Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 289

Lord of the Mysteries 289

ตอนที่ 289 : สมมติฐานและการสืบสวน

ออเดรย์ ผู้เชื่อว่าตนทราบเบื้องหลังเรื่องราวมากกว่าใคร พยายามจินตนาการฉากฆาตกรรมตามคำอธิบายของไวเคาต์กายลิน

ลาเนวุสนอนจมกองโคลนท่ามกลางบรรยากาศมืดมิดของท่อระบายน้ำ บนศพมีไพ่ทาโรต์กองสุม ประกอบด้วยเดอะฟูล จัสติส แฮงแมน เดอะซัน เดอะเวิร์ล และไพ่ชุดใหญ่ใบอื่นอีกมาก รวมถึงไพ่ชุดรองพร้อมด้วยเลขมงคล มีทั้งไพ่คว่ำและหงาย เรียงรายคล้ายกับใครบางคนกำลังทำนายดวงด้วยไพ่ทาโรต์

สำหรับผู้พบเห็น ฉากดังกล่าวต้องน่าขนลุกขนพองแน่นอน!

ไพ่จัสติสวางอยู่ตรงไหนกันนะ…

แล้วทางหน่วยลับของ MI9 กับโบสถ์จะมีปฏิกิริยาเป็นอย่างไร? พวกเขาจะสงสัยบ้างหรือไม่ ว่าปัจจุบันมีองค์กรลับแห่งใหม่ชื่อชุมนุมทาโรต์เพิ่มเข้ามา?

ถ้าถึงขั้นครอบครองออร่าเทพของพระผู้สร้างแท้จริงได้ แปลว่าแผนการของชุมนุมแสงเหนือและลาเนวุสต้องสำคัญมากแน่…หากขัดขวางไว้ไม่สำเร็จ กรุงเบ็คลันด์และอาณาจักรโลเอ็นคงได้รับความเสียหายร้ายแรงมาก…แต่แผนการดังกล่าวต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เพียงเพราะท่านมิสเตอร์ฟูลมอบภารกิจ ‘ไม่ยุ่งยาก’ ให้ทำ!

ความบาดหมางระหว่างเทพงั้นหรือ…

มิสเตอร์ฟูลและพระผู้สร้างแท้จริงเป็นศัตรูคู่อาฆาตของกันและกัน?

ไม่แปลกใจว่าทำไมท่านถึงเรียกอีกฝ่ายว่า ‘พระผู้สร้างเสื่อมทราม’ …!

จินตนาการมากมายกำลังแล่นผ่านสมองออเดรย์ภายในเวลาอันสั้น ร่างกายของเธอสั่นระริกแผ่วเบาจนยากสังเกตเห็น

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” ไวเคาต์กายลินซึ่งนั่งฝั่งตรงช้าม ตัดสินใจซักถามโดยไม่เก็บงำความสงสัย

ออเดรย์ถูกกระตุกให้ตื่นจากภวังค์ทันที เธอเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มและกล่าว

“คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าให้ดิฉันจินตนาการถึงฉากฆาตกรรมซึ่งมีไพ่ทาโรต์วางเรียงรายมากมาย”

“ฮะฮะ…” กายลินหัวเราะแห้งและถอนหายใจ “ผมอยากรู้ว่าองค์กรลับใดเป็นผู้สังหารลาเนวุส ฉากฆาตกรรมตรงตามรสนิยมของผมไม่มีผิด! โลกเหนือธรรมชาติมันต้องแบบนี้! เท่มาก!”

ชุมนุมทาโรต์ของฉันเอง…ออเดรย์มอบคำตอบในใจพลางอมยิ้ม “บางทีอาจไม่ใช่องค์กรลับก็ได้ แต่เป็นฝีมือของผู้วิเศษทรงพลังไม่สังกัดฝ่ายใด”

“ไม่ว่าจะอย่างไหน แต่ผมก็ชื่นชอบเรื่องแบบนี้เสมอ! ทำเอาอยากเชิญมิสฟอร์สและมิสซิสมาถามถึงความคืบหน้าสูตรโอสถนักปรุงยาเดี๋ยวนี้เลย!” กายลินโพล่งอย่างตื่นเต้น

ดวงตาออเดรย์เบิกโพลงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นใคร จึงหันไปกระซิบกับกายลินด้วยเสียงไม่พอใจ

“ชู่ว! เงียบหน่อย! พูดเรื่องโอสถตรงนี้ได้ยังไง!”

