ตอนที่ 145 เพลงหอกเทียบฟ้า
แม้จางเซวียนจะมีความมุมานะมุ่งมั่นในการพัฒนาวรยุทธ แต่เขาก็ไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญเพลงหอกมาก่อน ถึงตอนที่ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เดินดินในโลกเก่า เขาก็ไม่เคยเช่นกัน
“ไม่เคยเรียนมาก่อนเลยหรือ?” หว่างชงผงะ
ถ้าไม่เคยร่ำเรียนเพลงหอกมาเลย แล้วจะมาแลกเปลี่ยนอะไรกัน?
โอวหยางเฉิงก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วนเต็มที
ตอนที่จางเซวียนบอกว่าอยากศึกษาวรยุทธเพลงหอก เขาเข้าใจว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานแล้ว จึงอยากให้ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้แทนที่จะเรียนจากตัวเขา ซึ่งการทำเช่นนี้ดูดีในทุกทาง แต่…ตกลงไม่เคยเรียนเพลงหอกมาเลยนี่นะ?
บ้าบอ!
ถ้าเขารู้ว่าจางเซวียนไม่เคยร่ำเรียนมาล่ะก็ จะส่งไปเรียนกับอาจารย์สอนวรยุทธเพลงหอกที่ไหนสักคนหนึ่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมารบกวนเพื่อนเก่าเลย
“สถานการณ์เป็นอย่างนี้ ผมมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งที่อยากเรียนวรยุทธเพลงหอก ผมก็เลยอยากศึกษาสักสองสามท่าเพื่อนำไปสอนเขา…” เห็นทุกสายตาจับจ้องมาที่ตัวเอง แต่จางเซวียนก็ต้องพูดต่อ
“เรียนสองสามท่าตอนนี้? นำไปสอนคนอื่น?” หว่างชงถอยกรูดและแทบลมจับด้วยความประหลาดใจ
นี่ล้อกันเล่นเหรอแก?
มีคนว่าไว้ หนึ่งเดือนกับกระบอง หนึ่งปีกับดาบ และชั่วชีวิตกับหอก!
ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มเรียนวรยุทธเพลงหอกตั้งแต่เด็ก เพียงเพื่อไม่อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดทั้งชีวิตที่เหลือ นี่คุณไม่ได้ร่ำเรียนมาแม้แต่น้อย แต่คิดจะไปสอนลูกศิษย์…
จะกล้าไปไหม? คิดว่าวรยุทธเพลงหอกง่ายดายขนาดนั้นหรืออย่างไร?
หว่างชงโกรธหน้าดำหน้าแดง ความรู้สึกดีที่มีต่อจางเซวียนหายวับไปทันที
เขาฝึกปรือวรยุทธเพลงหอกมาทั้งชีวิต และยึดถือมันเป็นสิ่งสำคัญ เขาเกลียดนักหากใครมาดูถูกศาสตร์นี้ แล้วเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้ร่ำเรียนมาสักนิด แต่คิดจะไปสอนลูกศิษย์แบบงูๆปลาๆ…ช่างเป็นการลบหลู่วรยุทธเพลงหอกอย่างเลวทรามต่ำช้าที่สุด!
ถ้าไม่ติดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นนักปรุงยาระดับ 1 ดาว และถ้าไม่เห็นแก่โอวหยางเฉิงเพื่อนเก่า เขาคงจับหมอนี่โยนออกไปแล้ว
ข่มความหงุดหงิดไว้ หว่างชงตอบ “วรยุทธเพลงหอกนั้นฝึกปรือยาก เรียนรู้ได้ยาก เป็นไปไม่ได้ที่จะทำความเข้าใจศาสตร์ลึกซึ้งเช่นนี้ในระยะเวลาอันสั้น ถ้าคุณสอนผู้อื่นโดยที่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ล่ะก็ คุณนำพวกเขาไปผิดทางแน่!”
น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว
“เอ่อ…” เห็นความหงุดหงิดของฝ่ายนั้น จางเซวียนรู้ว่าคงขอเรียนวรยุทธเพลงหอกจากเขาไม่ได้แน่ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยถาม “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่หว่างมีหนังสือว่าด้วยวรยุทธเพลงหอกอยู่ที่นี่บ้างหรือไม่ ถ้ามี ผมขอดูหน่อยได้ไหม?”
