ตอนที่ 288 : ฉากฆาตกรรมอันเต็มไปด้วยสัญลักษณ์
ท่ามกลางทางเดินระบายน้ำมืดมิด ไคลน์ใช้มือลูบคอพลางหันมาสนใจซากศพลาเนวุส ส่วนหัวของมันอยู่คนละทิศทาง ส่วนลำตัวนอนแผ่บนพื้นทางเดินระบายน้ำ ชายหนุ่มยืนมองไพ่ทาโรต์สองใบซึ่งฝังในเบ้าตาลาเนวุสเป็นแนวตั้ง
เดิมที ไคลน์ต้องการเดินย้อนกลับไปเก็บไพ่ทั้งหมดกลับคืน และทำลายหลักฐานในจุดเกิดเหตุให้เรียบร้อย ทว่า ชายหนุ่มเริ่มตระหนักถึงปัญหาใหญ่ซึ่งตนมองข้ามมาตลอด
ตัวมันไม่มีวิสัยทัศน์ในความมืด!
การเดินบนทางระบายน้ำมืดมิดได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงการต่อสู้กับลาเนวุสเมื่อครู่ ทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะความช่วยเหลือจากเนตรวิญญาณ
แต่ไคลน์จะมองเห็นเพียงสีออร่าจากร่างกายของลาเนวุส วัตถุแฝงพลังวิญญาณเจือจาง และโครงสร้างทางเดินท่อระบายน้ำอย่างคร่าวเท่านั้น
ทว่า ไพ่ไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ดังกล่าว สำหรับไพ่ทาโรต์ในปัจจุบันของไคลน์ไม่ได้มาจากเหยี่ยวราตรี มิได้แฝงพลังวิญญาณหรือสลักลวดลายเงินของเทพธิดา สถานภาพจึงมีค่าเทียบเท่ากระดาษแข็งทั่วไป
จริงอยู่ว่าไคลน์สามารถแผ่พลังวิญญาณออกไปรอบตัวได้ในรัศมีไม่กว้าง เพื่อตรวจจับสิ่งแปลกปลอมขณะเดินผ่าน แต่การทำเช่นนั้นก็ไม่ช่วยให้พบไพ่ทาโรต์ตามผนังลึกหรือเพดานสูง และการต่อสู้กับลาเนวุสเพื่อครู่ มีไพ่หลายใบกระจัดกระจายจนยากเก็บคืนครบ
แน่นอน หากมีเวลามากพอ ไคลน์สามารถบรรจงเก็บคืนอย่างใจเย็น แต่ปัญหาหลักคือเหยี่ยวราตรีบนเรือบิน พวกมันสามารถตามหลังลาเนวุสมาได้ทุกเมื่อ
อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ประมาท…ยังสวมถุงมือไว้ตลอดเวลา…ไพ่ชุดปัจจุบันทั้งหมดถูกซื้อก่อนเดินทางเข้าเบ็คลันด์ และเป็นชนิดแพร่หลายในอาณาจักรโลเอ็นอยู่แล้ว…เราแทบไม่เคยใช้งานมาก่อน จึงไม่เคยมีใครเห็นแน่นอน…การพกติดตัวทุกครั้งจะมีนกหวีดทองแดงของมิสเตอร์อะซิกอยู่ใกล้กันเสมอ…แปลว่าจะไม่ถูกทำนายถึงตัว เนื่องจากอำนาจนกหวีดช่วยกลบเกลื่อน…อย่างมากก็ได้เห็นเพียงฉากการต่อสู้ และเราก็สวมหน้ากากไว้ตลอดเวลา แถมรองเท้ายังยกส้นสูง ไม่มีใครเอะใจว่าเป็นนักสืบเชอร์ล็อกแน่นอน…ไคลน์ประมวลผลเหตุการณ์อย่างใจเย็น จนกระทั่งได้ข้อสรุปให้ตัวเอง
มันเดินตรงไปทางศพไร้หัวและนั่งยองลง จากนั้นก็การค้นศพด้วยมือขวาซึ่งกำลังสวมถุงมือสีดำ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เรียบร้อย
