Skip to content

King of Gods 911

King Of Gods

บทที่ 911 กายวิญญาณ

ตวนมู่ชิงค่อยๆ ลอยลงสู่เบื้องล่าง มองยังตำหนักลับที่จ้าวเฟิงอยู่ในห้วงนิทราลึก แล้วพูดอย่างยินดีว่า “การแปรสภาพครั้งนี้ ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม! ”

เมื่อครั้งอยู่ที่สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเจิน ตวนมู่ชิงได้เห็นถึงความแข็งแกร่งหลังการแปรเปลี่ยนสภาพของดวงตาซ้ายจ้าวเฟิงด้วยตาตัวเองมาแล้ว

แม้กระทั่งในตอนนั้นที่มีพลังโลกมิติส่วนตัว และยังมีจ้าวหยูเฟยซึ่งเศษเสี้ยววิญญาณสือเฉิงคอยช่วยเหลือ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสายเลือดดวงตาและเคล็ดวิชาวิญญาณของเขาก็ไม่อาจรับมือได้เลย

แต่ว่าเมื่อครู่นี้ คลื่นพลังที่จ้าวเฟิงแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัวไม่เหมือนวิญญาณ แต่กลับทะลุผ่านสิ่งของต่างๆ อีกทั้งไม่มีเสวียนอ้าวคอยกำหนด ทำเอาตวนมู่ชิงคาดเดาไม่ถูก

“ครั้งก่อนที่จ้าวเฟิงแปรสภาพ ก็ได้รับพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเปลี่ยนไปเป็นเช่นไร!” ตวนมู่ชิงพูดขึ้นพร้อมยิ้มอย่างอบอุ่น คาดหวังรอคอยเป็นอย่างมาก

“เซียนตวนมู่เชิญเข้ามาก่อนเถิด!” ปี้ชิงเยวี่ยรีบเข้าไปต้อนรับ ไม่กล้าละเลย

เซียนท่านนี้ หนึ่งคือเป็นคนของตระกูลตวนมู่ สองคืออาจารย์ของนายท่าน และยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นผู้ช่วยเหลือหอควันสมุทรให้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

เซียนเลี่ยเทียนและเซียนอีกคนล้วนโดนข่มขวัญจนต้องจากไป

เพราะเป็นเซียนเช่นเดียวกัน เฒ่าประหลาดสวีจึงได้แต่เดินตามหลังตวนมู่ชิง

“เซียนตวนมู่ ลูกศิษย์ของท่านยังปิดด่านฝึกตนอยู่เลย!” ปี้ชิงเยวี่ยยิ้มขึ้นอย่างขอโทษ

“เขาหลับไปนานเท่าไรแล้ว?” ตวนมู่ชิงถาม

“เกือบจะปีครึ่งแล้ว” ปี้ชิงเยวี่ยตอบตามตรง

ตวนมู่ชิงตะลึงงันเล็กน้อย ไม่คิดว่าจ้าวเฟิงจะนอนหลับไปนานเช่นนี้แล้ว จำได้ว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

“ข้าจะอยู่ที่นี่ รอจนกว่าจ้าวเฟิงจะตื่นขึ้นมา!”

จากนั้นตวนมู่ชิงก็อาศัยอยู่ที่นี่

เหล่าสมาชิกหอควันสมุทรต่างรู้สึกว่าอนาคตกำลังสดใส มีความสัมพันธ์กับแปดตระกูลใหญ่ ทะเลทั้งแถบนี้ก็จะไม่มีขั้วอำนาจใดมาขัดขวางการเติบโตของหอควันสมุทรได้ เลือดที่เดือดพล่านลุกโชนขึ้นในใจของเหล่าลูกศิษย์พวกนี้

………..

