Skip to content

King of Gods 424

King Of Gods

บทที่ 424 : หมาป่าห่มหนังแกะ

ร่างของจ้าวเฟิงเพียงขยับเคลื่อนไหว อัจฉริยะหลายคนจากสำนักจิตวิญญาณจันทร์สลายก็จับตามองแล้ว

ฟุ่บ ฟุ่บ

ศิษย์สองคนที่มีปัญหากับจ้าวเฟิงก่อนหน้าแทบจะเคลื่อนไหวพร้อมกับจ้าวเฟิงอย่างโจ่งแจ้ง เกาะติดอีกฝ่ายในนามที่แสนดูดีว่า ‘ผู้คุ้มกันแขกผู้มีเกียรติ’

“ลำบากพวกเจ้าทั้งสองแล้ว”

ท่าทีของจ้าวเฟิงเต็มไปด้วยความสง่างามยินดี

เย่หยานหยูกลับไปฟื้นฟูตัวต่อ นัยน์ตางดงามส่องประกายจับจ้องไปยังแผ่นหลังที่เคลื่อนห่างออกไปเรื่อยๆ ของจ้าวเฟิง

ด้วยเหตุใดไม่อาจทราบ

นางรู้สึกได้เลือนรางว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทุกย่างก้าวของเด็กหนุ่มตระกูลจ้าวได้ทำให้ความรู้สึกนั้นรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากที่หยูลั่วตายไป เย่หยานหยูก็รับรู้อยู่ในใจ มีระแวดระวังเคลือบแคลงในตัวจ้าวเฟิง

ในยามนี้

ความสนใจของนางอยู่ที่จ้าวเฟิงอย่างสมบูรณ์

เส้นผมสีฟ้าที่พลิ้วไหวระแผ่นหลังของอีกฝ่ายในสายตาให้ความรู้สึกลึกลับ

ดวงตาลึกล้ำส่องประกายสีฟ้าหม่น ดูราวกับหล่มน้ำแข็งอันไร้ก้นบึ้ง ราวกับสามารถมองทะลุผ่านอาภรณ์ของนาง ล่วงรู้ถึงทุกความลับในร่างของนาง

ในยามนั้น

จิตใจของเย่หยานหยูสั่นสะท้านเล็กๆ ความรู้สึกหนาวเยือกที่ไม่อาจอธิบายแพร่กระจายไปทั่วร่าง รู้สึกราวกับว่ายืนร่างเปล่าเปลือยอยู่ต่อหน้าผู้อื่น

“ศิษย์พี่หลี่ รีบฆ่าจ้าวเฟิง”

หัวใจของเย่หยานหยูกระตุกวูบ นัยน์ตาปรากฏประกายเย็นเยียบพาดผ่าน น้ำเสียงใสราวระฆังของอีกฝ่ายดังก้อง

อันใดนะ? จัดการจ้าวเฟิง?

ศิษย์ทั้งหลายของสำนักจิตวิญญาณจันทร์กระจ่างมองไปยังเย่หยานหยูอย่างสงสัย เหล่าอัจฉริยะที่จู่โจมต้นไม้ปีศาจอยู่เองก็ล่าถอยเข้าไปใกล้เหล่าคนที่กำลังฟื้นพลังอยู่

มิใช่ว่าระหว่างจ้าวเฟิงและเย่หยานหยูมีข้อตกลงกันอยู่หรือ?

ก่อนหน้า เย่หยานหยูได้อยู่ฝ่ายจ้าวเฟิง แต่บัดนี้เหตุใดจู่ๆ จึงเอ่ยสั่งฆ่าอีกฝ่ายเสียเล่า?

การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทำให้หลายคนรู้สึกสมองว่างโล่งไป

ทว่า

ศิษย์ฝั่งสำนักจิตวิญญาณจันทร์กระจ่างยึดถือเย่หยานหยูเป็นจุดศูนย์กลาง ทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายเสมอ

“ลงมือ”

ศิษย์ทั้งสองที่เกาะติดจ้าวเฟิงมาตื่นเต้นเล็กๆ เริ่มจู่โจมจ้าวเฟิง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ศิษย์น้องเย่ ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจ ก่อนหน้าข้าเองก็รู้สึกว่าไอ้เด็กเวรนั่นเป็นหนามตำตา”

