ตอนที่ 131 : แลกเปลี่ยน
มิสเตอร์ A?
ชื่อเหมือนฉายาของผู้ก่อการร้ายมากกว่าจะเป็นบุคคลลึกลับทรงพลัง เทียบกับมิสเตอร์ฟูลไม่ได้แม้แต่น้อย…
ไม่สิ มีเพียงตัวตนระดับเทพหรือครึ่งเทพเท่านั้นที่สามารถเทียบชั้นท่านมิสเตอร์ฟูลได้!
เมื่อตระหนักเช่นนี้ ออเดรย์พลันเชิดไหล่คล้ายกับตนเหนือกว่า
เด็กสาวชำเลืองมองมิสเตอร์ A อีกสักพักก่อนจะหันไปถามฟอร์สและซิลด้วยเสียงค่อย
“เขาเป็นใคร? พอจะมีข้อมูลบ้างไหม?”
ไวเคาต์กายลินนึกสงสัยแบบเดียวกัน
ซิล·เดียร์ชาตอบเสียงเคร่งขรึม
“เคยมีหลายเหตุการณ์ที่โด่งดังเกี่ยวกับเขาในอดีต กล่าวกันว่า ผู้วิเศษลำดับเจ็ดและแปดจำนวนมากพยายามลอบสังหาร แต่ทุกคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย”
“แปลว่าแข็งแกร่งมากสินะ”
กายลินสรุปด้วยสีหน้าชื่นชม
ขณะทั้งสี่คนเดินผ่านบานประตู ผู้คุมหน้าห้องทำการปิดประตูไล่หลังเสียงดัง
ผ่านไปสักพัก เมื่อดวงตาเริ่มคุ้นชินกับแสงตะเกียงแก๊สภายในห้อง ออเดรย์หันไปเห็นกระดานดำตั้งอยู่เบื้องหน้าตนในระยะห่างออกไปพอสมควร บนแผ่นกระดานมีข้อความเขียนไว้มากมาย
ฟอร์สหยิบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดขึ้นมาถือ จากนั้นก็ส่งเสียงกระซิบ
“ข้อความบนกระดานคือข้อเสนอจากสมาชิกแต่ละคน ต้องเข้าด้วยใจว่า เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าโจมตีของผู้วิเศษโลภมาก พวกเขาจึงร่วมการชุมนุมโดยไม่เปิดเผยตัวตน ด้วยเหตุนี้ ข้อเสนอหรือการค้าขายส่วนใหญ่จะไม่ประสงค์ออกนาม”
ออเดรย์พยักหน้า เนตรผู้ชมของเธอเลิกสนใจสมาชิกคนอื่นภายในห้อง สมาธิจดจ่ออยู่กับข้อความบนแผ่นกระดานดำ
“ต้องการดวงตาปลามานเฮอร์โตเต็มวัยหนึ่งคู่ เถ้าซากวิญญาณอาฆาต หนึ่งร้อยหกสิบห้าปอนด์ สมุดบันทึกของจักรพรรดิโรซายล์ สามแผ่น ยี่สิบปอนด์”
เมื่อเห็นสิ่งที่เขียนบนกระดาน ออเดรย์มิอาจรักษาสมาธิของภาวะผู้ชมได้อีก เธอกำลังตะลึงและตื่นเต้นสุดขีด
ราคาพวกนี้…ถูกเกินไปแล้ว!
หัวใจเด็กสาวกำลังเริงร่าอย่างมีความสุข
ขณะเดินเข้าไปใกล้ สายตาเธอยังคงจ้องอ่านข้อความประกาศอื่นๆ
“น้ำตาบุปผาทารก สองร้อยปอนด์ ผงมัมมี่ สิบกรัม ห้าปอนด์ เสมหะมนุษย์ปลา สามสิบมิลลิลิตร ยี่สิบเก้าปอนด์ สูตรผลิตโอสถลำดับแปด ผู้พิพากษา สี่ร้อยห้าสิบปอนด์”
…
ถ…ถูกมาก! วัตถุดิบวิเศษมีมูลค่าไม่ถึงสามร้อยปอนด์เองหรือ!?
ออเดรย์กำลังตื่นเต้นขณะมองหาที่นั่งร่วมกับเพื่อนของเธออีกสามคน
ซิล·เดียร์ชาโน้มตัวกระซิบข้างหู
“มีอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษไหม?”
