Skip to content

Outside Of Time 879


บทที่ 879 แผ่นดินเทวะบรรพกาล

บนภูเขาเทพ ท่ามกลางท้องฟ้า กลิ่นอายเทพดวงตะวัน ดวงจันทร์ ดวงดาวปกคลุมผืนฟ้า ลมเมฆเปลี่ยนสี ม่านฟ้าเกิดความรู้สึกเหมือนจะพังทลายไม่อาจค้ำเอาไว้ได้อีกต่อไป เกิดรอยยุบ ผู้คนทั้งหลายเห็นกับตา

เทพชั้นสูงยื่อเหยียนที่อยู่ตรงกลางร่างรางเลือน คล้ายว่ามีชุดคลุมยาวสีทองคลุมบนร่าง ยากจะแบ่งแยกชายหญิง ดูเหมือนผู้หญิง แต่หน้าตากลับคล้ายผู้ชาย ข้างหลังมีดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งลอยทะยาน เปลวเพลิงแผดเผาผืนดิน พลังอำนาจเทพท่วมท้นฟ้า

เทพชั้นสูงเยวี่ยเหยียนที่อยู่ข้างขวาขององค์ท่านสวมกระโปรงยาวสีเงิน กระโปรงทิ้งตัวกรอมลงมา คล้ายว่าจะปกคลุมผืนฟ้าได้ ใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบ คล้ายว่ารวมเอาความงามทุกอย่างบนโลกมา

ในขณะเดียวกับที่ทำให้คนรู้สึกตื่นตะลึงกับความงามหยาดเยิ้ม สีหน้าขององค์ท่านกลับเย็นชาราวภูเขาน้ำแข็ง ตอนนี้มือข้างเดียวกำลังประสานปางมือวางไว้ที่หน้าอก ข้างหลังดวงจันทร์ดวงหนึ่งทอแสงจันทร์เย็นเยือก สาดมาที่ร่างเทพ ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเอง

เทพชั้นสูงซิงเหยียนที่อยู่ทางซ้ายไม่ได้ทรงพลังแข็งแกร่งยิ่งใหญ่แบบรื่อเหยียน และไม่ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติอย่างเยวี่ยเหยียน เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาดินเหนียวธรรมดาๆ ทั่วไปตัวหนึ่งเท่านั้น

แต่ในยามที่สายตาจับจ้องไปยังร่างขององค์ท่าน จิตใจของทุกคนล้วนเกิดระลอกคลื่นเป็นระลอกๆ แปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแผ่ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลกระทบต่อจิตใจ แผ่ระลอกไปยังพลังชีวิต

ข้างหลังองค์ท่านเป็นดวงดาวระยิบระยับมากมาย แปรเปลี่ยนเป็นแสงดาวกระจายมา จับกลุ่มเป็นภาพทะเลดวงดาว

เทพทั้ง 3 ปรากฏออกมาพร้อมกัน

ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ผู้บำเพ็ญที่เหาะออกมาทุกคนล้วนแต่ในใจเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ ต่างก้มหน้า ไม่ว่าจะพลังบำเพ็ญระดับใด ไม่ว่าจะมีฐานะตำแหน่งอะไร ตอนนี้ต่างสีหน้าเคารพศรัทธาเป็นที่สุด คุกเข่าคารวะเทพทั้ง 3

กระทั่งว่าในที่ไกลออกไป ภาพฉายเงาที่เสนาบดีกระโจมทั้ง 3 แห่งนภาคิมหันต์ หลังจากที่เทพของแต่ละฝ่ายปรากฏตัวขึ้น เสนาบดีที่อยู่ในนั้นก็ต่างออกมาจากกระโจม ก้มศีรษะไปทางเทพเจ้าของตัวเอง!

สวี่ชิงยืนอยู่กลางท้องฟ้าสถานที่พักของตัวเอง ทอดสายตามองทุกอย่าง ในใจเกิดระลอกคลื่น

เสี้ยวขณะนี้ เขาได้พิสูจน์แล้วถึงความแตกต่างของเผ่านภาคิมหันต์กับเผ่ามนุษย์

นภาคิมหันต์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เทพเจ้าควบคุม ต่อหน้าเทพเจ้า สรรพชีวิตทั้งหลายคือทาส!

