Skip to content

King of Gods 701

King Of Gods

บทที่ 701 ลองลับฝีมือ

เมื่อเทียบกับเรือโจรสลัดในตำนานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดแล้ว เรือหุ่นเชิดศพจัดอยู่ในประเภท ‘เล็กปราดเปรียว’ หากมองเพียงแค่ในด้านความเร็วก็ถือว่ายังถูไถไปได้

เรือหลายลำของฟากโจรสลัดเกราะเหล็กมีขนาดใหญ่ แรงปะทะจึงรุนแรงอย่างยิ่ง

ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ลำเรือ พายุคลื่นลมรุนแรงที่สูงเทียมฟ้าก็ทำให้เรือหุ่นเชิดศพสั่นโคลงเคลงแล้ว

“เกรงว่าเรือของพวกเราจะไม่อาจรับแรงปะทะได้เป็นแน่” เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ยเสียงต่ำ

จ้าวเฟิงเอ่ยกับเจ้าหอโครงกระดูกว่า “ถอยออกจากกองกำลังเรือ แล้วตั้งกระบวนท่าเตรียมสู้”

สวบ!

เรือหุ่นเชิดศพหลีกหนีออกจากฟากมหาสมุทรความว่างเปล่าเป็นการชั่วคราว พุ่งทะลวงตัดผ่านทะเลหมอกความว่างเปล่า แต่ว่าต้องหลบหลีกควันหลงการต่อสู้ของราชันในระดับลึกซึ้งทั้งสองคนด้วย

โครม โครม เปรี้ยง!

เรือทะเลขนาดใหญ่ด้านล่างหลายลำปะทะกันบนพื้นมหาสมุทร โจรสลัดทั้งสองฝ่ายรบราฆ่าฟันกัน

“จ้าวเฟิง การต่อสู้ในครั้งนี้ต้องพึ่งเจ้าแล้ว ข้าจะยื้อราชากระดองเหล็กเอาไว้” ชายหนุ่มผมสีทองที่กำลังสู้อยู่ด้านบนเอ่ย

“ได้” จ้าวเฟิงผงกศีรษะ

 

ชายหนุ่มผมทองกล้าเปิดฉากการรบกับราชากระดองเหล็กด้วยเพราะฝ่ายตนมีจ้าวเฟิงที่เพิ่งทะลวงผ่านถึงขั้นราชัน อีกทั้งราชาชุดเกราะเหล็กก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก

สวบ วูบ!

เรือหุ่นเชิดศพคล่องแคล่วว่องไวอย่างยิ่ง พุ่งทะยานลงมาจากฟ้า แล้วสำแดงค่ายกลหุ่นเชิดศพออกมาโจมตีราชากระดองเหล็กจากด้านข้าง

ในทันทีที่ค่ายกลหุ่นเชิดศพถูกปลดปล่อย หมอกเพลิงหุ่นเชิดศพที่อึมครึมพวยพุ่งออกมา ก่อนจะเกาะกลุ่มกันเป็นรูปร่างหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่

“อ๊าก อ๊าก…”

บรรดาโจรสลัดทั่วไปโดนหมอกควันหุ่นเชิดศพเพียงเล็กน้อยก็กลายเป็นกองเลือดในทันที จิตและวิญญาณถูกหุ่นเชิดศพดูดกลืนไป

หุ่นเชิดศพเหล่านั้นเมื่อได้รับการหล่อเลี้ยงจากเลือดสดๆ ของโจรสลัด ปราณศพในร่างก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

หุ่นเชิดศพทั้งหลายเคยดูดกลืนเลือดและเนื้อจากห้วงฝันเป็นจำนวนมากมาก่อน แก่นของร่างกายและความสามารถที่ซุกซ่อนอยู่ไม่ธรรมดา ยังมีช่องว่างให้พัฒนาไปได้อีกมาก

“หมัดจักรพรรดิทองคำ!”