หลังจากที่เซียนเลี่ยเทียนและเหล่ากุ่ยจากไปแล้ว ในใจรู้สึกคับแค้นแน่นอก ไม่ว่าผ่านไปที่ใด ความมืดจะเข้าปกคลุม พายุซัดกระหน่ำ ราวกับฟ้าดินจะถล่มทลาย

“ตาเฒ่านี่ ทีหลังจะทำอะไร สืบข่าวให้ดีเสียก่อน!” แววตาของเหล่ากุ่ยเย็นยะเยียบ กลิ่นอายเย็นน่าขนลุกแผ่ออกมา ก่อนจากไปด้วยความโมโห

อย่างน้อยๆ เขาก็อยู่ตัวคนเดียว ปิดด่านเข้าฌานปลีกวิเวก แต่เซียนเลี่ยเทียนอยู่ในสำนัก มีหน่วยข่าวกรองอยู่ในมือ ทว่ายังเลอะเลือนได้ถึงเพียงนี้

เซียนเลี่ยเทียนกลับมายังตำหนักวิญญาณปฐพี อาละวาดเกรี้ยวกราด ทำเอาคนลนลานกันทั้งตำหนัก คนส่วนมากยังไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดอยู่ๆ ผู้อาวุโสสูงสุดจึงกราดเกรี้ยวถึงเพียงนี้

“จักรพรรดิซวิ่นกวง เจ้าจงไปสืบตื้นลึกหนาบางของจ้าวเฟิงมา สืบมาให้ได้ทุกรายละเอียด!” เซียนเลี่ยเทียนเอ่ยอย่างโมโหโกรธา

ด้านล่าง จักรพรรดิหนุ่มคุกเข่าอยู่ที่พื้น ตัวสั่นงันงก

ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเซียน เขารู้สึกเหมือนว่ารอบๆ มีพายุอัสนีกัมปนาท ขาข้างหนึ่งของตนเองก้าวเข้าไปในประตูผีแล้ว

“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด ข้าจะต้องสืบข่าวของจ้าวเฟิงให้ละเอียดอย่างแน่นอน!” จักรพรรดิซวิ่นกวงพูดเสียงสั่น

สามเดือนหลังจากนั้น เซียนเลี่ยเทียนได้รับรายงานข่าว เพียงกวาดสัมผัสวิญญาณ ในใจก็สั่นสะท้าน

ในตอนนั้นหลังจางเสวียนต้งแห่งตำหนักวิญญาณปฐพีจากไป จักรพรรดิตระกูลเถี่ยก็ไปเยือนสำนักศักดิ์สิทธ์วั่น

“มีสายเลือดของตระกูลเถี่ย!” เซียนเลี่ยเทียนใจสั่นสะท้าน

แปดตระกูลใหญ่อีกแล้ว!

อิทธิพลของตระกูลเถี่ยในบรรดาแปดตระกูลใหญ่นับว่าสุดยอดในแนวหน้า เปรียบได้กับสำนักสามดาวขั้นสุดยอดเลยทีเดียว

“เจ้าลัทธิมารเก้านิรย เซียนจากวังเก้านิรยก็เคยไปที่จวนอ๋องโหวเพื่อพาตัวจ้าวเฟิงไป!” เซียนเลี่ยเทียนเผยอาการตกตะลึง ก่อนจะนิ่งงันแล้วสั่นสะท้าน

เซียนของวังเก้านิรยเคยมายังแถบดินแดนเกาะ ข่าวสำคัญเช่นนี้เพิ่งจะสืบได้ในวันนี้ เครือข่ายหน่วยกรอง ล้วนแต่เป็นพวกไร้ประโยชน์จริงๆ

และนี่ยังมีประเด็นสำคัญอีก ระหว่างเจ้าลัทธิมารเก้านิรยและจ้าวเฟิงมีร่องรอยของการต่อสู้ครั้งใหญ่ สุดท้ายจ้าวเฟิงกลับมา แต่เจ้าลัทธิมารเก้านิรยหายตัวไป!

กระดาษรายงานข่าวใบนั้นปลิดปลิวกลายเป็นเศษเถ้าธุลี

……………….

เวลาค่อยๆ หมุนผ่านไป ตวนมู่ชิงอยู่ที่หอควันสมุทร ห่างจากที่ที่จ้าวเฟิงปิดด่านเข้าฌานไม่ไกล ทุกช่วงเวลาหนึ่งก็จะใช้ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณคอยสังเกตสภาพของจ้าวเฟิง

ในตอนนี้ จ้าวเฟิงที่อยู่ในห้วงนิทรา ทุกช่วงเวลาร่างกายจะขยับเล็กน้อย

เส้นผมสีทองอ่อนเปรียบดั่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ให้ความรู้สึกราวกับหลุดพ้นจากโลกคาวโลกีย์

มิติดวงตาซ้าย

จ้าวเฟิงรู้สึกตัวเล็กน้อยนานแล้ว มองเห็นซึ่งการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