สวี่ชิงเงียบนิ่ง เขาไม่ใช่เผ่านภาคิมหันต์ แต่ตัวอยู่ที่นี่ ก็ทำได้แค่โค้งตัวก้มศีรษะเท่านั้น

นานหลังจากนั้น ท่ามกลางความเงียบสงัดของฟ้าดินผืนนี้ 3 เทพชั้นสูงสายตากวาดไปทั่ว ส่วนทางสวี่ชิงทางนั้น เหล่าองค์ท่านต่างจ้องมอง

รื่อเหยียนเย็นชา เยวี่ยเหยียนซับซ้อน ซิงเหยียนแย้มยิ้ม

จากนั้นดวงอาทิตย์ข้างหลังเทพชั้นสูงยื่อเหยียนก็พลันสาดแสงวาบขึ้นมา ประกายแสงเจิดจ้าทำการแผดเผาท้องฟ้าทันที เปลวเพลิงสีทองแผ่ลาม

นั่นคือเพลิงเทวะ

ท่ามกลางการเผาไหม้อยู่ตลอด ท้องฟ้าก็เริ่มละลาย การหลอมเป็นชั้นๆ เผยมิติออกมา หลังจากที่ไม่รู้ว่ากัดกร่อนไปไม่รู้กี่ชั้น ก็กลายเป็นอุโมงค์มืด

และการเผาไหม้ก็ยังดำเนินต่อไป

อุโมงค์มืดพังทลายลงท่ามกลางเพลิงเทวะ จากนั้นอุโมงค์มืดใหม่ก็เกิดขึ้น ซ้ำไปซ้ำมา ลึกไปเรื่อยๆ

ในขั้นตอนนี้ ฟ้าดินทั้งแผ่นดินใหญ่ล้วนสั่นคลอน กระทั่งว่ายังได้ยินเสียงคำรามอย่างโศกเศร้าของวิถีสวรรค์มาแว่วๆ ด้วย คล้ายว่าคิดอยากจะขัดขวาง แต่กลับไร้ประโยชน์

จวบจนสุดท้าย คลื่นวนสีทองลูกหนึ่ง ปรากฏขึ้นในส่วนที่ลึกที่สุดของมิติ

ในคลื่นวนมีเยื่อบางๆ ที่ขุ่นมัวชั้นหนึ่ง ผ่านจากเยื่อบางนี้ จะเห็นรางๆ ว่าในนั้นเหมือนมีโลกใบหนึ่ง

แทบจะในพริบตาที่คลื่นวนสีทองลูกนี้ปรากฏขึ้น เทพชั้นสูงเยวี่ยเหยียนยกมือขึ้น แสงจันทร์ข้างหลังองค์ท่านแปรเปลี่ยนเป็นแม่น้ำ พุ่งตรงไปยังคลื่นวน ไหลบ่าทันที ผสานไปในความขุ่นมัวนั้น

ไม่นานนักก็มีเสียงคำรามที่แตกต่างไปจากวิถีสวรรค์ดังสะท้อนมาจากในส่วนลึกของคลื่นวน คล้ายว่ากำลังขัดขวาง แต่จากเสียงแค่นขึ้นจมูกของเยวี่ยเหยียนดังขึ้น ทันใดนั้นบนร่างขององค์ท่านก็มีกลิ่นอายของชื่อหมู่…

สวี่ชิงจิตใจสั่นสะท้าน เสี้ยวขณะต่อมา เยื่อบางขุ่นมัวที่ถูกพลังของเยวี่ยเหยียนผสานเข้ามาก็เปลี่ยนมาชัดกระจ่าง โลกในนั้นก็ปรากฏออกมา

จะมองเห็นนั่นเป็นเหมือนโลกสีขาวไปทั่วทั้งแถบใบหนึ่ง…

ไม่รอให้คนทั้งหลายเงยหน้าไปมองอย่างละเอียด จิ้งจอกดินเหนียวก็หัวเราะ แสงดาวบนร่างพวยพุ่งขึ้น แปรเปลี่ยนเป็นมือดินเหนียวขนาดมหึมา 2 ข้าง ยื่นเข้าไปในคลื่นวน แล้วฉีกเยื่อที่เปลี่ยนมาโปร่งใสนั่นอย่างแรง!

