Skip to content

King of Gods 622

King Of Gods

บทที่ 622 เนตรพิฆาตที่แข็งแกร่งขึ้น

“วงแหวนวายุอัสนี!”

ระหว่างที่จ้าวเฟิงโบกมือ วงแหวนวายุอัสนีพิฆาตซึ่งเป็นการโจมตีเน้นอาณาเขตก็ทำลายร่างแยกจำนวนมากขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดได้สำเร็จ ถ้าหากเป็นก่อนทะลวงถึงขอบเขตแก่นก่อกำเนิด กระบวนท่าเดียวกันของจ้าวเฟิงอาจยากที่จะทำลายร่างแยกของเงามรณะใดๆ ได้  เนื่องจากร่างแยกเหล่านั้นมีการโจมตีและการคุ้มกันระดับใกล้ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง

“พลังทำลายล้าง…พลังจากแหล่งกำเนิดขั้นสูงที่ทัดเทียมกับพลังมรณะได้”

เห็นได้ชัดว่าองครักษ์ที่ยี่สิบแปดไม่ได้คาดคิดเลยว่าวายุอัสนีพิฆาตและเสวียนอ้าววายุอัสนีของจ้าวเฟิงจะน่าสะพรึงขวัญเช่นนี้ กลิ่นอายทำลายล้างที่แฝงอยู่ภายในนั้นทำให้เขาเกิดความรู้สึกหวาดกลัว

ในผืนพสุธาแห่งนี้มีแปดเนตรเทพเจ้า

ภายในนั้นมีเนตรมรณะที่เกี่ยวข้องกับความตาย แล้วยังมีเนตรดับสูญด้วยเช่นเดียวกัน

จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า เสวียนอ้าวทำลายล้างที่แฝงอยู่ในวายุอัสนีพิฆาตสีม่วง ระดับที่สูงส่งของมันโดดเด่นอยู่เหนือพลังจำนวนมาก

ในตอนนี้

จ้าวเฟิงศึกษาพื้นฐานวายุอัสนีทำลายล้างจนปรุโปร่งหมดสิ้น และเพราะปราณที่แท้จริงของใจกลางแก่นก่อกำเนิดดูดซึมกลิ่นอายห้วงฝันบรรพกาลไปมหาศาล ทำให้ไม่ว่าจะแก่นของพลังวายุอัสนีหรือว่ากลิ่นอายทำลายล้างล้วนแต่อยู่เหนือจักรพรรดิวายุอัสนีในช่วงเวลาเดียวกัน

“เคียวมรณะ!”

 

ใจกลางฝ่ามือขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดรวมตัวกันเป็นเคียวที่เต็มไปด้วยปราณมรณะ พร้อมลำแสงเหมันต์เย็นยะเยือก

ในวินาทีที่เคียวมรณะปรากฏขึ้น ยอดฝีมือจำนวนมากภายในรัศมีร้อยลี้สั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็นจากดวงวิญญาณ

ความรู้สึกเช่นนั้นเป็นประหนึ่งว่าดวงวิญญาณตกลงไปภายในพื้นธารหิมะที่หนาวเหน็บ เหมือนดั่งแกะที่ถูกเชือด

ระดับชั้นวิญญาณของจ้าวเฟิงมีกลิ่นอายเหมันต์อันตรายอย่างหนึ่งแผ่กระจายมา

‘เคียวมรณะ’ ขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดมีความคล้ายคลึงกับ ‘หัตถ์สยบวิญญาณ’ ขององครักษ์ที่สิบเก้า ซึ่งตรงดิ่งไปทำลายชั้นวิญญาณโดยตรง

“สังหาร!” ในวินาทีที่เคียวมรณะปรากฏขึ้นก็เล็งเป้าหมายไปที่ดวงวิญญาณของจ้าวเฟิง

โครม…

เคียวเย็นยะเยือกที่เต็มไปด้วยปราณมรณะพุ่งผ่านอากาศเป็นเส้นกึ่งโปร่งแสงในทันที

ดวงวิญญาณและร่างกายของจ้าวเฟิงฉับพลันหนาวเหน็บขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงวิญญาณซึ่งมีความรู้สึกประหลาดคล้ายโดนทิ่มแทง

โครม ตูม!

