ตอนที่ 186 : หัวหน้าสุดเท่
ริ้วแสงระยิบระยับสาดส่องท่วมท้นรอบร่างวิญญาณไคลน์ ขณะเดียวกัน เสียงพึมพำของผู้คนนับพันหวนกลับมาอีกหน แต่ชายหนุ่มไม่ได้ถูกสิ่งเหล่านี้คุกคาม พลังตัวตลกช่วยให้มันทราบว่า กายาของตนถูกป้องไว้ด้วยแสงออร่าสีดำละมุนจากเทพธิดา
บนไม้กางเขนเหนือแท่นบูชาน่าขยะแขยง มีร่างใครบางคนกำลังถูกแขวนในสภาพห้อยศีรษะลง
เปรี้ยะ!
พายุแสงซึ่งเป็นตัวแทนห้วงความคิดยูเก็นเริ่มสลายตัวจนมิอาจรักษารูปทรงไว้ได้ เพียงไม่นาน ท้องทะเลจิตปั่นป่วนเริ่มพังครืน
ไคลน์ตระหนักว่าตนสามารถบินได้เร็วกว่าความเร็วสูงสุดเมื่อคราวทดสอบ คงเป็นเพราะดวงวิญญาณถูกยกระดับหลังจากได้รับเศษเสี้ยวจากพลังมิติสายหมอกเทาส่งเสริม
ในวินาทีเงาดำจากไม้กางเขนใหญ่ใกล้กลืนกินร่างไคลน์โดยสมบูรณ์ กายจิตชายหนุ่มพุ่งแหวกอากาศหลุดพ้นจาก ‘โลก’ ปริศนาได้ทันท่วงที ร่างกายสามารถตระหนักถึงสัมผัสทั้งหกบนโลกจริงอีกครั้ง
มันประสบความรู้สึก ‘ดำดิ่ง’ อันคุ้นเคย เพียงไม่นาน ใบหน้าเรียวยาวแต่ซูบผอมของยูเก็นได้ปรากฏในขอบเขตสายตา รวมถึงเทียนไขสามเล่มซึ่งกำลังลุกโชนบนวงกบหน้าต่าง
…รอดตัวหวุดหวิด!
ในวินาทีดังกล่าว ไคลน์เริ่มสังเกตเห็นเกล็ดสีดำผุดขึ้นบนผิวหนังใบหน้ายูเก็น แววตาเหม่อลอยของอีกฝ่ายแปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดคล้ายสัตว์ร้าย
…เชี่ยแล้ว!
…หมอนี่กำลังจะคลุ้มคลั่ง!
นัยน์ตาไคลน์พลันหดเกร็ง แต่ยังไม่ทันได้กระทำสิ่งใด มุมสายตาเหลือบเห็นร่างบุรุษผู้หนึ่งในเสื้อกันลมสีดำยาวถึงเข่า สวมหมวกไหมพรมดำ ทำการกระโจนสองก้าวใหญ่เพื่อหยุดยืนหน้ายูเก็นพร้อมกับชักปืนพกเล็งไปยังกึ่งกลางกะโหลกศัตรู
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ดันน์·สมิทรัวห้านัดซ้อน ศีรษะยูเก็นระเบิดเละเทะประหนึ่งผลแตงโมถูกรถบรรทุกเหยียบ ของเหลวแดงปนขาวสาดกระเซ็นทั่วห้องคนไข้เดี่ยวในสภาพชวนอาเจียน
…ยูเก็นถูกจัดการก่อนคลุ้มคลั่งโดยสมบูรณ์
ไคลน์ซึ่งอยู่ห่างจากเหยื่อเพียงครึ่งเมตร ร่างกายและใบหน้าของมันเปรอะเปื้อนคราบของเหลวน่ารังเกียจ ชายหนุ่มนั่งจ้องมองหัวหน้าของตนอย่างตกตะลึง
…หัวหน้าแม่มเท่ฉิบ!
