Skip to content

Outside Of Time 1116


บทที่ 1116 ท่องยุทธภพ

เนินทรายสีน้ำเงิน ส่องประกายเจิดจรัสเหลือคณา คล้ายกรวดทรายแต่ละเม็ดคืออัญมณี

รวมตัวทอดยาวต่อเนื่อง

คล้ายคลื่นมหาสมุทรชะงักค้างกลางฟ้าดินเงียบสงัด

ไอแผดร้อนทั่วทิศแผ่ลามกลางความเงียบสงบ ทำให้ทุกอย่างที่นี่ยิ่งพร่าเลือน

มีเพียงแสงเจิดจ้าจากกรวดทรายแผ่ออกมาคล้ายดวงดาว ทั้งเหมือนกาลเวลามากมายตัดสลับเป็นห้วงฝัน

ดุจแดนจินตนาลวงตา

งามตระการเหมือนภาพมายา

“ผู้อาวุโส ที่นี่คือทะเลทรายกาลเวลา หลังผ่านทะเลทรายแห่งนี้แล้ว พวกเราจะไปถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณนั่น”

“เดินทางผ่านค่ายกลถึงบริเวณใกล้เมืองเมฆาทมิฬ”

สุดขอบทะเลทรายกาลเวลา บนเรือไม้กลางอากาศ อวิ๋นเหมินเชียนฝานมองเงาร่างสวี่ชิงที่กำลังอ่านตำรา

ตอนนี้นางคุกเข่าอยู่ด้านข้าง ปอกเปลือกผลไม้ให้สวี่ชิงพลางเอ่ยปากเสียงเบา

สำหรับนางตลอดทางนี้เหมือนคลื่นทะเลทราย ใจนางไหวหวั่นตลอด ดวงจิตเหมือนผ่านห้วงฝันลวงตา

ทุกครั้งเมื่อรำลึกถึงยังรู้สึกอัศจรรย์หาใดเปรียบ

ทำให้ผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะ 7 แดนร่ำไห้สิ้นชีพชั่วพริบตา

สังหารผู้อาวุโส 4 คนในไม่กี่อึดใจ

กำราบเทพด้วยมือเดียว

ทุกภาพฉากทำให้นางทราบชัด ผู้อาวุโสเหยียนเสวียนจื่อตรงหน้านี้คือระดับเจ้าเหนือหัวแน่!

แม้ว่าเมื่อก่อนนางเคยเจอผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นบรรพจารย์หรืออัจฉริยะฟ้าประทานของตระกูลก็เป็นระดับเจ้าเหนือหัวทั้งสิ้น

ทั้งนางยังเคยเห็นระดับเจ้าเหนือหัวต่างเผ่าจากไกลๆ

ไม่ว่าใครก็สูงส่ง

ไม่เคยมีใครใกล้นางขนาดนี้ ทั้งร่วมทางด้วยกัน

ความรู้สึกยามเผชิญหน้ากับอันตรายต่างๆ แต่ยังถูกปกป้องเช่นนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่มีน้อยนักในชีวิตนาง ทั้งฝังลึกลงจิตวิญญาณ

ขณะเดียวกัน 2-3 วันนี้ยามสวี่ชิงดื่มสุรา นางยังถือโอกาสถามปัญหาเกี่ยวกับพลังบำเพ็ญของตนเป็นครั้งคราว สวี่ชิงไม่หวงความรู้ ชี้แนะนางตามสมควร

คำชี้แนะพวกนี้ทำให้นางได้ประโยชน์ไม่น้อย ข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวคิดการฝึกบำเพ็ญมากมาย ได้รับการคลี่คลายอย่างง่ายดายในช่วง 2-3 วันนี้

ถึงขั้นว่าจากมุมมองนาง ผู้อาวุโสตรงหน้ายังมองหลายปัญหาได้กระจ่างกว่าบรรพจารย์ตระกูลตน

ส่วนทำไมผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวถึงเป็นที่ปรึกษาตระกูลตน ทั้งซ่อนพลังบำเพ็ญ เรื่องนี้นางไม่อยากไปพิจารณา ทั้งไม่ใส่ใจ

ถึงอย่างไรทางตระกูลก็เป็นเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวกับตน

‘ผู้อาวุโสเหยียนเสวียนจื่อย่อมมีเรื่องช่วยไม่ได้ ทั้งไม่อยากบอกความลับกับคนนอก’

อวิ๋นเหมินเชียนฝานแห่งสำนักเมฆกล่าวในใจ จากนั้นค่อยหยิบผลไม้เซียนอีกชนิดมาปอกเปลือกต่อ ขณะเดียวกันยังเห็นว่ากาเหล้าสวี่ชิงใกล้หมดแล้ว ดังนั้นเลยเปลี่ยนให้ใหม่อย่างชำนาญ