แทบจะไม่มีโอกาสได้หลบหลีก เคียวมรณะนั้นฟันฉับลงไปบนร่างของจ้าวเฟิงแล้ว

ในช่วงเวลาความเป็นความตายนั้นเอง

ผลัวะ~

ผิวกายของจ้าวเฟิงล้อมรอบด้วยระลอกกำแพงวารีสีฟ้าเข้มใสสว่าง ครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งร่าง

เมื่อมองไปแล้วเหมือนร่างกายของเขาอยู่ในทะเลสาบลึกล้ำ การโจมตีที่มาจากภายนอกราวกับโยนหินลงไปในมหาสมุทร ขนาดลำแสงของ ‘เคียวมรณะ’ ยังซีดลงไปเกินกว่าครึ่งหลังจากฟันลงไปบนร่างของจ้าวเฟิง

วิ้ง!

ลำแสงวารีสีฟ้าเข้มบนร่างของจ้าวเฟิงอ่อนแสงลงแล้วสั่นไหวยวบยาบ ก่อนจะปรากฏเป็นรอยปริร้าว

พลังโจมตีจากองครักษ์ที่ยี่สิบแปดแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว

สายเลือดวารีเช่นนี้ของจ้าวเฟิงสามารถต้านทานการโจมตีของยอดผู้สูงศักดิ์สองสามคนได้อย่างสบายๆ แต่กลับไม่อาจต้านทานเคียวมรณะได้

“เหอะ! พลังที่แฝงอยู่ใน ‘เคียวมรณะ’ เป็นการโจมตีดวงวิญญาณถึงเจ็ดส่วนเชียว”

มุมปากขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดผุดยิ้มเยาะ

สามารถพูดได้ว่า สายเลือดวารีของจ้าวเฟิงสลายได้แค่การโจมตีสิ่งมีชีวิตมากกว่าครึ่ง แต่การโจมตีดวงวิญญาณเจ็ดส่วนกลับไม่สามารถต้านทานได้

โครม!

เงาเคียวสีดำสนิทสาดกลิ่นอายมรณะระดับสูงออกมา แล้วทะลวงเข้าไปภายในชั้นดวงวิญญาณของจ้าวเฟิง

โครม ผัวะ!

ดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทะเลสาบพลังดวงตาห้าหกสิบจั้งในมิติดวงตาซ้ายกระเพื่อมอย่างบ้าคลั่งเมื่อเคียวมรณะฟันลงมา

“อั่ก…” ร่างกายของจ้าวเฟิงแข็งทื่อขณะส่งเสียงฟึดฟัดออกมา

 

ยังไม่ต้องพูดถึงการโจมตีในระดับขั้นดวงวิญญาณ เพียงแต่การโจมตีที่มากับ ‘เคียวมรณะ’ ก็ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและการกัดกร่อนอย่างมากต่อระบบการทำงานของอวัยวะแล้ว

“ใช้การโจมตีทางวิญญาณจากพลังมรณะที่รวมตัวเป็นรูปร่าง ตรงดิ่งไปสังหารดวงวิญญาณของเป้าหมาย…”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงฉายแววดิ้นรนขัดขืน บนร่างของเขามีรอยเลือดจากการโดนเคียวบาด กลิ่นอายมรณะตรงเข้ากัดกร่อนร่างกาย ต่อให้เป็นสายเลือดวารีก็ทำได้เพียงรักษาอาการบาดเจ็บอย่างเชื่องช้า

“เจ้าหนุ่ม…ได้ตายภายใต้ ‘เคียวมรณะ’ ก็ถือเป็นเกียรติของเจ้าแล้ว” ใบหน้าองครักษ์ที่ยี่สิบแปด ปรากฏรอยยิ้มของผู้ชนะ

หากพูดถึงเรื่องพลัง เขาแข็งแกร่งกว่าองครักษ์ที่สามสิบสามไม่น้อย

กระบวนท่า ‘เคียวมรณะ’ นี้ของเขา ต่อให้เป็นครึ่งก้าวสู่ราชันก็มีโอกาสถูกสังหารถึงสี่ห้าส่วน

วิชาต้องห้ามด้านวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างองครักษ์ยี่สิบแปด ในวันหนึ่งยังสามารถใช้ได้เพียงแค่สี่ห้าครั้งเท่านั้น

“เหอะ!”

เสียงเย็นชาที่บาดลึกเข้าไปในชั้นดวงวิญญาณ ทำให้รอยยิ้มขององครักษ์แห่งความตายแข็งค้าง

เนตรจิตวิญญาณเหมันต์!