กายลินเพียงยิ้มโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“ไม่ต้องห่วง ผมสำรวจทั่วแล้ว แถวนี้ไม่มีใครนอกจากคุณ ผม และสุนัขอีกหนึ่งตัว”

ทันใดนั้น โกลเดนรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ขนฟูรีบเบือนหน้าไปทางอื่นตามสัญชาตญาณ

ณ เขตเหนือของกรุงเบ็คลันด์ ภายในห้องประชุมแห่งหนึ่งของมหาวิหารแซมมวล

ดาลี่ย์ในชุดคลุมสีดำสนิท รอบดวงตาทาสีฟ้าอ่อน รอบแก้มทาสีแดงระเรื่อ แผ่กลิ่นอายทรงเสน่ห์และเย็นชาตลอดเวลา เธอนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอย่างไม่เจาะจง

หลังจากอ่านไปได้สักพัก ดวงตาพลันชะงักงันและเริ่มหดเกร็ง สาวสวยขมวดคิ้วพลางซักถามด้วยสีหน้าราวกับฝืนระงับโทสะ

“ลาเนวุส…? ทำไมถึงไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับฉัน! ทำไมถึงไม่มีใครสักคนบอกว่าเมื่อคืนมีปฏิบัติการจับกุม!?”

เครสไทน์บนเก้าอี้ประธานใหญ่ ผู้เก็บซ่อนปลายคางและริมฝีปากไว้ใต้ปกเสื้อยกสูง กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“ผมกังวลว่าคุณอาจระงับอารมณ์ส่วนตัวไม่ได้ นั่นจะทำให้หน่วยปฏิบัติการเกิดความเสี่ยง จึงแจ้งกับทุกคนว่าห้ามบอกคุณ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณดี ดาลี่ย์ เหยี่ยวราตรีจากหน่วยทิงเก็นล้วนเป็นเช่นนี้กันหมด รวมถึงหนึ่งสมาชิกใหม่ของถุงมือแดงซึ่งกำลังฝึกพิเศษกับวิหารศักดิ์สิทธิ์ ชายคนนั้นมีพรสวรรค์ระดับเดียวกับคุณ…แต่ผมขอพูดในฐานะผู้นำหน่วยจู่โจม และในฐานะอาวุโสใหญ่แห่งเหยี่ยวราตรี ผมจำเป็นต้องตัดปัจจัยควบคุมไม่ได้ออกจากแผนการทั้งหมด ได้โปรดเข้าใจผมด้วย”

ดาลี่ย์ชำเลืองมองหัวหน้าเหยี่ยวราตรีและอาวุโสคนอื่นเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มเหยียดหยันให้กับเครสไทน์

“ทำไมคุณถึงคิดว่าคนอย่างฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้? ฉันเยือกเย็นมาก! ไม่มีทางก่อความวุ่นวายแน่นอน!”

“โทสะของฉันจะปะทุขึ้นหลังจากลาเนวุสถูกจับได้แล้วเท่านั้น! นั่นคือความเป็นมืออาชีพซึ่งถูกปลูกฝังลงในเหยี่ยวราตรีเจนศึกและอาวุโสทุกคน! ถ้าพวกเราจับลาเนวุสได้ ฉันขอสาบานว่าจะทำให้มันได้ลิ้มรสขุมนรก ได้ลิ้มรสว่าเพศชายก็สามารถอ่อนแอได้เช่นกัน! ฉันจะจับมันมัดไว้ให้นิ่ง นำซากศพเน่าเปื่อย แข็งทื่อ และเย็นชืดยัดใส่ก้นของมัน! นำกระดูกสีขาวโพลนเหม็นหืนและเต็มไปด้วยหนามแหลมยัดใส่ปาก! จากนั้นก็สั่งให้เด็กดีทั้งสองทะลวงเข้าออกร่างกายมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า! บ้าจริง! แต่คุณกลับปล่อยให้มันตายไปทั้งอย่างนั้นเนี่ยนะ!?”

