บทที่ 1127 คลายภาพเสี้ยวหนึ่ง
เมื่อออกแรงบีบ หัวใจชุ่มเลือดแหลกสลาย แตกกระจายเป็นเสี่ยงทันที
เลือดเนื้อปะปน
อาการบาดเจ็บเช่นนี้ ต่อให้หลี่เมิ่งถู่อยู่ช่วงเกิดใหม่ แต่ความเจ็บปวดสาหัสที่ตามมายังทำให้เขากระอักเลือดแดงสด โพรงโลหิตตรงหน้าอกชุ่มเลือดเช่นกัน
ตัวเขากลายเป็นมนุษย์โลหิตเหมือนสวี่ชิงชั่วพริบตา
ทั้งสิ่งที่มาพร้อมความเจ็บปวดนี้คือร่างกายบิดเบี้ยวโดยไม่รู้ตัว
แต่เรื่องน่าประหลาดคือ… มุมปากเขากลับแย้มยิ้ม
หุ่นชายชราจากไม้แกะสลักบนมือกำลังยิ้มเช่นกัน
ทั้ง 2 ตัวบิดเบี้ยว ท่าทางเจ็บปวด มุมปากแย้มยิ้ม
เหมือนกันทุกประการ
พริบตาต่อมาในใจสวี่ชิงสั่นสะท้าน ตอนนี้หน้าอกเขาแหวกออก คล้ายถูกมือไร้รูปทะลวง เกิดโพรงโลหิตจนเห็นหัวใจ
หัวใจ… เหมือนถูกมือไร้รูปจับคว้า เริ่มแตกละเอียด
“วิชากฎกรรม!”
นัยน์ตาลบเลือนรอยวิถีของสวี่ชิงส่องประกายฉับพลัน เห็นด้ายกฎกรรมมากมายทันที เชื่อมตัวตนกับไม้แกะสลักนั่น ส่วนไม้แกะสลักเชื่อมต่อกับหลี่เมิ่งถู่
คล้ายว่าไม้แกะสลักเป็นสื่อนำ เชื่อมโยงสวี่ชิงกับหลี่เมิ่งถู่!
ภายใต้การเชื่อมต่อนี้ ทั้ง 2 ไม่ได้ถ่ายโอนความเจ็บปวด แต่บาดเจ็บเท่ากัน!
หลี่เมิ่งถู่บีบหัวใจตัวเองจนแหลก ถ้าอย่างนั้นหัวใจสวี่ชิงย่อมไม่รอดเช่นกัน
ภาพนี้ทำให้สวี่ชิงสีหน้าอึมครึม เมื่อเห็นหัวใจตัวเองใกล้แหลกเป็นเสี่ยง เขาไม่ลังเลสักนิด เรียกกรรไกรมหึมาออกมา
แน่นอนว่าไม่เหมือนปีนั้น แต่เป็นรูปธรรมของรอยวิถีลบเลือน
แม้ว่าอานุภาพเทียบแบบเดิมไม่ได้ แต่เฉียบคมตามการยกระดับพลังบำเพ็ญของสวี่ชิง ตอนนี้หลังจากปรากฏตัวแล้ว มันตัดด้ายกฎกรรมมากมายระหว่างตนกับไม้แกะสลักทันที
ด้ายกฎกรรมทั้งหมดตัดขาดดังฉัวะ
คลี่คลายภัยหัวใจแหลกสลายได้!
สวี่ชิงเดินหน้าก้าวหนึ่ง คิดพุ่งสังหารหลี่เมิ่งถู่
แต่พริบตาต่อมาเสียงแหบพร่าของหลี่เมิ่งถู่กลับดังก้อง
“ยามเห็นว่าเจ้ามีอำนาจพิเศษเมื่อครู่ ข้าก็เดาว่าเจ้าอาจมีวิชาตัดกฎกรรม เมื่อข้าสำแดงวิชานี้ มีหรือจะไม่เตรียมตัว!”