ออเดรย์เริ่มหายใจถี่ วลีเลื่องชื่อของจักรพรรดิโรซายล์พลันผุดในหัว
‘เหมาแม่มให้หมดร้าน!’
เธอมีพี่ชายสองคน ส่งผลให้ตำแหน่งขุนนางจากบิดาไม่มีทางตกทอดมาถึง แต่ด้วยความที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของบ้าน พ่อและแม่จึงมอบความรักและตามใจเป็นพิเศษ
ออเดรย์มีทรัพย์สินมากมายในชื่อของเธอประกอบด้วยฟาร์มเกษตร ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เหมืองแร่ เครื่องประดับ หุ้น และพันธบัตรอีกนับไม่ถ้วน มูลค่าทั้งหมดรวมกันราว สามแสนปอนด์
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมรดกปัจจุบัน หากบิดาของเธอ เคาต์ฮอลล์ เสียชีวิตลง หรือออเดรย์เกิดแต่งงานออกเรือน เธอจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากมรดกบิดาอีกทอดหนึ่ง
กล่าวกันว่า รายได้ต่อปีของออเดรย์มีมูลค่ามหาศาลราว หนึ่งหมื่นห้าพัน ถึง สองหมื่นห้าพัน ปอนด์เลยทีเดียว
หรือก็คือ เธอเป็นหนึ่งในขุนนางสตรีมั่งคั่งที่สุดของอาณาจักรโลเอ็น
แต่แน่นอน ค่าครองชีพของขุนนางมีตัวเลขค่อนข้างมากในแต่ละปี และเมื่อเด็กสาวมีรายได้ส่วนตัว เธอจึงไม่สามารถขอเงินจากพ่อแม่เพิ่มหากมีเหตุผลไม่มากพอ
ออเดรย์พยายามระงับสติอารมณ์พลางตอบแบ่งรับแบ่งสู้
“ถ้านับแค่ปัจจุบัน ฉันกำลังเล็งสมุดบันทึกของจักรพรรดิโรซายล์ไว้ ท่านเป็นบุคคลน่าเลื่อมใส ฉันมั่นใจว่าอักขระพิเศษของเขาต้องแฝงพลังลึกลับไว้แน่ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีผู้ใดสามารถถอดรหัสดังกล่าวออก”
ออเดรย์ นับวันหล่อนยิ่งโกหกหน้าตายเก่ง
เด็กสาวรำพันในใจ
เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มเชิ้ตขาวที่นั่งไม่ห่าง พลันยืนขึ้นและหันมาพูดกับเธออย่างตื่นเต้น
“ใช่แล้ว! จริงที่สุด! ได้พบคนมีความคิดแบบเดียวกันสักที! ฉันคือคนที่ประกาศขายสมุดบันทึกจักรพรรดิโรซายล์จำนวนสามหน้า และยินดีขายให้เธอทันที!”
ออเดรย์ผงะในช่วงแรก ก่อนจะตั้งสติได้และส่งรอยยิ้มอบอุ่นกลับไป
“ด้วยความเต็มใจค่ะ”
เด็กสาวควักธนบัตร สิบปอนด์สองใบยื่นให้ชายหนุ่มเชิ้ตขาว จากนั้นก็รับไดอารีจักรพรรดิโรซายล์สามหน้าเป็นการแลกเปลี่ยน
ปัจจุบัน ยังไม่มีใครทราบว่าแผ่นกระดาษของโรซายล์คือ ‘ไดอารี’ ทุกคนจึงพากันเรียกมันว่า ‘สมุดบันทึก’
เมื่อรับกระดาษมาสามแผ่น ออเดรย์เปิดอ่านพลางกวาดสายตาสำรวจอย่างตั้งใจ หลังจากยืนยันลักษณะตัวอักษร ว่าคล้ายกับแผ่นก่อนหน้าที่ตนเคยอ่าน เด็กสาวจึงเก็บมันเข้าไปในเสื้อคลุมและหันไปสนทนากับฟอร์ส
“ถ้าสินค้าเป็นของปลอม พวกเราสามารถร้องเรียนกับใครได้บ้าง? มิสเตอร์ A หรือ?”