เครสไทน์·ซีสม่าจ้องมองดาลี่ย์อย่างใจเย็น มันเพียงถอนหายใจแผ่วเบา โดยไม่กล่าวขัดคอจนกระทั่งเธอเล่าจบ

“คุณจะสั่งให้มันเข้าออกนานแค่ไหน?”

ดาลี่ย์พลันชะงัก ตามด้วยการพึมพำอย่างหงุดหงิด

“เป็นเวลานาน…นานมากๆ …”

เครสไทน์เบือนหน้าไปทางเหล่าหัวหน้าหน่วยเหยี่ยวราตรีและอาวุโสคนอื่น

“มีความคืบหน้าบ้างไหม?”

“จากการสืบสวนเบื้องต้น บุคคลผู้สังหารลาเนวุสอาจเป็นสมาชิกของ ‘ลัทธิเร้นลับ’ เนื่องจากเป็นเส้นทางนักทำนาย ลำดับไม่ต่ำกว่า แปด พวกเราตรวจพบพลังของ ‘ตัวตลก’ ภายในจุดเกิดเหตุ สามารถเปลี่ยนไพ่กระดาษให้พุ่งเร็วและแรงได้เหมือนกับมีด” อาวุโสคนหนึ่งรายงานตามผลการสืบสวน “แต่ทางเรายังไม่มีหลักฐานมากพอจะยืนยันเรื่องนี้ ไพ่ทาโรต์รอบศพไม่ได้แฝงพลังพิเศษชนิดใดไว้ และเมื่อประเมินจากการไม่เก็บไพ่กลับไปด้วย แต่เลือกทิ้งไว้บนตัวศพจำนวนมาก พวกเราจึงสันนิษฐานว่า ฉากสุดท้ายคือส่วนหนึ่งของพิธีกรรมพิเศษบางประเภท หรือไม่ก็เป็นการส่งข้อความเชิงสัญลักษณ์ อีกสมมติฐานหนึ่งจึงคาดเดาว่า ผู้ลงมืออาจเป็นสมาชิกองค์กรลับเกิดใหม่ซึ่งพวกเรายังไม่มีข้อมูล…อย่างไรก็ตาม ฉากฆาตกรรมอาจเป็นแค่รสนิยมส่วนตัวของผู้สังหารได้เช่นกัน”

เครสไทน์พยักหน้ารับ

“เริ่มสืบสวนขยายผลจากจุดดังกล่าว อายร์ ความคืบหน้าของผู้แจ้งเบาะแสเป็นอย่างไรบ้าง”

ชายวัยกลางคนมาดสง่างาม อารย์·ฮาร์สัน พลิกปึกกระดาษในมือพร้อมกับกล่าว

“พวกเราสืบสวนอย่างละเอียดและพบว่า ผู้แจ้งเบาะแสประกอบอาชีพนักล่าค่าหัวในเขตตะวันออกมานานแล้ว แต่ระหว่างสืบหาเบาะแสลาเนวุสผู้มีค่าหัวตามประกาศของซิลวารัสยาร์ด หนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอถูกฆ่าตายโดยฝีมือสมาชิกชุมนุมแสงเหนือ เพื่อจะแก้แค้นให้เพื่อน เธอจึงสืบสวนหาเบาะแสของฆาตกร จนเดินทางไปถึงโรงเหล้าสหภาพแรงงานในเขตอู่ต่อเรือไบลัมตะวันออก และได้พบลาเนวุสเข้าโดยบังเอิญจากพฤติกรรมต้องสงสัย การกระทำของเธอมีพยานรู้เห็นหลายคน ไม่มีสิ่งใดผิดไปจากวิสัยของนักล่าค่าหัวผู้ต้องการแก้แค้นให้เพื่อน และพวกเราได้ใช้พลังพิเศษยืนยันแล้วว่า เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลผู้สังหารลาเนวุส ปัจจุบัน เธอกำลังหลบซ่อนตัว เป็นวิสัยปรกติของนักล่าค่าหัว จึงยากจะหาตัวให้พบ”

หลังจากครุ่นคิดสักพัก เครสไทน์เสริม

“ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับคำบอกเล่าจากปากลาเนวุส…มันอธิบายว่า เพื่อให้ตัวเองตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐบาล จึงเจาะจงร้องขอคนคุ้มกันป่าเถื่อนและโง่เขลาจากชุมนุมแสงเหนือ แล้วมีใครพบความผิดปรกติเกี่ยวกับตัวนักข่าว ผู้เข้าไปสัมภาษณ์กลุ่มคนงานในสหภาพตอนช่วงบ่ายบ้างไหม?”