ในถุงเก็บของของนางมีสิ่งของมากมาย ของกินดื่มเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ค่อนข้างมีเป็นจำนวนมาก

แน่นอนว่าไม่ใช่ผลจากการทำนาย แต่หลังจากนางเลือกแล้วก็กำหนดฐานะตัวเอง จำเป็นต้องเป็นสาวใช้เพียบพร้อม พยายามทำให้สวี่ชิงสบายตลอดทาง ครั้นแล้วจึงเพิ่มโอกาสการมีชีวิตรอดของตน

ความคิดของนาง สวี่ชิงไม่ได้ใส่ใจ

แต่ต้องบอกว่าตลอดทางอวิ๋นเหมินเชียนฝานทำตัวเป็นสาวใช้ได้โดดเด่นจริงๆ

ทั้งหญิงคนนี้ยังฉลาดมาก โดยเฉพาะการเริ่มเป็นฝ่ายบอกและปลดผนึกดินห้วงมิติล่วงหน้า ไม่มีสิ่งใดไม่เด็ดเดี่ยว

ดังนั้นสวี่ชิงเลยยอมทำตามสัญญาก่อนหน้านี้

ตอนนี้เขายกกาเหล้าขึ้นดื่มอึกหนึ่ง ก่อนเหลือบสายตามองทะเลทรายเบื้องหน้า

มองความเจิดจรัส พร่าเลือน กาลเวลานับไม่ถ้วน ณ ที่นี้

ในบริเวณใกล้เคียง ทะเลทรายเหมือนภาพวาด คล้ายกฎเกณฑ์ธรรมชาติตามตำรา

ตรงพื้นที่ห่างไกล เนินทรายมากมายเลือนราง คล้ายซ่อนความลับโบราณไว้

นอกจากนี้พืชกลางทะเลทรายยิ่งน้อยมาก เห็นประปรายไม่กี่ต้น ทั้งลักษณะใบยังเหมือนเข็ม การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เพื่อลดการคายน้ำ ยืดเวลาชีวิตออกไป

ความหวงแหนชีวิตสะท้อนให้เห็นที่นี่

สรรพสิ่งเป็นเช่นนี้

ความจริงสรรพชีวิตก็เหมือนกัน

กลางอากาศนกอินทรีเหินทะยาน ใต้แสงเหนือพร่างพราวเงาร่างพวกมันสะดุดตาเป็นพิเศษ

ตอนนี้ความเงียบสงบของทะเลทรายถูกเสียงอินทรีเหนือม่านฟ้าทำลาย แต่กลับไม่สอดแทรก กลายเป็นว่าเสริมความลึกลับและเปล่าเปลี่ยวบางส่วน

เรือไม้ท่องเหินเข้าเขตทะเลทราย สวี่ชิงเอ่ยปากช้าๆ “ทำไมที่นี่ชื่อว่ากาลเวลา”

อวิ๋นเหมินเชียนฝานที่รู้จักแทบทุกแห่งที่ผ่าน ตอนนี้กลับลังเลแล้ว

สักพักนางค่อยกล่าวเสียงเบาอย่างกระวนกระวายอยู่บ้าง “ผู้อาวุโส สำหรับที่มาของชื่อทะเลทรายแห่งนี้ ไม่มีบันทึกไว้ในตำราโบราณใดๆ ผู้คนที่ใช้ชีวิตบนทะเลทรายแห่งนี้เพียงบอกกันปากต่อปาก”

“ดังนั้นทำไมถึงตั้งชื่อนี้ ผู้น้อยไม่ทราบเจ้าค่ะ…”

สวี่ชิงพยักหน้าเล็กน้อย กวาดสายตามองอวิ๋นเหมินเชียนฝานก่อนกล่าวราบเรียบ “สถานที่ที่เจ้าเลือกตลอดทางน่าสนใจนัก ทะเลสาบวารีนภารวมถึงทะเลทรายกาลเวลานี้ ชื่อสถานที่เป็นเอกลักษณ์และแฝงตำนานเก่าแก่ เจ้ายังรู้จักอีกเท่าไร”

อวิ๋นเหมินเชียนฝานได้ยินแล้วรีบหยิบตำราไผ่ม้วนหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของ วางตรงหน้าสวี่ชิงอย่างนอบน้อม

“ผู้อาวุโส ทั้งหมดอยู่ที่นี่ ปกติข้าชอบเรื่องที่บันทึกภูมิประเทศกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นเลยรวบรวมมาตลอด”

“นอกจากสถานที่ตรงเขตอำนาจตระกูลที่ข้าเคยเห็นกับตาแล้ว ส่วนใหญ่ที่อื่นล้วนฟังคนบอกมา ไม่มีโอกาสไปจริงๆ”

“ดังนั้นเลยอาจมีทั้งจริงเท็จ”