ตอนแรกสุด ลึกลงไปในทะเลสาบพลังดวงตาสีฟ้า มีเส้นแสงสีทองเส้นหนึ่ง สะท้อนกับพื้นน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับ จากนั้นแสงสีทองอ่อนก็ขาดๆหายๆ แผ่กระจายออกไปจากกึ่งกลาง แสงสีทองอ่อนที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นกลุ่มนี้ ไม่ใช่เจตจำนงดวงตา

จ้าวเฟิงสังเกตเห็นมานานมากแล้ว แต่ก็วิเคราะห์ถึงที่มาของมันไม่ได้

และจากแสงที่สาดส่องกลุ่มนี้ ทำให้ทะเลหมอกสีม่วงที่อยู่เหนือทะเลสาบสีฟ้า มีบางส่วนค่อยๆ อ่อนจางลง ถึงแม้จะเล็กน้อย เบาบางนัก แต่จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้รวมถึงธาตุลมและสายฟ้าในทะเลหมอกก็ลดน้อยลง

ในตอนแรก จ้าวเฟิงตกใจเป็นอย่างมาก หรือการเปลี่ยนแปลงของเนตรเทพเจ้าในครั้งนี้จะทำให้พลังวิญญาณของเขาลดลง?

แต่หลังจากแสงสีม่วงทองเปลี่ยนจากหนึ่งกลุ่มเป็นสองกลุ่ม เป็นหนึ่งสาย

ยิ่งทะเลหมอกสีม่วงหายไปเยอะเท่าไหร่ เขากลับยิ่งรู้สึกว่าพลังวิญญาณของตนเองไม่ได้อ่อนแอลงอย่างชัดเจน ถ้าอย่างนั้น ทะเลหมอกสีม่วงหายไปไหน?

จ้าวเฟิงทำได้แค่เพียงรอคอยเท่านั้น

บนผืนทะเลสาบ แสงสีทองอ่อนเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นรวมตัวกันเป็นลำแสง สาดส่องไปยังทะเลหมอกสีม่วง

“พลังอัสนีเทวะกำลังหายไป!” จ้าวเฟิงอดร้องขึ้นอย่างตื่นตระหนกไม่ได้

ทะเลหมอกสีม่วงคือผลพวงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของดวงตาเทพเจ้า ถึงถูกแสงสีทองสาดส่องหายไป ก็ยังพอรับได้

แต่การหายไปของพลังอัสนีเทวะ ยังผลให้จ้าวเฟิงสงบจิตใจไม่ได้อีกต่อไป

ความสามารถควบคุมทุกสิ่งได้ในระดับหนึ่งของพลังอัสนีเทวะก็จะหายไปเหมือนกัน

พลังอัสนีเทวะเป็นไพ่ตายของเขามาโดยตลอด นำชัยชนะมาให้ท่ามกลางการต่อสู้ที่อันตรายนับครั้งไม่ถ้วน

จ้าวเฟิงยังหวังพึ่งพลังนี้เพื่อคุ้มกันทัณฑ์อัสนีเทวะในภายภาคหน้า

เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป ทะเลวิญญาณสีม่วงพร้อมทั้งพลังอัสนีเทวะค่อยๆ เลือนหายไป

“ไม่สิ พลังวิญญาณของข้าไม่ได้จางหาย แต่มันมีอะไรแปลกไป!” จู่ๆ จ้าวเฟิงก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนไป

การรับรู้ของเขาค่อยๆ ชัดเจนขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเนตรเทพเจ้า

ในตอนแรก จ้าวเฟิงสัมผัสได้เพียงขั้นแรกเท่านั้น ตอนนี้สามารถรับรู้ได้อย่างละเอียดแล้ว ทะเลวิญญาณสีม่วงหายไปแล้วสองส่วน พลังวิญญาณของเขาไม่ลดลงแม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เพียงแต่ยังอ่อนมากนัก หากมันไม่ได้มาจากสัมผัสที่เปลี่ยนไปของวิญญาณ จ้าวเฟิงก็ไม่อาจสังเกตเห็นจุดนี้ได้

มองดูกลางทะเลสาบสีฟ้า แสงสีทองยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกได้รางๆ ว่าราวกับจะมีบางสิ่งลอยออกมา