ไคลน์ไม่มีความคิดเสี่ยงประกอบพิธีกรรมสื่อวิญญาณ เหตุผลแรก ความรู้สึกประหนึ่งพระผู้สร้างแท้จริงใกล้จุติ ได้สลักความหวาดกลัวลงในจิตใจไคลน์เข้มข้น การสื่อวิญญาณกับลาเนวุสส่งเดชจึงไม่ใช่เรื่องฉลาด นอกเสียจากจะกระทำในมิติเหนือหมอกเทา และอีกหนึ่งเหตุผล เหยี่ยวราตรีกับคนของกองทัพอาจมาถึงจุดเกิดเหตุได้ทุกเมื่อ ไคลน์ประเมินว่าตนไม่มีเวลามากพอสำหรับประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตอบสนองตัวเอง และดึงวิญญาณลาเนวุสเข้าไปในมิติเหนือหมอกเทาเพื่อสื่อสาร
ควรตัดใจในจุดเหมาะสม…ไคลน์พึมพำเงียบงัน ก่อนจะปล่อยมือจากศพ
ลาเนวุสคงรีบร้อนมาก…มันไม่พกเงินติดตัวเลยสักนิด ไม่มีวัตถุดิบวิญญาณ หรือแม้กระทั่งยันต์สำหรับป้องกันตัว…ไคลน์พบเพียงเข็มกลัดขนาดเท่าดวงตาลักษณะเรืองแสง มีพลังวิญญาณแผ่ออกมาอย่างเจือจาง
ชายหนุ่มไม่กังวลว่าจะมีใครใช้เข็มกลัดอันนี้ระบุตำแหน่งตน เนื่องจากสามารถโยนไว้ในมิติเหนือหมอกเทาเพื่อตัดขาดจากทุกสิ่ง จากนั้นค่อยนั่งศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนภายหลัง ไคลน์ตัดสินใจหยิบเข็มกลัดใส่กระเป๋าเสื้อโดยไม่ลังเล
สายตาชำเลืองศพลาเนวุสเป็นครั้งสุดท้าย และไม่มัวรอให้ตะกอนพลังของลาเนวุสปรากฏ มันใช้ถุงมือดำข้างซ้ายล้วงหยิบไพ่ทาโรต์ใบอื่นในกระเป๋าออกมาจนหมด
ตามด้วยการเหยียดแขนซ้ายค้างไว้กลางอากาศเหนือศพ
ไคลน์ปล่อยมือโปรยไพ่ทาโรต์ทุกใบให้ร่วงกราว ราวกับสายฝนกำลังโปรยปรายใส่ศพคนบาปไร้ศีรษะ บางส่วนเผยหน้าไพ่และตัวเลขลำดับไพ่ทาโรต์ บางส่วนคว่ำลงเผยให้เห็นหลังไพ่สีแดงสลับดำ
เมื่อจัดแจงจุดเกิดเหตุเสร็จสิ้น ไคลน์ล้วงนกหวีดทองแดงอะซิกออกมาโยนเล่นสักพัก จนกระทั่งมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ฟื้น จึงรีบวิ่งหายตัวไปในความมืดมิดโดยไม่หันหลังกลับ
เกือบสองนาทีถัดมา คนกลุ่มหนึ่งเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ บ้างสวมเสื้อกันลมสีดำ บ้างสวมสูตหางยาวซึ่งเป็นชุดประจำกองทัพ
หัวหน้ากลุ่มคือเครสไทน์·ซีสม่าผู้กำลังถือดาบกระดูกสีขาวโพลน ถุงมือแดงของมันมีคราบเศษฝุ่นเล็กน้อย ใบหน้าขึงขังเอาจริงเอาจังเผยให้เห็นอาการอ่อนล้าเล็กๆ
ทุกคนยืนห่างจากศพพอประมาณ และด้วยพลังของเนตรวิญญาณ พวกมันจึงมองเห็นศพไร้หัวของลาเนวุส รวมถึงศีรษะซึ่งถูกเสียบติดกับผนังทางเดิน
เบ้าตาของเหยื่อถูกไพ่ทาโรต์สองใบปักลึกในแนวตั้ง ใบหนึ่งเป็นหน้า ‘ดิเอ็มเพอเรอร์’ (จักรพรรดิ) ส่วนอีกใบหนึ่งเป็นหน้า ‘วิลออฟฟอร์จูน’ (กงล้อโชคชะตา)
ทางด้านศพไร้หัวบนพื้นมีไพ่กองสุมหลากหลายใบ ประกอบด้วย เดอะแชเรียท (ราชรถ) เดอะเฮอร์มิท (ฤษี) เดธ (มรณา) รวมถึงไพ่ทาโรต์ชุดเล็กจำพวก ชุดถ้วย และชุดไม้เท้า
บริเวณกำแพงโดยรอบยังมีไพ่ชุดหลักเสียบปักประปราย เช่นเดอะเดวิล (ปีศาจ) เดอะซัน (สุริยัน) และจัดจ์เมนท์(พิพากษา)
ราวกับเป็นฉากหนึ่งในพิธีกรรมประหลาดมากกว่าสนามรบ โดยลาเนวุสถูกใช้เป็นเครื่องเซ่นสังเวยต่อสิ่งมีชีวิตอันสูงส่ง
