Skip to content

King of Gods 623

King Of Gods

บทที่ 623 ถอนกำลัง

เนตรพิฆาตที่แข็งแกร่งมากขึ้น ไม่ว่าจะความยาว ความกว้าง หรือความสูง เมื่อเปรียบกับยามอดีตแล้วล้วนแต่มีพัฒนาการเพิ่มขึ้น

จุดที่น่ากลัวที่สุดของ ‘เนตรพิฆาตผ่านอากาศ’ อยู่ที่จู่ๆ มันก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วใช้การเคลื่อนย้ายมิติย้ายการโจมตีไปยังจุดที่กำหนดไว้

ต่อให้ในจุดที่กำหนดมีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ก็ยังรวมเข้าไปได้

วิธีการโจมตีเช่นนี้ทำให้ยากจะหลบหลีกได้ การป้องกันภายนอกร่างกายไม่มีประโยชน์ใด

“เจ้าหนุ่ม…” ช่วงตั้งแต่เอวลงไปขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดโดนตัดจนขาด จึงโมโหเกี้ยวกราดกว่าเดิม

องครักษ์แห่งความตายที่มีร่างเงามรณะ ต่อให้ร่างกายท่อนล่างโดนตัดออกไป ก็ไม่เป็นอุปสรรคใดในเวลาสั้นๆ เพียงแค่พลังรบจะลดลงไปส่วนหนึ่ง

“เพลิงเนตรล้างผลาญ!” จ้าวเฟิงเตรียมพร้อมนานแล้ว เขาเปิดเนตรพลังสายเลือดดวงตาทั้งหมด ระเบิดการโจมตีเป็นครั้งที่สอง

โครม ตูม!

เพลิงเนตรสีม่วงกึ่งโปร่งแสงที่โหมกระหน่ำเสียงดังโครมคราม เป็นดุจลูกไฟขนาดใหญ่ซึ่งขยายออกหลายสิบจั้ง แล้วสาดซัดกลิ่นอายทำลายล้างที่น่าตื่นตกใจ

หลังจากขึ้นไปถึงขอบเขตแก่นก่อกำเนิด ภายในใจกลางแก่นก่อกำเนิดจะสร้างเปลวเพลิงที่อยู่ในระดับขั้นสูงยิ่งไปกว่านั้น

เปลวพลิงของจ้าวเฟิงส่งผลต่อธาตุของปราณที่แท้จริง ดังเช่น ‘เปลวเพลิงพิฆาตสีม่วง’ ก็แฝงไปด้วยธาตุวายุอัสนีกับพลังเสวียนอ้าวทำลายล้าง

“แย่แล้ว!”

ร่างเงาขององครักษ์แห่งความตายบินฉวัดเฉวียนหลบหลีกอย่างว่องไว แต่ความเร็วในการโจมตีของสายเลือดดวงตาว่องไวอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ปกติยากนักที่จะหลบหลีกได้

หากจะพูดถึงพลังทำลายล้าง พลังของเพลิงเนตรล้างผลาญแข็งแกร่งกว่าเนตรพิฆาตบริสุทธิ์เสียอีก แต่เพลิงเนตรล้างผลาญมีร่องรอยการเคลื่อนไหว ความเร็วระดับองครักษ์ที่ยี่สิบแปดจึงยังสามารถหลบไปได้

“เหอะ!” มุมปากของจ้าวเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ

วูบ!

เพลิงเนตรล้างผลาญของจ้าวเฟิงสะเทือนเลือนลั่นในอากาศ เปลี่ยนเส้นทางโจมตีไปยังร่างกายเบื้องล่างแทน

เปรี๊ยะ ครืน!

ในชั่วพริบตา ร่างกายครึ่งล่างที่ถูกตัดขาดขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดโดนเพลิงเนตรเผาผลาญอย่างรุนแรง เสียงระเบิดโครมคราม

“ร่างกายของข้า…” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดร้องเสียงหลง เบิกตามองร่างกายช่วงล่างของตนโดน ‘เพลิงเนตรพิฆาต’ เผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

ถึงแม้ร่างเงามรณะจะมีสภาวะไม่สูญสลาย แต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะทั้งหมด ร่างกายที่แยกออกจะสูญเสียพลังหนุนและการป้องกัน เมื่อเจอเพลิงเนตรล้างผลาญจึงไม่มีแรงต้านทานใดๆ