เสียงสะท้านสนั่นหวั่นไหวเบิกฟ้าเบิกปฐพี ในเสี้ยวขณะนี้ดังสะท้านฟ้า ความดังของเสียงนี้ทำให้สมองของผู้บำเพ็ญทุกคนเกิดเสียงดังวิ้ง

และในคลื่นวนบนท้องฟ้า เยื่อบางถูกฉีกออก อีกทั้งอาณาเขตที่แผ่ระลอกก็กว้างขึ้น จากผืนแผ่นดินเงยหน้ามองไป จะเห็นว่ารอยแยกนี้แผ่ลามไปครึ่งฟ้า

เหมือนรอยแผลแห่งวิถีสวรรค์

กลิ่นอายเน่าเปื่อย กลิ่นอายบรรพกาล ความรู้สึกไม่คุ้นชินมาพร้อมด้วยไอพลังประหลาดเข้มข้นและเสียงคำรามฟังชัดเจน ดังออกมาจากรอยแยก

ขณะเดียวกัน เนื่องจากรอยแยกมีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นโลกในนั้นก็เผยภาพทิวทัศน์มากขึ้นออกมาอย่างชัดเจน

สวี่ชิงเงยหน้า หลังจากมองเห็นอย่างชัดเจน ความคิดในสมองก็ผุดขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน

เพราะโลกในรอยแยกทำให้เขาคิดเชื่อมโยงอะไรมากมาย และกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากในนั้นก็ทำให้เขารู้สึกถึงความคุ้นเคย

เห็นเพียงในรอยแยกเป็นท้องฟ้าดาราที่ไม่คุ้นเคยผืนหนึ่ง ในดวงดาวพริบพราวพร่างพราย มี…ใยแมงมุมผืนมหึมาผืนหนึ่ง!!

ใยแมงมุมนี้น่าขนลุกครั่นคร้าม มันปกคลุมท้องฟ้าดาราผืนนี้ ปกคลุมดวงดาวนับไม่ถ้วน

และความหนาบางของใยแมงมุมทุกเส้น แม้จะไม่มีกว้างเท่ากับดวงดาว แต่ก็มีความกว้างอยู่หนึ่งส่วน

ที่นี่ก็คือแผ่นดินเทวะที่เผ่านภาคิมหันต์เปิดออก!

“แผ่นดินเทวะไร้นาย…”

“ก่อนหน้านี้เปิดเพื่อสำรวจไป 3 ครั้ง…”

“แผ่นดินเทวะบรรพกาล…”

คำพูดของเทียนโม่จื่อดังก้องขึ้นในสมองของสวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้ รวมกับเนื้อหาในแผ่นหยกที่อีกฝ่ายมอบให้ ไม่นานนักคำตอบที่แน่ชัดก็ลอยขึ้นมาในใจสวี่ชิง!

“ที่นี่คือพื้นที่ใจกลางเขตนพกาฬ แผ่นดินเทวะของเทพแมงมุมองค์นั้น!!”

สวี่ชิงดวงตาฉายประกาย ในใจกระจ่างแจ้งโดยสมบูรณ์

ทุกอย่างก็สอดคล้องกันแล้ว เพราะเทพแมงมุมเกิดปัญหาขึ้น ถูกเทพทั้ง 3 สยบ ดังนั้นแผ่นดินเทวะขององค์ท่านย่อมกลายเป็นไร้นาย

และเหตุที่เทพทั้ง 3 มาสำรวจอยู่หลายครั้งเห็นได้อย่างชัดเจน

ในยามที่สวี่ชิงทางนี้ในใจเกิดระลอกคลื่น บนท้องฟ้า เสียงของเทพเจ้ามาพร้อมด้วยความทรงอำนาจอย่างน่าประหลาด ดังก้องไปในฟ้าดิน

“บุตรทั้งหลาย จงออกล่า!”

4 ตัวอักษรนี้เพียงดังออกมา ทันใดนั้นแรงดูดมหาศาลกลุ่มหนึ่งก็ปะทุมาจากในรอยแยกบนม่านฟ้า ภายใต้การชักนำของเทพทั้ง 3 ก็แบ่งเป็นหลายหมื่นกลุ่ม พุ่งตรงไปยังผู้บำเพ็ญที่ผ่านด่านที่ 2

ถูกปกคลุมไปในทันที ผู้เข้าร่วมทุกคนรวมสวี่ชิงอยู่ในนั้นด้วยร่างลอยขึ้นฟ้าทันทีอย่างไม่ถูกควบคุม เร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกลายเป็นรุ้งยาวมากมาย ถูกดูดเข้าไปในรอยแยก

เข้าไปในมิติที่แผ่นดินเทวะตั้งอยู่ เข้าไปในท้องฟ้าดาราที่ไม่คุ้นเคยผืนนั้น!