เครสไทน์หายใจเข้าออกเงียบงันพลางขมวดคิ้ว บรรดาผู้วิเศษคนอื่นก็ไม่ต่าง สีหน้าแววตาค่อนข้างตื่นกลัวเมื่อได้เห็นบรรยากาศนอกเหนือสามัญสำนึกและความเข้าใจของตน
…
ห่างไกลจากจุดลาเนวุสเสียชีวิต ไคลน์พบทางออกท่อระบายน้ำและหนีรอดโดยสวัสดิภาพ มันถอดหน้ากากตัวตลกออก อาศัยแสงจากเสาตะเกียงช่วยนำทางไปยังเขตตะวันออก
ก่อนจะขึ้นมาด้านบน ไคลน์จัดการกับคราบสกปรกบนรองเท้าเรียบร้อยแล้ว
จนกระทั่งเดินมาถึงถนนปาล์มดำของเขตตะวันออก ไคลน์เริ่มผ่อนคลายความกังวล มันรีบเข้าไปในหอพักขนาดหนึ่งเตียงนอนซึ่งเช่าเตรียมไว้ จากนั้นก็ประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง และเข้าไปตอบสนองตัวเอง
ด้วยร่างจิต ไคลน์รีบย้ายเสื้อผ้าในค่ำคืนนี้ทั้งหมด รวมถึงยันต์ ขวดผงสมุนไพร น้ำมันสกัด และเข็มกลัดประหลาดของลาเนวุส เข้าไปในห้วงมิติเหนือหมอกเทา ปิดท้ายด้วยการใช้เปลวเพลิงทำลายหลักฐานไม่สำคัญทิ้ง
ฟู่ว…! ไคลน์ถอนหายใจยาว มันใช้เวลาว่างตรงนี้สำรวจเข็มกลัดของลาเนวุสด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เข็มกลัดมีขนาดเท่าดวงตา ผิวด้านหน้าสลักสัญลักษณ์ ‘โชคชะตา’ และ ‘การปกปิด’ ด้านหลังเป็นอักขระภาษาเฮอมิสตัวเล็กถูกเขียนเรียงกันในลักษณะวงกลมครบหนึ่งรอบ มีใจความว่า
“สามารถเข้าร่วมได้ถ้ามีสิ่งนี้”
เข้าร่วมอะไร? ลาเนวุสเป็นสมาชิกขององค์กรลับใดสักแห่งหรือ? ไคลน์ใช้ฝ่ามือบีบนวดขมับ เนื่องจากสถานการณ์หลายอย่างไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไคลน์จึงพักปริศนาของเข็มกลัดไว้ก่อน รอให้จบชุมนุมทาโรต์คราวหน้าค่อยเริ่มสำรวจเพิ่มเติม
ชายหนุ่มส่งตัวเองกลับมายังโลกจริง เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่ และดึงอุปกรณ์ปลอมตัวบนใบหน้าออก
แต่มันไม่รีบร้อนเดินทางกลับถนนมินส์ทันที ตัดสินใจนอนพักค้างคืนในเขตตะวันออก ค่อยย้อนกลับไปในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนไหวตอนกลางดึกจะเป็นจุดสังเกตได้ง่าย ยิ่งเป็นขณะเกิดเรื่องใหญ่ด้วยแล้ว
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอ่อนนุ่ม สายตาจ้องมองไปนอกหน้าต่าง แสงจันทร์สีแดงนวลคือแสงสว่างแหล่งเดียวบนท้องฟ้าอันมืดมิด ฉากตรงหน้าช่วยเยียวยาจิตใจอันสับสนว้าวุ่นได้เป็นอย่างดี
หลังจากแก้แค้นแรกสำเร็จ ไคลน์รู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก ความตึงเครียดและกดดันบรรเทาลงหลายส่วน เฉกเช่นความคับแค้นใจ สมองกลับมาโปร่งโล่ง สามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
