บทที่ 848 มองออก
การกระทำของพวกมังกรฟ้าวารีดึงดูดความสนใจของเหล่าอัจฉริยะในที่นั้น
ถึงเส้นทางที่พวกเขาไปจะอ้อมอาวุธเทพชั้นเลิศทั้งสามสุดกำลัง ทว่าความร้อนพลังใกล้หลุมก็มากพอแผดเผาราชันทั่วไปให้เป็นเถ้าธุลีในเวลาชั่วครู่
บางทีเซวียนหยวนเหวินกับเซียนกระบี่เคราขาวอาจมีความสามารถนี้ แต่ความสนใจของทั้งสองถูกถึงดูดโดยอาวุธเทพทั้งสามจนหมดสิ้น
เป้าหมายของพวกเขาคืออาวุธเทพที่ชำรุด ‘กระบี่สนิมทองแดง’
ศิษย์พี่จูเก๋อ สตรีชุดแดง องค์ชายเก้าและคนอื่นๆ กำลังคิดหาหนทางนำ ‘ดาบคมบิ่น’ มา ส่วน ‘ขวานเว้าแหว่ง’ ที่เหลือ เป็นเป้าหมายการแย่งชิงของราชันฝั่งเชื้อพระวงศ์ หอกระบี่ฟ้า หรือตระกูลตวนมู่
ราชันส่วนที่พลังอ่อนแอหน่อยก็มุ่งไปที่เป้าหมายต่ำลงไป คือชิ้นส่วนอาวุธที่กระจัดกระจายเหล่านั้น
“ข้ารู้สึกว่าบนตัวบุรุษชุดฟ้ามีคลื่นสายเลือดปราณที่แท้จริงคุ้นๆ…”
ดวงตากระจ่างของจ้าวหยูเฟยเป็นประกาย จ้องไปที่ ‘ราชามังกรฟ้าวารี’ ครู่หนึ่ง
แต่ยามนี้มังกรฟ้าวารีเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์วัยหนุ่ม ขนาดกลิ่นอายของสายเลือดวรยุทธ์ยังเปลี่ยนไปเพราะ ‘มังกรมายาพันผันแปร’
“พลังของสองคนนี้เป็นรองเพียงเซวียนหยวนเหวิน เกรงว่าคงมีแผนการอะไร”
ศิษย์พี่จูเก๋อส่งเสียงมา
เขาเลิกช่วงชิง ‘ดาบคมบิ่น’ ก่อน ทั่วร่างผุดลวดลายจุดไฟลี้ลับ ก่อนตรงไปใกล้ทางสองมังกร
ศิษย์พี่จูเก๋อสังหรณ์ใจว่าสองคนนี้มีเส้นสนกลในหรือความลับอะไรบางอย่าง
“จูเก๋ออวิ๋นผู้นี้คล้ายจะสงสัยเรา ไม่เสียทีที่เป็นมันสมองของวังลอยฟ้า…”
มังกรมายาพันผันแปรส่งเสียงเอ่ย
“ยุ่งยากนิดหน่อย แต่อาศัยแค่กำลังเขาคนเดียวคงคุกคามพวกเราไม่ได้”
มังกรวารีเว่ยจิ้งมีสีหน้าเฉยชา
ภายในหอหลอมศาสตราทรงหกเหลี่ยม ผู้ที่เขาหวาดกลัวอย่างแท้จริงมีเพียงเซวียนหยวนเหวินกับเซียนกระบี่
รองลงมาคือตระกูลตวนมู่กับจ้าวหยูเฟย
“หยูเฟย ด้วยพละกำลังของเจ้า บางทีอาจช่วยตระกูลเราชิงอาวุธเทพชั้นรองมาได้”
ผู้เฒ่าชุดเขียวเอ่ยเสนอแนะ
ตระกูลตวนมู่มีราชันสามคน แต่ผู้ที่ลงสนามได้มีแค่จ้าวหยูเฟย
ผู้เฒ่าชุดเขียวเป็นราชันแขนงพฤกษา ถูกพลังไฟจากในหลุมข่มไว้จนราบคาบ
ส่วนราชันคนใหม่อีกคนมีกำลังไม่มากพอ
เมี้ยว เมี้ยว!
