Skip to content

King of Gods 405

King Of Gods

บทที่ 405 : บุตรชายแห่งแมงป่องยักษ์

น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา เมื่อเทียบกับสมบัติโบราณล้ำค่าก่อนหน้าที่ได้ครอบครองแล้วยังมีมูลค่าสูงกว่า

มันสามารถชำระล้างวิญญาณ เพิ่มขอบเขตจิตวิญญาณและการรับรู้ได้ นับเป็นวารีศักดิ์สิทธิ์ที่หายากยิ่งนัก

ฟุ่บ!

จ้าวเฟิงเก็บน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราเข้าไปในน้ำเต้ารั้งวิญญาณอย่างระมัดระวังด้วยความรวดเร็ว

ในน้ำเต้ารั้งวิญญาณ มันมีพื้นที่ว่างพิเศษที่มีความสามารถในการรักษาความสดใหม่ของ สมุนไพรวัตถุดิบทั้งหลาย ยามที่ใส่เข้าไปด้านในการเสื่อมสภาพของวัตถุดิบจะเชื่องช้าลงอย่างมาก

ตัวอย่างเช่นถุงพิษของแมงป่องยักษ์ที่จ้าวเฟิงได้ครอบครองก่อนหน้า หลังจากที่ออกจากร่างกายของมันแล้ว ความเป็นพิษจะด้อยลงอย่างรวดเร็ว แต่หากใส่เข้าไปในน้ำเต้ารั้งวิญญาณ มันจะสามารถรักษาความเป็นพิษไว้ได้ยาวนานกว่าเดิม

“น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา! มูลค่าของสิ่งนี้นับว่าเทียบเคียงกับ ‘ผลโลหิต’ และ ‘เห็ดอินตู๋’ รวมทั้งยอดสมบัติทั้งหลายได้”

“ไอ้วายร้าย หยุดความคิดที่จะครอบครองมันไว้คนเดียวซะ!”

อัจฉริยะต่างแดนจากตำหนักผาดำและตำหนักมารจันทราไร้ซึ่งความหวาดกลัว โถมกายตรงไปพร้อมกัน

ก่อนหน้า จ้าวเฟิงได้ครอบครองน้ำเต้ารั้งวิญญาณและศิลารอยหมึกสวรรค์ไป แม้มันจะถูกนับเป็นยอดสมบัติเช่นกัน ทว่าในด้านของคุณสมบัติและความสามารถแล้วยังด้อยกว่า ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’

“หากสามารถครอบครองได้แม้ 1-2 หยด น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราก็ยังสามารถชำระล้างวิญญาณ เพิ่มขอบเขตประสาทสัมผัส โอกาสที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นนายเหนือแท้ได้ย่อมมากขึ้นสองถึงสามในสิบส่วน”

อัจฉริยะต่างแดนที่มีพลังขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอดหลายคนต่างใช้วิชาของตนเอง ส่งการโจมตีที่สร้างแรงกดดันมหาศาลตรงไปยังร่างของจ้าวเฟิง

เด็กหนุ่มตระกูลจ้าวไม่ลนลาน มองขึ้นไปยังน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราหลายหยดบนหินงอกหยินศักดิ์สิทธิ์เหนือศีรษะ

ฟุ่บ!

ร่างของเด็กหนุ่มพุ่งวาบ ล่าถอยออกไปหลายสิบหลาด้วยตนเอง สละใช้หุ่นเชิดศพสัมฤทธิ์ทั้งสองป้องกันไว้เบื้องหน้า

“ของเหลวล้ำค่าเช่นนี้ที่เพิ่มขอบเขตจิตวิญญาณและประสาทสัมผัส เมื่อกินเข้าไปมากๆ ผลลัพธ์จะด้อยลงอย่างมาก ข้าเองก็มีอยู่มากแล้ว”

จ้าวเฟิงล่าถอยไปอย่างชาญฉลาด ยอมละทิ้งน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราหลายหยดไป

แม้ว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่ง ทว่าเขาก็ไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูของยอดอัจฉริยะต่างแดนจำนวนมาก

อัจฉริยะต่างแดนเหล่านั้น ส่วนน้อยมีพลังฝึกตนอยู่ในขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอด 6-7 คน ส่วนมากอยู่ในขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นคนใดล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าผู้ถูกเลือกในงานชุมนุมเซียนมังกร

“น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา ข้าต้องการหนึ่งหยด!”