หัวหน้าเหยี่ยวราตรีอีกหนึ่งคนรีบรายงาน

“เขาเป็นนักข่าวปลอม พวกเราได้รับข้อมูลจากกรมตำรวจว่า ชายคนนั้นคือนักสืบเอกชนผู้รับงานจากไมค์·โยเซฟแห่งหนังสือพิมพ์เกาะกระแสรายวัน…โยเซฟพยายามสืบหารายละเอียดของคดีฆาตกรรมเด็กสาวซีเบล เมื่อประเมินว่าซีเบลเสียชีวิตใกล้กับเขตอู่ต่อเรือ จึงมีความเป็นไปได้ว่า นักสืบเอกชนรายนั้นจะปลอมตัวไปสืบหาเบาะแสของฆาตกรจากกลุ่มคนงาน ไอเซนการ์ด·สแตนธอนยืนยันเรื่องนี้ได้”

เครสไทน์พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปถามสมาชิกคนอื่น ว่าพบความผิดปรกติกับคนรอบตัวลาเนวุสบ้างไหม และผลออกมาว่าไม่มีความผิดปรกติใดเลย

เมื่อหมดคำถาม เครสไทน์ก้มหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนพึมพำ

“น่าแปลกมาก…พวกเราไม่พบแรงจูงใจของบุคคลผู้สังหารลาเนวุสเลย ดังนั้นทุกคนอย่าเพิ่งละทิ้งคดีนี้ จงสืบสวนขยายผลถึงตัวผู้ลงมือให้ได้ บุคคลดังกล่าวอาจเป็นภัยกับเราในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น ตามหลักสามัญสำนึกแล้ว ภายในเมืองใหญ่อย่างเบ็คลันด์ ชุมนุมแสงเหนือคงไม่มีมีแค่ ‘นักบวชกุหลาบ’ หรือ ‘บาทหลวง’ ไม่กี่สิบคนแน่นอน หัวหน้าของพวกมันต้องมีระดับอย่างน้อยเป็นผู้ส่งสาร หรืออาจเป็นถึงระดับนักบุญ เมื่อแผนการลงมาจุติของพระผู้สร้างแท้จริงล้มเหลว หากคำนึงจากพฤติกรรมสุดโต่งและเสียสติ ผมกังวลว่าพวกมันจะออกอาละวาดรุนแรง ลงมือกระทำเรื่องป่าเถื่อนและคาดไม่ถึงอีกมาก พวกคุณทุกคนจึงห้ามประมาทโดยเด็ดขาด ตัวผมเองก็จะไม่ออกจากเบ็คลันด์สักพัก”

“ขอรับ เจ้าคุณท่าน” อาวุโสและหัวหน้าหน่วยทุกคนต่างแสดงความเคารพ

เครสไทน์เว้นวรรคหลายวินาทีก่อนจะเสริม

ไคลน์หลับยาวโดยไม่ตื่นจนกระทั่งช่วงสาย แต่บรรยากาศข้างนอกกลับไม่สว่างสดใส ตรงกันข้าม ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบสีคล้ำและอากาศเย็นยะเยือก

ช่างไม่เข้ากับอารมณ์ยินดีปรีดาของเราเลยสักนิด…ชายหนุ่มพึมพำด้วยใบหน้าบูดบึ้ง จากนั้นก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย หยิบกุญแจบ้าน และเดินทางกลับถนนมินส์อย่างเงียบงันโดยไม่มีใครรู้ตัว