สวี่ชิงรับม้วนไม้ไผ่มา หลังจากแผ่จิตเทพสัมผัส นัยน์ตาเขาฉายแววล้ำลึก

สถานที่ซึ่งระบุด้วยตัวอักษรบนม้วนไม้ไผ่ รวมลักษณะภูมิประเทศอย่างเทือกเขา ทะเลสาบ แม่น้ำ แอ่งกระทะต่างๆ ทั้งมีชื่อรวมถึงเรื่องราวและทิศทางโดยคร่าว

‘บึงมารอาสัญ ถ้ำลมสวรรค์ เทือกเขานภาเพลิง ที่ราบเซียนดับสลาย ผาจอมมรรค สระระเบียบปฐพี แอ่งโคลนเมฆา…’

เมื่อเห็นชื่อทั้งหมด สวี่ชิงสนใจอย่างยิ่ง

‘ต่อให้มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นสถานที่พิเศษอย่างทะเลสาบวารีนภาและทะเลทรายกาลเวลา แต่มีส่วนช่วยข้าไม่น้อย’

สวี่ชิงนึกถึงตรงนี้แล้วเก็บม้วนไม้ไผ่ไป

จากมุมมองของเขา มูลค่าม้วนไม้ไผ่นี้ไม่ด้อยกว่าดินแฝงความสามารถด้านห้วงมิตินั่น

จากนั้นสวี่ชิงค่อยมองอวิ๋นเหมินเชียนฝานอีกครั้ง

“เจ้ารีบมุ่งหน้าไปเมืองเมฆาทมิฬหรือไม่”

“ไม่รีบๆ ไม่รีบแม้แต่น้อย”

เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงพอใจ ในใจอวิ๋นเหมินเชียนฝานยิ่งฮึกเหิม ขอเพียงช่วยสวี่ชิงได้ นางก็คิดว่าตนมีคุณค่า

อีกอย่างคือคำชี้แนะตลอดทางมานี้ ทำให้นางถึงขั้นคิดว่าหากระยะทางทอดยาวอีกหน่อยคงยิ่งดี

เมื่อได้ยินคำถามสวี่ชิงตอนนี้ นางจึงรีบตอบอย่างดีใจ

สวี่ชิงพยักหน้าเล็กน้อย ก้าวจากเรือไปข้างหน้า ก่อนหายวับไปปรากฏตัวเหนือเนินทรายกว้างใหญ่

เมื่อนั่งขัดสมาธิตรงนั้น นัยน์ตาสวี่ชิงส่องประกาย

‘ที่นี่เวลาปั่นป่วน หรือกล่าวคือมีเวลานับไม่ถ้วนไหลวนต่างระดับ แต่กลับสอดประสานจนกลายเป็นปกติ’

ขณะพึมพำสวี่ชิงแผ่จิตเทพปกคลุมทั่วทิศ

สำหรับการหยั่งรู้ของสวี่ชิง อวิ๋นเหมินเชียนฝานชินแล้ว นางเห็นสวี่ชิงนั่งขัดสมาธิก็เก็บเรือไม้ทันที โรยตัวลงข้างกายสวี่ชิง เริ่มยุ่งง่วนขึ้นมา

ไม่นานนางก็ตั้งเพิงให้สวี่ชิง ทั้งปูเสื่อเย็นทอจากหญ้าวิญญาณ สุดท้ายค่อยนั่งเท้าคางข้างๆ ดวงตาโตงดงามจ้องมองสวี่ชิงตลอด

ต่อให้ปัจจุบันสวี่ชิงเป็นเช่นนี้ ถือเป็นชายวัยกลางคนเปี่ยมประสบการณ์ ท่าทางแก่ชรา แต่สายตานางกลับเห็นว่ามีเสน่ห์เป็นพิเศษ

‘ตอนผู้อาวุโสยังหนุ่มคงรูปงามสง่า บุคลิกองอาจห้าวหาญแน่’

‘ทั้งตัวเขามีเรื่องราวมากมาย…’

‘หลายครั้งเขาจะมองฟ้าดินห่างไกล เขากำลังหวนรำลึกหรือ นึกถึงตระกูลกับคนรู้จักของเขา?’