หลี่หงแย้มยิ้มกว้าง พุ่งเข้าจู่โจมจ้าวเฟิงโดยไม่หยุดคิด

เขาไม่เข้าใจถึงความคิดของเย่หยานหยูทั้งหมด ทว่าหากต้องการให้เขาฆ่าจ้าวเฟิง แน่นอนว่าเขาย่อมยินดี

ความจริงแล้ว

การที่เย่หยานหยูเอ่ยสั่งออกไปแบบนั้นเป็นเพราะ ‘สัญชาตญาณ’

เมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่ร่วมมือกับจ้าวเฟิงก่อนหน้า ยามแรกอาจดูเหมือนว่าอีกฝ่ายถูกบีบบังคับ ทว่าจากนั้นเด็กหนุ่มก็ได้ใช้นางเป็นผู้คุ้มกันในการปิดด่านฝึกตน แทรกซึมเข้ามาในสามสำนักโดยที่ได้เปรียบอย่างเต็มประตู เข้ามาหาเรื่องสนุกและผลประโยชน์ของตนเอง

แม้ว่าเย่หยานหยูจะไม่เข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมด แต่ในสถานการณ์บางส่วนนางก็ยังพอเข้าใจได้

อย่างแรก หลังจากที่จ้าวเฟิงติดตามนางมา พลังฝึกตนของอีกฝ่ายก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด ได้รับผลประโยชน์มากมาย

จากนั้น พลังที่แท้จริงของจ้าวเฟิง รวมทั้งวิธีการกลยุทธ์ต่างๆ ได้ทำให้เย่หยานหยูยิ่งไม่อาจอ่านอีกฝ่ายออกได้ เรียกได้ว่าสูญเสียการควบคุมอีกฝ่ายอยู่บ้าง

ที่สำคัญ

ไม่ว่าผู้ใดที่เป็นศัตรูกับจ้าวเฟิงก็มักจะจบไม่สวยสักราย แม้ว่าพลังฝึกตนของคนผู้นี้จะไม่สูงนักก็ตาม

ศิษย์ทั้งสองคนที่มีปัญหากับจ้าวเฟิงถูกทำราวกับเป็นตัวตลก

หลี่หงต้องการที่จะฆ่าจ้าวเฟิง สุดท้ายแล้วก็สูญเสียศักดิ์ศรี โดนคนจำนวนมากเหยียบย่ำ ได้รับความพ่ายแพ้ที่ไม่อาจมองเห็น

ในยามนี้

จ้าวเฟิงอาสาที่จะลงมือต่อสู้ด้วยตนเอง จะช่วยเหลือหลี่หงและคนอื่นๆ คราแรกเย่หยานหยูรู้สึกได้ถึงสัญญาณเตือนที่ไม่อาจอธิบายก่อน โดยเฉพาะหลังจากที่จ้าวเฟิงดูราวกับจะเผยนัยน์ตาที่สื่อความนัยลึกล้ำนั้นออก

เย่หยานหยูมั่นใจในความรู้สึกผิดปกตินี้ จึงพลันเอ่ยออกคำสั่งกำจัดจ้าวเฟิง

“สตรีผู้นี้สัญชาตญาณดียิ่ง การตายของหยูลั่วได้สร้างความสงสัยให้แก่นาง”

จ้าวเฟิงไม่คิดว่าเย่หยานหยูจะเด็ดขาดถึงกระทั่งลงมือกับตนเองก่อน

สตรีผู้นี้นับว่าโหดเหี้ยมเพียงพอ

“ไอ้หนู เจ้าตายแน่”

ศิษย์ทั้งสองคนจากสองฝั่งกระโจนเข้าหาเด็กหนุ่ม

จ้าวเฟิงเหลือบตามองเบื้องล่าง บัดนี้เขาได้เข้ามาในระยะการโจมตีของรากของหอคอยพฤกษาปีศาจแล้ว

“ถ่วงเวลาเขาไว้”

เย่หยานหยูที่อยู่เบื้องหลังเอ่ยสั่ง เร่งรีบตามไป

นางรู้อย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิงนั้นรวดเร็วเพียงใด ทั้งพลังยังอยู่ในระดับเดียวกับศิษย์ทั้งสอง

สิ่งที่ศิษย์ทั้งสองต้องทำคือการถ่วงเวลาจ้าวเฟิงไว้ชั่วครู่ แม้จะเป็นเวลาไม่กี่ลมหายใจก็จะมอบโอกาสให้แก่หลี่หงและเย่หยานหยูได้

สีหน้าของศิษย์ทั้งสองเย็นเยียบ เชื่อฟังคำสั่งของเย่หยานหยู ไม่เข้าใกล้จ้าวเฟิงมาก ให้ความสำคัญกับการก่อกวนเป็นหลัก