ตัวเราในปัจจุบันยังมีพลังไม่มากพอสำหรับจัดการอินซ์·แซงวิลล์ผู้ครอบครองสมบัติปิดผนึก 0-08 ช่องว่างกว้างเกินไป คงต้องรอให้กลายเป็นผู้วิเศษลำดับสูง ‘ครึ่งเทพ’ เสียก่อน ค่อยกลับมาคิดทบทวนเรื่องจัดการมันอีกครั้ง…หากยังก้าวไปไม่ถึงลำดับสี่ เราคงต้องแสร้งลืมว่ามันมีตัวตนชั่วคราว…
ดังนั้น อนาคตในวันถัดไปคือ ต้องทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง และในเมื่อปัจจุบันย่อยโอสถตัวตลกสมบูรณ์แล้ว ก็ต้องรวบรวมวัตถุดิบหลักของ ‘นักมายากล’ ให้ครบ
ยังเหลือผู้ไร้หน้า นักเชิดหุ่น และลำดับสี่ ซึ่งเราไม่ทราบชื่อโอสถ…
นอกเหนือจากการพัฒนาลำดับ ตัวเราเป็นเพียงนักสืบเอกชนแสนธรรมดาคนหนึ่ง
สมองไคลน์กำลังสุขุมสงบนิ่ง ชุดความคิดถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ขั้นตอนถัดไปถูกกำหนดล่วงหน้าด้วยความเชื่อว่าสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ปราศจากความไม่มั่นคงและเคลือบแคลงเหมือนกับตอนแรก
เมื่อครุ่นคิดมาถึงจุดหนึ่ง มุมปากไคลน์เริ่มเผยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น ตามด้วยการพึมพำ
หัวหน้า เบ็นสัน เมลิสซ่า…พวกคุณคงดีใจถ้าได้เห็นผมในสภาพนี้…
…
เช้าวันรุ่งขึ้น คนกลุ่มหนึ่งสวมหมวกผ่าตัดและผ้าปิดปากสีขาว เดินเข้าไปในหอพักของสหภาพคนงานท่าเรือ เครื่องแต่งกายดังกล่าวบ่งบอกถึงสถานภาพนายแพทย์
ชายชราผู้นำกลุ่ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเชี่ยวชาญเปี่ยมประสบการณ์ กับลูกบ้านทุกคนซึ่งกำลังแสดงสีหน้ามึนงงสงสัย
“พวกเราตรวจพบว่าอาคารแห่งนี้มีการแพร่เชื้อโรคร้ายแรงเกิดขึ้น เนื่องจากบุคคลนามว่าเควินเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคดังกล่าว พวกเรายินดีช่วยขจัดเชื้อโรคให้โดยไม่คิดเงินแม้แต่เพนนีเดียว ยาเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ สามารถรักษาโรคร้ายให้หายขาดทันที เพียงรับประทานให้ทันก่อนจะสายเกินไป”
“เควิน?” ลูกบ้านหอพักแต่ละคนต่างโพล่งขึ้นอย่างพร้อมเพรียง บ้างเหลียวซ้ายแลขวาพยายามมองหาบุคคลชื่อเควิน แต่ก็ไม่มีใครพบตัว
เควินคือชื่อปลอมของลาเนวุส
เมื่อเห็นว่าทีมแพทย์มีตำรวจคอยเดินประกบ ลูกบ้านจึงเข้าแถวรอรับยาอย่างสบายใจ ปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย
คนแรกเป็นชายวัยกลางคนหนวดเคราเฟิ้ม มันยิงคำถามมากมายใส่หมอด้วยริมฝีปากสั่นเทา ใจกำลังกังวลว่ายาเพียงขวดเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับรักษาโรคร้ายซึ่งคร่าชีวิตเควิน
จนกระทั่งนายแพทย์เริ่มแสดงสีหน้าหมดความอดทน ชายคนดังกล่าวจึงยอมกระดกขวดยาเข้าไปรวดเดียว
ทันใดนั้น ผู้ช่วยแพทย์ด้านข้างรีบจับชายหนวดเครารุงรังถ่างปากอ้า และนำไปจ่อกับช่องว่างสำหรับบ้วนสิ่งสกปรกขนาดพอดีปาก
แค่ก! แค่ก! แค่ก! อุแหวะ!
