บทที่ 1566 แผนพลิกสถานการณ์
“เป็นพลังที่แกร่งนัก!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์สัมผัสพลังของเนตรบรรพชนเทียม รู้สึกได้คล้ายตอนนี้ตนเองทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ดีที่เป็นนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ จิตใจเที่ยงตรงยุติธรรม อีกทั้งกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ไม่เช่นนั้นจิตใจของเขาอาจเปลี่ยนแปลงและถูกพลังกลุ่มนี้ควบคุมแน่
ในเวลาเดียวกัน นายเหนือหัวที่เหลือทั้งห้าต่างสัมผัสพลังกลุ่มนี้ได้เช่นกัน
“ไม่รู้จริงๆ ว่าต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้าที่แท้จริงแข็งแกร่งขนาดไหน?” ทุกคนอดทอดถอนใจไม่ได้ แต่ตอนนี้ การกำจัดศัตรูทิ้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
เจ้าสวรรค์เจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง ต่อให้พวกเขาได้เปรียบเล็กน้อยก็ไม่อาจประมาทได้
“สังหาร!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ตะเบ็งเสียง ควบคุมพลังเนตรบรรพชนเทียม
ดวงตาที่หมองหม่นขุ่นมัวทะลักพลังทรงอานุภาพ เนตรเทพเจ้าทั้งหมดเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ยิ่งใหญ่ ลึกลับ ไม่อาจขัดขืนได้ยิ่งกว่าเดิม ดูไปแล้วเป็นประหนึ่งผู้ปกครองใต้หล้า สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คน
ครืน วู้ม~ พลังในเนตรดวงนั้นยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ควันสีเทาอ่อนปั่นป่วน ในอากาศปรากฏเงาสีเทาอ่อนร่างหนึ่งขึ้นรางๆ ใหญ่ยักษ์เกินบรรยาย จนไม่เห็นขอบเขต สาดซัดกลิ่นอายนับไม่ถ้วนออกมากดดัน
เงานั้นยื่นมือออกมา ฝ่ามือฟาดลงมาบนศีรษะของเจ้าสวรรค์โดยไม่แยแสระยะห่าง
โครม วูบ วูบ! อากาศถล่มทลายลง พลังทั้งหมดสลายเป็นธุลี
มือข้างนี้เป็นประหนึ่งหัตถ์สวรรค์ ลายมือด้านบนเป็นกฎเกณฑ์และลำดับขั้น สามารถกำหนดทุกสิ่งอย่างได้ ทำให้ผู้คนไม่กล้าแม้แต่จะคิดต่อต้าน
ราชาเทพไม่น้อยที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ มองเห็นมือข้างนี้ ขาสองข้างก็สั่นสะท้าน ปรารถนาจะคุกเข่าลง
“ข้าสิถึงจะเป็นผู้สืบทอดต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า!”
ใบหน้าเจ้าสวรรค์เหี้ยมโหด ดวงตาสามดวงเปล่งประกายชั่วร้าย ชวนให้คนตัวสั่นงันงก
โครม ตูม~
ในเนตรเทพเจ้าของเจ้าสวรรค์ปะทุพลังวิถีฟ้าที่แข็งแกร่งออกมา
ประหนึ่งภูเขาไฟระเบิด เมื่อพลังกลุ่มนั้นปะทะไปบนมือยักษ์ พลังไร้เทียมทานสองกลุ่มก็เข้าโรมรันกัน
โครม ตูม! แกรก~
อากาศปริร้าวพังทลายลงทุกส่วน โดยมีสถานที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลาง
“ฮึ พลังของเจ้าก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าพวกเราเนตรเทพเจ้าทั้งหก!”
เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์แค่นเสียงหยัน สีหน้าสงบนิ่งน่าเกรงขาม
“ยังเร็วเกินไป!” สีหน้าเจ้าสวรรค์ชั่วร้าย ระบายยิ้มบ้าคลั่งออกมา
ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สายเลือดของเผ่าบรรพกาลแข็งแกร่งขึ้นทุกที
ในเวลาเดียวกัน เจ้าสวรรค์ส่งพลังวิถีฟ้าที่วุ่นวายออกมาจากระหว่างคิ้ว จากนั้นมันค่อยๆ เกาะกลุ่มเป็นมือยักษ์ข้างหนึ่งเช่นเดียวกัน
โครม ตูม~ มือสองข้างปะทะเข้าหากัน เกิดเป็นเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาท
“อะไรกัน? เจ้านี่!” สีหน้านายเหนือหัวเนตรมรณะตะลึงค้าง
พวกเขาเป็นเนตรเทพเจ้า จึงสามารถควบคุมพลังกลุ่มนี้ได้รวดเร็วกว่า และสามารถขุดค้นกลวิธีที่พลังลึกซึ้งออกมาได้ง่ายกว่า แต่ความสามารถในการเรียนรู้ของเจ้าสวรรค์ก็ดีเยี่ยมมากเช่นกัน นี่อาจเป็นเพราะสายเลือดเผ่าความลับสวรรค์ในร่างเขา อีกทั้งความกระหายในชัยชนะและความแน่วแน่ของเขาอยู่เหนือทุกคน
“ไม่มีใครเอาชนะข้าได้!” พลังของดวงตาตรงหว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์แกร่งขึ้นทุกที ร่างก็ใหญ่โตยิ่งนัก ประหนึ่งเทพมารตนหนึ่ง
“รีบสังหารมันเร็ว!” เนตรเทพเจ้าทั้งหกหวาดเกรงเจ้าสวรรค์มากนัก
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ควบคุมพลังของเนตรบรรพชนเทียม ปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังออกมาอีกครั้ง
หัตถ์ยักษ์สีเทานั้นค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น พลานุภาพก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน
โครม ตูม~
พลังวิถีฟ้าที่ออกมาจากหว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์ถูกหัตถ์ยักษ์ข้างนั้นฟาดลงจนแหลกละเอียด
ร่างเจ้าสวรรค์วูบไหว ถูกกระแทกจนถอยร่นไปด้านหลัง และส่งหมัดออกมา ตรงไปโจมตีนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าหลายคน
“ป้องกัน!” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์กระตุ้นพลังวิถีฟ้า
ปราการสีเทาอ่อนก่อขึ้นด้านขวาของเขาในฉับพลัน เหมือนจะแบ่งแยกฟ้าดินผืนนี้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด
โครม ตูม~
การโจมตีจากสายเลือดบรรพกาลที่ทรงอานุภาพนั้นประหนึ่งเต้าหู้กระแทกกับกำแพงเหล็ก แหลกละเอียดลงไป
“ให้การต่อสู้นี้จบลงตรงนี้แล้วกัน!” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์จ้องเจ้าสวรรค์ด้วยสายตาเย็นชา
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เจ้าสวรรค์ช้าๆ จากนั้นปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งยิ่งออกมา ถึงแม้ว่าเจ้าสวรรค์จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่พลังก็ยังยากจะอยู่เหนือนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหก
ตูม… เสียงดังกัมปนาท ร่างเจ้าสวรรค์กระเด็นออกไปหลายหมื่นลี้ อาการบาดเจ็บของเจ้าสวรรค์ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วด้วยพลังของนายเหนือหัวเนตรสังสารวัฏ
“เจ้าคนพวกนี้!” สีหน้าเจ้าสวรรค์ซีดเผือดเล็กน้อย
พลังนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหกแข็งแกร่งจนเกินไป คิดจะหนีเกรงว่าคงยากนัก
ในเวลานี้เอง ระลอกพลังประหลาดจากที่ไกลๆ ดึงความสนใจจากผู้แข็งแกร่งจำนวนมากไป
โครม~ กฎเกณฑ์สมบูรณ์ที่ทรงพลังแผ่กระจายออกจากร่างของจ้าวเฟิง ดวงตาซ้ายของเขาโคจรช้าๆ สาดซัดลำแสงมายาที่พร่าเลือนที่ไม่สิ้นสุดออกมา