“ถูกต้อง มิสเตอร์ A จะไม่ยอมให้มีการฉ้อโกงเกิดขึ้นในชุมนุมของเขาเด็ดขาด หากคุณต้องการร้องเรียน ฉันสามารถช่วยเป็นสื่อกลางให้ได้”
ซิลหันมาตอบอย่างกระตือรือร้น
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ออเดรย์เริ่มนั่งสงบเสงี่ยมรักษากิริยา เธอเปิดเนตรผู้ชมและกวาดสายตามองเหล่าผู้วิเศษรวมถึงว่าที่ผู้วิเศษรอบตัว
เนื่องจากเสียงเอะอะโวยวายของชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อครู่ สมาชิกชุมนุมหลายคนจึงกำลังมองมาทางตนและกายลิน บ้างแอบมองด้วยหางตาอย่างไม่ประเจิดประเจ้อ
แต่ฮู้ดของทั้งสองได้ปกปิดตัวตนแท้จริงไว้
ภายในห้องมีโซฟาและเก้าอี้จำนวนมาก ทั้งหมดหันเข้าหากระดานดำแผ่นใหญ่
ลักษณะเครื่องเรือนรวมถึงการตกแต่งค่อนข้างเรียบง่ายไม่หรูหรา หมายความว่ามิสเตอร์ A คงไม่ใช่ขุนนาง และไม่แยแสว่าชุมนุมตัวเองต้องยิ่งใหญ่อลังการ…
ใช่แล้ว ด้วยความมั่นใจในตัวเองระดับนั้น มันคงมองว่าความหรูหรามิใช่สิ่งจำเป็นสำหรับการชุมนุม
เด็กสาวกวาดสายตามองรอบห้องพลางตั้งใจเก็บข้อมูล
มิสเตอร์ A เลือกมองเฉพาะสมาชิกหญิง และเน้นหนักไปทางสตรีโฉมงาม…
ทำไมต้องมองเราถี่ขนาดนี้?
หรือเจ้านั่นจะเห็นทะลุเสื้อผ้า?
ออเดรย์พลันชะงักเมื่อตระหนักถึงความเป็นไปได้ สีหน้าของเธอพลันบิดเบี้ยวขยะแขยงคล้ายกับเผลอกินแมลงวันเข้าไป
แต่เพียงไม่นาน ความกังวลเหล่านั้นพลันสลาย เพราะเมื่อลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วน มิสเตอร์ A ไม่ได้มองลงมายังเรือนร่างหรืออวัยวะสงวนของเหล่าสตรี
เพียงพิจารณาใบหน้าและอารมณ์
สิ่งนี้หมายถึง อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้มองทะลุเสื้อผ้าอย่างที่ตนคิด มิสเตอร์ A คงกำลังสำรวจหาอะไรบางสิ่ง
เป็นพลังสังเกตในระดับน่าทึ่ง ชนิดที่ฮู้ดก็ไม่ช่วยปกปิดใบหน้าแท้จริงไว้ได้
เด็กสาวตัดสินใจเก็บรายละเอียดสมาชิกที่เหลือภายในห้องต่อ…พวกมันหลายคนกำลังสนทนาอย่างผ่อนคลาย บ้างกำลังจับตามองพฤติกรรมคนอื่น
ทันใดนั้น ผู้ช่วยของมิสเตอร์ A เดินมาทางกลุ่มออเดรย์พร้อมกับแนะนำ
“หากมีความประสงค์ คุณสามารถเขียนความต้องการลงบนเศษกระดาษและส่งให้พวกเรา หรือหากต้องการขายสิ่งใด ก่อนพักเบรกครั้งหน้า ให้เขียนชื่อสินค้าพร้อมราคาลงบนกระดานดำหน้าห้องเล็กทางนั้น”
ฟอร์สอัดบุหรี่เข้าไปหนึ่งปอดขณะสายตาชำเลืองมองสมาชิกรอบข้างอย่างระมัดระวัง
“คุณมีเส้นทางผู้วิเศษในใจแล้วหรือยัง? ต้องการโอสถลำดับเก้าแบบไหนหรือ?”