เด็กน้อยครึ่งเซียนในร่างเด็กวัยสองสามขวบยืนอยู่บนเรือหุ่นเชิดศพ ลงมือสังหารโจรสลัดผู้เป็นยอดฝีมือจำนวนหนึ่ง

ยอดฝีมือที่อยู่ในขั้นราชันลงไป เมื่อเผชิญหน้ากับเด็กน้อยครึ่งเซียนก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ลงมือโต้กลับเสียด้วยซ้ำ

“สังหาร——”

เจ้าหอโครงกระดูกควบคุมค่ายกลหุ่นเชิดศพที่เป็นประหนึ่งตัวช่วยเก็บเกี่ยวเลือดเนื้อ ในทุกที่ที่มันผ่านไปไม่มีใครต้านทานได้

เรือหุ่นเชิดศพถึงแม้ว่าจะไม่ใหญ่มากนัก แต่ว่าปราดเปรียวอย่างยิ่ง

บรรดายอดฝีมือโจรสลัดทั้งหลายล้วนแต่ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อเห็นเรือ

ครึ่งก้าวสู่ราชันสองคนนำยอดฝีมือมากลุ่มหนึ่ง พยายามบุกทะลวงเข้ามาภายในค่ายกลหุ่นเชิดศพเพื่อจะสังหารคนที่ควบคุมค่ายกลนี้

แต่ทว่าเมื่อเข้ามาภายในแล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่มีชีวิตรอดออกไป ทั้งหมดกลายเป็นอาหารของค่ายกลหุ่นเชิดศพทั้งสิ้น

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านล่าง ทำให้ราชาโจรสลัดเกราะเหล็กที่กำลังสู้รบอยู่ด้านบนหน้าเปลี่ยนสี

เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

เขาก็พอได้ยินมาบ้างว่ามีราชาโจรสลัดคนใหม่เข้าร่วมกับราชาเหมันต์จันทรา

แต่ว่าห้วงความคิดของเขาเคยกวาดผ่านเรือของศัตรูมาแล้ว กลับไม่พบราชันในขอบเขตปราณเทวะแต่อย่างใด

“ประกายปีกอัสนี!”

เห็นเพียงลำแสงปีกอัสนีสายหนึ่งกวาดผ่านทะเลหมอกความว่างเปล่า ราวกับประกายวูบวาบของสายลมอัสนี

รวดเร็วยิ่งนัก!

ราชากระดองเหล็กสีหน้าค้างแข็ง เพียงพริบตาเดียวเจ้าของปีกอัสนีนั่นก็เข้ามาใกล้

“วายุอัสนีพิฆาต!”

ในขณะที่จ้าวเฟิงกำลังโบยบินอยู่ ก็เรียกพายุหมุนพิฆาตสีชาดที่มีขนาดกว่าร้อยจั้งออกมา มันพุ่งเข้าไปใกล้เขตแดนมิติที่อยู่รอบตัวราชากระดองเหล็ก

เขตแดนมิติของราชากระดองเหล็กเป็นพื้นที่ดำมืดที่มีเหล็กตั้งสูงตระหง่าน

โครม โครม ตุบ!

การโจมตีทั้งหมดที่เข้าไปยังเขตแดนมิติของราชากระดองเหล็กเหมือนกับโดนกำแพงเหล็กกล้าขวางไว้

ปัง โครม!

ภายใต้การโจมตีของพายุหมุนสีชาดที่บ้าคลั่งและรุนแรง ร่างของราชากระดองเหล็กกระเด็นถอยหลังไปหลายสิบจั้ง เกราะที่อยู่บนร่างเกิดเป็นสะเก็ดไฟพุ่งออกไปทั่วทิศทาง

“ช่างเป็นการป้องกันที่รุนแรงเสียจริง ไม่เสียทีที่เป็นราชากระดองเหล็ก”

จ้าวเฟิงสะท้านในอก

พายุหมุนพิฆาตสีชาดที่เขากระตุ้นโดยใช้วายุอัสนี พลังนี้สามารถทำร้ายราชันธรรมดาให้บาดเจ็บสาหัสได้เสียด้วยซ้ำไป แต่กลับทำอะไรราชากระดองเหล็กไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“เขตแดนวงแหวนทอง!”