หากไม่นับเรื่องปัญหาความจำเสื่อม หัวหน้าของตนคือชายพึ่งพาได้โดยแท้จริง
ไคลน์ยกย่องดันน์จากก้นบึ้ง
“เกิดอุบัติเหตุหรือ?”
ดันน์ลดปืนลงพร้อมกับเดินเข้าไปสำรวจร่างยูเก็นซึ่งกำลังทิ้งตัวลงพื้นห้องในสภาพไร้วิญญาณ
ขณะไคลน์กำลังเรียบเรียงคำพูดในหัว สายตาชำเลืองเห็นซากศพเริ่มหดตัวกลายเป็นก้อนเลือดเนื้อภายในไม่กี่วินาที ชุดคนไข้ของโรงพยาบาลดูเหมือนจะเสียหายอย่างหนัก
ศพยูเก็นหลงเหลือชิ้นส่วนสมบูรณ์ไม่มาก หนึ่งในนั้นคือเกล็ดดำแวววาวกระจัดกระจายเลอะเทอะ รวมถึงหัวใจซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นผลึกใสสีฟ้าอ่อนเจือจาง
หัวใจมีลักษณะมันเงาประหนึ่งหยาดเพชรสะท้อนแสง
หากใครเผลอจ้องมอง ถ้าไม่รู้สึกหลงใหลหัวปักหัวปำ ก็จะสุขุมเยือกเย็นสุดโต่ง เป็นภาวะอารมณ์เข้มข้นจนสามารถพัฒนากลายเป็นความบ้าคลั่ง แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษ
“วัตถุดิบไม่อาละวาด”
ดันน์เก็บปืนพกเข้าซองพร้อมกับนำถุงมือหนังสีดำออกมาสวมข้างขวา มันก้มหยิบผลึกหัวใจขึ้นมาพิจารณา
…วัตถุดิบไม่อาละวาด
หมายความว่า วัตถุดิบชนิดนี้สามารถใช้เป็นส่วนผสมปรุงโอสถลำดับ 7 นักจิตบำบัด
…แต่ในเมื่อมาจากผู้วิเศษคลุ้มคลั่ง ผู้ดื่มโอสถเข้าไปจะไม่คลุ้มคลั่งได้ง่ายขึ้นหรือ?
ไคลน์หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาขจัดคราบสิ่งสกปรกบนร่างกายและใบหน้า รวมถึงก้มเก็บไพ่ทาโรต์ยี่สิบสองใบพร้อมกับทำความสะอาด
ขณะมองพื้น มันตั้งคำถาม
“เกล็ดสีดำเหล่านี้สามารถนำไปใช้ด้านใดได้บ้าง?”
“พวกมันปนเปื้อนพลังพิเศษในปริมาณเข้มข้น สามารถนำไปสร้างเป็นอุปกรณ์ผู้วิเศษเพื่อให้มีอายุการใช้งานยืนยาวกว่าปรกติ ตัวอย่างเช่น กระสุนปราบมารธรรมดาจะมีอายุการใช้งานไม่เกินสามเดือน เนื่องจากพลังพิเศษเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว แต่หากสร้างกระสุนปราบมารจากวัตถุดิบวิเศษประเภทนี้ อายุการใช้งานจะเพิ่มเป็นสองปี แถมยังมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิมมาก อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับชนิดวัตถุดิบวิเศษด้วย เกล็ดสีดำไม่เหมาะสำหรับใช้สร้างกระสุนปราบมาร”
“ถ้าอย่างนั้น …ต้องนำไปใช้เป็นส่วนประกอบปรุงโอสถ?”