ฟอร์สรักษาสัญญาซึ่งเคยให้ไว้กับออเดรย์และไวเคาต์กายลิน เธออธิบายทุกเส้นทางที่ตนทราบอย่างละเอียดด้วยเสียงแผ่วเบา
“ผู้ชม…ดิฉันต้องการสูตรผลิตโอสถลำดับเก้า·ผู้ชม รวมถึงลำดับแปด·นักอ่านใจ”
เด็กสาวประเมินว่า หากต้องพบหน้าฟอร์สและซิลบ่อยครั้งในอนาคต คงเลี่ยงที่จะปกปิดพลังผู้ชมของตนตลอดไปไม่ได้ จึงชิงประกาศให้พวกหล่อนทราบว่าเธอมีเจตนาจะเลือกเส้นทางผู้ชม หากสองคนนี้ตระหนักถึงพลังของตนในภายหลังจะได้ไม่แสดงท่าทีประหลาดใจ
ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามแพร่งพรายการมีอยู่ของชุมนุมไพ่ทาโรต์เด็ดขาด!
ถึงจะต้องเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ไปกับสูตรผลิตโอสถลำดับเก้าที่ไม่ได้ใช้ แต่นั่นก็นับว่าคุ้มค่าเพื่อแลกกับการปกปิดข้อมูล…
ออเดรย์สรรเสริญความฉลาดของตนในใจ
ขณะเดียวกัน เด็กสาวสังเกตเห็นซิล·เดียร์ชาชำเลืองมองกระดานดำบ่อยครั้งด้วยสีหน้าปรารถนาปนหดหู่
หากจำไม่ผิด ซิลเคยบอกไว้ว่า ลำดับแปดของเส้นทางผู้ตัดสินคือ ‘ผู้พิพากษา’
หมายความว่าเธอกำลังสนใจป้ายราคา สี่ร้อยห้าสิบปอนด์บนกระดานดำสินะ…
หล่อนคงต้องการโอสถผู้พิพากษามาก
ได้ยินจากฟอร์สว่า ซิลเป็นผู้ตัดสินมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว จากคำบอกเล่าเบื้องต้น ซิลใช้เทคนิคสวมบทบาทในกิจวัตรประจำวันโดยไม่รู้ตัวมาตลอด หรือก็คือ โอสถผู้ตัดสินคงถูกย่อยไปในปริมาณมากแล้ว
จากข้อมูลทั้งหมด ออเดรย์สรุปได้ทันที
ซิล·เดียร์ชามีเงินไม่พอสำหรับซื้อสูตรผลิตโอสถผู้พิพากษา
ขณะเด็กสาวนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ถึงคิวของกายลินเปิดตัวเส้นทางที่มันปรารถนาบ้าง
“หมอยา… ฉันจะเป็นหมอยา!”
เมื่อสัมผัสถึงสายตาจากฟอร์สและออเดรย์ กายลินรีบอธิบายเพิ่มเติมด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“สำหรับผมแล้ว ความไม่มีโรคถือเป็นลาภอันประเสริฐ!”
“วลีดังของจักรพรรดิโรซายล์สินะ เป็นความคิดที่ดี เพราะฉันก็เคยอยากเป็นหมอยาเหมือนกัน”
ฟอร์สถอนหายใจแผ่วเบาด้วยท่าทีเฉื่อยชา
หลังจากตัดสินใจได้ ออเดรย์เขียนความปรารถนาของตนลงบนเศษกระดาษและยื่นให้ผู้ช่วยมิสเตอร์ A
จากนั้น เด็กสาวเงยหน้าสำรวจบรรยากาศภายในห้อง เธอพบว่าผู้ช่วยมิสเตอร์ A เดินเวียนจนครบสมาชิกทุกกลุ่ม ในมือถือแผ่นกระดาษไว้หลายใบ
ท้ายที่สุด ผู้ช่วยเดินไปทางกระดานดำพร้อมกับส่งกระดาษให้กับเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่ง จากนั้นก็ลงมือเขียนข้อเสนอของสมาชิกลงบนกระดานดำพลางอ่านออกเสียง
“ต้องการสูตรผลิตโอสถผู้ชมและโอสถนักอ่านใจ ราคาต่อรองซึ่งหน้า…”
ผู้ช่วยอ่านออกเสียงซ้ำสามครั้ง หากมีใครสนใจข้อเสนอ สมาชิกชุมนุมสามารถใช้งานห้องลับขนาดเล็กด้านหลังกระดานดำได้
โดยผู้ช่วยมิสเตอร์ A จะเป็นสักขีพยาน เพื่อให้การแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างราบรื่น
ผ่านไปสักพัก ขอเสนอของทั้งออเดรย์และไวเคาต์กายลินถูกปล่อยผ่านเนื่องจากไม่มีผู้ใดให้ความสนใจ ทั้งคู่แสดงสีหน้าผิดหวังชัดเจน
ทันใดนั้น ผู้ช่วยมิสเตอร์ A ได้เดินมาหยุดข้างออเดรย์พลางส่งเศษกระดาษให้เธอ
“จากมิสเตอร์ A”
ผู้ช่วยกระซิบ
ออเดรย์รีบคลี่กระดาษเปิดอ่าน
“คุณสนใจสูตรผลิตโอสถลำดับเก้าของเส้นทางอื่นหรือไม่?”