เขตแดนมิติที่มีโครงสร้างเป็นวงแหวนทองเจิดจ้าจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบกายชายหนุ่มผมทอง

วงแหวนทองเหล่านี้สว่างแสบตาและทรงพลัง สังหารด้วยการหมุนคว้างไม่หยุด แต่เมื่อปะทะเข้ากับเขตแดนมิติของราชากระดองเหล็กกลับเกิดเพียงเสียง ตุบ ตุบ ก็เท่านั้น

“ลอง ‘เขตแดนเมืองมายา’ ขอข้าดู” จ้าวเฟิงออกความเห็น

ราชากระดองเหล็กผู้นี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งนัก พอจะเป็นหินลับฝีมือของเขาได้พอดี

วิ้ง!

พลังราชันของจ้าวเฟิงขยับในทันที

ในวินาทีต่อมา เงาสมจริงของเมืองวงกตมายาที่เต็มไปด้วยหมอกควันก็ปรากฏขึ้น แล้วจึงผสานเข้ากับอากาศ

ด้วยเพราะว่าเป็นเขตแดนทางศาสตร์วิญญาณ ดังนั้นเขตแดนมิติของราชันอีกสองคนจึงไม่ได้ส่งผลต่อเมืองมายาของจ้าวเฟิงมากมายนัก

“หืม?”

ราชากระดองเหล็กใจสั่น เขาอยู่ท่ามกลางเขาวงกตมายาที่เก่าแก่เวิ้งว้าง รอบด้านมีแต่หมอกควันพร่าเลือนปกคลุมไปทั่ว

ฉับพลันนั้น เขาไม่สามารถมองเห็นการโจมตีของจ้าวเฟิงและชายหนุ่มผมทองได้อย่างชัดเจน ทุกอย่างเลือนรางไปจนหมดสิ้น

เขตแดนเมืองมายาส่งผลกระทบกับประสาทสัมผัสของเขา

“ที่แท้ก็เป็นเขตแดนในศาสตร์วิญญาณที่หาได้ยากยิ่ง” ชายหนุ่มผมทองรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่กลับไม่ออมมือในการโจมตีแต่อย่างใด

“กักขัง!”

ในเขตแดนมิติของชายหนุ่มผมทอง ลำแสงวงแหวนทองที่อัดแน่นรวมกันแต่ละเส้นสายเข้ารัดร่างของราชากระดองเหล็กเอาไว้พร้อมกับระลอกอัสนี

ถ้าหากว่าเป็นสถานการณ์ปกติ เมื่อต้องปะทะกับเขตแดนมิติ เขายากที่จะจับ ‘ราชากระดองเหล็ก’ ได้

แต่ว่าตอนนี้เขาได้ความช่วยเหลือจากเขตแดนเมืองมายาของจ้าวเฟิง

วูบ!

จ้าวเฟิงเก็บเขตแดนเมืองมายาของตนอย่างรวดเร็ว กลางฝ่ามือก่อตัวขึ้นเป็นคมมีดพิฆาตสีชาดเล่มใหญ่ที่สาดซัดกลิ่นอายวายุอัสนีเผาผลาญ และตัดลงบนศีรษะของราชากระดองเหล็ก

เปรี้ยง โครม ตูม!

ราชากระดองเหล็กร้องออกมาอย่างเจ็บปวด บริเวณศีรษะปรากฏรอยไหม้สีดำสายหนึ่งขึ้น

พลังเผาไหม้ทำลายล้างของวายุอัสนีพิฆาตสีชาดแทรกซึมเข้าไปภายในร่างเกราะเหล็ก

ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มผมทองกระตุ้นลำแสงวงแหวนเหล่านั้น บริเวณขอบปรากฏใบมีดหมุนวนรอบร่างของราชากระดองเหล็ก แล้วเฉือนเนื้อออกอย่างรวดเร็ว

ราชากระดองเหล็กตกอยู่ในสถานการณ์โดนโจมตีติดๆ กันในทันที

ยังดีที่เขตแดนเมืองมายาของจ้าวเฟิงถูกใช้เพียงหนึ่งสองช่วงลมหายใจก็เก็บกลับเข้าไปในทันใด

“ทำลาย!”