จ้าวหยูเฟยเตรียมจะเอ่ยปาก เส้นแสงสีเทาเงินก็กวาดผ่านด้านหน้า
“แมวขโมยตัวน้อย?”
นางเผยสีหน้ายินดี เมื่อมองไปบนไหล่ตน แมวน้อยสีเทาเงินตัวหนึ่งพลันปรากฏ
แมวขโมยตัวน้อยเหมือนเงาตามติดตัวจ้าวเฟิง
ในเมื่อมันปรากฏกาย เช่นนั้นตัวจ้าวเฟิงคงอยู่ไม่ไกลนัก
เอ๋? ราชันส่วนหนึ่งพากันมองด้วยสีหน้าพิลึก
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวน้อยโบกกรงเล็บทำไม้ทำมือ
“ความหมายของเจ้าคือ…”
จ้าวหยูเฟยเข้าใจความหมายจากเจ้าแมว สายตามองไปทางพวกมังกรฟ้าวารีทันที
จากนั้น
นางไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย แสงม่วงวาววับอาบทั่วร่าง แล้วพาแมวขโมยตัวน้อยไล่ตามฝีก้าวสองมังกรไป
“หยูเฟย!” พวกผู้เฒ่าชุดเขียวสองคนเปลี่ยนสีหน้า
ราชามังกรวารีกับมังกรมายาอยู่ใกล้กับหลุมไฟ ความร้อนพลังไฟตรงบริเวณนั้น ต่อให้เป็นจักรพรรดิปราณเทวะก็ยำเกรงสักสามส่วน
พรึ่บ! เวลาเดียวกัน ศิษย์พี่จูเก๋อที่มีจุดไฟล้อมรอบกายเท้าแทบไม่สัมผัสพื้น โผทะยานไปบนอากาศ
“ใกล้ถึงแล้ว…อาวุธเทพชั้นรอง มนตราอากาศ ศรสังหารเทพ โล่ทองคำ!”
มังกรทั้งสองใจเต้นถี่รัว
แววตาทั้งคู่จ้องเขม็งไปที่เกราะแขน ‘มนตราอากาศ’
ขอเพียงได้อาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้มาครอบครอง หากมีวิชาก็เปิดผนึกใช้ได้ สามารถเพิ่มกำลังให้พวกเขาในช่วงเวลาสั้นๆ
เมื่อเทียบกันแล้ว ศรเทพสังหาร โล่ทองคำ กับพลั่วโลหะมีประโยชน์กับทั้งสองไม่มากนัก
ทว่า
ชั้นวางอาวุธเก่าผุพังอยู่ใกล้อีกฝั่งหนึ่งของหลุมไฟ เมื่อเข้าใกล้ในช่วงสุดท้าย ความร้อนพลังไฟที่ต้องแบกรับถึงขั้นคุกคามจักรพรรดิได้มหาศาล
วูบ! ‘แสงสีฟ้าหม่นเย็นเยียบ’ รอบกายสองมังกรมีไอน้ำลอยกรุ่น กลิ่นอายไอน้ำที่มีแต่เดิมเดือดจัดเล็กน้อย
“ร้อนยิ่ง…”
พวกเขาได้รับพลังไฟร้อนระอุที่น่าพรั่นพรึง ทั่วทั้งกายร้อนผะผ่าว
ราชามังกรวารีดีกว่าหน่อย เขามีสายเลือด ‘มังกรวารีน้ำแข็ง’ ซึ่งเป็นสิบอันดับแรกในรายชื่อสายเลือดวิถีราชา แก่นแท้ร่างกายแกร่งกล้า ใกล้เคียงเผ่าพันธุ์มังกรที่แท้จริง
ส่วนมังกรวารีล้างโลกาด้านนอกมีพรสวรรค์แต่กำเนิด กระทั่งแข็งแกร่งยิ่งกว่ามังกรแท้ทั่วไป
มังกรมายาพันผันแปรแม้มีสายเลือดมังกร แต่เชี่ยวชาญศาสตร์การเปลี่ยนร่าง ร่างกายจึงเป็นรองลงมา
“เว่ยจิ้ง ข้าใกล้ทนไม่ไหวแล้ว…”
มังกรมายาเหงื่อไหลท่วม ฝืนประคับประคองวิชาเปลี่ยนร่าง
ถึงจะเป็นเช่นนั้น ความสามารถต้านไฟของพวกเขาก็เหนือกว่าศิษย์พี่จูเก๋อที่ตามหลังมาอีกด้าน
“สองคนนี้มีคุณสมบัติร่างกายดีเยี่ยม ไม่ใช่มนุษย์!”