กลิ่นอายบนร่างจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นช้าๆ ทำให้ราชาเทพที่อยู่ไกลๆ ใจสั่นระรัว
“เป็นราชาเทพแล้วหรือ?” ใบหน้าราชาเทพหวาเฟิงฉายแววยินดี
“ดีเหลือเกิน พี่เฟิงครอบครองเนตรเทพเจ้าประเภทที่เก้า ถ้าหากเข้าร่วมการต่อสู้แล้วละก็…” จ้าวหยูเฟยตื่นเต้นอย่างยิ่ง
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหกรวมไปถึงคนจากพวกผู้ทรงภูมิต่างจ้องไปที่จ้าวเฟิง
อันที่จริง การกลายเป็นนายเหนือหัวเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งดินแดนเทพรกร้าง ไม่ว่าใครก็มองข้ามไปได้ แต่ว่าหลังจากที่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหกรวมไปถึงเจ้าสวรรค์คุ้นชินกับเนตรบรรพชนเทียมแล้ว จากความรู้สึกของพวกเขา ก็พบว่ากลิ่นอายของนายเหนือหัวเรียกว่าอ่อนแอ ไม่ได้น่าสะพรึงขวัญสักเท่าไหร่
และเป็นเพราะจ้าวเฟิงครอบครองเนตรเทพเจ้า ถึงทำให้พวกเขาสนใจ
“ดี!” จ้าวเฟิงผุดลุกขึ้นทันที
แหงนหน้ากวาดสายตามองนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหกและเจ้าสวรรค์
ในที่สุด ตอนนี้เขาก็กลายเป็นราชาเทพ กลายเป็นนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าแล้ว
เปรี๊ยะ! ร่างจ้าวเฟิงขยับวูบวาบ เข้าไปใกล้สนามรบของเนตรเทพเจ้าทั้งหก
“เป็นพลังวิถีฟ้าที่แกร่งเหลือเกิน!” ในตอนที่เข้าใกล้นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหก จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันไร้รูปร่างของพลังวิถีฟ้า
จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่า กฎเกณฑ์มิติที่ตนเองทำความเข้าใจลึกซึ้งเหมือนถูกกดให้อ่อนลงไปมาก ขนาดพลังอัสนีเทวะบริสุทธิ์ในร่างยังใช้ออกมาไม่ได้มากนัก
เดิมทีวางแผนเอาไว้ว่า หลังจากกลายเป็นนายเหนือหัวแล้ว จ้าวเฟิงที่เข้าร่วมรบก็พอโจมตีได้บ้าง แต่ยิ่งเข้าใกล้เนตรบรรพชนเทียมดวงนั้นมากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เนตรเทพมายาของจ้าวเฟิงก็ยิ่งตื่นตัวขึ้น
เมื่อครุ่นคิดไปแล้ว จ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยพลังมายาดั้งเดิมชั้นหนึ่งออกมาล้อมรอบร่างตน
ทันใดนั้นเอง จ้าวเฟิงพบว่าพลังมายาดั้งเดิมต่อต้านพลังวิถีฟ้าได้ แรงกดดันที่เขาได้รับสลายไปช้าๆ
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ใจของพวกเขาหวาดกลัวอย่างประหลาด
“เจ้าเด็กนี่…” เจ้าสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปสีหน้าบึ้งตึง
ในความคิดเขา จ้าวเฟิงไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแปดเนตรเทพเจ้า เพราะต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้าสร้างขึ้นจากพลังดั้งเดิมของแปดเนตรเทพเจ้า
ขอแค่เขาแย่งชิงเอาพลังดั้งเดิมทั้งแปดมาได้ ก็จะสามารถรวมต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า ส่วนเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าไม่ได้รวมอยู่ในนั้นแม้แต่น้อย
ดังนั้นหลังจากที่เจ้าสวรรค์สร้างเนตรเทพวิถีฟ้าได้สำเร็จ เป้าหมายจึงเปลี่ยนไปจากเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า
“ไม่มีเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าตั้งแต่แรก แล้วดวงตาของมัน…”
เจ้าสวรรค์มั่นใจเรื่องนี้ ในโลกมีเพียงแค่แปดเนตรเทพเจ้าเท่านั้น ถึงแม้จะมีตำนานเรื่องเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า แต่เขากลับคิดว่าตำนานนี้เป็นเพียงเรื่องโกหก
ดวงตาของจ้าวเฟิงคืออะไร ของลอกเลียนแบบหรือ?