“ไสหัวออกไปจากทางของข้า!”

อัจฉริยะต่างแดน 7-8 คนต่างเข้าแย่งชิง ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’ หลายหยดนั้นกันอย่างบ้าคลั่ง เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง

จ้าวเฟิงควบคุมหุ่นเชิดศพสัมฤทธิ์ทั้งสองไว้เบื้องหน้าตนเอง ด้วยกลัวว่าอัจฉริยะต่างแดนเหล่านั้นจะไล่ล่าตามเขามา

นอกจากสามยอดฝีมือในขั้นนายเหนือแท้แล้ว พลังของจ้าวเฟิงนับว่าเป็นที่หนึ่ง เมื่อมีหุ่นเชิดศพในขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอดสองตัวอยู่ย่อมสามารถทำให้คนส่วนมากต้องรั้งสายตากลับไปได้

สุดท้ายแล้ว น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราที่เหลือสองหยดสุดท้ายก็ได้ถูกตำหนักผาดำและตำหนักมารจันทราได้ไปครอบครองฝ่ายล่ะหนึ่งหยด

การปะทะแย่งชิงได้ยุติลงในที่สุด

ผู้ที่ครอบครองชัยชนะมากที่สุดย่อมเป็นจ้าวเฟิง

ความจริงแล้ว

หากเด็กหนุ่มต้องการที่จะครอบครองน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราทั้งหมด อัจฉริยะเหล่านั้นมีหรือที่จะสามารถขัดขวางเขาได้

ทว่าหากเขาทำเช่นนั้น พลังของเขาย่อมถูกเปิดเผย ทำให้เย่หยานหยูรับรู้

เด็กหนุ่มตระกูลจ้าวยอมสละน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราไปหลายหยดเพื่อปิดบังพลังไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวของแผน

ทว่า

แม้ว่าจ้าวเฟิงจะจงใจทำตัวไม่เป็นจุดเด่น ติดตามห่างออกไปในระยะหนึ่ง คนของตำหนักผาดำและตำหนักมารจันทราก็ยังคงเพ่งมองเด็กหนุ่มอย่างไม่ละสายตา

“สายเลือดดวงตาของเด็กนี่มีความสามารถในการค้นหาของล้ำค่าที่แข็งแกร่งยิ่งนัก มองเขาไว้ให้ดีๆ”

กองกำลังทั้งสองฝ่ายตัดสินใจ

คนหลายคนกระทั่งจ้องมองการเคลื่อนไหวสายตาของจ้าวเฟิงอย่างดื้อดึง

บางครั้ง ดวงตาเทพเจ้าของเด็กหนุ่มได้มองไปยังบางแห่งอย่างไม่ตั้งใจ อัจฉริยะหลายคนก็จะพลันพุ่งตัวออกไปก่อน หมุนตัวค้นหาสมบัติในระยะสามฟุตรอบกาย

จ้าวเฟิงอึ้งไปอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะเห็นเขาเป็นเทพแห่งโชคลาภไปแล้ว

ที่น่าเสียดายคือ ตลอดทางต่อไป ยอดสมบัติล้ำค่าในระดับของ ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’ ก็ไม่ปรากฏขึ้นอีก

บางทีอาจเป็นเพราะยอดฝีมือในขั้นนายเหนือแท้ทั้งสามเบื้องหน้าได้ตระหนักถึงการ ‘มองข้าม’ ก่อนหน้า เพิ่มความตั้งใจในการค้นหายอดสมบัติ ลดความเร็วลงเล็กน้อย จะอย่างไรวารีศักดิ์สิทธิ์เช่น ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’ ก็ไม่ได้มีมูลค่าน้อยนัก

บางครั้งสมบัติล้ำค่าที่มูลค่าไม่มากมาย จ้าวเฟิงก็คร้านที่จะเข้าไปหยิบ ทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ จางหายไปจากสายตาของผู้คน

เหล่าคนที่เพ่งมองไปยังเขาบางคนรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ บางคนยอมแพ้ ทว่าบางคนก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและหดหู่

แน่นอนว่า

ยอดสมบัติส่วนมากย่อมตกอยู่ในมือของสามยอดฝีมือในขั้นนายเหนือแท้ โดยเฉพาะเย่หยานหยูและแมวขโมยตัวน้อยที่ร่วมมือกัน