‘มีลำนำนั่นด้วย คล้ายท่องยุทธภพ องอาจหาใดเปรียบ แต่กลับแฝงความเศร้ารันทด ยามบรรเลงในสมองข้าปรากฏเงาหลังของหญิงสาวคนหนึ่ง…’

‘นั่นคือ… คู่ฝึกเต๋าของผู้อาวุโสหรือ’

ยามพึมพำในใจ มีลมร้อนพัดมา ผมยาวของสวี่ชิงแผ่สยาย ชายเสื้อพลิ้วตาม

ลมพัดผ่านอวิ๋นเหมินเชียนฝานเช่นกัน ทำให้ชุดกระโปรงแนบร่างอรชร เน้นสัดส่วนโค้งเว้าเย้ายวนยิ่ง

ภาพงามนัก

คล้ายว่าเทพผู้สร้างยังหันมามอง เริ่มขีดเขียนเหนือทะเลทราย ก่อตัวเป็นภาพวาดทรายตามการเวียนวน

เวลาล่วงเลยไปเช่นนี้

ผ่านไป 5 วัน

จิตเทพสวี่ชิงครอบคลุมบริเวณไร้สิ้นสุด ยามปกคลุมทะเลทรายแถบนั้นยังแทรกซึมถึงเม็ดทราย

5 วันก่อน แวบแรกยามเห็นทะเลทรายแห่งนี้ สวี่ชิงรู้สึกถึงความอลหม่านของเวลาที่นี่

ส่วนสาเหตุเป็นรูปธรรม ตอนนั้นเขายังไม่มั่นใจ รู้สึกเพียงว่าการหมุนของเข็มนาฬิกาแดดชะงัก เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวช้า เดี๋ยวหยุดนิ่ง

ทั้งวิถีเวลาสูงสุดยังเกิดคลื่นสะเทือนกว่าปกติด้วย

ถึงตอนนี้หลังผ่านการสังเกตและค้นคว้า 5 วัน ร่วมกับความเข้าใจของตนที่มีต่อเวลา เขาคาดเดาได้รางๆ

‘ดินทรายไร้สิ้นสุดที่นี่เหลือคณานับ แต่ความจริง… รู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน’

‘ความเป็นหนึ่งเดียวเช่นนี้ ใช่ว่าทะเลทรายเป็นผืนเดียวกัน แต่… เป็นหนึ่งเดียวโดยปัจเจก!’

สวี่ชิงพึมพำในใจ

‘ถ้ากล่าวอย่างถูกต้อง แม้ว่ากรวดทรายที่นี่มีร่องรอยหรือขนาดต่างกันเล็กน้อย แต่ความจริงแล้ว ตอนแรกพวกมันอาจเหมือนกัน’

‘ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือร่องรอย รวมถึงรายละเอียดทั้งหมดคงเหมือนกัน คล้ายทำเลียนแบบออกมาเป็นจำนวนมาก’

นี่คือความกระจ่างจากการสังเกต ค้นคว้า สำรวจ 5 วันของเขา

สวี่ชิงเอื้อมมือคว้ากรวดทรายมา 1 ฝ่ามือก่อนจ้องมอง

‘ราวกับว่า… ที่นี่เคยมีกรวดทรายเพียงเม็ดเดียว’

‘ลมพัดผ่านหรือผลกระทบจากสิ่งภายนอก ทำให้การเคลื่อนไหวของกรวดทรายเม็ดนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเวลา’

‘ทุกการเปลี่ยนแปลงเท่ากับมีเส้นเวลาเพิ่มมา ทั้งมีกรวดทรายเพิ่มขึ้น’

‘กาลเวลาล่วงเลยเช่นนี้ ด้วยลมพัดหรือพลังปริศนา เส้นเวลาที่นี่จึงมากขึ้นเรื่อยๆ นานเข้ากรวดทรายยิ่งเพิ่มขึ้น’

‘แต่ละกรวดทรายแรกเริ่มคงเหมือนกัน ทว่าไม่นานก็มีเส้นเวลาของตัวเอง แต่ละเส้นเวลาต่างเผยความขัดแย้งและวงจรแตกต่างกัน’

‘สุดท้ายกลายเป็นทะเลทรายผืนนี้’

‘นี่คือสาเหตุว่าทำไมที่นี่มีเวลามากนัก ทั้งตัดสลับกันด้วย’

สวี่ชิงเงยหน้ามองจุดสิ้นสุดของทะเลทราย

‘ที่นี่อัศจรรย์นัก หรือกล่าวคือ… ความจริงสถานที่นี้เป็นยอดสมบัติเกี่ยวกับเวลาอย่างหนึ่ง’

‘แต่มีคนเก็บมันไปได้น้อยนัก ด้วยวิธีเก็บต้องจัดการเวลาของกรวดทรายแต่ละเม็ดอย่างแม่นยำ ทำให้ทะเลทรายผืนนี้เปลี่ยนจากความปั่นป่วนกลับเป็นอย่างเดิม สุดท้ายทรายจะทยอยน้อยลง กระทั่งกลายเป็นเม็ดเดียวเหมือนตอนแรก’

‘ตอนนี้ข้าก็ยังทำไม่ได้’

‘แต่… ที่นี่ทำให้ข้าเห็นวิธีสำแดงพลังเวลาในระดับลึกซึ้งขึ้น’

นัยน์ตาสวี่ชิงแวววาบ

‘แบ่งเส้นเวลา!’

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version