“จ้าวเฟิง เจ้าและนายเหนือหัวอีกสามคนร่วมมือกันก่อกวนเจ้าสวรรค์!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ตะโกนกร้าว
ในสายตาของเขา จ้าวเฟิงจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่แล้ว อีกทั้งพลังของเจ้าสวรรค์อ่อนแอลงไปส่วนหนึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าเนตรบรรพชนเทียม
ดังนั้นเขาจึงให้จ้าวเฟิงร่วมมือกับนายเหนือหัวอีกสามคน
นายเหนือหัวทั้งสี่ร่วมมือกัน น่าจะพอมีผลอะไรกับเจ้าสวรรค์ในตอนนี้บ้าง
“ได้!” จ้าวเฟิงและนายเหนือหัวอีกสามคนรวมตัวกัน ไปโผล่ที่อีกด้านหนึ่ง คอยก่อกวนและรั้งเจ้าสวรรค์เอาไว้
พวกเขาอยากจะทำร้ายเจ้าสวรรค์ในตอนนี้ก็ยากเกินไป แต่รั้งเอาไว้และก่อกวนพอจะทำได้
โครม! ตอนที่พวกจ้าวเฟิงลงมือ เจ้าสวรรค์ก็โจมตีนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหก ทำให้จ้าวเฟิงและนายเหนือหัวที่หลือทั้งสามใจสั่นระรัว
“เกราะมิติ!”
“กระบี่เทียนเซี่ยน!”
จ้าวเฟิงและพวกสำแดงท่าไม้ตายที่แข็งแกร่ง เข้าขัดขวางและรบกวนเจ้าสวรรค์
“พวกเจ้า…” ใบหน้าเจ้าสวรรค์ซีดขาวดำคล้ำ กวาดสายตามองรอบบริเวณ
เขาในตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเนตรบรรพชนเทียมที่แข็งแกร่ง ความหวังที่จะหนีเอาตัวรอดยังเลือนรางเหลือเกิน
แต่เขาก็ไม่ได้ถอดใจแต่อย่างใด ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ความคิดของเจ้าสวรรค์หมุนวน ครุ่นคิดหาแผนการทั้งหมดที่จะช่วยพลิกสถานการณ์ได้
ฉับพลันนั้น ในหัวเจ้าสวรรค์ก็พบทางออก
เขาพบเบาะแสเรื่องหนึ่งจากความทรงจำในหัวที่ตอนนั้นเขามองข้ามไป แต่ตอนนี้เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว ข้อมูลนี้กลับสำคัญอย่างยิ่ง
โครม เปรี้ยง!
ในเวลานี้เอง พลังวิถีฟ้าของนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าก็ไล่ตามมาติดๆ เจ้าสวรรค์ยากจะรับมือกับพลังนั้น เขาถอยร่นไปต่อเนื่อง
ไกลออกไป พวกของจ้าวเฟิงโจมตีและรบกวนเจ้าสวรรค์
“มาพนันกันเถอะ!” สีหน้าเจ้าสวรรค์บ้าคลั่ง แววตาตึงเครียดเกินจะเปรียบ
“ข้าจะเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าเอง!”