“ดูหนังสือรึ?” หว่างชงขมวดคิ้ว
วรยุทธเพลงหอกเป็นศิลปะการต่อสู้แขนงหนึ่ง ทุกท่วงท่าต้องการคำติติ่งชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งยังต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการเรียนรู้ ถ้าทำความเข้าใจศาสตร์นี้ได้เพียงแค่อ่านหนังสือ คงไม่ต้องฝึกปรือกันหนักขนาดนั้น
แม้จะยังแคลงใจในวัตถุประสงค์ของจางเซวียน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเลิกล้มความตั้งใจแรก เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและตอบว่า “ได้สิ ผมมีหนังสือมากมาย คุณจะได้เรียนรู้ว่าศาสตร์ของการใช้หอกนั้นลึกซึ้งขนาดไหน ผมจะพาคุณไป”
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเพลงหอก เขาครอบครองหนังสือเกี่ยวกับวรยุทธเพลงหอกเกือบทุกเล่มที่มีอยู่ในอาณาจักรเทียนเซวียน ตราบใดที่เคล็ดลับวรยุทธเพลงหอกที่สืบทอดกันมาในครอบครัวของเขายังไม่รั่วไหล การอนุญาตให้คนนอกเข้าชมหนังสือเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ขอบคุณมาก!” จางเซวียนคำนับ
ศาสตร์แห่งเพลงหอกก็เหมือนกับศิลปะการต่อสู้แขนงอื่น ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการฝึกฝนทักษะและเข้าถึงหัวใจของมันอย่างถ่องแท้ แต่สำหรับจางเซวียนนั้นต่างไป ตราบใดที่มีหนังสือเพียงพอ เขาก็สามารถเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะแห่งเพลงหอกขึ้นได้โดยง่าย
“นี่คือห้องหนังสือของผม หนังสือว่าด้วยวรยุทธเพลงหอกเกือบทุกเล่มในอาณาจักรเทียนเซวียนอยู่ที่นี่ รวมถึงหนังสือหายากด้วย”
หว่างชงเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจเมื่อทั้งสามไปถึงห้องหนังสือ
เขาใช้เงินมหาศาลเพื่อการสะสมหนังสือเหล่านี้ พวกมันทำให้เขาพัฒนาวรยุทธได้สูงขึ้นเรื่อยๆ
“โอวหยาง นายไม่ได้มาที่นี่นานแล้วนะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า”
หว่างชงรู้ว่าจางเซวียนคงต้องการเวลาอ่านหนังสือ จึงไม่คิดจะรอ
เขาชวนโอวหยางเฉิงไปอีกห้องหนึ่ง
“ไปสิ” โอวหยางเฉิงตอบ แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป
“เริ่มเลยดีกว่า!”
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกเมื่อทั้งคู่จากไป เขาเดินไปยังชั้นหนังสือและตั้งต้นพลิกมัน
“พรึ่บบบบบ!”
เสียงพลิกหนังสือดังก้องไปทั่วห้อง และหนังสือทุกประเภทที่เกี่ยวกับเพลงหอกก็ก่อตัวขึ้นในสมองของเขา
บางเล่มอยู่ในขั้นพื้นฐาน บางเล่มให้รายละเอียดของกระบวนท่าทั่วไป และบางเล่มก็เป็นคำแนะนำเบื้องต้น…
หนังสือว่าด้วยเพลงหอกทุกประเภทเท่าที่คนคนหนึ่งจะจินตนาการได้มีอยู่ที่นี่ คอลเล็คชั่นของเขาถือว่าใหญ่โตมาก
จางเซวียนพลิกหน้าหนังสืออย่างต่อเนื่อง บันทึกความรู้เหล่านั้นไว้ในสมอง เขาพลิกหนังสือกว่าสองสามพันเล่มบนชั้นหนังสือทั้งแปดชั้นในเวลาหนึ่งชั่วโมง
เขายืนนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งเพื่อประมวลความรู้ทั้งหมดในสมอง
“กระบวนการฝึกที่ถูกต้อง…”
เกิดเสียงครืนครั่นในหัว หนังสือว่าด้วยเพลงหอกทั้งหมดหลอมรวมกันเป็นหนังสือหนึ่งเล่มในสมองของจางเซวียน เขาตั้งต้นเปิดอ่านทันที
“อาวุธคือสิ่งที่เชื่อมโยงกับแขน การฝึกฝนจนอาวุธหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับแขนเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่แท้จริง วรยุทธเพลงหอกก็เฉกเช่นกัน”
ศาสตร์แห่งการใช้หอกที่หอสมุดเทียบฟ้าสร้างขึ้นนั้นมาจากการรวบรวมหนังสือจำนวนมหาศาลอย่างน่าทึ่ง ทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ขณะที่เปิดอ่าน จางเซวียนใช้นิ้วมือของเขาแทนหอกเพื่อฝึกฝนกระบวนท่า
“ฟึ่บ! ฟิ้ว!”