ในวันหนึ่ง แสงทองพลันเพิ่มมากขึ้นสองสามส่วน จ้าวเฟิงเห็นแสงบิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่งใต้ทะเลสาบได้อย่างชัดเจน

ณ หอควันสมุทร ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณของตวนมู่ชิงคอยสังเกตจ้าวเฟิงโดยตลอด

จ้าวเฟิงในตอนนี้ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นเข้าจะต้องละสายตาไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เส้นผมสีทองอ่อนของเขา ไม่มีเส้นใดไม่เปล่งแสงสีทองอ่อนที่ทำให้เซียนต้องรู้สึกแปลกใจ

แม้กระทั่งแมวขโมยน้อยที่ลึกลับก็ไม่เป็นข้อยกเว้น

แสงที่สาดส่องทะลุไปทั่วทำให้มันรู้สึกไม่สบายตัว จึงมุดเข้าไปยังมนตราอากาศ

“ดวงเทพเจ้าของจ้าวเฟิง ดูเหมือนว่าพลังที่แท้จริงกำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว!” ตวนมู่ชิงอดตะลึงไม่ได้ มิฉะนั้น จ้าวเฟิงคงไม่นอนหลับไปนานเช่นนี้

มิติดวงตาซ้าย

การรับรู้ของจ้าวเฟิงชะงัก จ้องไปยังลูกกลมสีทองเหนือผิวทะเลสาบสีฟ้า

มันโปร่งใสเป็นที่สุด ราวกับอาทิตย์กล้าสีทองในมิติดวงตาซ้าย

แสงที่สาดส่องออกมามีกลิ่นอายแต่บรรพกาลซึ่งไม่วันเปลี่ยนแปลง แต่กลับทำให้จ้าวเฟิงรู้สึกคุ้นชินอย่างประหลาด ลูกสีทองกลมเกลี้ยงเปล่งลายแสงสีทองอ่อนจางออกมา ทะลุผ่านทุกสิ่ง สาดแสงทะลุทะเลหมอก สาดส่องไปยังก้นทะเลสาบสีฟ้า

เหนือทะเลสาบ ทะเลหมอกสีม่วงที่ลอยอยู่หายไปด้วยความเร็วที่มากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า

ส่วนผิวน้ำสีฟ้าที่มีลูกกลมทองลอยล่องกลายเป็นคลื่นวนทันใด

ซ่า!

ทะเลสาบสีฟ้าไหลไปตามกระแสคลื่นวน สายน้ำไหลเข้าสู่ลูกกลมสีทองไม่หยุด แล้วหายวับไป

ทันใดนั้น ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวก็ถาโถมออกมาจากวิญญาณ สติรับรู้ของจ้าวเฟิงลดลง

“วิญญาณของข้า!” จ้าวเฟิงรวบรวมความคิดความรู้สึกทั้งหมดไว้ที่วิญญาณของตน รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เขาพบว่าวิญญาณของตัวเองกำลังค่อยๆ รวมกันเป็นกลุ่มที่แน่นหนาขึ้น

บนนั้นยังมีฟ้าแลบเป็นช่วงๆ อีกด้วย!

แต่จ้าวเฟิงสามารถรู้ได้ทันที นั่นไม่ใช่สายฟ้าธรรมดา มันคือพลังอัสนีเทวะ

“หรือว่าทะเลหมอกสีม่วงและอัสนีเทวะที่หายไปพวกนี้จะหลอมรวมเข้ากับวิญญาณของข้า?” ในใจของจ้าวเฟิงตื่นตระหนก ยากที่จะสงบลงได้

ถึงแม้ว่าแต่เดิมทีทะเลวิญญาณสีม่วงก็คือพลังวิญญาณที่เกิดจากทะเลสาบสีฟ้า

แต่พลังอัสนีเทวะรวมเข้ากับวิญญาณ

จ้าวเฟิงพูดได้เพียงแค่ว่า ไม่น่าเชื่อ!