ไคลน์ขมวดคิ้วถาม
ดันน์ยืนขึ้นพลางผงกศีรษะรับ
“ถูกต้อง”
…ผู้วิเศษคลุ้มคลั่งมีประโยชน์ไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดเลยสินะ
ชายหนุ่มถอนหายใจหดหู่
มันฉวยโอกาสขณะกำแพงวิญญาณยังช่วยผนึกเสียงในวอร์ดคนไข้ อธิบายเหตุการณ์ภายในห้วงจิตยูเก็นให้ดันน์ฟัง
“ขณะผมสนทนากับวิญญาณยูเก็นในห้วงทะเลจิต ภาพคล้ายกับพระผู้สร้างแท้จริงได้ปรากฏขึ้นฉับพลัน แต่ไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ของพระผู้สร้างแท้จริงทั่วไป มิใช่คนยักษ์ถูกล่ามโซ่ห้อยหัว มิใช่นัยน์ตาหลังม่านดำ แต่เป็นแบบเดียวกับเมื่อครั้งหัวหน้าพบในความฝันของเฮเนส·วินเซนต์”
เฮเนส·วินเซนต์เป็นสมาชิกชุมนุมแสงเหนือ เซเลน่าเพื่อนสนิทเมลิสซ่าได้แอบดูชายคนดังกล่าวประกอบพิธีกรรมกระจกเวทมนตร์ จนกระทั่งนำไปสู่การสืบสวนของเหยี่ยวราตรี
ผลจากการเข้าฝัน ดันน์·สมิทเห็นบางสิ่งใกล้เคียงกับรูปโฉมของพระผู้สร้างแท้จริง แต่ภาพดังกล่าวไม่ตรงกับรูปโฉมทั่วไปซึ่งแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง ผลลัพธ์คืออาการบาดเจ็บทางจิตของดันน์ และการตายอย่างปริศนาของเฮเนส
ในวินาทียูเก็นเปิดไพ่ ‘แฮงแมน’ ไคลน์ได้คาดหวังเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะปรากฏตัวในลักษณะดังกล่าว
โชคดีว่าเป็นการติดต่อเชิงสัญลักษณ์ มิใช่ตัวจริง ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งทำนายเห็นเทพสุริยันเจิดจรัสโดยตรง
ผลลัพธ์ตามมาจึงเป็นแค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ในกรณีรุนแรงอาจถูกกระทบกระเทือนทางจิตเหมือนกับดันน์
ขณะฟังคำอธิบายของไคลน์ สีหน้าดันน์พลันตึงเครียด มันขมวดคิ้วชนกันพร้อมกับเปล่งเสียงทุ้ม
“กางเขนยักษ์ ตะปูดำสนิท ชายเปลือยกายเปรอะเปื้อนโลหิต ถูกแขวนกลับหัว?”
“ผมไม่เห็นชัดเจนขนาดนั้น คงเป็นสาเหตุทำให้ไม่บาดเจ็บเท่าคุณ ภาพปรากฏเพียงกางเขนขนาดใหญ่และร่างพร่ามัวคล้ายมนุษย์ถูกแขวนในลักษณะห้อยหัว”
ไคลน์ตอบแก้ตัวชาญฉลาด
ว่ากันตามตรง ในวินาทีดังกล่าว หัวสมองมันคิดเพียงเรื่องเดียวคือ ‘เผ่นหนีสุดชีวิต’
ดันน์พยักหน้ารับ
“ลาเนวุสแวะเยี่ยมยูเก็นด้วยประเด็นเกี่ยวกับพระผู้สร้างแท้จริงสินะ หมายความว่าชุมนุมแสงเหนืออยู่เบื้องหลัง?”
ไคลน์เล่าบทสนทนาระหว่างตนกับยูเก็นให้ดันน์ฟังซ้ำ
“ลาเนวุสล่อลวงยูเก็นด้วยเทคนิคสวมบทบาท รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการเป็นเทพผู้ไม่มีวันตาย แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เหตุใดหมอนั่นถึงกล่าวว่า ยุคสมัยปัจจุบันทั้งเลวร้ายและยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน …หรือจะเป็นเทคนิคการกล่อมของนักต้มตุ๋น?”