เมื่อเปลี่ยนจากชุดคนงานเป็นชุดมาตรฐานของสุภาพบุรุษ เสื้อเชิ้ตและเสื้อนอกขนสัตว์ ไคลน์นั่งรออยู่ในบ้านและปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะกังวลว่าอาจมีคนของรัฐบาลหรือโบสถ์แวะมาสืบสวนตัวตนของนักสืบเชอร์ล็อก จนกระทั่งเที่ยงตรง มันเริ่มมั่นใจว่าฝ่ายรัฐบาลไม่พบความผิดปรกติในตัวนักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ ความกดดันจึงบรรเทาลงมา ไคลน์ตัดสินใจออกจากบ้านไปซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร เพื่อมอบรางวัลเป็นมื้อใหญ่ให้ตัวเอง

แสงแดดยามบ่ายในกรุงเบ็คลันด์ช่างอบอุ่น ไคลน์เลือกนอนอาบแดดอย่างเกียจคร้านเช่นนั้น ไม่มีกะจิตกะใจจะทำสิ่งใดไปอีกพักใหญ่

จนกระทั่ง บ่ายสองโมงสี่สิบห้านาที อีกสิบห้านาทีก่อนบ่ายสามโมงตรง ชายหนุ่มเปิดนาฬิกาพกสีทองออกมายืนยันเวลาครู่หนึ่ง ก่อนจะเก็บกลับไปและเดินขึ้นห้องนอนชั้นสอง ปิดท้ายด้วยการส่งตัวเองเข้าห้วงมิติเหนือหมอกเทา

เดอะเวิร์ลตัวปลอมถูกสร้างขึ้น ไคลน์พยายามฝึกควบคุมให้ชำนาญอยู่สักพัก จากนั้นก็เดินไปนั่งเก้าอี้เดอะฟูล ส่งข้อความไปแจ้งเดอะซัน ให้เตรียมตัวเข้าร่วมการชุมนุมในอีกหนึ่งพันหัวใจเต้น

บ่ายสามโมงตรงตามเวลากรุงเบ็คลันด์ ท่ามกลางพระราชวังโบราณขนาดมหึมา เสาลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นบนเก้าอี้ต้นแล้วตนเล่า ก่อตัวเป็นร่างมายาไม่คมชัดของสามบุคคล

ออเดรย์รีบมองไปทางเก้าอี้ประธานใหญ่และกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่ปิดบัง

“จากเหตุการณ์คดีเมกูสในทิงเก็น รวมถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ผมเริ่มตระหนักถึงปัญหาได้หนึ่งข้อ นั่นคือความอุดมสมบูรณ์ของพลังงานลบในเขตตะวันออก เขตอุตสาหกรรม และเขตท่าเรือของเบ็คลันด์ เหมาะแก่การลงมาจุติของเทพนอกรีตอย่างมาก พวกคุณต้องหมั่นส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากเบื้องหลังเป็นไปตามคำกล่าวของลาเนวุสจริง ผมจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสภาพระคาร์ดินัล ให้พวกเขาช่วยกดดันอาณาจักรและรัฐบาล เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของอารมณ์ด้านลบภายในอาณาจักรโดยเร็ว ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล ภารกิจ ‘ไม่ยุ่งยาก’ ของท่านสำเร็จลุล่วงแล้วค่ะ!”

เธอจงใจเน้นเสียงคำว่า ‘ไม่ยุ่งยาก’ เพื่อหยั่งเชิงว่า ความตายของลาเนวุสเป็นฝีมือผู้รับใช้มิสเตอร์ฟูลจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องการทราบว่า ฉากฆาตกรรมอันเต็มไปด้วยไพ่ทาโรต์ คือสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของชุมนุมทาโรต์จริงไหม

ไคลน์ฉีกยิ้มพลางกล่าวด้วยมาดเงียบขรึม

“เราทราบแล้ว”

จากนั้นก็ถอนหายใจ

“ในยุคสมัยเช่นนี้ สำหรับเมืองใหญ่อย่างเบ็คลันด์ สำหรับเขตชุมชนแออัดอย่างย่านอู่ต่อเรือของเขตตะวันออก ถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นเลิศสำหรับให้เทพนอกรีตลงมาจุติ”

อะไรนะ? อัลเจอร์พลันขมวดคิ้วงุนงง ราวกับไม่มั่นใจว่าตนได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่

เหตุใดภารกิจไม่ยุ่งยาก ถึงกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีให้เทพนอกรีตจุติไปได้?

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version