“ร่างกายครึ่งเดียวของเจ้าในตอนนี้จะทนประลองไปได้อีกสักเท่าไหร่” จ้าวเฟิงยิ้มเย็น

ด้วยเพราะความเร็วในการเคลื่อนกายขององครักษ์แห่งความตาย เขาจึงเล็งเป้าหมายไปที่จุดสำคัญได้ยาก ทำได้เพียงเพิ่มขนาดของเนตรพิฆาตแล้วตัดร่างกายบางส่วนไป

เพลิงเนตรล้างผลาญเมื่อครู่ ความจริงแล้วเล็งไว้แค่ร่างกายท่อนล่างที่ขาดไปขององครักษ์แห่งความตาย

ถ้าหากมุ่งไปที่ลำตัวคงยากจะทำลายร่างกายได้อย่างแท้จริง

“ผู้เยาว์ ข้าจะจัดการเจ้าให้กลายเป็นผุยผงที่นี่…”

องครักษที่ยี่สิบแปดไหนเลยจะเคยโดนเหยียดหยามเช่นนี้ ลำแสงในมือรวมตัวเป็น ‘เคียวมรณะ’ อีกครั้ง ร่างเงามรณะท่อนบนตรงดิ่งเข้าหาจ้าวเฟิง

ในครั้งนี้ เขาเปลี่ยนกลยุทธ์มาใช้ ‘เคียวมรณะ’ โจมตีใส่สิ่งของที่เป็นรูปธรรมเป็นหลัก แล้วใช้วิธีการโจมตีในระยะประชิด

“ระบำเคียวมรณะ!” ดวงตาขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดฉายแววบ้าคลั่ง ‘เคียวมรณะ’ ในมือเรียกเอาเงาเคียวที่เย็นยะเยือกออกมา ลำแสงหนาวเหน็บกับกลิ่นอายความตายที่รุนแรงทำให้ไม่มีอะไรเล็ดลอดเข้าไปได้

ตูม! ตูม! ตูม!

เศษเสี้ยวเงาวายุอัสนีที่แบ่งร่างไปทั่วทิศทางของจ้าวเฟิง ระเบิดเป็นผุยผงอย่างรวดเร็วจากการโจมตีของระบำเคียวมรณะ

“ซวยล่ะ!”

ในยามที่เผชิญหน้ากับการโต้กลับขององครักษ์แห่งความตาย จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันตรายจากพลังมรณะอีกครั้ง

พูดตรงๆ ก็คือ พลังระหว่างเขาและองครักษ์แห่งความตายยังห่างชั้นกันมาก

ก่อนหน้านี้ การโจมตีของ ‘เคียวมรณะ’ ประกอบไปด้วยพลังโจมตีดวงวิญญาณเจ็ดส่วน โจมตีร่างกายภายนอกสามส่วน

ถึงจะเป็นเช่นนั้น การโจมตีในภายนอกจำนวนสามส่วนนั้นก็ทำให้จ้าวเฟิงบาดเจ็บได้ และเพิ่งจะฟื้นฟูหายกว่าครึ่งในตอนนี้

แต่ในครั้งนี้ การโต้กลับขององครักษ์แห่งความตายใช้ ‘เคียวมรณะ’ ซึ่งโจมตีสามส่วนของดวงวิญญาณเล็งเป้าหมายไว้ที่จ้าวเฟิง การโจมตีร่างกายภายนอกอีกเจ็ดส่วนมีไว้ทำร้ายร่างกายของเขา

สามารถพูดได้ว่า การคุกคามโจมตีในครั้งนี้มากกว่าคราวก่อนถึงหนึ่งเท่า

“เนตรจิตวิญญาณเหมันต์!” ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจึงกระตุ้นพลังจิตวิญญาณเหมันต์อีกครั้ง เพื่อจำกัดการโต้กลับขององครักษ์แห่งความตาย

ปีกวายุอัสนี!

เบื้องหลังของจ้าวเฟิงเกิดก้อนพลังที่เกาะกลุ่มกันเป็นปีกวายุอัสนี ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการใช้พลังวายุอัสนีเข้ามาช่วย

แซ่ด พรึ่บ!