สมบัติที่ชื่อกุ้ยและชายหนุ่มชุดสีเลือดครอบครองได้ แม้นำมารวมกันก็ยังด้อยกว่าที่เย่หยานหยูครอบครอง

พลังฝึกตนของเย่หยานหยู รวมทั้งความเร็วของนางล้วนสูงที่สุด เมื่อได้รับความร่วมมือจากแมวขโมยตัวน้อยก็ยิ่งไร้คู่ต่อสู้

“แมวขโมยตัวน้อย! เจ้านับว่าเป็นแมวนำโชคของข้าโดยแท้!”

เย่หยานหยูรู้สึกหลงรักแมวขโมยตัวน้อยอย่างมาก ปัญหาอย่างเดียวในยามนี้คือพันธะสัญญาโลหิตสัตว์เลี้ยงระหว่างจ้าวเฟิงและแมวขโมยตัวน้อยที่ยังไม่ถูกทำลาย

ชื่อกุ้ยและชายหนุ่มชุดสีเลือดต่างขบฟันกรอดอย่างเกลียดชังไปยังแมวขโมยตัวน้อย

แมวขโมยตัวน้อยวาดแส้อสรพิษโลหิตลึกลับ แข่งขันแย่งชิงสมบัติล้ำค่าจำนวนมาก ความสามารถเหนือพวกเขา

บางครั้งสมบัติที่พวกเขามองเอาไว้ก็ได้ถูกแส้ในมือของมันกวาดเอาไป

แมวตัวนี้เจ้าเล่ห์ร้ายกาจยิ่งนัก มักจะปรากฏตัวขึ้นและหายตัวไปอย่างลึกลับบ่อยๆ ความคล่องแคล่วยากจะหาผู้ใดเคียง ทำให้ผู้คนต้องระมัดระวัง

สีหน้าของจ้าวเฟิงมืดทะมึน ไม่เอ่ยคำใด

ในเวลาหนึ่ง

การเคลื่อนไหวของยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ทั้งสามหยุดชะงักลง

ผนังผาเบื้องหน้าได้มีสีมืดทะมึนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ลึกที่สุดได้ปรากฏรังสีดำสนิท เส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ หนึ่งร้อยหลา ภายในได้ปรากฏร่องรอยไออุ่นไม่สม่ำเสมออยู่

ในรังสีดำสนิทนั้นได้ปรากฏลูกแมงป่องยักษ์หลายสิบตัวขึ้นให้เห็นเลือนราง ขนาดตัวราวๆ หมาแมวทั่วไป

ลูกแมงป่องยักษ์!

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงสามารถมองเห็นภาพภายในถ้ำมืดทะมึนได้อย่างชัดเจน

สามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้จิตใจสั่นสะท้าน เผยสีหน้ายินดีขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ในรังสีดำสนิทมีลูกแมงป่องยักษ์หลายสิบตัว มากกว่าที่คาดเอาไว้

“ไม่ถูกต้อง! แม้ว่าลูกแมงป่องยักษ์จะมีมาก และเปลือกกระดองของพวกมันจะดูเหมือนกับแมงป่องยักษ์โบราณ ทว่าพวกที่มีสายเลือดบริสุทธิ์นั้นมีน้อยนัก”

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงกวาดมองก็สรุปออกมาได้

การสืบทอดสายเลือดนั้นมีความไม่แน่นอนมากนัก ไม่จำเป็นว่าทายาททุกตัวจะสืบทอดสายเลือดที่ทรงพลัง

หากไม่เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่อดีตจนยามนี้ มรดกสายเลือดย่อมไม่มีปริมาณน้อยลงเรื่อยๆ ทั้งสายเลือดยังเจือจางเช่นนี้

แม้กวาดตามองไปยังสิบสามแคว้น อัจฉริยะที่มีสายเลือดที่แท้จริง เมื่อรวมจ้าวเฟิง จ้าวหยูเฟ่ยและคนอื่นๆ แล้ว อย่างมากก็มีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น

ไม่ต้องเอ่ยถึงแมงป่องยักษ์โบราณที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในถ้ำนี้ที่ถูกผู้คนรุมฆ่าไปแล้วเลย