มุมปากของจ้าวเฟิงบิดเหยียดเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย สายตาเย็นเยียบมองอีกฝ่ายราวกับมดปลวก

ตุบ

ศิษย์ทั้งสองร่วงลงจากกลางอากาศ พุ่งตรงลงไปเบื้องล่าง

ร่างของพวกเขาไม่ทันกระแทกกับพื้น รากที่แทรกซอนอยู่ในพื้นดินก็มัดมือเท้าของคนทั้งสอง

“อ๊ากกกกกก”

คนทั้งสองส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาก่อนจะเงียบงันลงในเสี้ยววินาที กลายเป็นปุ๋ยให้กับหอคอยพฤกษาปีศาจ

อัจฉริยะจากสามสำนักบางคนนิ่งอึ้ง เบิกตากว้างมองไป

ทั้งหมดนั่นมันอันใดกัน?

จู่ๆ อัจฉริยะขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอดสองคนจะร่วงลงไปที่พื้นได้อย่างไร?

จ้าวเฟิงไม่ทันได้ลงมือ อย่างมากก็ทำเพียง ‘เหลือบมอง’ ครั้งหนึ่ง

“วิชาดวงตา หนึ่งการมองทำให้พวกเขาร่วงจากกลางอากาศ”

ชื่อกุ้ยที่กำลังฟื้นตัวอยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเมื่อเห็นสถานการณ์

อัจฉริยะจากสำนักจิตวิญญาณจันทร์กระจ่างที่ไล่ตามไปอดที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าไปไม่ได้

“จ้าวเฟิง เจ้าฆ่าศิษย์สองคนจากสำนักจิตวิญญาณจันทร์กระจ่างของข้า หยูลั่วต้องถูกเจ้าวางแผนฆ่าเป็นแน่… เจ้าหลบซ่อนได้ล้ำลึกยิ่งนัก”

บนใบหน้าของเย่หยานหยูเต็มไปด้วยความเย็นชาราวกับจะมีน้ำแข็งเกาะ รูม่านตาหดเล็กลง จิตสังหารเย็นเยียบเข้มข้นแพร่กระจาย

หนึ่งการมองทำให้อัจฉริยะขั้นผู้วิเศษแท้สองคนต้องสูญเสียชีวิต นี่เป็นเรื่องที่ผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้ทั่วไปไม่อาจทำได้

จ้าวเฟิง คนผู้นี้ไม่เพียงปิดซ่อนพลังไว้ล้ำลึก อาจกล่าวได้ว่าเป็นหมาป่าที่ห่มหนังแกะอยู่

“ไอ้เด็กเวร ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนฆ่าหยูลั่วจริงๆ ข้าจะทำให้เจ้าพักผ่อนไปตลอดกาล”

ดวงตาทั้งสองข้างของหลี่หงแดงก่ำ นัยน์ตาราวกับจะถลนออกจากเบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ร่างของจ้าวเฟิงส่องประกายกระแสไฟฟ้าสีเขียวเข้มราวกับเทพแห่งอัสนี ผ้าคลุมเงาหยินพลิ้วไหว ความเร็วพลันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วนจากเดิม

เพียงในด้านของความเร็ว เมื่อเทียบกับหลี่หงที่มีพลังขั้นนายเหนือแท้ระดับสูงแล้วยังแตกต่างไม่มากนัก

ฟุ่บ

ในเสี้ยวพริบตา ร่างของจ้าวเฟิงที่เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าจำนวนมากก็ได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศ บางส่วนเป็นภาพลวงตา บางส่วนเป็นร่างเงา

ยามที่หลี่หงตามทัน เงาร่างสายฟ้าที่อยู่บริเวณนั้นก็หายไปแล้ว

ร่างจริงของจ้าวเฟิงหลบซ่อนอยู่ในผืนป่าอย่างไร้ร่องรอยใดๆ

“ดันปล่อยให้มันหนีไปเสียได้…”

ใบหน้าของหลี่หงเย็นเยียบ ภายใต้ความแค้นที่กัดกินใบหน้าของชายหนุ่มก็บิดเบี้ยวไปเล็กๆ

ทันใดนั้น ใกล้พื้นก็ได้ปรากฏเงาร่างพร่าเลือนของจ้าวเฟิงวิ่งหนีไปอย่างเงียบงัน

“ไอ้ตัวบัดซบ รีบตายซะ”