ชายวัยกลางคนคลื่นไส้กะทันหัน ก่อนจะอาเจียนก้อนเสมหะเจือมูกเลือดออกมา
ขณะพยายามจ้องมองว่าตนบ้วนสิ่งใดลงไปในถัง ชายหนวดรุงรังถูกพยาบาลกสองคนกระชากร่างไปด้านหลังด้วยความเร็วสูง
ช่องสำหรับอาเจียนเชื่อมติดกับถังโลหะขนาดมหึมา ก้นถังลึกและมืดมาก แทบไม่มีแสงใดส่องลงไปถึง
ยิ่งเวลาผ่านไป ก้นถังก็ยิ่งถูกถมถุยด้วยของเหลวเหนียวข้น สีเหลืองอมเขียว เจือคราบสีแดงเล็กน้อย กึ่งกลางก้นถังมีก้อนเนื้อสีแดงสดอยู่หนึ่งชิ้น
อุแหวะ! โอ๊ก! แหวะ!
ทีละคนสองคน ลูกบ้านหอพักดื่มยาปริศนาพร้อมกับอ้วกใส่ถังลึกลับโดยไม่มีใครกล้าปริปากถาม
…
เขตราชินี
คฤหาสน์หรูหราอลังการของเคาต์ฮอลล์
“มาหาดิฉันแต่เช้ามีอะไรหรือ?” ออเดรย์แหงนหน้ามองท้องฟ้า ก่อนจะหันไปมองทางไวเคาต์กายลิน
กายลินกวาดสายตาหนึ่งรอบ เมื่อพบว่ามีเพียงสุนัขโกลเดนรีทรีฟเวอร์ตัวเดียว จึงโน้มตัวเข้าใกล้เด็กสาวและเริ่มกระซิบ
“ผมวางแผนจะเข้าสนามม้า แต่บังเอิญพบคานซ์ระหว่างทาง เขาเล่าบางสิ่งน่าสนใจมากให้ผมฟัง…เมื่อเห็นว่าเป็นทางผ่านพอดี ผมจึงแวะมาบอกคุณก่อน”
“เรื่องอะไรหรือ?” ออเดรย์เริ่มสนใจ
กายลินรีบเล่าโดยไม่เสียเวลาเรียบเรียง
“คุณรู้จักชุมนุมแสงเหนือใช่ไหม? กลุ่มก่อการร้ายซึ่งลอบสังหารราชทูตเบเคอร์ลัน พวกมันถูกกองทัพและโบสถ์บุกถล่มแหล่งกบดานเมื่อคืน สมาชิกจำนวนไม่น้อยถูกวิสามัญฯ ในจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้แผนการใหญ่ของพวกมันล้มเหลวไม่เป็นท่า”
คงเกี่ยวกับออร่าเทพของพระผู้สร้างแท้จริงกระมัง…หมายความว่าฟอร์สและซิลส่งคนไปแจ้งกับโบสถ์รัตติกาลเมื่อวานเย็น…เป็นเรื่องเร่งด่วนถึงขั้นต้องปฏิบัติการภายในคืนเดียวเลยหรือ…? เดี๋ยวก่อน…! ชุมนุมแสงเหนือนับถือพระผู้สร้างแท้จริง! ดวงตาเด็กสาวพลันลุกวาว เธอรีบซักถามอย่างสงวนกิริยามารยาท “แผนอะไรหรือ?”
“ผมเองก็ไม่ทราบ คานซ์ปฏิเสธจะเล่า บอกแต่เพียงว่า บุคคลผู้เป็นต้นตอของแผนการใหญ่ คือนักต้มตุ๋นตามประกาศจับซิลวารัสยาร์ด ชื่อลาเนวุส” กายลินผายมืออย่างจนปัญญา
เป็นไปตามคาด…ออเดรย์พยักหน้ารับ ก่อนจะซักถามโดยไม่ปิดบังสีหน้าใคร่รู้
“แล้วมันถูกจับได้ไหม?”
“เจ้านั่นถูกฆ่าตาย แต่ไม่ใช่ด้วยฝีมือของคนฝ่ายรัฐบาล” กายลินเว้นวรรค “ส่วนถัดไปคือความน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง! ลาเนวุสถูกพบศพในสภาพน่าพิศวงมาก! จุดเกิดเหตุมีไพ่ทาโรต์เต็มไปหมด โดยเฉพาะบนตัวศพ คุณคงจินตนาการออก…”
ไพ่ทาโรต์…? บนตัวศพมีไพ่ทาโรต์? ดวงตาเด็กสาวพลันเบิกโพลง ร่างกายแข็งทื่อประหนึ่งถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก
ฝีมือชุมนุมทาโรต์ของพวกเรา…?
ผู้รับใช้มิสเตอร์ฟูล!
………………….