เขานึกขึ้นได้โดยฉับพลัน ในคลังข้อมูลความทรงจำเหมือนจะมีข้อมูลประเภทนี้อยู่

บนโลกนอกจากจะมีสายเลือดและคุณสมบัติร่างกาย ยังมี ‘กายวิญญาณ’ อีกชนิดหนึ่งที่เป็นสิ่งหายากยิ่ง ระดับความหายากของมันไม่เป็นรองสายเลือดที่อยู่อันดับต้นๆ ในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเลย

โดยเฉพาะกรณีของกายวิญญาณประเภทนี้ที่หาได้ยากมาก ไม่มีวิธีจะศึกษา มีดีและมีร้าย กระทั่งถูกมองว่าเป็นโรคทางวิญญาณชนิดหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

‘กายวิญญาณ’ เป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด จ้าวเฟิงไม่แน่ใจว่า วิญญาณในตอนนี้ของตนนับว่าเป็นลักษณะพิเศษของ ‘กายวิญญาณ’ หรือไม่

เมื่อไม่เข้าใจ จ้าวเฟิงจึงไม่ไปคิดถึงมันตอนนี้ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าทะเลวิญญาณสีม่วงและพลังอัสนีเทวะไม่ได้หายไปไหน แต่หลอมรวมกับวิญญาณเท่านั้น

แต่ว่าจ้าวเฟิงหาพลังดวงตาวายุไม่เจอ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ทะเลวิญญาณสีม่วงหายไปจนหมดสิ้น มิติดวงตาซ้ายดำมืด หลงเหลือไว้เพียงลูกกลมสีทองและทะเลสาบพลังดวงตาสีฟ้า

ขนาดของทะเลสาบหดเล็กลงเหลือเพียงห้าร้อยจั้ง โดนลูกกลมสีทองดูดกลืนไปหมด

สี่ร้อยจั้ง สามร้อยจั้ง…หนึ่งร้อยจั้ง

ทะเลสาบสีฟ้าหายไปจนหมดสิ้น ถูกลูกกลมสีทองดูดซับจนหมดเกลี้ยง ขนาดของมันไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

วู้ม! ลูกกลมสีทองลึกลับส่องประกายคลื่นสีทองออกมาทันใด มันสาดแสงไปทั่ว กระทั่งแทรกซึมทะลุมิตินี้ออกไปยังโลกข้างนอก ราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด

จ้าวเฟิงรู้ดี การแปรสภาพครั้งนี้ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจ ลูกทรงกลมสีทองลูกนี้มีความลับอะไร

การแปรสภาพของดวงตาเทพเจ้าจะนำอะไรมาให้เขา

ในแผ่นดินใหญ่ของราชวงศ์ต้าเฉียน ภายในถ้ำอันเงียบสงบ หญิงสาวในชุดขาวกำลังหลับตาวาดภาพ ทันใดนั้น นางรู้สึกราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งโจมตีมา ดวงตาทั้งสองพลันลืมขึ้น มุมปากมีเลือดสดไหลริน

มันเป็นดวงตาที่ไร้ซึ่งตาดำ เหมือนเป็นดวงตาว่างเปล่าที่มองทุกอย่างได้ทะลุ

“ท่านอาจารย์พูดไว้ไม่มีผิดจริงๆ เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าจริงๆ ด้วย”

หญิงสาวก้มลงมองภาพที่อยู่ในมือ มันเป็นภาพของชายรูปงามผู้หนึ่ง เส้นผมส่องประกายสีทอง ดวงตาคู่นั้นเป็นสีทองใสกระจ่างดุจดั่งอำพัน ราวกับมองทะลุทุกสิ่ง รู้แจ้งทุกความลับ

ป่าไผ่มรกตเงียบสงบแห่งหนึ่ง

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกับหญิงงามที่ดูสงบและบริสุทธิ์กำลังเดินหมากอยู่ ผู้อาวุโสดูคล้ายพยายามใช้ความคิดอย่างที่สุด ไม่รู้ควรจะเดินหมากต่อไปอย่างไรดี

พริบตานั้น ดวงตาทั้งสองก็มืดหม่นลงราวกับตกลงไปในวัฏจักรนรก ในนั้นมีรอยวนสีดำหมุนวนอยู่

“ศิษย์ข้า วันนี้พอแค่นี้เถอะ!” ดวงตาของผู้อาวุโสกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

“ท่านอาจารย์ เรื่องการเดินหมาก ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าตลอดกาล ฮิฮิ!”

หญิงสาวหัวเราะสดใส ใบหน้าที่งามหยาดเยิ้มดุจทำให้ผืนป่าไผ่สั่นไหวเพราะเหตุนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version