ความเคียดแค้นชิงชังในหัวใจของหลี่หงระเบิดออก ชายหนุ่มกระโจนตรงไปยังจ้าวเฟิง

ในยามนี้

ความรู้สึกของหลี่หงได้ถึงจุดเดือด ความเคียดแค้นบดบังสติ กระทั่งลืมเลือนถึงรากที่อยู่ใต้พื้น

เมื่อเห็นว่าหลี่หงเริ่มเข้าใกล้พื้น รากใต้ชั้นดินของปีศาจต้นไม้ก็เตรียมตัวลอบโจมตีอย่างเงียบงัน เป็นอันตรายที่ไม่อาจมองเห็น

“อันใดกัน หลี่หงเป็นเหมือนกับหยูลั่วก่อนหน้า จะถูกรากใต้พื้นนั่นฆ่าแล้ว”

“ก่อนหน้าหยูลั่วถูกความโลภบดบังสติ แต่หลี่หงถูกความเคียดแค้นกราดเกรี้ยวทับถมเหตุผล”

ศิษย์จากสามสำนักที่เฝ้ามองอยู่เบื้องหลังรู้สึกผิดปกติ

“หลี่หง ระวัง”

เย่หยานหยูที่ไล่ตามมาจากเบื้องหลังสีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ตวาดออกไป

เสียงของนางราวกับสายฟ้าที่ฟาดลง ดังก้องไปทั่วสมองของหลี่หง

มือขาวของเย่หยานหยูวาดออก วงแสงจันทร์เสี้ยวหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า จัดการร่างเงาของจ้าวเฟิงไป

แต่เดิม

ร่างนั้นเป็นเพียงร่างเงา

หลี่หงราวกับตื่นขึ้นจากความฝัน พบว่าตนเองอยู่ใกล้พื้นอย่างมาก กระทั่งเกือบจะเข้าไปในระยะการโจมตีของรากของต้นไม้ปีศาจแล้ว

ครืนน

รากไม้ส่วนหนึ่งพุ่งออกจากพื้นราวกับตั้งเวลาไว้ พุ่งตรงมายังร่างของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

หลี่หงตวาดเสียงดัง ร่างพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมด้วยประกายกระแสไฟฟ้าและวารี ใต้เท้าปรากฏวารีอัสนีสีฟ้าหม่นพุ่งขึ้น ร่างของคนกลับกลายเป็นสายฟ้า สั่นสะท้านรากของต้นไม้ปีศาจพร้อมกับทะยานขึ้นไปในชั้นเมฆ

ช่วงเวลาวิกฤต

หลี่หงใช้วิชาลับหลบรอดไปจากอันตราย

“เกือบไม่รอดแล้ว”

ในฐานะของผู้ที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ แผ่นหลังของชายหนุ่มเปียกโชกจากเหงื่อเย็นเยียบ รู้สึกหวาดผวา

“น่าเสียดาย… โอกาสดีแท้ๆ”

ในบริเวณมืดทึมของผืนป่า จ้าวเฟิงยืนนิ่งอยู่บนดินอย่างเงียบงันเป็นเวลานาน ท่าทีเสียดายอยู่บ้าง

เขาได้ใช้ ‘เนตรหัวใจวิญญาณ’ ในการล่อลวงหลี่หง ทว่ากลับถูกเย่หยานหยูมองออก

ในวินาทีนั้น เป็นเพราะจิตสังหารและความคลั่งแค้นของหลี่หงระเบิดออก จิตใจปรากฏช่องว่าง ทำให้ ‘เนตรหัวใจวิญญาณ’ ของจ้าวเฟิงสามารถแทรกซึมเข้าไปได้

หากไม่ใช่เพราะเย่หยานหยูตามมาทัน สำนักจิตวิญญาณจันทร์สลายคงต้องเสียอัจฉริยะขั้นนายเหนือแท้ระดับสูงไปอีกคนแล้ว

ที่แปลกประหลาดคือ

จ้าวเฟิงยืนอยู่บนพื้น ทว่ากลับไม่ถูกหอคอยพฤกษาปีศาจโจมตี

นัยน์ตางดงามของเย่หยานหยูเย็นเยียบ มองตรงไปยังตำแหน่งของจ้าวเฟิง

ชัดเจนว่าระดับจิตใจของนาง รวมทั้งในด้านอื่นๆ ล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งกว่าหลี่หง

จ้าวเฟิงเข้าใจถึงความน่าหวาดกลัวของเย่หยานหยู ร่างของเด็กหนุ่มพุ่งตรงไปยังหอคอยพฤกษาปีศาจอย่างรวดเร็ว

“อันใดกัน? เขาไม่ถูกสัตว์ประหลาดโจมตี?”