“การควักหัวใจก่อนหน้านี้ แค่พิสูจน์ว่าเจ้ามีวิชาตัดกฎกรรมหรือไม่เท่านั้น”
ขณะกล่าวหลี่เมิ่งถู่หักไม้แกะสลักบนมือขวาเต็มแรง ไม้แกะสลักเกิดเสียงดังลั่นทันที ศีรษะหุ่นชายชราถูกหลี่เมิ่งถู่หัก
ความเป็นมาของไม้แกะสลักลึกลับ ประหลาดอย่างยิ่ง แม้ว่าด้ายกฎกรรมที่แผ่ออกมาถูกตัดขาด แต่ผลสะท้อนกลับรุนแรงถึงขีดสุด
เมื่อศีรษะโดนหัก ด้ายกฎกรรมที่ถูกตัดขาดเหมือนมีชีวิตใหม่ พันรอบกรรไกรจากอำนาจลบเลือนของสวี่ชิงเหมือนอสรพิษมากมาย
อาศัยการพันรอบเช่นนี้เชื่อมต่ออีกครั้ง
นัยน์ตาสวี่ชิงหดรัด
ขณะเดียวกันหลี่เมิ่งถู่หัวเราะร่า บนมือซ้ายมีกริชเล่มหนึ่ง จ้องมองสวี่ชิงก่อนปาดคอตัวเองโดยไม่ลังเล!
เลือดแดงสดหลั่งทะลัก ความลึกของบาดแผลถึงขั้นเฉือนกระดูก
อาการบาดเจ็บแบบเดียวกัน เกิดขึ้นกับคอสวี่ชิงชั่วพริบตา
เมื่อเลือดแดงสดพวยพุ่ง ทั้งตัวสวี่ชิงสั่นสะเทือน กายเนื้อที่เดิมเปี่ยมบาดแผล รับความเจ็บปวดสาหัสเช่นนี้อีกครั้ง ทำให้พลังบำเพ็ญเขาปั่นป่วน พลังชีวิตถดถอย
ได้แค่อาศัยมือข้างหนึ่งกดปากแผล ถอยหลังอย่างรวดเร็ว
แต่อาการมึนงงถาโถมเข้ามาราวกระแสน้ำ ย้ายภูเขา คว่ำสมุทร
เมื่อย้อนมองหลี่เมิ่งถู่ ตอนนี้เก็บไม้แกะสลักแล้ว อาศัยพลังอำนาจเกิดใหม่ในชั่วอึดใจสุดท้าย สร้างหัวใจที่หายไปใหม่อีกครั้ง บาดแผลน่ากลัวตรงคอกลับมาเป็นปกติโดยเห็นได้ด้วยตาเนื้อ
กระทั่งพลังอำนาจเกิดใหม่ซ่านสลาย เขากลับคืนสู่สภาพไร้บาดแผลแล้ว
ทว่าพริบตาต่อมาค่าตอบแทนของอำนาจเกิดใหม่ค่อยมาเยือน ผมเขาขาวกว่าครึ่ง ร่างกายแห้งเหี่ยว กลิ่นอายอ่อนกำลังลงมาก
แต่นัยน์ตาเขาส่องประกาย จับจ้องเงาร่างสวี่ชิงที่ถอยหลังรวดเร็ว
“ดูท่าว่ากาลเวลาผกผันของเจ้าเหมือนที่ข้าประเมิน ไม่อาจสำแดงเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาอันสั้น”
ขณะกล่าวร่างเขาวูบไหว จิตสังหารเด่นชัด ห้อตะบึงไปทางสวี่ชิง
เขามั่นใจแล้วว่าคนตรงหน้าไม่อาจสำแดงกาลเวลาผกผันอีกครั้ง
ความเร็วว่องไว เคลื่อนที่ชั่วพริบตา ปรากฏตัวหน้าสวี่ชิงที่กำลังถอยร่น จิตสังหารล้นฟ้าปะทุ เงื้อมือขวาฟาดเต็มแรง
คิดสังหารสวี่ชิงให้ตายคาที่
ช่วงวิกฤติคอเกือบขาด สวี่ชิงใช้พลังบำเพ็ญกดข่ม ไม่ลังเลอีกแม้แต่น้อย นัยน์ตาไม่ฉายแววลนลาน แต่เป็นจิตสังหาร
กัดสิ่งที่ใส่ไว้ในปากก่อนต่อสู้เต็มแรง
นั่นคืออักขระพิเศษ!
ได้มาจากท่านย่าห้าแห่งแดนใหญ่เซ่นจันทราบนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ สิ่งที่มอบให้เขาคือพลังฟื้นตัว!