เทียบกับแผ่นดินเทวะที่กว้างใหญ่ไพศาล เงาร่างของผู้บำเพ็ญหลายหมื่นคนเล็กจ้อยไร้ค่า ส่วนอันตรายกลับมากมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง

ตอนนี้แทบจะในทันทีที่คนทั้งหลายเพิ่งถูกดูดเข้าไปในท้องฟ้าดารา ก็มีคนร่างสะท้านเฮือก ส่งเสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาออกมา ร่างระเบิดทันที เลือดเนื้อกระจัดกระจาย ต่างมีความรู้สึกรับรู้ แล้วระเบิดต่อ จวบจนกระทั่งกายและจิตดับสลายไปโดยสมบูรณ์

สิ่งที่ฆ่าเขาเป็นหนวดสีดำที่จู่ๆ ก็ปรากฏออกมาจากในมิติแถวๆ นั้น

หนวดนี้เพียงกวาด ผู้ที่สัมผัสเข้ากับมันไม่ตายก็บาดเจ็บ

และข้างหลังหนวด สวี่ชิงก็เห็นปลาตัวเปื่อยยุ่ยขนาดพันจั้งตัวหนึ่ง ปรากฏร่างออกมาจากมิติ

ปลาใหญ่ตัวนี้มีหนวดเต็มไปหมด ความยาวน่าตื่นตะลึง บ้างห้อยลง บ้างปลิวไหวไปทั่ว ดูแล้วแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

กลิ่นอายเน่าเปื่อยแผ่ออกมาจากปลาใหญ่ตัวนี้ ระลอกคลื่นพลังน่ากลัวทำให้ผู้บำเพ็ญนภาคิมหันต์ที่นี่ต่างในใจหวาดกลัว

แต่ความหวาดกลัวก็ถูกสะกดลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้เข้าร่วมมหกรรมล่าเหยื่อทุกคน ก่อนที่จะเข้ามาที่นี่ก็ต่างเตรียมใจมาก่อนแล้วทั้งนั้น

ในเมื่อที่นี่คือแผ่นดินเทวะเชียวนะ!

ดังนั้น ทันทีที่ปลาใหญ่แปลกประหลาดตัวนี้ปรากฏขึ้น ปฏิกิริยาของคนทั้งหลายก็รวดเร็วเช่นกัน กระจายตัวกันออกไปทันที พุ่งตรงไปยังใยแมงมุมแผ่นดินเทวะที่อยู่ที่ไกล ใช้วิธีต่างๆ ทะยานไปอย่างเร็วรี่

สวี่ชิงเห็นภาพความตายหลังจากที่สัมผัสเข้ากับหนวดของอัจฉริยะเผ่าที่สวามิภักดิ์เผ่านภาคิมหันต์คนหนึ่งกับตา รูม่านตาของเขาหดเล็ก ในสมองมีข้อมูลเกี่ยวกับปลาหนวดตัวนี้จากในแผ่นหยกที่เทียนโม่จื่อมอบให้ผุดขึ้นมาทันที

“วิญญาณในมิติแผ่นดินเทวะรูปร่างเหมือนปลาตัวเปื่อยยุ่ย หนวดสามารถทำลายซึ่งพลังชีวิต ตัวมันกลืนกินวัตถุภายนอกทุกอย่าง อีกทั้งขนาดก็แปลกประหลาด ในสายตาของแต่ละคนล้วนมีขนาดไม่เท่ากัน!”

“มีบางคนเห็นว่ามีขนาดแสนจั้งกระทั่งว่าใหญ่กว่านั้น มีบางคนเห็นขนาดประมาณพันจั้ง…”

“อีกทั้งวิญญาณในมิติแห่งนี้มีจำนวนน่าครั่นคร้ามนัก อีกทั้งยังมีกายอมตะ ต่อให้ถูกฆ่าตายก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่จากในมิติได้”

สวี่ชิงในสมองหลังจากมีเนื้อหาพวกนี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ความเร็วปะทุขึ้น ไปจากพื้นที่ผืนนั้นทันที ทะยานไปอย่างรวดเร็วในท้องฟ้าดารา ในขณะเดียวกัน ความระมัดระวังก็มาถึงขีดสูงสุดเช่นกัน