เมื่อปีกวายุอัสนีบนหลังของจ้าวเฟิงสะบัดอย่างรวดเร็ว ความเร็วเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด

ระดับความเร็วในเวลานี้ของเขามากกว่ายอดผู้สูงศักดิ์บางส่วนไปแล้ว

“ช้าก่อน!” องครักษ์แห่งความตายไม่อาจตามจ้าวเฟิงทันในเวลาอันสั้นแน่นอน

หนึ่งคือ เขาโดนตัดขาทั้งสองข้างทิ้งไปแล้ว พลังรบและความเร็วจึงถูกจำกัดไว้ทั้งหมด

สองคือ เนตรจิตวิญญาณเหมันต์ของจ้าวเฟิงก็ยังคงตรึงเป้าหมายมาที่เขาอยู่

ในวินาทีเดียวกันนั้น

บนเรือมังกรทอง องครักษ์ที่สิบเก้าที่ใช้ ‘หัตถ์สยบวิญญาณ’ ควบคุมครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามคนไว้

ดวงวิญญาณของครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามสาดซัดพลังปราณเทวะที่ยิ่งใหญ่มหาศาล พลังที่ไร้รูปร่างทำให้ในรัศมีครึ่งลี้กลายเป็นสูญญากาศ แม้แต่ยอดผู้สูงศักดิ์ก็ไม่อาจเข้าใกล้

“ยังพอทนต่อไปได้อย่างมากก็สามสิบช่วงลมหายใจ องครักษ์ที่ยี่สิบแปดยังไม่จัดการเป้าหมายอีกหรือ?”

องครักษ์ที่สิบเก้ารู้สึกกดดันไม่น้อย ด้วยเขาใช้พลังของตนเพียงคนเดียวประมือกับครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสาม

ครึ่งก้าวสู่ราชันผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามนี้มาจากสำนักใหญ่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

ส่วนองครักษ์ที่ยี่สิบห้าซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งก็ไม่ได้สบายไปกว่ากันนัก

เขาเพียงคนเดียวต้องรับมือกับยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงช่วงปลายและช่วงสุดยอด จึงเป็นการต่อสู้ที่หนักเอาการ

หางตาขององครักษ์ทั้งสองมองไปอีกทางหนึ่ง ทันที่เห็นคนทั้งสองก็ตกใจจนใจเต้นรัว

ในบริเวณที่จ้าวเฟิงและองครักษ์ที่ยี่สิบแปดต่อสู้กันอยู่มีเงาเหมือนสายฟ้าพัวพันกันไปมา

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดสภาพน่าอนาถเป็นอย่างมาก ขาทั้งสองข้างถูกทำลายไป เหลือเพียงร่างครึ่งบนเท่านั้นโจมตีกลับเพื่อเอาชีวิตรอด

“ข่าวสารผิดพลาด! เป้าหมายสังหารทะลวงผ่านขึ้นไปยังขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงกลางแล้ว และมีพลังรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้…” สององครักษ์แห่งความตายใจหนักอึ้ง

จากข้อมูลที่ส่งมาจากองครักษ์ที่สามสิบสาม เป้าหมายสังหารฝึกตนอยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิด ถ้าหากไม่ใช่เพราะความกังวลที่ต้องระวังหลายอย่าง ไม่ว่าองครักษ์ความตายคนใดก็สังหารเขาได้อย่างสบายๆ

“ระบำเคียวมรณะ!” เคียวมรณะในมือองครักษ์ที่ยี่สิบแปดเริงระบำ รวมตัวกันเป็นพายุใบมีดทมิฬขนาดหลายสิบจั้งไล่สังหารจ้าวเฟิง

สวบ! แซ่ด แซ่ด!

ปีกวายุอัสนีของจ้าวเฟิงขยับอย่างรวดเร็ว ไม่อาจจะต้านพลังอย่างจังได้

ผู้ที่เฝ้าดูในบริเวณรอบๆ มองออกว่าจ้าวเฟิงกำลังหลบหลีกอ้อมหนีองครักษ์แห่งความตาย

องครักษ์แห่งความตายที่เหลือเพียงท่อนบนบาดเจ็บอย่างหนักหนาสาหัส ความเร็วจึงมีเพียงจำกัด เมื่อเวลาผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พลังรบก็ลดลงไม่หยุด

“ขอแค่ทนให้ได้ถึงชั่วเวลาจิบชาครึ่งถ้วยเท่านั้น ความเร็วและพลังรบขององครักษ์แห่งความตายผู้นี้ก็จะลดลงไปครึ่งหนึ่ง” จ้าวเฟิงรู้ว่ายิ่งยืดเวลาไปได้นานเท่าไหร่ โอกาสชนะก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ในจุดนี้องครักษ์ที่ยี่สิบแปดจะไม่รู้ได้อย่างไร? เขายิ่งรู้ได้แน่ชัด ฟากองครักษ์ที่สิบเก้าซึ่งจัดการครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามคนเพียงคนเดียวไม่อาจแบกรับได้เป็นเวลานาน

“ตายซะ!” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดตะโกนเสียงก้อง เคียวมรณะที่ร่ายรำเป็นภาพมายาหลุดลอยออกจากมือ ตรงดิ่งไปทางจ้าวเฟิงพร้อมพายุหมุนคมมีดสีดำ

วูบ โครม….