พลังนี้ถ้าไม่จำเป็น สวี่ชิงไม่อยากใช้
ด้วยถ้าใช้พลังนี้ฟื้นตัว แม้ว่าฟื้นฟูอาการบาดเจ็บตนชั่วพริบตา แต่… สิ่งที่ผลาญไปคือพลังชีวิตของท่านย่าห้า
ทว่าตอนนี้… จำเป็นต้องใช้
ชั่วพริบตายามกัดอักขระแตก พลังอ่อนโยนปะทุในตัวสวี่ชิงทันที เพียงพริบตาพลันอัดแน่นทั่วร่าง ทำให้เลือดเนื้อตรงหน้าอกเขาฟื้นคืน ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทั่วร่าง คอที่เกือบถูกตัดขาดพลันกลับมาเป็นปกติ
ต่อมาอักขระซึ่งวิวัฒน์จากพลังโทสะของท่านปู่แปดถูกสวี่ชิงบีบแหลกเช่นกัน
ความเดือดดาลถึงขีดสุดปะทุในตัวสวี่ชิงทันที สิ่งที่มาพร้อมความเดือดดาลคือจิตสังหารเด่นชัดรวมถึงการเสริมพลังบำเพ็ญในกาย
ต่อให้เป็นกายเนื้อ ภายใต้แรงโทสะย่อมเสริมส่งเช่นกัน
เห็นเพียงเลือดเนื้อทั่วร่างสวี่ชิงแผ่ขยาย เส้นเลือดดำปูดโปน นัยน์ตาคั่งโลหิตแดงก่ำ ลมหายใจแฝงอานุภาพซึ่งส่งผลต่ออารมณ์
เมื่อหลี่เมิ่งถู่หน้าเปลี่ยนสี เขาพลันบุกสังหารทันที
ซัดหมัดหนึ่งออกมา ฟ้าถล่มดินทลาย
ตอนนี้หลี่เมิ่งถู่แบกรับค่าตอบแทนจากอำนาจเกิดใหม่ ตกสู่สภาพอ่อนแอ เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดของสวี่ชิง ทั้งตัวเขาสั่นสะท้าน ปากกระอักเลือดแดงสด ถอยหลังฉับพลัน
สวี่ชิงจ้องเขม็ง ความเร็วชวนตะลึง พุ่งตัวซัดหมัดอีกครั้ง
ท่ามกลางเสียงกัมปนาท สวี่ชิงตามล่าต่อ ส่วนหลี่เมิ่งถู่ถอยร่นต่อเนื่อง กระอักเลือดไม่หยุด ในใจยิ่งเกิดคลื่นถาโถม
เมื่อเห็นว่าเป็นช่วงวิกฤติ หลี่เมิ่งถู่ยกมือขวาขึ้นชี้ฟ้า
เวิ้งฟ้าม้วนตลบทันที หอคอยราวภาพมายามากมายพลันปรากฏ จำนวนครบ 9,000 !
หอคอยมายาทั้ง 9,000 ปรากฏ อานุภาพยิ่งใหญ่ เมื่อหลี่เมิ่งถู่วาดมือลงฉับพลัน หอคอยมายาทั้ง 9,000 ทิ้งตัวลงมาราวฝนโปรยปราย
มุ่งตรงหาสวี่ชิง เข้าขวางเขาไว้
พลังบำเพ็ญทั่วร่างสวี่ชิงพลุ่งพล่าน มือขวาคว้าอากาศ กระบี่จักรพรรดิปรากฏ 1 คน 1 กระบี่ มุ่งตรงหาหอคอย
ตลอดทางปราณกระบี่สะท้านฟ้า เผยอานุภาพทำลายล้าง
เมื่อมองจากไกลๆ หอคอยมากมายพังพินาศต่อหน้าเขา
เสียงดังครั่นครื้น อึกทึกสนั่นหู
ศึกนี้ดำเนินถึงปัจจุบัน สำหรับสวี่ชิงแล้วถือว่าลำบากยิ่ง
กลวิธีของหลี่เมิ่งถู่มากสุดในบรรดาเจ้าเหนือหัวที่เขาเคยเจอ อำนาจยิ่งแปลกประหลาด ต่อให้ตอนนี้สวี่ชิงใช้ไพ่ตายจนหมดยังยากแบ่งแพ้ชนะ
ความรู้สึกคล้ายคลึงเกิดขึ้นในใจหลี่เมิ่งถู่เช่นกัน โดยเฉพาะตอนนี้ที่ตนกำลังอ่อนแอ ดังนั้นนัยน์ตาเขาเลยฉายแววเด็ดเดี่ยว
ฉวยโอกาสยามหอคอยมายา 9,000 ขวางกั้น 2 มือเขาทำมุทรา จรดนิ้วลงบนตัวอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งยามจรดนิ้ว บนร่างเขาเผยอักขระหนึ่ง
ทุกอักขระซับซ้อนยิ่ง ก่อตัวจากสัญลักษณ์เล็กละเอียดนับหมื่น
กระทั่งครบ 108 ครั้ง ทั้งตัวเขาเกิดรอยอักขระ 108 ไหลวนทั่วร่าง จัดเรียงเป็นค่ายกลหนึ่ง
“ผนึก จงเปิด!” หลี่เมิ่งถู่ตวาดลั่น
ค่ายกลอักขระบนตัวเขาระเบิดพลังต่อหน้าทันที อักขระในนั้นหมุนวนรวดเร็ว ก่อนแผ่ออกมารอบนอก
กระทั่งขยายออกมา 10 เท่า
ครั้นแล้วค่อยหมุนวนอีกครั้ง แผ่กระจายชั่วพริบตา ขยายใหญ่ขึ้นร้อยเท่า
ต่อจากนั้นคือพันเท่า หมื่นเท่า
สุดท้ายกลายเป็นค่ายกลสะท้านฟ้าสะเทือนดิน เปล่งแสงทองเจิดจรัสบาดตา พลังเทพเอ่อล้นทั่วค่ายกล
พลังเหนือกว่าระดับพิสุทธิ์ บรรลุระดับแท่นเทวะ!