“…หรือก็คือ ลาเนวุสขอร้องให้ยูเก็นช่วยประกอบแท่นบูชาพร้อมไม้กางเขนยักษ์สินะ …ผมมีลางสังหรณ์ว่า ลาเนวุสอาจกำลังวางแผนชั่วร้ายอยู่ และต้องเป็นหายนะอย่างกว้างขวางไปรอบเมือง”
ทันใดนั้น หัวใจไคลน์พลันเต้นระรัว
“หัวหน้า คุณยังจำจดหมายถึงมิสเตอร์ Z ได้ไหม? เขียนโดยหนึ่งในสมาชิกชุมนุมแสงเหนือซึ่งผมลงมือฆ่าไป …ซีริส! ใจความจดหมายระบุว่า มันกำลังรอคอยโอกาสอันเหมาะสมสำหรับบูชายัญลูกแกะทั้งหมดในทิงเก็น สังเวยให้กับตัวตนลึกลับระดับทัดเทียมเทพ เพื่อสร้างหายนะครั้งใหญ่คล้ายวันสิ้นโลก เรื่องนี้จะเกี่ยวกับลาเนวุสไหม? หรือมันจะเป็นมิสเตอร์ Z ของชุมนุมแสงเหนือ?”
ดันน์·สมิทก้มหน้าไตร่ตรอง
“ผมไม่คิดแบบนั้น เพราะขณะชุมนุมแสงเหนือกำลังสนใจสิ่งอื่น ลาเนวุสกลับเลือกหลอกลวงผู้คนด้วยธุรกิจโรงงานเหล็ก การทำเช่นนั้นจะทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าจากตำรวจและหน่วยผู้วิเศษ หากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ตัวมันก็ต้องรีบเผ่นหนีจากเมืองทิงเก็น และทิ้งแผนการของชุมนุมแสงเหนือทั้งหมดทันที แต่ถ้ามันเป็นคนบ้า ก็อาจกระทำในสิ่งขัดต่อหลักเหตุและผล”
“อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่ามันเป็นคนบ้า ดูจากความสุขุมแยบยลขณะหลอกลวงนักธุรกิจในทิงเก็นได้ร่วมหมื่นปอนด์ สิ่งเหล่านี้ห่างไกลจากคำว่าเสียสติมาก ฉะนั้น ผมไม่คิดว่ามันคือมิสเตอร์ Z ของชุมนุมแสงเหนือ แต่คงมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนของชุมนุมแสงเหนือทางอ้อม เช่น อาจเป็นหนึ่งใน ‘ลูกแกะ’ ตามคำบอกเล่าจดหมาย”
ดันน์เว้นวรรคเล็กน้อย มันเดินรอบห้องด้วยท่าทีกระวนกระวายก่อนอธิบายเสริม
“แผนการของลาเนวุสอาจสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อเมืองทิงเก็น ผมคงต้องรื้อคดีเพื่อสืบสวนใหม่หมด แต่ก่อนอื่น พวกเราทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อยก่อน ปล่อยให้ทุกคนทราบว่ายูเก็นเสียชีวิตแล้ว แต่ต้องไม่เหลือร่องรอยว่าเป็นฝีมือของใคร การทำเช่นนี้จะส่งผลให้สมาคมแปรจิต รวมถึงกลุ่มผู้วิเศษซึ่งคอยจับตาโรงพยาบาลจิตเวช เกิดความกระวนกระวายจนเผยตัว ปัจจุบัน คดีฉ้อโกงของลาเนวุสยังอยู่ในความดูแลของกรมตำรวจ หรือไม่ก็ถูกโอนไปถึงทูตพิพากษาแล้ว แต่เราจะขอเสนอตัวร่วมสืบสวนด้วย โดยอ้างว่าได้รับเบาะแสเพิ่มเติมจากชุมนุมแสงเหนือ หลังจากนั้นจะเป็นการทำงานประสานระหว่างเรา ทูตพิพากษา และจิตแห่งจักรกล ร่วมกันตรวจสอบเบาะแสทั้งหมดของลาเนวุสใหม่หมด หากจำเป็น อาจถึงขั้นต้องขอความช่วยเหลือจากมุขมณฑลเบ็คลันด์และวิหารศักดิ์สิทธิ์”
เมื่อกล่าวจบ ดันน์หันมองไคลน์
“อยากเสริมตรงไหนไหม?”