ทันใดนั้น เจ้าสวรรค์ตะโกนลั่น ก่อนจะพุ่งไปหาจ้าวเฟิง
“แย่ล่ะ!” ใบหน้าจ้าวเฟิงเปลี่ยนสีไปทันที เมื่อถูกเจ้าสวรรค์จับจ้อง เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
นายเหนือหัวสามคนที่เหลือหน้าเปลี่ยนสีไปตามๆ กัน ก่อนจะถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเองก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของเจ้าสวรรค์ ดังนั้นจึงรักษาระยะห่างกับฝ่ายตรงข้าม อีกอย่างพวกเขาคิดว่าเป้าหมายของเจ้าสวรรค์ก็คือเนตรเทพเจ้าทั้งแปด คงไม่ลงมือทำร้ายพวกเขา
พวกจ้าวเฟิงและนายเหนือหัวอาทิตย์ถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว
จ้าวเฟิงที่ครอบครองกฎเกณฑ์มิติที่สมบูรณ์โบยบินอย่างรวดเร็ว บินหนีไปล้านลี้ในทันที
ส่วนนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งหกเข้าขัดขวางเจ้าสวรรค์ไว้
โครม! เงาบนเนตรบรรพชนเทียมโบกมือ แล้วทิศทางในการเคลื่อนไหวของเจ้าสวรรค์ก็ปรากฏมือที่ยากเกินบรรยายขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านกลางฟ้า ขวางเขาเอาไว้
“ทำลาย!” เจ้าสวรรค์ตะโกนลั่น ดวงตาที่ตรงหว่างคิ้วโคจรสุดแรง พลังที่ระเบิดออกพุ่งออกมาโจมตี
“แย่ล่ะ มันเผาผลาญพลังดั้งเดิมวิถีฟ้าแล้ว!” สีหน้านายเหนือหัวทั้งหกตกตะลึงเล็กน้อย
ก่อนนี้ ในการต่อสู้ระหว่างเจ้าสวรรค์และพวกเขา ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการ์ลำบาก แต่เจ้าสวรรค์ก็ไม่ได้เผาผลาญพลังดั้งเดิมวิถีฟ้ามากมายขนาดนี้ในคราวเดียว
ตู้ม! มือสีเทาอ่อนใหญ่ราวขุนเขาขนาดยักษ์ระเบิดออกทันที
เงาคนสว่างไสวพุ่งออกมา
“เคลื่อนย้าย!” ดวงตาที่หว่างคิ้วเจ้าสวรรค์จดจ้องไปที่ละอองธุลีที่อยู่ไกลออกไปล้านลี้
ทันใดนั้น เจ้าสวรรค์ก็ปรากฏกายขึ้น ณ สถานที่ที่อบอวลไปด้วยธุลีแห่งนั้น ส่วนฝุ่นละอองพวกนั้นก็พัดพามาอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของเจ้าสวรรค์ ทั้งสองสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างไร้สุ้มเสียง
เจ้าสวรรค์ก็เข้าไปใกล้จ้าวเฟิงในพริบตา
“หนี!” จ้าวเฟิงกระตุ้นกฎเกณฑ์มิติที่สมบูรณ์และอาวุธบรรพชนเทียม กลายเป็นเงาสายหนึ่งพุ่งหนีไป
“ตายซะเถอะ!” เจ้าสวรรค์ผลักหมัดสองข้างออกไปติดต่อกัน และโคจรเนตรเทพวิถีฟ้า เพิ่มพลานุภาพการโจมตีของสายเลือดบรรพกาล
นายเหนือหัวทั่วไป หากเผชิญหน้ากับเจ้าสวรรค์ตอนนี้ แทบจะไม่มีแรงต่อต้านแม้แต่น้อย
ตุบ ตุบ! ตุบ ตุบ!
และจากพลังเผ่าบรรพกาล พลังวิถีฟ้า รวมไปถึงอันตรายที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ส่งผลให้ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเต้นกระตุก อาการเจ็บปวดรุนแรงปรากฏขึ้น ทำให้เขาเกือบจะหมดสติไป
ฟิ้ว ฟิ้ว~
ในชั่วเวลาถัดมา พลังมายาดั้งเดิมก็ทะลักออกมาจากดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงประหนึ่งคลื่นถาโถม ล้อมจ้าวเฟิงเอาไว้ ละม้ายว่าเตรียมจะช่วยจ้าวเฟิง