ดังนั้นแล้ว มันจึงสามารถผสมพันธุ์ได้แค่เพียงแมงป่องสายพันธุ์อื่นๆ การสืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์จึงด้อยลงไปอีก

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงเข้าใจอย่างชัดเจน ลูกแมงป่องยักษ์ในรังนั้น ภายนอกดูเหมือนกับแมงป่องยักษ์โบราณเพียงหกเจ็ดส่วนเท่านั้น

ที่น่ากังวลคือ ‘สิ่งที่เหมือนกัน’ นั้นคือลักษณะภายนอก

ลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกันสามารถบอกได้เพียงว่ามีโอกาสที่มันจะได้รับสืบทอดสายเลือดสูงกว่า ไม่อาจมั่นใจได้ถึงสิบส่วน

“ฮ่า… รังลูกแมงป่องยักษ์!”

อัจฉริยะต่างแดนที่ตามมาต่างขยับเข้ามาใกล้ มองไปยังลูกแมงป่องยักษ์เหล่านั้นอย่างตื่นเต้น

“ทุกคน แม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์ แต่ตราบเท่าที่เป็นทายาทของแมงป่องยักษ์โบราณ พวกมันก็ยังมีสายเลือดโบราณ คุณภาพของพวกมันเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงปีศาจทั่วไปแล้วยังสูงกว่า”

ชื่อกุ้ยเอ่ย

สามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ก้าวไปข้างหน้า ทะยานร่างออกไป

เป้าหมายของพวกเขาย่อมเป็นลูกแมงป่องยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายกับแมงป่องยักษ์โบราณ

จ้าวเฟิงยังคงเยือกเย็น ไม่ได้เร่งรีบเข้าไปแย่งชิง

ต้องเอ่ยว่าพวกสายเลือดบริสุทธิ์นั้นย่อมเป็นเป้าหมายของสามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ การแข่งขันย่อมสูง

ทว่าอัจฉริยะคนอื่นๆ ไม่มีความสามารถเพียงพอในการแย่งชิงกับสามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้

จ้าวเฟิงยังคงทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ คอยเก็บ ‘ของเหลือ’ ไม่เข้าไปแย่งชิงกับสามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้

ดวงตาเทพเจ้าของเขาไม่เพียงกวาดมองไปยังรังแมงป่องสีดำสนิทใกล้ๆ ทว่ารวมถึงรอยแยกต่างๆรอบด้าน

สายเลือดบริสุทธิ์หรือไม่ ดวงตาเทพเจ้าของเด็กหนุ่มกวาดมองเพียงครั้งเดียวก็แยกแยะได้

สายตาของเด็กหนุ่มกวาดมองไปทั่วทุกมุม จ้าวเฟิงรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ยิ่งห่างออกจากใจกลางรังเท่าใด สีของลูกแมงป่องยักษ์เหล่านั้นก็ยิ่งหลากหลาย ไม่ต้องเอ่ยถึงสามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้เลย อัจฉริยะต่างแดนคนอื่นๆ ก็ไม่ชายตามองเช่นกัน

รูปร่างของแมงป่องยักษ์โบราณ ทุกคนต่างก็เห็นอย่างชัดเจน ร่างของมันมีสีคล้ำ ให้ความรู้สึกราวกับโลหะ ตัวที่มีหลายสีนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเลย

ทว่าจ้าวเฟิงยึดถือคติว่า ‘รอบคอบดีกว่ามองข้าม’ ไม่มองทุกอย่างจากภายนอก ทำความเข้าใจลูกแมงป่องยักษ์แต่ล่ะตัวอย่างชัดเจน รวมทั้งลูกแมงป่องหลากสีบางตัวด้วย

“หืม?”

ดวงตาเทพเจ้าของเด็กหนุ่มจ้องมองไปยังกำแพงหินมุมหนึ่งที่ห่างออกไป

ที่จุดนั้นมีลูกแมงป่องยักษ์ ขนาดเพียงเท่ากับกำปั้นของทารก หลบซ่อนอยู่ในรอยแตกของกำแพงถ้ำ เผยดวงตาสีแดงเย็นเยียบที่เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรออกมา จ้องมองไปยังเหล่าคนนอก

ดูเหมือนว่าลูกแมงป่องยักษ์หลายสีตัวนี้จะมีสายเลือดไม่บริสุทธิ์ ทั้งยังตัวเล็กจ้อยยิ่งนัก