นี่คือค่ายกลผนึกเทพ
ตอนนี้เมื่อค่ายกลคลายผนึก กลิ่นอายเทพเจ้าพลันมาเยือน สิ่งที่มาพร้อมค่ายกลกว้างใหญ่คือมือค้ำสวรรค์ข้างหนึ่ง!
ถ้ากล่าวอย่างถูกต้องคือมือขวาที่ถูกตัดของเทพระดับแท่นเทวะ ผนึกไว้ในร่างหลี่เมิ่งถู่ กลายเป็นไพ่ตายของเขา!
ตอนนี้เมื่อปรากฏ เห็นชัดว่าผิวมือขวาหยาบกร้าน แดงอมม่วง มีหนวดและดวงตาเล็กละเอียดมากมาย ดูน่ากลัวหาใดเปรียบ ชวนประหวั่นถึงขีดสุด
ยามปรากฏฟ้าดินเปลี่ยนสี ไอพลังประหลาดถาโถม ท่ามกลางความรางเลือนเหมือนมีเสียงพึมพำดังทั่วทิศ
เสียงพึมพำนี้คนนอกไม่ได้ยิน แต่สวี่ชิงมีร่างเทพ เสียงพึมพำดังก้องหูเขาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ได้ยิน 2 คำ
“ลูกกลอนมนุษย์!”
ขณะนี้หลี่เมิ่งถู่กล่าว 2 คำออกมาเช่นกัน
ดังก้องฟ้าดินชั่วพริบตา มือเทพเจ้ามหึมานั้นแหวกอากาศ นิ้วทั้ง 5 คว้ามาทางสวี่ชิง!
สวี่ชิงตัวสั่นสะท้าน อานุภาพระดับแท่นเทวะปะทุกลางมือเทพเจ้านั้น แผ่มาทางสวี่ชิง ทำให้ทั้งตัวเขามีเสียงกระดูกแตกหักลั่นดังออกมา
ร่างกายบิดเบี้ยว จิตวิญญาณบิดเบือน ทุกอย่างผิดแผกจากเดิม
ราวจับกุมคนผู้หนึ่งไว้กลางฝ่ามือ คิดบดเป็นก้อนเพื่อทำเป็น… ลูกกลอนเลือดเนื้อมนุษย์!
ขั้นตอนนี้ทำให้หลี่เมิ่งถู่ทรมานเช่นกัน แต่สวี่ชิงยากสังหารนัก ดังนั้นการคลายผนึกคือสิ่งที่เขาประเมินแล้วคิดว่าเป็นวิธีที่จ่ายค่าตอบแทนน้อยสุดเพื่อจัดการอีกฝ่าย
ทว่าตอนนี้การเปลี่ยนแปลงประหลาดพลันเกิดขึ้นกับตัวสวี่ชิง!