ศิษย์พี่จูเก๋อส่งเสียงไป
เขาจงใจอ้อมมาจากอีกด้าน เพื่อเข้าขนาบโจมตีราชามังกรวารีกับมังกรมายาพร้อมจ้าวหยูเฟยพอดี
“ได้”
จ้าวหยูเฟยรับคำ
นางรักษาระยะห่างพอสมควร ผิวทั่วร่างดุจหยกผลึก วงคิ้วงามขมวดเล็กน้อยภายใต้การเข้ากัดกร่อนของความร้อน
“เจ้าประคองวิชามายาผันแปรไว้!”
ราชามังกรวารีพลันเดินหน้าไปหลายก้าว ฝืนรับอุณหภูมิร้อนถึงขีดสุดที่แม้แต่จักรพรรดิยังยากจะทนไหว
วินาทีนั้น
ภายใต้แสงสีฟ้าหม่น ผิวนอกของเขาผุดเกล็ดสีฟ้าระยิบระยับ อานุภาพน่าสะพรึงจากสายเลือด ‘มังกรวารีน้ำแข็ง’ สาดกระจายออกมา
หากไม่มีการอำพรางจาก ‘มังกรมายาพันผันแปร’ เกรงว่าพลังสายเลือดของราชามังกรวารีคงกระเทือนทั่วที่แห่งนั้น
ภายในชั่วเวลาสั้นๆ กำลังรบของเขาเทียบเท่าจักรพรรดิปราณเทวะ อาศัยสายเลือดและร่างกายชั้นยอด แรงต้านต่อพลังไฟความร้อนสูงถึงขั้นเหนือกว่าจักรพรรดิทั่วไป
“ชิงมา!”
หลังเดินไปหลายก้าว ราชามังกรวารีวาดหนึ่งมือกลางอากาศ เส้นเอ็นมังกรเหมือนผลึกเย็นสีฟ้าพลันยืดยาวออก
“แปรผัน!”
มังกรมายารีบโบกมือ เปลี่ยนเอ็นมังกรให้กลายเป็นโซ่ทองแดงเส้นหนึ่ง
“ไม่ได้การ!” แววตาศิษย์พี่จูเก๋อราวมีไฟลุกโชน “โซ่ทองแดงแผ่คลื่นไอเย็นด้วยรางๆ…”
เคร้ง! เส้นเอ็นราวผลึกนั้นพันรัด ‘เกราะแขน’ บนชั้นวางอาวุธไว้อย่างแม่นยำ
“อาวุธเทพชั้นรอง…มนตราอากาศ!”
ราชามังกรวารีกับมังกรมายาด้านหลังใจเต้นถี่รัวขึ้น
โอกาสอาจมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หากอยู่นานกว่านี้อีกสองสามชั่วอึดใจ เกรงว่าพวกเขาทั้งสองมีแต่จะถูก ‘ไหม้จนเกรียม’
ขณะนั้นเองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน!
เมี้ยว~ เส้นแสงเทาเงินวูบวาบ แมวตัวหนึ่งตกลงบนเส้นเอ็นราชามังกรวารีที่ขยายออกมา แน่นอนว่าเส้นเอ็นนี้คือโซ่ทองแดงในสายตาคนนอก
“แมวโขมยตัวน้อย!”
