Skip to content

Outside Of Time 978



HH

บทที่ 978 ดุจเทพเจ้าจุติ

ชั่วชีวิตนี้ของสวี่ชิง มิรู้สึกแปลกแยกต่อการเข่นฆ่าอีกแล้ว

นับแต่เยาว์วัย สิ่งนี้กลายเป็นสัญชาตญาณของเขา ในโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ต้องเผชิญกับความชั่วร้าย ความโหดเหี้ยมนานัปการ หากต้องการอยู่รอด…

ก็ต้องเข่นฆ่า

กำจัดเหล่าศัตรูผู้มุ่งร้าย สันติสุขจึงบังเกิดแก่ตน

จากถ้ำยาจก สู่ฐานที่มั่นคนเก็บกวาด สำนัก 7 เนตรโลหิต มณฑลรับเสด็จราชัน เขตปกครองผนึกสมุทร แดนใหญ่เซ่นจันทรา เมืองหลวงจักรพรรดิเผ่ามนุษย์ แดนใหญ่นภาคิมหันต์…

หนทางชีวิตของเขาเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด

สวี่ชิงจำมิได้ว่าสังหารผู้คนไปมากน้อยเพียงใด ตำราไม้ไผ่มิพอจดจารเสียนานแล้ว

บางที คงมีเพียงพายุเหมันต์แห่งยมทูตที่ติดตามการเข่นฆ่าของเขาเท่านั้น ที่ล่วงรู้จำนวนที่แท้จริง

เพราะมันพัดผ่านทุกดินแดนที่สวี่ชิงเหยียบย่าง

จวบจนบัดนี้ พายุเหมันต์แปรเปลี่ยนเป็นกระแสทมิฬ แผ่ขยายไปทั่วห้วงสมุทร

ไร้เสียงร่ำไห้ ทว่าจิตสังหารที่แฝงเร้น กลับกึกก้องกว่าเสียงใด

เฉกเช่นดวงจันทร์สีม่วงทอแสงอยู่เบื้องบน แสงจันทร์สีม่วงดุจคมกระบี่ เมื่อท่านได้ยล มันจะทะลวงประสาทสัมผัส แทรกซอนสู่จิตใจ ค้นหาจุดเปราะบาง แล้วบดขยี้ให้แหลกลาญ

6 ผู้คุ้มครองที่คุ้มกันบุตรแห่งฝูเสีย ต่างสะท้านสะเทือนในจิตวิญญาณอีกครา

แสงจันทร์ฉานฉายโดยรอบ ฉีกกระชากผืนน้ำ ผ่าแยกความว่างเปล่า ทุกแห่งหนที่แสงจันทร์สาดส่อง ความหนาวเหน็บพลันแผ่ซ่าน

ประหนึ่งหมอกพิษต้องห้ามที่แพร่กระจาย มวลวารีวิปริตปั่นป่วน แปรสภาพเป็นร่างของยมทูต กลืนกินทุกสรรพชีวิต

พิษทิ่มแทงทุกผู้คน คำสาปแช่งมลายสิ้นทุกสิ่ง ดินแดนใต้สมุทรพันลี้ พลันกลายเป็นปรภพ

ดังนั้น…

พิษ โถมเข้าจู่โจม

และเหล่าผู้คุ้มครอง พลันสัมผัสได้ถึงแสงจันทร์ ร่างกายพวกเขาก็กู่ร้องคำราม คมกระบี่แห่งแสงจันทร์ ก่อเกิดเป็นพายุทมิฬแห่งวิญญาณ บุกรุกเข้าไปในความทรงจำ กวาดล้างชีวิตของพวกเขา

ผู้คุ้มครองร่างสูงใหญ่ดั่งภูผาคนหนึ่ง ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ความลับดำมืดที่ซุกซ่อนไว้ในวิญญาณ ถูกแสงจันทร์แผดเผา แปรเปลี่ยนเป็นจุดเปราะบาง แล้วระเบิดออกมา

โลกของเขาพลันกลายเป็นสีม่วง พิษร้ายก็แทรกซึมอย่างแม่นยำในฉับพลันนั้นเอง โดยมีแสงจันทร์เป็นดั่งเชื้อเพลิง ปะทุอยู่ภายในร่างของเขา

ในพริบตาร่างของชายร่างใหญ่ก็ผุพังเน่าเปื่อย แปรสภาพเป็นธารโลหิตท่ามกลางเสียงร่ำไห้โหยหวน

ภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า สร้างความตระหนกตกตะลึงแก่เหล่าผู้บำเพ็ญจากแดนศักดิ์สิทธิ์บ่อเกิดกาลกิณี พวกเขาสัมผัสได้ถึงวิกฤตการณ์ความตายที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดินแดนพันลี้แห่งนี้ซึ่งถูกผนึกอย่างชัดเจน ทำให้การติดต่อสื่อสารภายนอกถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง

การสูญเสียผู้คุ้มครองไปถึง 4 คน ทำให้จิตใจของผู้ที่เหลือมืดมิดด้วยเมฆหมอกแห่งความหวาดหวั่น

เมื่อครู่ที่พวกเขาเพิ่งพบสวี่ชิง พวกเขาคิดว่าสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ ทว่าบัดนี้…ความคิดนั้นได้แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

แต่ถึงกระนั้น ในฐานะอัจฉริยะฟ้าประทาน แม้ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนี้ เจตจำนงของพวกเขาเพียงสั่นคลอนชั่วคราว มิได้หวั่นไหวมากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรแห่งฝูเสีย แม้จะเป็นคนเสเพล ทว่าจิตใจของเขาก็ยังคงคู่ควรกับสถานะของเขา แม้ต้องเผชิญหน้ากับการดับสูญของผู้คุ้มครองถึง 4 คน จิตสังหารในใจของเขากลับยิ่งทวีความรุนแรง มิได้สูญเสียสติไป

“แดนสมุทรนี้เป็นสมรภูมิรบของมัน พวกเรารีบถอยเก่อนเถิด เมื่อออกไปข้างนอกได้แล้ว ค่อยรายงานเรื่องนี้ต่อแดนศักดิ์สิทธิ์”

“ถึงเวลานั้น ต่อให้มันมีฐานะสูงส่งเพียงใด แต่การที่มันลงมือกระทำต่อพวกเราก่อน ก็มิใช่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราจะมิทำตามข้อตกลง”

บุตรแห่งฝูเสียเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า มิได้สื่อเสียง หากแต่เปล่งวาจาออกมาโดยตรง

เขารู้ว่าสวี่ชิงได้ยิน และหวังว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

จากนั้น เขาก็ถอยร่นอย่างรวดเร็วพร้อมกับผู้คุ้มครองโดยรอบ

ขณะที่พยายามหลบหนีออกจากอาณาเขตแห่งนี้ เขาก็ยังคงควบคุมเข็มที่ได้มาจากจักรพรรดิ

มิได้ปล่อยให้มันลอยละล่องไปไกลนัก หากแต่ทำการผสานเคราะห์กรรมโดยรอบ ทำลายแสงจันทร์ บั่นทอนพิษต้องห้าม

ทั้งยังคงตรึงเป้าหมายไว้ตลอดเวลา ทันทีที่สวี่ชิงปรากฏตัว เข็มเล่มนี้จะรับรู้ได้ในฉับพลัน

ส่วนผู้คุ้มครองอีก 5 คน ก็ต่างงัดไม้ตายของตนออกมา กระตุ้นเร่งพลังอวัยวะหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ล้ำค่าที่สุดอย่างเต็มกำลัง จิตวิญญาณทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่เข็มเล่มนั้น

เตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมเต็มกำลังทุกเมื่อ

และแล้ว กาลเวลาก็ล่วงเลยไป

1 ก้านธูปผ่านพ้น เมื่อพวกเขาถอยร่นไปได้หลายร้อยลี้ จู่ๆ เข็มเล่มนั้นก็ส่องแสงวาบ เปลี่ยนทิศทางพุ่งตรงไปยังเบื้องขวา ทุกแห่งหนที่เข็มจักรพรรดิพุ่งผ่าน ผืนน้ำทะเลก็พลันปั่นป่วน

“ลงมือ!”

บุตรแห่งฝูเสียคำรามเสียงต่ำ ชี้ปลายนิ้ว ดวงตาที่ 3 กลางหว่างคิ้วเบิกกว้าง ก่อเกิดเป็นลำแสงสีแดงเพลิง พุ่งไปยังทิศทางที่เข็มจักรพรรดิพุ่งไป ทะลวงผืนสมุทรฉับพลัน

ในเวลาเดียวกัน ผู้คุ้มครองทั้ง 5 ที่รายล้อมอยู่ก็ตั้งสมาธิจดจ่อและพร้อมใจกันลงมือโดยมิมีลังเล