ผู้ลงมือไม่ใช่เทพชั้นสูงซิงเหยียน แต่เป็น… เสียงเรื่อยเฉื่อย คล้ายถูกผนึกไว้ในตัวสวี่ชิง ดังก้องออกมาในช่วงสำคัญนี้
“มีเด็กจอมวางมาดคนหนึ่งชื่อสวี่ชิง ออกเดินทางสั่งสมประสบการณ์ หลายปีต่อมาเด็กจอมวางมาดคนนี้ค่อยกลับมาอย่างปลอดภัย”
นั่นคือเรื่องเล่าของอวี้หลิวเฉิน
ทั้งเป็นคำอวยพรจากอวี้หลิวเฉิน
มือนั่นมาจากระดับแท่นเทวะ ส่วนอวี้หลิวเฉิน… ก็เป็นระดับแท่นเทวะ
ตอนนี้เสียงเขาดังก้อง ถือเป็นการต่อกรระหว่างเทพเจ้า ครู่ต่อมามือขาดจากค่ายกลผนึกของหลี่เมิ่งถู่พลันสั่นสะท้าน ปล่อยมือถอยกลับไปช้าๆ
เสียงอวี้หลิวเฉินหายไปเช่นกัน
ความบิดเบี้ยวที่เกิดกับตัวสวี่ชิงไม่สืบเนื่องอีก หลังกระอักเลือด สวี่ชิงเงยหน้าอย่างลำบาก จ้องมองหลี่เมิ่งถู่ที่ตอนนี้สีหน้าอึมครึมถึงขีดสุดเขม็ง
ก่อนพุ่งตัวไปทันที
หลี่เมิ่งถู่หายใจกระชั้นถี่ ตอนนี้ความรู้สึกถึงวิกฤติเป็นตายเด่นชัด แต่จิตสังหารไม่เพียงไม่ลดลง ในช่วงความเป็นตายนี้กลับเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม
“นี่แหละคือการต่อสู้เป็นตาย ดีๆๆ!”
ขณะกล่าวหลี่เมิ่งถู่เงื้อมือขึ้น ม้วนภาพแผ่กลิ่นอายเก่าแก่หนึ่งปรากฏบนมือเขา
“สวี่ชิง เจ้าควรค่าต่อการทำให้ข้าบั่นทอนอายุขัย 3 ส่วนเพื่อเปิดภาพตกทอดประจำตระกูลข้า!”
ภาพมรดกเก่าแก่ ตอนนี้ทั้งตระกูลหลี่มีเพียงหลี่เมิ่งถู่คนเดียวที่เปิดได้ แต่กลับเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากใช้ที่สุด
หากไม่เปิดออกยังดี แต่เมื่อคลายออก ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายนั้นมากนัก เหนือกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
ต่อให้คลายภาพเพียงเสี้ยวหนึ่ง เขาก็ต้องจ่ายด้วยอายุขัย 3 ส่วน
หลายปีก่อนเขาเคยใช้ครั้งหนึ่ง ตอนนี้… จำต้องใช้เป็นครั้งที่ 2 !
หลังจากนำออกมา ยามสวี่ชิงเกิดคลื่นรุนแรงในใจ หลี่เมิ่งถู่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เงื้อมือเหวี่ยงม้วนภาพเต็มแรง…
คลายออกมาเสี้ยวหนึ่ง!
ไม่อาจต้านทาน
ไม่อาจหลบเลี่ยง
ในเสี้ยวภาพแผ่แสงสีดำออกมา
แสงนี้… ปกคลุมฟ้าดินชั่วพริบตา ครอบคลุมสรรพสิ่งไว้ในนั้น
ม้วนภาพถูกหลี่เมิ่งถู่ปิดทันที เขาหอบหนักหน่วง ไม่อาจข่มกลั้นอีก กระอักเลือดแดงสดออกมาทั่วทิศอย่างอดไม่ได้
โดยรอบ…
นอกจากเขาแล้ว ไม่มีเงาร่างอื่นอีก
ไม่มีร่องรอยของสวี่ชิง โดนผนึกไว้ในม้วนภาพ!
“จบแล้ว…”
“ศึกนี้คือการต่อสู้ซึ่งยากลำบากที่สุดตั้งแต่ข้าบรรลุมรรคามา!”
หลี่เมิ่งถู่เช็ดเลือดตรงมุมปาก ทนต่อความอ่อนแอทางร่างกายและจิตวิญญาณ ก้มหน้ามองม้วนภาพในมือ
“มรดกไม่กลับคืนสู่ตัวข้า บ่งบอกว่าเขายังไม่ตาย…”
ต่อให้ไม่เห็นเรื่องในนั้น แต่จากคำสั่งเสียของบรรพจารย์ตระกูลเมื่อปีนั้น ม้วนภาพนี้มาจากแดนต้นกำเนิดของพวกเขา
“ที่นั่นมีชื่อว่าพสุธาแดนดิน”
หลี่เมิ่งถู่พึมพำ จากนั้นค่อยเงียบไป
“ความตายของเขาเป็นสิ่งแน่นอน น่าจะไม่นานนัก แต่เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน จำเป็นต้องกำราบเขาไว้ในแดนต้องห้ามของตระกูล เสริมด้วยสายเลือด ทำให้เขาสิ้นชีพเร็ววัน!”
หลี่เมิ่งถู่สูดหายใจลึก หันหลังซวนเซ ท่องเหินไปตรงขอบฟ้า
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