ตลอดทางเขาเห็นปลาหนวดอีกหลายตัว ภายใต้การระมัดระวังของเขาก็หลบหลีกไปทีละตัวๆ

และจากการเคลื่อนไปข้างหน้า จากใยแมงมุมผืนนั้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาเขา ในยามที่ผ่านดวงดาวกว้างใหญ่รอบนอกบางแห่ง สวี่ชิงก็สัมผัสมาได้แต่ไกลๆ ว่า ดาวดวงนั้นตลบอวลไปด้วยความตาย

นั่นคือซากดาว

ในนั้นไม่มีระลอกคลื่นพลังชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีก็มีเพียงใยแมงมุมที่กว้างไกลไร้จุดสิ้นสุดตลอดจนซาปรักหักพังเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางการเข้าใกล้ ใยแมงมุมในสายตาของเขาก็ใหญ่มหึมาเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายก็กลายเป็นถนนสีขาวเป็นทางๆ ทะลุผ่านดวงดาวดวงนี้

เทียบกับใยแมงมุม สวี่ชิงเหมือนเม็ดฝุ่น

และบนใยแมงมุมมหึมานั่น สวี่ชิงยังเห็นรังไหมเล็กใหญ่ที่ถูกใยแมงมุมห่อหุ้มเอาไว้มากมาย ในนั้นจะเห็นโครงกระดูกที่ตายไปแล้วไม่รู้กี่ปีแต่ละโครงๆ

ทุกอย่างนี้ทำให้สวี่ชิงเกิดความรู้สึกอันตรายผุดขึ้นไม่หยุดหย่อน

โดยเฉพาะหลังจากที่เขาลองแล้วก็พบว่าใยแมงมุมนั่นเต็มไปด้วยความเหนียวจนน่ากลัว เขาโยนของไปหยั่งเชิง ทันทีที่สัมผัสเข้ากับถนนที่เกิดขึ้นจากใยแมงมุมก็ถูกจับเอาไว้แน่นทันที จากนั้นก็จะมีใยแมงมุมงอกขึ้นมาเอง แล้วห่อมัน

มองภาพนี้ สวี่ชิงรู้ถึงที่มาของกระดูกพวกนั้นแล้ว

“ใยแมงมุมที่นี่จะแตะไม่ได้!”

สวี่ชิงหรี่ตา เหาะอยู่ในแผ่นดินเทวะแปลกประหลาดแห่งนี้อย่างระมัดระวัง รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็เอาขวดที่นายกองอยู่ออกมาจากถุงเก็บของ กำลังจะเปิดออก

แต่ในตอนนี้เองสีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป ร่างพลันถอยไปข้างหลัง 10 จั้ง ไหมวิญญาณแผ่ออกไปข้างนอก หลายล้านเส้นพันล้อมรอบกาย เพียงพริบตาก็เกิดเป็นสภาวะเทพขั้นที่ 4 ทันที

กลิ่นอายแผ่ออก พัดหอบลมพายุ

และทันทีที่เขาถอยไปข้างหลัง เงาดำกลุ่มหนึ่งก็พุ่งชนไปยังบริเวณที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ความแรงของกำลังทำให้มิติระเบิด สุดท้ายหลังจากที่พลาด เงาดำนี้ก็เกาะไปบนใยแมงมุมมหึมาที่ห่างไปไม่ไกล

เผยให้เห็นหน้าตาออกมา

นั่นเป็นแมงมุมตัวหนึ่ง

ตัวขนาดร้อยจั้ง ทั่วทั้งร่างมีลายสีทองหม่น มีหัวเป็นชายชราคนหนึ่ง

ตอนนี้ดวงตาทั้ง 2 บนกะโหลกลืมขึ้น ม่านตาสีแดง จ้องมองสวี่ชิงอย่างเย็นชา

ในปากของมันจะเห็นฟันคมทรงสามเหลี่ยม

ทันทีที่เห็นอสูรตัวนี้ สวี่ชิงนึกถึงเทพแมงมุมในเขตนพกาฬทันที

พวกมัน…ในด้านรูปร่างแล้ว นอกจากหัวที่ต่างกัน นอกนั้นแล้วแทบจะเหมือนกันทุกประการ

เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีพลังอำนาจกดดันอย่างเทพแมงมุมตนนั้น

สวี่ชิงในยามที่สังเกตแมงมุมตัวนี้ มันก็สังเกตสวี่ชิงเช่นกัน ประกายแสงสีแดงในดวงตาค่อยๆ เข้มข้นขึ้น ปากส่งเสียงคำราม เพียงไหววูบก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version