาเทพซย่าเสวี่ยตึงเครียด พลังโลหิตที่ทรงพลังสะเทือนฟ้าดินระเบิดออกจากในร่าง

โครม ตูม! ร่างของราชาเทพซย่าเสวี่ยกลายเป็นกลุ่มโลหิตสีแดงเข้มกลุ่มหนึ่ง จากนั้นระเบิดออกโดยพลัน พลังโลหิตกลุ่มหนึ่งนั้นทำลายผลกระทบจากพลังบริสุทธิ์สลายไปทันที ส่วนราชาเทพซย่าเสวี่ยกลายเป็นรอยเลือดสายหนึ่ง หายไปอย่างรวดเร็ว

“เจ้าไปไหนไม่ได้แล้ว!” สีหน้าจ้าวเฟิงค้างแข็ง ประสานฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งเขตแดนพลังบริสุทธิ์ทะลักพลังออกมา ด้วยครอบครองเนตรเทพมายา จ้าวเฟิงจึงเข้าใจในทุกการกระทำของราชาเทพซย่าเสวี่ยอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และเขายังมีวิธีการรับมือกับเคล็ดวิชาของราชาเทพซย่าเสวี่ยนานแล้ว

ราชาเทพซย่าเสวี่ยมาเพียงแค่รั้งจ้าวเฟิงเอาไว้ ขอแค่เขาทำได้สองสิ่งนี้ก็เพียงพอแล้ว หนึ่งคือไม่ถูกจ้าวเฟิงสังหาร สองคือตรึงจ้าวเฟิงเอาไว้ให้ไปสังหารคนอื่นไม่ได้

ฟิ้ว~ พลังมายาดั้งเดิมจำนวนมากทะลักล้น พลังแปรฝันให้เป็นจริงปะทุออกมา

ในพริบตานั้น ความเร็วของราชาเทพซย่าเสวี่ยพลันเชื่องช้าลงไป ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เสี้ยวขณะเดียว แต่ก็มากเพียงพอแล้ว

“โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์!” พลังบริสุทธิ์ของทั้งเขตแดนพลังบริสุทธิ์ระบิดออก ลอยไปห่อหุ้มร่างราชาเทพซย่าเสวี่ยเอาไว้ ทันทีที่โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์แปรสภาพไป ก็จะดูดกลืนพลังทั้งหมดของศัตรูไปเรื่อยๆ

ราชาเทพซย่าเสวี่ยที่เพิ่งจะปลดปล่อยเคล็ดวิชาลับออกมา เดิมทีก็อ่อนแรงอยู่แล้ว แต่เขาไม่เพียงแต่หนีไปไหนไม่ได้ กลับถูกจ้าวเฟิงจับเอาไว้ด้วย

“ทำลาย!” จ้าวเฟิงใช้พลังมายาดั้งเดิมและพลังเปลี่ยนมายา

ในตอนนี้ พลังมายาดั้งเดิมของเต็มเปี่ยมมาก ไม่จำเป็นต้องออมพลังเอาไว้ สามารถใช้ได้ตามอำเภอใจ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังมายาดั้งเดิมราชาเทพซย่าเสวี่ยไม่สามารถต้านทานได้ร่างกายของเขาค่อยๆ สลายไป

ต่อให้เขามีกายวัฏสงสาร แต่ไล่ตามความเร็วในการดูดกลืนของโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์และความเร็วในการทำลายล้างของเปลี่ยนมายาไม่ทัน

ร่างราชาเทพซย่าเสวี่ยสลายไปทีละน้อย

“คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะตายอีกครั้งเร็วขนาดนี้!”

ราชาเทพซย่าเสวี่ยเอ่ยพลางหัวเราะเสียงต่ำ

เดิมทีไม่ใช่เจตนาของเขาเลยที่จะลงมือทำร้ายจ้าวเฟิง แต่เมื่อกลายเป็นกายวัฏสงสาร เขาจึงทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่งของพวกฝืนชะตาฟ้า

วูบ! ไม่นานนัก ราชาเทพซย่าเสวี่ยก็อันตรธานหายไป

คราวนี้จ้าวเฟิงสังหารราชาเทพแค่ตัวคนเดียว!

ภาพเหตุการณ์นี้ยิ่งเขย่าขวัญพวกฝืนชะตาฟ้า พวกเขาชะงัก พูดอะไรไม่ออก

ในเวลานี้ อวี่เทียนอูพลันส่งเสียงบอกจ้าวเฟิง “จ้าวเฟิง ข้าจะมอบหมายให้เจ้าไปก่อกวนเรือรบของศัตรู หากสามารถทำลายอุปกรณ์ของพวกนั้นได้ย่อมเป็นเรื่องดี!”

เรือรบสองลำของเผ่าความลับสวรรค์มีพลังทำลายล้างรุนแรงมาก และเป็นหนึ่งในอาวุธสังหารที่ทรงพลังในสนามรบ

“ได้ ข้าก็ตั้งใจเอาไว้แบบนั้นพอดี!” จ้าวเฟิงผงกศีรษะน้อยๆ

เปรี๊ยะ! แสงสว่างทอประกาย จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังอัสนีเทวะบริสุทธิ์ ลงมือสังหารศัตรูอย่างบ้าคลั่ง และยังรุกเข้าไปใกล้ด้านหลังเรือรบของพวกฝืนชะตาฟ้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ คนระดับสูงของพวกฝืนชะตาฟ้าก็เดาจุดประสงค์ของจ้าวเฟิงออกทันที

“เป้าหมายของมันคือที่นี่!” ใจอวี่หลิวผิงเต้นระรัวเร็ว รู้สึกหวาดกลัวขึ้นอย่างประหลาด

“เหอะ พอดีเลย ถ้าหากว่ามันกล้าเข้าใกล้เรือรบของข้าละก็ ข้าจะให้มันไม่ได้กลับไป!” สีหน้าผู้คุมกฎจั่วมืดทะมึน ใบหน้าฉายแววโหดเหี้ยม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version