จ้าวหยูเฟยหน้าถอดสี อดร้องอุทานไม่ได้
ตำแหน่งที่เส้นเอ็นมังกรไปถึงใกล้กว่าตัวราชามังกรวารีเล็กน้อยด้วยซ้ำไป ระยะห่างเช่นนั้น แม้แต่นางยังไม่กล้าเหยียบย่างลงง่ายๆ
ฟู่~
ช่วงที่แมวโขมยตัวน้อยตกลงบนเส้นเอ็นมังกรเหมือนผลึก ละอองน้ำไอร้อนพวยพุ่ง
ถ้าเป็นสถานการณ์ทั่วไป ไอเย็นถึงขีดสุดบนเอ็นมังกรจะทำให้ผิวนอกของมันมีชั้นเกล็ดน้ำแข็งเกาะตัวอย่างรวดเร็ว หรือถึงกระทั่งกลายเป็นแมวน้ำแข็ง
แต่สภาพแวดล้อมตอนนี้ มีพลังไฟความร้อนสูงกดข่มพลังเย็นเยือกบนนั้นเอาไว้เสียมาก
เท่ากับว่ามันได้ ‘เกราะกำบัง’ ช่วยอำพรางชั้นหนึ่ง
เมี้ยว เมี้ยว!
โซ่ทองบนคอแมวขโมยตัวน้อยกลายเป็นแส้มังกรวารีสีทองเข้มคล้ายมีชีวิต ก่อนลากเงาแสงมังกรทองพุ่งตรงไปทางชั้นวางอาวุธ
“อย่ามายุ่งวุ่นวายเป็นอันขาด…”
หัวใจราชามังกรวารีขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ขณะลอบภาวนากับตัวเอง
หากแมวขโมยตัวน้อยลงมือขัดขวาง ราชามังกรวารีพยายามทุกวิถีทางเพื่อปล่อยการโจมตี เขาจะไม่มีวาสนากับอาวุธเทพชั้นรอง ‘มนตราอากาศ’ แล้ว
ครั้งนี้หลุดมือไป เขาไม่อาจทนต้านพลังความร้อนแถวนี้ได้นาน ต้องถอยกลับไปพักฟื้นฟูแน่
“แมวขโมย เด็กดี…เจ้าอย่าก่อกวน”
มังกรมายาอีกด้านหนึ่งลอบปาดเหงื่อเช่นกัน
โชคดีที่แมวขโมยตัวน้อยตกมาบนเอ็นมังกรแล้วไม่ได้โจมตีขัดขวางใดๆ
อีกทั้งเป้าหมายของมันไม่ใช่อาวุธชั้นรอง ‘มนตราอากาศ’ ที่เป็นเกราะแขน
เมี้ยว~ แส้มังกรในมือแมวขโมยพันรัดสิ่งของหนึ่งในนั้นไว้ได้เหมาะเจาะแม่นยำ
“หืม?” มังกรมายาพันผันแปรกับศิษย์พี่จูเก๋อที่โอบล้อมเข้ามาพากันเบิกตากว้าง
เป้าหมายของแมวขโมยกลับเป็น ‘พลั่วโลหะ’ ไร้นามชิ้นนั้น
กลิ่นอายของพลั่วโลหะดังกล่าวสงบนิ่งที่สุด ไม่มีกลิ่นอายพลังอาวุธชั้นรองแม้แต่น้อย
“สำเร็จ!”
ราชามังกรวารีดีใจยกใหญ่ เมื่อออกแรงดึงเส้นเอ็น ‘เกราะแขน’ บนชั้นวางก็ตกเข้าสู่มือ
เมี้ยว เมี้ยว!
วินาทีถัดมา แมวขโมยตัวน้อยได้พลั่วโลหะมาครอบครองไม่ต่างกัน
ราชามังกรวารีอึ้งไป เพิ่งรู้สึกได้ว่าไม่ชอบมาพากล
“แมวตัวนี้กลับใช้ประโยชน์จากโซ่ของ ‘ชายหนุ่มชุดฟ้า’ ใช้มันเป็นที่มันกลางอากาศหรือกระทั่งเกราะกำบัง ได้ชัยชนะถึงสองครั้งสองครา!”
ศิษย์พี่จูเก๋อที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามสีหน้ากระปรี้กระเปร่า
เขาถึงกับทนไม่ไหว ลอบตบมือชื่นชมกลวิธี ‘ยืมแรงเหนืออากาศ’ ของเจ้าแมว
หากไม่มี ‘ที่มั่น’ จากราชามังกรวารี จักรพรรดิทั่วไปไม่มีทางเข้าใกล้เข้าเพียงนั้นแล้วรอดกลับมาอย่างปลอดภัยได้
“น่าสมเพช! ถูกแมวตัวหนึ่งใช้ประโยชน์เสียได้…”
ราชามังกรวารีพลันกระจ่างแจ้ง ใบหน้ากระตุกเล็กน้อย แต่ภายใต้การกัดกร่อนจากไอร้อนน่าพรั่นพรึง เขาใกล้ฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว
เมี้ยว! แสงสีเทาเงินกะพริบวูบวาบ แมวตัวนั้นหายวับไป
“รีบถอย!”