ลมพายุคมมีดมรณะที่น่าสะพรึงกลัวหมุนคว้างโดยมีเคียวมรณะเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วส่งแรงกดอยู่เหนือศีรษะ

“ไม่ได้การ!” จ้าวเฟิงโดนเคียวมรณะเล็งเป้าหมายเหมือนดังครั้งก่อน ไม่อาจหลบหลีกได้แม้แต่น้อย อีกทั้งมันยังแหวกอากาศพุ่งโจมตีมาด้วยความเร็วยิ่ง!

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง

แต่องรักษ์ที่สิบเก้าและยี่สิบห้าที่อยู่อีกฝั่งกลับหน้าเปลี่ยนสี

“ต้องเหลือส่วนศีรษะที่สมบูรณ์ไว้!”

คำสั่งล่าสังหารในครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา จักรพรรดิแห่งความตายได้กำชับเอาไว้ จะให้ดีที่สุดต้องจับเป็นและเอาทั้งร่างมา

ต่อให้อย่างไรก็ต้องเหลือส่วนศีรษะที่ครบถ้วนเอาไว้

เพราะจักรพรรดิแห่งความตายต้องการจะแย่งชิง ‘เนตรเทพเจ้าประเภทที่เก้า’ นั่นมา

จ้าวเฟิงตกลงไปภายในวงล้อมการโจมตีของ ‘ระบำเคียววิญญาณ’ กำลังจะโดนแยกเป็นชิ้นๆ

“ถึงเป็นสายเลือดวารีก็ยากจะป้องกันได้ นอกเสียจากว่าจะใช้ ‘จิตวิญญาณเทพวารี’ ทว่า…”

ห้วงความคิดของจ้าวเฟิงหมุนวนไปมา

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้ใช้จิตวิญญาณเทพวารี ถึงขนาดไม่มีเจตนาจะใช้สายเลือดวารีป้องกันร่างตนเสียด้วยซ้ำ

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องไปที่เคียวมรณะที่อยู่ในใจกลางลมพายุใบมีดสีดำ

โครม ผัวะ!

ลมพายุคมมีดมรณะที่น่ากลัวแตกกระจายในทันทีเหมือนสูญเสียแรงกำลังหลักไป

“อะไรกัน!”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดเพ่งสายตามอง

จ้าวเฟิงเองก็ไม่ได้ขยับตัวหนี ลมพายุใบมีดทมิฬนั้นทันทีที่เข้าใกล้เขาก็แตกกระจายไปในทันที

แรงกระเพื่อมของพลังดวงตาครอบคลุมทั่วบริเวณนั้นอยู่เลือนราง

“หรือว่าจะเป็น…แย่ล่ะ!” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดพลันคิดอะไรขึ้นได้ หัวใจเต้นระรัว

 

เขานึกถึงข่าวสารที่องครักษ์ที่สามสิบสามส่งมา เป้าหมายล่าสังหารมีวิชา ‘เคลื่อนย้ายมิติ’ ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือการโจมตีผ่านมิติได้

รีบไป!

สีหน้าขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดซีดขาว ร่างเงาสว่างวาบอย่างรวดเร็ว

เขาแน่ใจอย่างยิ่งว่าพลังของ ‘เคียวมรณะ’ มีความเป็นไปได้หลายส่วนที่จะปลิดชีพครึ่งก้าวสู่ราชัน

แต่ทว่าในระหว่างที่รอ การโจมตีจากการเคลื่อนย้ายมิติก็ยังมาไม่ถึงเสียที

หืม?

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดรู้สึกพิศวงนัก เขาสัมผัสได้ถึงแรงกระเพื่อมของพลังในอากาศ พลังกลุ่มก้อนนี้เอาพลังของ ‘เคียวมรณะ’ ไป มิฉะนั้นลมพายุคมมีดก็คงไม่แตกกระสานซ่านเซ็นแบบนี้

“เจ้าโง่! เจ้าคิดว่าข้าย้ายการโจมตีนี้ไปทำร้ายร่างที่เหลือเพียงเศษซากของเจ้างั้นหรือ?”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเผยแววเหยียดหยาม เอ่ยเจือเสียงหัวเราะเยาะ

ยังไม่ทันจบคำ

“อ๊าก!” ด้านบนของเรือมังกรทองมีเสียงร้องโหยหวน

วูบ โครม!