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงปลดปล่อยลำแสงเหมันต์สีฟ้าน่าสะพรึงกลัวออกมา พลังจิตวิญญาณเหมันต์ที่สูงส่งครอบคลุมทั่วร่างขององครักษ์แห่งความตาย

“ยัง…ยังไม่ตาย?”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดจิตใจเย็นชืด สตินึกคิดเหมือนโดนแช่แข็ง ทุกอริยาบทเชื่องช้าลง

ในครรลองสายตา

บุรุษหนุ่มเย็นชามีเรือนผมสีน้ำเงินเข้มเหมือนมหาสมุทร ดวงตาซ้ายเป็นประหนึ่งบ่อน้ำลึกเย็นยะเยือก

“แค่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดจึงมีชีวิตรอดจาก ‘เคียวมรณะ’ ได้?”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดตกใจจนตัวเย็นวาบ ปฏิกิริยาที่ตอบโต้เห็นได้ชัดว่าช้ากว่ายามปกติมาก

“เหอะเหอะ…โจมตีดวงวิญญาณ?” มุมปากของจ้าวเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ หลังจากเขาหลอมรวมกับดวงตาเทพเจ้าแล้ว ตั้งแต่นั้นมายังไม่เคยเสียเปรียบในชั้นดวงวิญญาณเลยสักครั้ง ต่อให้เป็นสถานการณ์ที่พลังต่างกันมากมายก็ตาม

ผัวะ~

มิติดวงตาซ้าย ใจกลางทะเลสาบพลังดวงตา กระแสน้ำวนลี้ลับที่ไร้รูปร่างได้เข้ามาควบคุมจุดนั้นทั้งหมด

เคียวมรณะไร้รูปร่างถูกดูดซึมไปจนหมดสิ้น วิญญาณของจ้าวเฟิงไม่มีอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว

“เป็นไปไม่ได้! ต่อให้เป็นครึ่งก้าวสู่ราชันก็ไม่มีทางที่จะไม่บาดเจ็บเลย…”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดใบหน้าแข็งทื่อ สีหน้าแปลกใจและสงสัยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เคียวมรณะมีพลังโจมตีในชั้นดวงวิญญาณเจ็ดส่วน ชั้นกายเนื้อสามส่วน

แต่ทว่า ถึงแม้จ้าวเฟิงรอดพ้นจากการโจมตีเจ็ดส่วนในชั้นวิญญาณ แต่พลังโจมตีกายเนื้ออีกสามส่วนที่เหลือซึ่งเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังมรณะ กลับส่งผลร้ายต่อร่างกายของเขาอยู่หลายส่วน

แต่สภาวะวิญญาณของจ้าวเฟิงถึงขีดสุดของขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงแล้ว ทั้งยังแฝงด้วยกลิ่นอายบรรพกาล จึงไม่ได้ถูกทำร้ายหนัก

“เนตรพิฆาตผ่านอากาศ!”

ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงทะลักแรงกระเพื่อมพลังดวงตาที่ยิ่งใหญ่ แสงแหลมคมเย็นยะเยือกของกลิ่นอายทำลายล้างสีม่วงสว่างวาบก่อนพุ่งทะยานออกมา

แย่ล่ะ!

ใจขององครักษ์ยี่สิบแปดเต้นระรัว นึกถึงสาเหตุที่ทำให้องครักษ์ที่สามสิบสามพ่ายแพ้ไป

องครักษ์สามสิบสามมีร่างเงามรณะ ขอเพียงแค่ดวงวิญญาณยังไม่สูญสลายก็ยังคงสามารถฟื้นฟูร่างเงามรณะได้ใหม่อีกครั้ง

รายละเอียดที่เกี่ยวข้องของเป้าหมายสังหารเช่นจ้าวเฟิง องครักษ์สามสิบสามได้ส่งมอบให้กับองครักษ์แห่งความตายคนอื่นๆ แล้ว

ในส่วนเนตรพิฆาตผ่านอากาศ องครักษ์ที่ยี่สิบแปดก็เคยได้ยินมาบ้าง

เขาเพิ่งเตรียมจะหลบหลีก ก็กลับพบว่าความคิดและการเคลื่อนตัวช้ากว่าปกติไปไม่น้อย

ในวันนี้ วิญญาณของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งคงสภาพอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พลังสายเลือดดวงตาอยู่เหนือกว่าในยามก่อนมากนัก เห็นได้ชัดเลยว่า ‘เนตรจิตวิญญาณเหมันต์’ จำกัดความเร็วในการโต้ตอบและปฏิกริยาตอบสนองขององครักษ์แห่งความตายไว้

โครม สวบ!