ราชากระดองเหล็กตะโกนเสียงดังกึกก้อง เขตแดนโลหะของเขาเกิดเงาเหล็กที่แตกกระจายมากมายนับไม่ถ้วนยามทำลายพันธนาการของชายหนุ่มผมทอง

ปีกวายุอัสนีของจ้าวเฟิงโบกสะบัด หลบการสะท้อนกลับของเขตแดนมิตินั่น

ชายหนุ่มผมทองกระเด็นถอยไปด้านหลัง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจ้าวเฟิงจึงไม่ใช่เขตแดนเมืองมายาต่อ

จ้าวเฟิงเรียกพายุหมุนพิฆาตสีชาดขึ้นในมือด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ใจกลางของพายุนั้นปรากฏกลิ่นอายของภัยอัสนีที่อยู่ยงคงกระพันอยู่รางๆ

“ไป!”

พายุหมุนพิฆาตกลุ่มนั้น ฉวยโอกาสตอนที่เขตแดนของราชากระดองเหล็กระเบิดออก ทะลวงเข้าไปในช่องว่างที่เกิดขึ้น

ราชากระดองเหล็กปลดพันธนการได้และกำลังโล่งใจ จึงมองข้ามพายุหมุนที่กำลังพุ่งเข้ามา

ฉัวะ!

วายุหมุนพิฆาตทะลวงผ่านรอยโหว่เข้าไปแล้วระเบิดออกอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายทำลายล้างที่เกิดขึ้นไม่ค่อยเหมือนกับที่ผ่านมา

“อะไรกัน! อ๊าก——”

ร่างกายใหญ่โตของราชากระดองเหล็กสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขตแดนโลหะปริร้าวออกเป็นชั้นๆ

กลิ่นอายทำลายล้างแทรกซึมเข้าไปภายในร่างของเขา เผาผลาญอย่างทรมาน

ชั่วเสี้ยววินาที

ใบหน้าของราชากระดองเหล็กซีดขาวราวกับกระดาษ นัยน์ตาสองข้างของเขาจ้องมองมาที่จ้าวเฟิงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

เลือดไหลออกจากมุมปากเป็นเส้นสาย

ชายหนุ่มผมทองตัวค้างแข็งเช่นกัน การโจมตีของจ้าวเฟิงเมื่อครู่นับว่าอาศัยช่องโหว่สร้างบาดแผลร้ายแรงแก่ราชากระดองเหล็ก

การป้องกันของราชากระดองเหล็กเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาราชาโจรสลัดในหุบเขาสิบแปดยอด

ที่ผ่านมา ราชันในระดับลึกซึ้งผู้หนึ่งและราชันธรรมดาสามคนร่วมมือกันยังไม่สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ใดๆ ให้แก่เขาได้เลย

แต่ชายหนุ่มผมทองไม่รู้เลยว่า การโจมตีของจ้าวเฟิงที่สามารถทะลวงเข้าไปสร้างอาการบาดเจ็บอย่างสาหัสแก่ราชากระดองเหล็ก เป็นเพียงสาเหตุรองเท่านั้น

เหตุผลหลักจริงๆ ก็คือ ในใจกลางของวายุอัสนีพิฆาตสีชาดมีเสวียนอ้าวของพลังอัสนีเทวะอยู่

ต่อให้เป็นเพียงกลิ่นอายของพลังอัสนีเทวะเล็กๆ แต่กลับสามารถทำให้พลังของวายุอัสนีพิฆาตสีชาดของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

“ไม่เลวเลย” จ้าวเฟิงลอบผงกศีรษะ

ในการรับมือกับราชากระดองเหล็ก เขาลองใช้ ‘เขตแดนเมืองมายา’ และเสวียนอ้าวของ ‘อัสนีเทวะ’

เขตแดนเมืองมายา ถ้าหากว่าเขาใช้ไปเรื่อยๆ เกรงว่าราชากระดองเหล็กจะต้องโดนกักขังไปจนตายเป็นแน่