ออเดรย์ยกมุมปากขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยัน เด็กสาวก้มตัวเขียนตอบลงบนที่ว่างแผ่นกระดาษ
“ฉันสนใจเพียงเส้นทางผู้ชม”
เธอส่งมันกลับคืนให้ผู้ช่วยและเงยหน้ามองตามอีกฝ่ายเดินกลับไปหามิสเตอร์ A
เมื่อมิสเตอร์ A คลี่อ่าน มันพับเก็บโดยไม่กล่าวสิ่งใด เพียงกวาดสายตามองสมาชิกคนอื่นราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
แต่ออเดรย์เหลือบเห็นว่า อีกฝ่ายใช้วิธีการบางอย่างเผาเศษกระดาษของเธอทิ้งจนเหลือเพียงซากขี้เถ้าโปรยลงพื้น
…
ผ่านไปสิบห้านาที มิสเตอร์ A เปล่งเสียงพูดกับทุกคนภายในห้อง
“พักเบรกสิบห้านาที พวกคุณสามารถสนทนาได้อย่างอิสระ”
ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มเชิ้ตขาวได้เดินเข้ามาหาออเดรย์พร้อมกับเล่าอย่างตื่นเต้น
“ผมถอดรหัสสมุดบันทึกของจักรพรรดิโรซายล์ได้บางส่วนแล้วครับ! จากนั้นก็สักอักษรพิเศษลงบนตัวเพื่อให้ได้รับความสามารถใหม่! คุณสนใจทำบ้างไหม?”
ออเดรย์ยังคงไม่ลืม เธอเคยซักถามมิสเตอร์ฟูลบนมิติสายหมอกว่า อักษรบนไดอารีจักรพรรดิโรซายล์มีพลังพิเศษใดแฝงไว้หรือไม่
และคำตอบที่ได้รับคือ
‘ไร้ประโยชน์’
เด็กสาวชำเลืองมองชายหนุ่มเชิ้ตขาว
“คุณได้รับความสามารถพิเศษใดเพิ่ม?”
อีกฝ่ายตอบกลับอย่างกระตือรือร้น
“พละกำลังมากขึ้น! สุขภาพดีขึ้น!”
ออเดรย์จ้องมองด้วยสายตาสมเพช
“ขอโทษนะคะ แต่ดิฉันเชื่อในผลการค้นคว้าของตัวเองมากกว่า”
…
ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของการชุมนุม เด็กสาวพยายามเก็บตกรายละเอียด แต่ข้อมูลก็ไม่ปรากฏเพิ่มเติมมากนัก ทราบเพียงว่า สมาชิกชุมนุมส่วนใหญ่มีอาชีพทั่วไป น้อยคนจะเป็นแพทย์หรือนักกฎหมาย
เมื่อหมดธุระ ออเดรย์ กายลิน ฟอร์ส และซิลเดินออกจากห้องชุมนุม เด็กสาวไปถึงคฤหาสน์ของกายลินด้วยรถม้าภายในครึ่งชั่วโมง ก่อนจะหมกตัวในห้องนอนกับแอนนี่จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกรา
ออเดรย์กลับถึงบ้านสี่ทุ่มตรง ขณะสั่งให้สาวใช้แอนนี่เตรียมน้ำอุ่นสำหรับอาบ เธอเหลือบเห็นสุนัขขนทอง ซูซี่ กำลังจ้องจิกมาทางตนด้วยสายตาไม่พอใจ
นี่เราโดนสุนัขตัวเองดุเพราะกลับดึก…
เด็กสาวพลันเกิดความรู้สึกยากบรรยาย
……………………