คมมีดไร้เงาขนาดสามฉื่อซึ่งผุดกลิ่นอายพิฆาตสีม่วงน่าสะพรึง ทะลวงออกมาจากภายในร่างขององครักษ์แห่งความตายที่ยี่สิบแปด

“อั่ก…” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดพยายามหลบหลีกสุดแรง แต่ก็ทำได้เพียงแค่หลบไม่ให้โดนเนตรพิฆาตทะลุกลางหัวใจเท่านั้น

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น

เนตรพิฆาตที่ทะลวงออกมาจากภายในร่างก็ยังมีพลังพิฆาตที่ทำลายอวัยวะสำคัญภายใน และส่งผลไปถึงส่วนของหัวใจด้วย

อีกทั้งวายุอัสนีพิฆาตสีม่วงของจ้าวเฟิงในวันนี้ฝึกฝนจนใกล้จะถึงสิบส่วนแล้ว พลังเสวียนอ้าวทำลายล้างที่แฝงอยู่ในเนตรพิฆาตก็แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัว

“อีกนิดเดียวเท่านั้น”

จ้าวเฟิงเพิ่งจะเตรียมกระตุ้นเนตรพิฆาตครั้งที่สอง

ตอนนี้พลังดวงตากับพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมั่นคง อยู่เหนือกว่าขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง และมากพอที่จะแบกรับการเรียกใช้เนตรพิฆาตได้กว่าสิบครั้ง

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดแบ่งร่างออกเป็นเงามรณะนับร้อยนับพัน ร่างแยกเงามรณะมีส่วนหนึ่งทับซ้อนอยู่กับร่างจริง แล้วส่งร่างเงาอีกส่วนหนึ่งไปโจมตีจ้าวเฟิง

“วายุอัสนีร้อยเงา!”

จ้าวเฟิงหัวเราะเย้ยเยาะ ดวงตาซ้ายมองเสวียนอ้าวของร่างแยกองครักษ์ที่ยี่สิบแปดจนทะลุปรุโปร่ง ทั้งร่างกายสาดกลุ่มพายุและอัสนีบาตสีม่วงเจิดจ้าออกมา

แซ่ด! สวบ สวบ สวบ สวบ…

ในวินาทีนั้น เรือนร่างของจ้าวเฟิงก็กลายเป็นเงาวายุอัสนีสีม่วงสองเส้นสาย

เงาวายุอัสนีสีม่วงทั้งสองแบ่งออกอีกครั้ง

สองร่าง…สี่ร่าง…แปดร่าง…สิบหกร่าง

ในเวลาสั้นๆ เงาวายุอัสนีหลายสิบร่างอยู่ท่ามกลางลำแสงสายฟ้าและพายุ ครอบคลุมทั่วบริเวณเป็นรัศมีนับร้อยจั้ง

ร่างวายุอัสนีสีม่วงทั้งหลายยากจะแบ่งออกว่าจริงหรือปลอม ร่างเศษเสี้ยวเงาพวกนั้นล้วนมีความสามารถในการโจมตีเช่นกัน

“เจ้าเด็กนั่น…เหตุใดจึงใช้เคล็ดวิชาหมื่นร่างเงาของข้าได้!” องครักษ์ที่ยี่สิบแปดตื่นตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

ร่างแยกวายุอัสนีของจ้าวเฟิง ถึงแม้มีจำนวนไม่ถึงหนึ่งในห้าขององครักษ์แห่งความตาย แต่ว่าเสวียนอ้าวที่ใช้คล้ายกันถึงสิบส่วน

และที่คาดไม่ถึงไปกว่านั้นคือ ร่างแยกวายุอัสนีพวกนี้ได้รวมกลุ่มกันเป็นค่ายกลหน้าตาประหลาด ในพื้นที่ใกล้เคียงมีคลื่นการโจมตีของพลังสายฟ้าสีม่วง ลมแรงที่จับต้องไม่ได้กลายเป็นแรงกดดัน

“เคล็ดลับในการแบ่งร่างขององครักษ์แห่งความตายผู้นี้ เสวียนอ้าวของมันเหมือนกับ ‘ร่างเงา’ จากผ้าคลุมเงาหยินในอดีตอย่างยิ่ง อีกทั้งในมรดกวายุอัสนีของข้าก็มีท่าร่างของเสี้ยวเงามายาสายอัสนีอยู่…”

ร่างจริงของจ้าวเฟิงก็หลอมรวมเข้ากับร่างเงาวายุอัสนีนับสิบพวกนั้นด้วย

เป็นเพราะว่ามีพื้นฐานนี้พอดี จ้าวเฟิงจึงลอกเลียนเคล็ดวิชาหมื่นร่างเงาขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดได้อย่างสบายๆ

เมื่อผสานเคล็ดวิชาทั้งสอง

‘วายุอัสนีร้อยร่าง’ ที่จ้าวเฟิงสร้างขึ้นจากเค้าโครงวายุอัสนีจึงมีความว่องไวของมรดก อีกทั้งร่างแยกเงาพวกนี้ยังลอกเลียนเสวียนอ้าวของค่ายกล ‘ร้อยศพต้องสาป’ แล้วประสานเข้าด้วยกันอีกด้วย

ทันใดนั้น ร่างเงาพวกนี้ก็เข้าโจมตีพัวพันกับร่างแยกเงามรณะจำนวนมากขององครักษ์แห่งความตาย

โครม! แซ่ด แซ่ด!