…หัวหน้า คุณพูดไปหมดเกลี้ยงแล้ว
ไคลน์ส่ายศีรษะและตอบเสียงขรึม
“ไม่ครับ”
ถัดมา ชายหนุ่มประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์เพื่อลบร่องรอยซึ่งอาจสาวถึงเหยี่ยวราตรี ด้วยพลังของเทพธิดา จะไม่มีใครทราบว่ามันสองคนลงมือฆ่ายูเก็น
จากนั้นก็รีบเก็บขวดวัตถุดิบทั้งหมดเข้ากระเป๋าเสื้อ สลายกำแพงวิญญาณทิ้งพร้อมกับออกจากวอร์ดคนไข้อย่างเงียบเชียบทางกำแพงโดยไม่ถูกพบตัว
“คุณกลับไปพักผ่อนก่อน”
ดันน์กำลังยืนในมุมมืดไร้แสงไฟ มันกดปีกหมวกสีดำพลางกล่าวเสียงเข้ม
“มีหลายสิ่งต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าก่อน”
“ครับ”
ไคลน์มิใช่ผู้ไร้หลับซึ่งใช้เวลานอนเพียงวันละสองชั่วโมง มันโบกมือลาหัวหน้าและเดินไปขึ้นรถม้าเหยี่ยวราตรี จุดหมายปลายทางคือถนนดารารัตน์
ก่อนก้าวขาขึ้นห้องโดยสาร ชายหนุ่มหันหลังกลับไปมองเป็นหนสุดท้าย ดันน์กำลังยืนนิ่งใต้เงามืดด้วยสีหน้าครุ่นคิดเป็นเวลานาน
ในยามก่อนรุ่งสาง ถนนภายในเมืองทิงเก็นช่างเงียบงันและไร้ผู้คน รถม้าเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียความเร็ว นานๆ ครั้งจะหักเลี้ยวเมื่อถึงทางแยก
…
ขณะไคลน์นั่งไตร่ตรองคดีลาเนวุส ชายหนุ่มพลันตระหนักว่าตนถูกดึงเข้าสู่ห้วงภวังค์ปริศนา
สีสันในการมองเห็นสดใหม่กว่าปรกติ แดงกลายเป็นแดงจ้า ดำยิ่งดำสนิทราวกับเป็นช่องว่างอวกาศ บรรยากาศรอบตัวพร่ามัวและฟุ้งกระจายคล้ายภาพวาดสีน้ำมัน
ไคลน์รีบใช้มือซ้ายล้วงจับยันต์เพลิงสุริยัน มือขวาชักปืนพกในซองอย่างชำนาญ
ทันใดนั้น ฝ่ามือสีขาวขนาดใหญ่ยื่นทะลุผ่านห้องโดยสารรถม้าเข้าใกล้หาไคลน์
…มือกระดูก!?
มือปริศนาทำการโยนจดหมายปิดผนึกไว้บนพื้นรถม้า ก่อนจะดึงกลับและเลือนหายไปราวกับไม่มีสิ่งใดเคยเกิดขึ้น
ฉากพร่ามัวคล้ายสีน้ำมันกลับสู่ภาวะปรกติ รถม้ายังคงเคลื่อนตัวต่อเนื่องโดยไม่ประสบอาการชะงัก
…พรางตัวได้แนบเนียนชะมัด
ไคลน์ก้มมองซองจดหมายข้างฝ่าเท้า มุมปากสั่นกระตุกด้วยความทึ่ง
……………………