ทว่าดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงที่จับจ้องไปยังร่างของมันกลับสั่นระริก ค้นพบถึงความไม่ธรรมดาของมัน

อย่างแรก สติปัญญาของลูกแมงป่องยักษ์ตัวนี้สูงนัก แม้จะดูเหมือนเยาว์วัยที่สุด ทว่ากลับรู้จักการหาที่หลบภัย หลบซ่อนในรอยแตกของกำแพง กระทั่งใช้ก้ามแมงป่องของมันสร้างกำบัง

อย่างที่สอง ความแข็งของกำแพงถ้ำนั้นเทียบเท่าได้กับอาวุธชั้นมนุษย์ระดับสุดยอด ผนังถ้ำทั่วไปมีหรือจะสามารถให้กำเนิดสมบัติโบราณล้ำค่าได้มากมายเพียงนี้

ทว่าด้วยความแข็งของกำแพงในระดับนั้น ลูกแมงป่องหลากสีตัวนี้ยังสามารถขุดด้วยก้ามของมันได้

สุดท้าย

จ้าวเฟิงเข้าใจได้อย่างชัดเจนด้วยดวงตาเทพเจ้า รับรู้ได้ถึงพลังสายเลือดแปลกประหลาดใจร่างของลูกแมงป่องยักษ์ตัวนี้ แม้จะดูคล้ายกับแมงป่องยักษ์โบราณ ทว่ามีส่วนที่แตกต่างไปอยู่บ้าง

“อย่าได้บอกข้าเชียวว่ามันคือแมงป่องยักษ์สายเลือดผันแปร”

หัวใจของจ้าวเฟิงกระตุกวูบ

สายเลือดผันแปร ในหลายครั้งอาจกลับกลายมาเป็นสายเลือดแต่ดั้งเดิม หรือสายเลือดย้อนคืนที่ทรงพลัง

เหมือนกับพรสวรรค์ มันมีกายผันแปรอยู่ ตัวอย่างเช่นจ้าวหยูเฟ่ยและซุนหยวนเฮาต่างก็ครอบครองกายผันแปร

“ไม่ว่าจะอย่างไรก็เอาไปก่อนค่อยว่ากัน”

จ้าวเฟิงเปิดดวงตาเทพเจ้า รุกรานจิตใจของลูกแมงป่องยักษ์ก่อนจะควบคุมมัน

สุดท้ายแล้ว ในระหว่างการเข้าควบคุม จ้าวเฟิงก็ได้เผชิญหน้ากับการต่อต้านอย่างรุนแรง

นี่ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มชะงักไป แต่กลับสร้างความยินดีให้กับเขา นอกจากพรสวรรค์สายเลือดแล้ว จิตตั้งมั่นก็นับเป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูให้เติบโต

ฟุ่บ!

จ้าวเฟิงควบคุมลูกแมงป่องยักษ์อย่างง่ายดาย ระดับของขอบเขตจิตวิญญาณของเขาเหนือกว่าลูกแมงป่องยักษ์มากนัก

วาบ!

ร่างของลูกแมงป่องยักษ์กระโจนออกจากที่ซ่อนในถ้ำอันมืดมิด เพียงไม่กี่ลมหายใจก็มาอยู่ในอุ้งมือของจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงสังเกตมันอย่างละเอียด จุดหลากสีบนร่างของลูกแมงป่องยักษ์ได้จางหายไปแล้ว สิ่งที่มาแทนที่คือเปลือกสีทะมึนเย็นเยียบส่องประกาย รวมทั้งจุดสีแดงอมดำบางส่วน เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ของแมงป่องยักษ์โบราณตัวก่อนหน้าแล้วยังดูดุร้ายกว่า ทำให้มันดูชั่วร้ายลึกลับขึ้นอีกหลายส่วน

“นี่คือการผันแปรประเภทใดกัน? มิคาดจะยอดเยี่ยมในการพรางกาย”

จ้าวเฟิงรักษาสีหน้า ใส่ลูกแมงป่องยักษ์โบราณเข้าไปในถุงเก็บสัตว์วิเศษ

ในยามนี้

การแข่งขันระหว่างสามยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ก็สิ้นสุดลงแล้ว เย่หยานหยูเผยสีหน้ายินดีออกมา นางได้ครอบครองลูกแมงป่องยักษ์โบราณที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดสองตัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version