ส่วนเสวียนอ้าวของอัสนีเทวะมีพลังที่น่าสะพรึงขวัญอย่างยิ่ง

ถ้าหากว่าคู่ต่อสู้ไม่ใช่ราชากระดองเหล็กผู้ชำนาญในการป้องกัน แต่เป็นราชันธรรมดาแล้วล่ะก็ เมื่อถูกโจมตีด้วยกระบวนท่าดังกล่าวจะต้องตายอย่างแน่นอน

“เหอะ เหอะ ราชากระดองเหล็ก เจ้าเองก็มีวันนี้ด้วย” ชายหนุ่มผมทองไม่ได้คิดอะไรมากมายนัก เรียกพลังเขตแดนของตนออกมาแล้วลงมือโจมตีราชากระดองเหล็กอย่างบ้าคลั่ง

จ้าวเฟิงเองก็เรียกปีกวายุอัสนีออกมาเพื่อโจมตีอีกฝ่ายอย่างรุนแรงเช่นกัน

ราชากระดองเหล็กพ่ายแพ้ล่าถอย ถ่ายทอดคำสั่งให้ถอนทัพในทันที

 

ในขณะที่ถอนกำลังไปนั้น ราชากระดองเหล็กหวาดกลัวการโจมตีของจ้าวเฟิงเป็นอย่างยิ่ง จึงทุ่มเทปัดป้องจ้าวเฟิง

แต่ว่าหลังจากนี้แล้ว จ้าวเฟิงก็ไม่ได้เอาเสวียนอ้าวอัสนีเทวะหลอมรวมเข้าไปอีก และก็ไม่ได้เรียกเขาวงกตมายาออกมาแต่อย่างใด

แซ่ด แซ่ด! พรึ่บ!

จ้าวเฟิงกางปีกวายุอัสนีออก แล้วไล่ตามราชากระดองเหล็กอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความเร็วที่ชวนให้ตกตะลึง

“วายุอัสนีพิฆาต!”

จ้าวเฟิงโบกมือ อากาศรอบกายปรากฏชั้นเงาวายุอัสนีขึ้น ท่ามกลางระเบิดพายุกับอัสนีบาตที่ร้องกึกก้อง จะเห็นเค้าโครงของมิติวายุอัสนีได้รางๆ

“อะไรกัน! เขายังมีเค้าโครงของเขตแดนมิติแห่งที่สองอีก?”

ชายหนุ่มผมทองและราชากระดองเหล็กต่างตื่นตกใจ

ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงได้เรียกเขตแดนศาสตร์วิญญาณที่สมบูรณ์ออกมาแล้ว และตอนนี้ในระหว่างโจมตีก็ปรากฏโครงร่างของ ‘เขตแดนวายุอัสนี’ ออกมาอีก

“เขตแดนวายุอัสนีเป็นได้เพียงแค่เค้าร่างที่เลือนรางเท่านั้น สามารถเพิ่มกำลังรบได้เพียงหนึ่งในสิบ” จ้าวเฟิงเอ่ยพึมพำในใจ

ในตอนนี้ เขาจดจ่ออยู่กับการสร้างเขตแดนวายุอัสนี โดยใช้ราชากระดองเหล็กเป็นที่ฝึกฝีมือ

“ถ้าหากว่าข้าสร้างเขตแดนสองแห่งพร้อมกันได้ แล้วให้พวกมันทับซ้อนกัน เกรงว่าราชันในระดับลึกซึ้งทั่วไปคงไม่สามารถลงมือโต้กลับได้เป็นแน่” จ้าวเฟิงคิดอย่างลำพองใจ

แต่ในตอนนี้เขาสร้างได้แต่เขตแดนเมืองมายา

การสร้างเขตแดนวายุอัสนีนั้นจะช้าไปบ้างเล็กน้อยเพราะว่าไม่มีต้นแบบมาก่อน

จ้าวเฟิงคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะสร้างจนสำเร็จ นี่สำหรับราชันธรรมดาแล้วก็ถือว่าเป็นความเร็วสูงสุดที่เกินคาดแล้วด้วยซ้ำไป

จะต้องรู้ว่า ราชันธรรมดาส่วนหนึ่งนั้น ทั้งดวงวิญญาณ สำนึกรู้ ความลึกซึ้ง ความเข้าใจมิติ และปัจจัยอื่นๆ ถ้าหากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ร้อยปีก็ย่อมเจออุปสรรค ทำได้อย่างมากแค่รวบรวมเค้าโครงของเขตแดนมิติเท่านั้น

“รีบหนี!”