เศษเสี้ยวร่างแยกพวกนี้พุ่งปะทะเข้าหากัน ทำลายล้างฟาดฟันกันและกัน

จ้าวเฟิงถูกจำกัดด้วยระดับพลังฝึกตน จำนวนของ ‘วายุอัสนีร้อยร่าง’ สู้องครักษ์ที่ยี่สิบแปดไม่ได้ ดังนั้นย่อมต้องร่วงลงราวใบไม้อย่างรวดเร็ว

“เจ้าหนุ่ม อีกไม่นานข้าก็จะหาร่างจริงเจ้าพบ”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดใบหน้าโหดเหี้ยม ร่างจริงทับซ้อนอยู่ภายในร่างเงามรณะทั้งหมดนั้น

ไม่นานนัก ร่างแยกของจ้าวเฟิงมีจำนวนน้อยลงไปทุกที

“เนตรจิตวิญญาณเหมันต์!”

น้ำเสียงเย็นชาทะลวงถึงวิญญาณแผ่กระจายอยู่บนร่างกายขององครักษ์ที่ยี่สิบแปด

“ถูกจับได้แล้ว?”

ร่างกายและจิตใจขององครักษ์ที่ยี่สิบแปดแข็งทื่อ การโต้ตอบและปฏิกิริยาก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

เขาถึงขนาดทำนายได้ด้วยซ้ำว่าเนตรพิฆาตครั้งต่อไปจะต้องมาถึง

เพียงแต่เขาไม่มีทางยอมรับได้ จ้าวเฟิงมองเห็นร่างจริงของเขารวดเร็วเพียงนี้ได้อย่างไร

เคล็ดวิชาหมื่นร่างเงาของเขาสร้างร่างเงามรณะออกมาจำนวนมาก ทั้งหมดล้วนแต่มีกลิ่นอายเชื่อมโยงกัน ทับซ้อนกันไปมา ต่อให้เป็นครึ่งก้าวสู่ราชาก็ยังยากจะมองร่างจริงออกได้

เนตรพิฆาตผ่านอากาศ!

ภายในใจกลางแรงกระเพื่อมของพลังดวงตาปรากฏน้ำวนซึ่งครอบคลุมอยู่เหนือองครักษ์ที่ยี่สิบแปด

วูบ!

ถึงแม้อากัปกิริยาขององครักษ์แห่งความตายที่ยี่สิบแปดจะช้าลง กลับยังสามารถย้ายร่างได้ทันเวลา จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ในฐานะที่เป็นองครักษ์แห่งความตาย เขาเองก็มีร่างเงาที่เป็นอมตะ ขอแค่ไม่โดนทะลวงทำลายบริเวณหัวใจโดยตรงเท่านั้น ไม่ต้องกลัวการโจมตีธรรมดาทั่วไปแต่อย่างใด

ฟุ่บ สวบ….

คมมีดไร้รูปร่างเงามาได้เวลาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ทะลวงผ่านร่างขององครักษ์แห่งความตายที่ยี่สิบแปดไป

“อึก อ๊าก…”

องครักษ์ที่ยี่สิบแปดร่างกายแข็งกระด้าง กรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ในดวงตาฉายแววความหวาดกลัวออกมา

เห็นเพียงแค่คมมีดไร้เงาที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นอายพิฆาตสีม่วง ตัดส่วนเอวขององครักษ์แห่งความตายขาดออกเป็นสองท่อน

แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ คมมีดในครั้งนี้ยาวเท่าตัวคนครึ่งร่าง ‘ขนาด’ เพิ่มมากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่านัก

“ฮ่าฮ่า เป็นเนตรพิฆาตที่มีขนาดใหญ่ขึ้น” จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

โครม วูบ!

บริเวณทรวงอกขององครักษ์ความตาย ถูกเนตรพิฆาตที่เพิ่มขนาดขึ้นและทับซ้อนกันฟาดฟันทั้งภายในและภายนอก

“เจ้า…”

ในขณะที่ตกตะลึง องครักษ์ที่ยี่สิบแปดอดจะมองร่างกายส่วนล่างของตนไม่ได้

โครม ฉัวะ!

ร่างกายของเขาถูกเนตรพิฆาตที่แข็งแกร่งขึ้นตัดออกเป็นสองท่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version