เวลาล่วงเลยไป พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นิ้วมือของเขาฟาดฟันอากาศอย่างเฉียบคม ราวกับว่าร่างกายของเขากลายเป็นหอกเสียเอง และเขาอาจใช้มันแทงทะลุไปถึงสวรรค์ได้
หอกนั้นได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งอาวุธ คนที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงได้จะต้องมีนิสัยใจคอและความเฉียบขาดราวกับจะทะลุถึงสวรรค์ ซึ่งหากมิได้ผ่านร้อนผ่านหนาวและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มายาวนานก็ไม่อาจมีคุณสมบัติเช่นนั้นได้!
หากใครได้มาเห็นจางเซวียนตอนนี้ จะต้องกรีดร้องด้วยความตระหนกเป็นแน่
เพราะจางเซวียนได้ครอบครองคุณสมบัตินั้นแล้ว แม้ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าวรยุทธเพลงหอกของเขาเข้าถึงขั้นปรมาจารย์แล้วหรือไม่ แต่รังสีที่แผ่ออกจากร่างของเขานั้นรุนแรงพอจะคร่าความมั่นใจของนักรบมากมาย คนพวกนั้นจะไม่มีเรี่ยวแรงและพลังใจที่อยากจะสู้กับเขาอีก
เมื่อเข้าถึงหนังสืออย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จางเซวียนก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังคงใช้มือฝึกกระบวนท่าต่อไป
บูม!
พลังปราณระเบิดออกจากนิ้วของเขา พุ่งเข้ากระแทกพื้นห้อง ก่อให้เกิดหลุมจำนวนนับไม่ถ้วน
โชคดีที่เขาควบคุมพลังของตัวเองไว้ได้ มิเช่นนั้น ห้องหนังสือของหว่างชงจะต้องวายป่วงเหมือนของปรมาจารย์ลู่เฉินเป็นแน่
เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ในที่สุดจางเซวียนก็หยุด และพ่นลมหายใจพรืดด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“นี่เราฝึกวิชาสำเร็จแล้วใช่ไหม?” จางเซวียนตาโต
เพียงครู่เดียว เขาก็ฝึกปรือเคล็ดวิชาเพลงหอกทั้งหมดที่บรรจุไว้ในหอสมุดเป็นที่เรียบร้อย
“เราจะเรียกมันว่า เพลงหอกเทียบฟ้า!”
ปิ๊ง!
หนังสือสั่นสะเทือน และชื่อหนึ่งปรากฏขึ้น…เพลงหอกเทียบฟ้า!
“เสียดายที่หนังสือมีน้อยเกินไป และข้อผิดพลาดก็มาก เราไปได้เพียงขั้นเดียวเท่านั้นเอง”
จางเซวียนนึกเสียใจ
หนังสือทั้งหมดว่าด้วยวรยุทธเพลงหอกขั้นพื้นฐาน หอสมุดเทียบฟ้าได้ประมวลทฤษฎีทั้งหมดเข้าด้วยกันและสร้างศิลปะว่าด้วยการใช้หอกขึ้นมา
“สงสัยจริงว่ากระบวนท่านี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้เราได้หรือไม่ และมากแค่ไหน”
แม้จะเป็นเพียงความคืบหน้าขั้นเดียว แต่เขาก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะหลังจากการฝึกเคล็ดวิชาเทียบฟ้าและวิชาร่างนวโลหะ
ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเป็นแน่
“เราจะกลับไปถ่ายทอดให้เจิ้งหยาง!”
เหตุผลที่เขาตั้งใจมาเรียนศิลปะการใช้หอกที่นี่ก็เพื่อจะนำไปถ่ายทอดให้เจิ้งหยาง แม้จะเป็นแค่ขั้นเดียว แต่อย่างน้อยการมาครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่า
ถ้าเจิ้งหยางเข้าถึงทักษะเหล่านี้ล่ะก็ วรยุทธเพลงหอกของเขาจะต้องพัฒนาอย่างพรวดพราด และการประลองกับโม่วเซียวก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ทุกอย่างที่มาจากหอสมุดเทียบฟ้านั้นไร้เทียมทาน ปราศจากข้อสงสัยทั้งมวล
“ถึงเวลาต้องไปแล้ว!” หลังจากอ่านหนังสือครบและได้ทุกสิ่งที่ต้องการ จางเซวียนก็ไม่รอช้า เขากระวีกระวาดออกจากห้องหนังสือนั้น