‘เคียวมรณะ’ ที่อบอวลไปด้วยปราณมรณะทะลวงออกจากภายในร่างขององครักษ์ที่สิบเก้า

“องครักษ์ที่ยี่สิบแปด เจ้าโง่…”

องครักษ์ที่สิบเก้าซึ่งกำลังรับมือครึ่งก้าวสู่ราชันสามคนร่างกายสั่นสะท้าน กรีดร้องโหยหวน

ที่แท้จ้าวเฟิงจัดแจงเอา ‘เคียวมรณะ’ ย้ายเข้าไปในร่างของ ‘องครักษ์ที่สิบเก้า’ ผู้แข็งแกร่ง

ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ปกติธรรมดา ด้วยพลังประสาทสัมผัสที่แข็งกล้าขององครักษ์ที่สิบเก้า กระบวนท่านี้ไม่อาจได้ผลเป็นแน่

แต่ว่าตอนนี้เขากำลังประมือกับครึ่งก้าวสู่ราชันสามคน ต่อให้เขาสัมผัสได้ก็ไม่อาจหลบหลีกได้ทันอยู่ดี

“โอกาสดีมาแล้ว!”

ครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามตื่นตะลึงเล็กน้อย สีหน้าฉายแววยินดี พลังปราณเทวะทั้งสามเส้นสายที่สั่นสะท้านระดับชั้นดวงวิญญาณทำลาย ‘หัตถ์สยบวิญญาณ’ จนสิ้น

อ๊าก!

องครักษ์ที่สิบเก้าที่โดนโต้กลับ กระอักเลือดออกมา ดวงวิญญาณก็ได้รับบาดเจ็บ

“สังหาร!” ครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามวิญญาณกลับสู่สภาวะปกติ แล้วจะยังออมมือให้ได้อย่างไร พวกเขาปลดปล่อยเคล็ดวิชาสังหารที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตล้อมรอบสังหารองครักษ์ที่สิบเก้า

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดประหนึ่งตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง ใบหน้าดำคล้ำเมื่อเผชิญสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จ้าวเฟิงระบายยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ฉวยโอกาสนี้ตามไล่สังหารต่อ เพราะความจริงแล้วพลังดวงตาและพลังวิญญาณของเขาสูญสลายไปมาก

ขนาด ‘เคียวมรณะ’ นั้นใหญ่กว่าเนตรพิฆาตหลายเท่านัก เมื่อเป็นเป้าหมายของการย้ายมิติจึงสูญเสียพลังไปมากมาย

ในเวลาดังกล่าว จ้าวเฟิงทำได้อย่างมากก็เพียงแค่ปล่อยเนตรพิฆาตออกมาได้อีกครั้งหนึ่ง จึงยากจะปลิดชีพองครักษ์แห่งความตายที่ยี่สิบแปดซึ่งมีร่างเงามรณะได้

เขายังพอมีพลังตาดวงตาเหลืออยู่จำนวนหนึ่งเพื่อรับมือหากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้น

“ถอนกำลัง!”

บนเรือมังกรทอง ร่างกายและจิตใจขององครักษ์ที่สิบเก้าได้รับบาดเจ็บ เมื่อโดนครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามเข้าจู่โจมจึงถ่ายทอดคำสั่งลงไปในทันใด

ครึ่งก้าวสู่ราชันทั้งสามมาจากสำนักที่แข็งแกร่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อาวุธสังหารที่แข็งแกร่งมีพร้อม อาจจะทำร้ายองครักษ์ที่สิบเก้าจนถึงแก่ชีวิตได้

“ถอย!”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดเหมือนเหมือนยกภูเขาออกจากอก ร่างกายที่บาดเจ็บสร้างเงามายาของตนจำนวนนับร้อยนับพัน ก่อนจะคุ้มกันองรักษ์แห่งความตายทั้งสองคนแหวกอากาศหนีไป

“ไปตามจับมา! ทำร้ายศิษย์ของสำนักข้า ต่อให้เป็นบริวารของ ‘จักรพรรดิแห่งความตาย’ พวกเราก็จะไม่ปล่อยไว้”

ผู้เฒ่าหลี่เคราขาวใบหน้าเย็นยะเยือกอำมหิต คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version