เว่ยจิ้งกลับมารวมตัวกับมังกรมายาที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ทว่ากลับเจอศิษย์พี่จูเก๋อกับจ้าวหยูเฟยล้อมโจมตี
“หึ! ราชามังกรฟ้าวารี มังกรมายาพันผันแปร ยังไม่หยุดอีก!”
ศิษย์พี่จูเก๋อตะโกนด่าทอ
ได้ยินดังนั้น สองมังกรใจกายสั่นสะท้าน ใบหน้าถอดสี
จูเก๋อผู้นั้นมองสถานะของพวกตนออกแล้ว
“ฮ่าฮ่า เป็นพวกเจ้าจริงด้วย! พวกเรารีบจัดการเร็ว ขวางหัวขโมยต่างเผ่าพันธุ์สองคนนี้ไว้!”
ศิษย์พี่จูเก๋อเผยสีหน้านึกสนุก
พวกราชามังกรวารีทั้งโกรธทั้งกลัว คิดไม่ถึงว่าจูเก๋อจะเจตนา ‘แสร้งถาม’ พวกเขา
ชัดเจนว่าศิษย์พี่จูเก๋อก็แค่เดาตัวตนของทั้งคู่ถูก
“ไสหัวไป!”
ราชามังกรวารีร้องลั่นด้วยโทสะ ก่อนทะยานขึ้นสูง กรงเล็บเกล็ดสีฟ้าข้างหนึ่งส่งประกายฝนเย็นเยียบหมุนวนเข้าปกคลุมเหนือศิษย์พี่จูเก๋อ
“โล่เพลิงมายา!”
ศิษย์พี่จูเก๋อถอยร่นติดๆ กัน สองมือว่างเปล่าวาดเค้าร่างโล่เพลิงที่มีลูกไฟนับไม่ถ้วนขึ้นข้างกาย
วูบ!
โล่เพลิงมายาอยู่ใกล้หลุมไฟ จึงหยิบยืมพลังไฟมหาศาลมา อานุภาพเพิ่มสูงพรวด ทรงพลังกว่ายามปกติเกือบเท่าตัว
เคล็ดวิชาของศิษย์พี่จูเก๋อจะนำพลังแวดล้อมมาปรับใช้จนถึงขีดสุด
เปรี้ยง! การโจมตีขั้นสุดยอดจากมังกรฟ้าวารี เพียงทำให้เขาถอยไปไม่กี่ก้าว แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน เสียงสตรีดังมาจากด้านข้าง จ้าวหยูเฟยเข้าปะทะกับมังกรมายาพันผันแปร
“ไป!”
ด้านหลังมังกรมายา ปรากฏเงาแสงลวงตาสีเขียวเข้มเสียงดังกึกก้อง
วิ้ง!
ระหว่างเงาแสงมังกรมายาทะยานสู่อากาศ มันเปล่งแสงโปร่งใสหลากสีแทรกซึมสู่ชั้นวิญญาณ
“นั่นมัน…”
จ้าวหยูเฟยจิตใจสั่นไหว ขณะเงาแสงมังกรโจมตี มีภาพลวงตาทับซ้อนกันมากมาย ลักษณะคล้าย ‘เขตแดนเมืองมายา’ ของจ้าวเฟิง
เวลานั้น ประสาทสัมผัสจ้าวหยูเฟยสับสนวุ่นวาย
“จ้าวหยูเฟย ระวัง! ‘มังกรมายาพันผันแปร’ เป็นอันดับสิบของรายชื่อวิถีราชา เป็นรองเพียงเซวียนหยวนเหวินและราชามังกรฟ้าวารี”
ผู้เฒ่าชุดเขียวตื่นตระหนกเป็นที่สุด