คิ้วดกดำของเย่หยานหยูมุ่นเข้าหากัน ไม่ไล่ตามเด็กหนุ่มไป

จ้าวเฟิงอยู่ในระยะการโจมตีของหอคอยพฤกษาปีศาจ ทว่ากลับไม่ถูกโจมตี คนอื่นๆ อาจจะไม่มี ‘สิทธิพิเศษ’ เช่นนี้

ฟุ่บ

ร่างของจ้าวเฟิงทะยานออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ไปถึงพุ่มไม้ของหอคอยพฤกษาปีศาจในที่สุด

“นี่มันเรื่องอันใดกัน… เหตุใดหอคอยพฤกษาปีศาจจึงไม่โจมตีเขา?”

“ไอ้หมอนี่น่ากลัวไม่ธรรมดาแล้ว”

อัจฉริยะจากสามสำนักอึ้งตะลึง มองจ้าวเฟิงปีนขึ้นไปบนร่างของหอคอยพฤกษาปีศาจอย่างง่ายๆ ด้วยความจนใจ

หอคอยพฤกษาปีศาจนั่นเรียกได้ว่าไม่สนใจเด็กหนุ่มตระกูลจ้าวแม้แต่น้อย

จ้าวเฟิงพลิ้วกายลงบนพุ่มไม้หนาของหอคอยพฤกษาปีศาจ ผงกศีรษะเล็กๆ”หอคอยพฤกษาปีศาจ ยามนี้เราคงต้องร่วมมือกัน”

ครืนนนน

ใบไม้บนกิ่งของหอคอยพฤกษาปีศาจสั่นสะท้าน ใช้การสั่นสะท้านของพลังจิตสร้างเสียง

“ยามที่เซียนจื่อเย่จะบอกว่ามีกำลังเสริม ข้าก็คิดว่าอย่างน้อยคงอยู่ในขั้นนายเหนือแท้ ไม่คิดว่าจะเป็นเด็กน้อยเช่นเจ้า เฮ้อ”

หอคอยพฤกษาปีศาจรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง

“หึหึ หอคอยพฤกษาปีศาจ หากข้าสามารถช่วยเจ้าไล่คนพวกนี้ออกไป และทำให้อาการบาดเจ็บของเจ้าฟื้นฟูขึ้นครึ่งหนึ่งได้ เจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”

จ้าวเฟิงแย้มยิ้ม

ชัดเจนว่าหอคอยพฤกษาปีศาจดูถูกกำลังเสริมคนนี้อยู่บ้าง

ทว่านี่เองก็เป็นเรื่องปกติ ระดับพลังฝึกตนของจ้าวเฟิงไม่เพียงพอ อย่างน้อยควรจะอยู่ในขั้นนายเหนือแท้เป็นอย่างน้อยจึงจะสามารถเข้ามาอยู่ในสายตาของหอคอยพฤกษาปีศาจได้

“คนกลุ่มนี้ ห้าคนเป็นผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้ ทั้งยังมีผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงอีกหลายสิบคน เพียงเจ้าตัวคนเดียวไม่เพียงแค่ไล่พวกมันไปได้ แต่ยังสามารถทำให้อาการบาดเจ็บของข้าฟื้นฟูขึ้นครึ่งหนึ่งได้? เจ้าเด็กน้อย เจ้าคงจะอวดดีเกินไปเสียหน่อย จึงได้ดูถูกการโจมตีจากพลังเซียน”

หอคอยพฤกษาปีศาจพึมพำ

“หยุด”

จ้าวเฟิงขัดอีกฝ่าย”หากข้าสามารถทำได้ เจ้าจะสามารถใช้ ‘แก่นแท้จิตวิญญาณพฤกษา’ ช่วยข้ารับรู้การฝึกตนได้หรือไม่”

“หึ หากเจ้าทำได้ก็เท่ากับช่วยให้ข้าข้ามผ่านภัยพิบัติไปได้ การใช้แก่นแท้จิตวิญญาณพฤกษาของข้าสักหนึ่งหรือสองส่วนช่วยเจ้าฝึกฝนจะมีปัญหาอันใด?”

หอคอยพฤกษาปีศาจตกลงอย่างไม่ลังเล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version