ราชากระดองเหล็กจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง รีบถ่ายทอดคำสั่งถอนกำลังอย่างรวดเร็ว

เขาดูออกแล้วว่าจ้าวเฟิงใช้เขาเป็นที่ลองวิชา

“จ้าวเฟิงผู้นี้ ลงมือแล้วยังออมแรงอยู่” ในขณะที่ชายหนุ่มผมทองกำลังไล่ล่าฝ่ายตรงข้าม เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ

ถ้าหากว่าจ้าวเฟิง ‘ตั้งใจ’ กว่านี้อีกหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะสังหารราชากระดองเหล็กได้

คนทั้งสองไล่ตามกันมาตลอดทาง แล้วโจมตีราชากระดองเหล็กอย่างโหดเหี้ยมจนอีกฝ่ายต้องร้องโหยหวน

ระหว่างนั้น จ้าวเฟิงได้ลองใช้เคล็ดวิชาวายุอัสนีส่วนหนึ่ง แล้วยังพยายามปรับปรุงเขตแดนวายุอัสนีของตนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในการต่อสู้จริง

ในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ด้านล่างก็ได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว

เรือหุ่นเชิดศพสังหารไปทั่วทุกสารทิศ กลืนกินจิตและวิญญาณของยอดฝีมือโจรสลัดจำนวนมาก

“ยอดเยี่ยม มีหุ่นเชิดศพส่วนหนึ่งทะลวงขึ้นเป็นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต้นช่วงกลางแล้ว”

เจ้าหอโครงกระดูกเห็นการเติบโตของหุ่นเชิดศพเหล่านี้ด้วยตาตนเอง

สถานการณ์การต่อสู้หมดห่วงได้แล้ว

พลังสายเลือดของเด็กน้อยครึ่งเซียนก็ฟื้นฟูขึ้นมากจากการสู้รบครั้งนี้

ในขณะที่จ้าวเฟิงและชายหนุ่มผมทองตามไล่ล่าราชากระดองเหล็กนั้นเอง

“นายท่านทั้งสอง แย่แน่แล้ว! ราชาเหมันต์จันทราเผชิญหน้ากับ ‘ราชามังกรดำ’ โดนกองเรือของอีกฝ่ายล้อมโจมตี” ลำแสงสีฟ้าสว่างสายหนึ่งลอยละลิ่วไป

“ราชามังกรดำ!”

สีหน้าของชายหนุ่มผมทองเปลี่ยนไป ไม่คิดจะไล่ล่าราชากระดองเหล็กอีก

ด้วยร่างกายของราชากระดองเหล็กบาดเจ็บสาหัส กำลังรบยากที่จะฟื้นคืนมาได้ในเวลาอันสั้น ไม่อาจเป็นอันตรายใดๆ ได้

จ้าวเฟิงเองมีท่าทีเสียดายอยู่บ้างขณะมองดูราชากระดองเหล็กหนีหายไป

ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ทุ่มเทพลังทั้งหมด แต่ก็อยากจะค่อยๆ ผลาญพลังของราชากระดองเหล็ก รอจนถึงเวลาสำคัญ แล้วจึงใช้ธนูเหนือนภาลงมือปลิดชีพอีกฝ่าย

“จ้าวเฟิง พวกเรารีบไปที่ทัพของราชาเหมันต์จันทรา การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ขอเจ้าจงตั้งใจรับมือให้ดี”

ชายหนุ่มผมทองเอ่ยสำทับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version