เมื่อมองออกไป พลังปราณจากร่างผู้คุ้มครองทั้ง 5 ทะยานขึ้น ก่อเกิดเป็นพายุวินาศสันตะโร ภายในพายุนั้น ร่างหนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นจิ้งจกยักษ์ ร่างหนึ่งมือขวาขยายใหญ่โตเผยรูปกายของเขาเอง

ยังมีอีกร่างหนึ่งที่พิสดารยิ่งกว่า เขากลายร่างเป็นหอกเลือดเนื้อพุ่งทะยานออกไป

แต่ละร่างแตกต่างกัน ทว่าพลังสังหารกลับน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

เมื่อพลังทั้งหมดถาโถมลงไปในฉับพลัน ผืนน้ำทะเลบริเวณนั้นก็ระเบิดออก เกิดเป็นสุญญากาศในชั่วขณะ

คลื่นความผันผวนที่ปะทุขึ้นยังสร้างแรงกระทบที่รุนแรงพอกัน

แต่เมื่อพลังวิเศษกวาดล้างไปทั่วบริเวณ ก็มิได้ปรากฏสิ่งใดให้เห็น ส่วนเข็มจักรพรรดิก็หวนกลับมาในยามนี้

ที่ปลายเข็ม ปรากฏหยาดโลหิตหยดหนึ่ง

เมื่อจ้องมองโลหิตหยดนั้น ดวงตาของบุตรแห่งฝูเสียก็ฉายแววประหลาดใจ หลังสัมผัสรับรู้ก็แน่ใจว่ามิมีภัยอันตราย จึงโยนให้ผู้คุ้มครองที่อยู่ข้างกาย

“ใช้โลหิตนี้สาปแช่ง!”

คนผู้นั้นมิได้รีรอ เมื่อรับโลหิตหยดนั้นมาแล้ว ก็รีบยกมือขึ้นประสานปางมือ โลกหลายใบในร่างพลันปรากฏขึ้น สรรพชีวิตในโลกล้วนสัมผัสได้ถึงเจตจำนงแห่งเจ้าโลก

ทั้งหมดต่างคุกเข่าลงในโลก ส่งกระแสจิตของตนออกมา ก่อเกิดเป็นคำสาปแช่ง!

“ข้าขอสาปแช่งกายเจ้า ให้ชีพดับสิ้น!”

“ข้าขอสาปแช่งวิญญาณเจ้า ให้หลอมละลาย!”

“ข้าขอสาปแช่งกำเนิดเจ้า ให้มลายสิ้นทั้งรูปนาม!”

เมื่อเสียงนับร้อยนับพันก้องกังวาน หยาดโลหิตหยดนั้นพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในพริบตาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬ ประหนึ่งถูกสาปแช่ง กระทั่งเชื่อมโยงไปยังต้นกำเนิดแห่งเลือดเนื้อนั้น

ทว่าในขณะนั้นเอง ผู้คุ้มครองที่ร่ายคำสาปแช่ง สีหน้าพลันบิดเบี้ยว แปรเปลี่ยนไปในฉับพลัน ดวงตาเบิกกว้าง ในขณะที่ดวงตาเบิกโพลง เขาก็เผยความตระหนกตกใจสุดขีดและหวาดผวาอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน 2 ดวงตาพลันระเบิดออกพร้อมเสียงกึกก้อง

เขากรีดร้องโหยหวนสุดเสียง เสียงสั่นเครืออย่างมิอาจเทียบเคียง ราวกับได้รับความหวาดกลัวที่มิอาจบรรยายได้

“ต้นกำเนิดของโลหิตนี้คือ…”

มิทันกล่าวจบ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ร่างทั้งร่างพลันกลายเป็นสีดำสนิท ประหนึ่งถูกไอพลังประหลาดกลืนกิน ประหนึ่งได้เห็นสิ่งที่มิควรเห็น ประหนึ่งได้สาปแช่งต้นกำเนิดที่มิควรสาปแช่ง

ร่างทั้งร่างอ่อนยวบยาบ แล้วระเบิดออกในฉับพลัน

ชีพดับสิ้น

วิญญาณหลอมละลาย

เขา มลายสิ้นทั้งรูปนาม!

ภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า เป็นคำสาปแช่งย้อนกลับทำให้ทุกคนต่างประหวั่นพรั่นพรึง

เจตจำนงอันแน่วแน่ที่มิเคยสั่นคลอน กลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในยามนี้ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ผู้ที่ยังมีชีวิตรอดเพียงมิกี่คน รู้สึกถึงความพิสดารราวกับเผชิญหน้ากับเทพเจ้า

ความรู้สึกนี้ ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมิอาจระงับได้ เมื่อผู้บำเพ็ญที่สาปแช่งสวี่ชิงถูกสาปแช่งย้อนกลับจนถึงแก่ความตาย

ขณะเดียวกัน ห้วงทะเลทมิฬยามนี้ ปรากฏแสงเรืองรอง 7 ดวง

นั่นคือ 7 ตะเกียงปีศาจ!

การปรากฏกายของพวกมัน เปรียบดั่งดวงเนตรแห่งนิรยบาล มองตรงมายังพวกเขา

ในฉับพลัน ตะเกียงทั้ง 7 ก็เริ่มสั่นไหว จากนั้น…ก็ดับมืดพร้อมกัน

ผู้คุ้มครองทั้ง 4 คนยังคงพอทนไหว เพียงแต่จิตวิญญาณร้องคำราม ทว่าบุตรแห่งฝูเสีย สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปโดนสิ้นเชิง สัมผัสแห่งความตายเฉียดใกล้ถาโถมดั่งคลื่นยักษ์ ในยามวิกฤติ เขามิรีรอที่จะพ่นโลหิตออกมา ควบคุมเข็มเล่มนั้น

เชื่อมโยงเคราะห์กรรมและโชคชะตาของตน เข้ากับผู้คุ้มครองที่อยู่ข้างกาย

ในชั่วพริบตา สัมผัสแห่งความตายที่เฉียดใกล้ก็พลันสลายไปจากร่างของเขา ทว่าผู้คุ้มครองผู้นั้น กลับชะงักฝีเท้า คำสาปแห่งเพลิงทมิฬ 7 ตะเกียงปะทุขึ้น เปิดโลกของเขา แสงจันทร์พลันสาดส่องสู่จิตใจ ค้นหาจุดเปราะบางในวิญญาณ พิษต้องห้ามแผ่ซ่าน

ตายอย่างน่าเวทนา

การตายของเขา ในที่สุดก็สั่นระฆังแห่งความหวาดกลัว ทำให้บุตรแห่งฝูเสียและผู้คุ้มครองที่เหลืออีก 3 คน มิคิดที่จะต่อสู้อีกต่อไป

พวกเขาหวาดกลัว

ชั่วชีวิตของพวกเขา เผชิญหน้ากับศัตรูร้ายกาจมามากมาย มิว่าจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น หรือชนเผ่าจากห้วงดารา

ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับการเข่นฆ่าเป็นอย่างดี

ทว่าการเข่นฆ่าอันพิสดารเช่นวันนี้ กลับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอ

สังหารด้วยเสียงก็ชวนตะลึงพรึงเพริดมากพอแล้ว การสังหารด้วยแสงจันทร์ พิษต้องห้าม และคำสาปแช่งย้อนกลับรวมถึงเพลิงทมิฬสังหารในยามนี้ ยิ่งพิสดารกว่าเดิม

ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาเห็นสวี่ชิงในตอนแรกเริ่มเท่านั้น หลังจากนั้นก็มิเห็นตัวเขาอีกเลย…

กลับต้องสังเวยชีวิตไปถึง 6 คนแล้ว

ในพริบตา พวกเขาก็เร่งความเร็วสูงสุด หลบหนีไปยังทิศทางอันไกลโพ้น

ทว่าในห้วงน้ำทะเลที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา เพลิงทมิฬ 7 ตะเกียง กลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง เริ่มสั่นไหว กำลังจะดับมอด

เมื่อเห็นดังนั้น บุตรแห่งฝูเสียก็กัดฟันกรอด ยกมือขวาวาดตราประทับ

ตราประทับนี้มิได้มีอานุภาพ หากแต่เป็นบัญชาแห่งคำสัตย์

ทันทีที่กลายเป็นผู้คุ้มครอง จะต้องกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อเจตจำนงแห่งชนเผ่า ว่าจะปกป้องพวกเขาไปชั่วชีวิต มิเสียดายชีวิต จนกว่าชีพจะวางวาย

บัดนี้ บัญชาแห่งคำสัตย์นี้ ถึงคราวสำแดงฤทธานุภาพ

ผู้คุ้มครองทั้ง 3 เงียบงัน ร่างกายพลันหยุดชะงัก ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ มิได้หลบหนีอีกต่อไป หากแต่พุ่งตรงไปยังทิศทางที่เพลิงทมิฬ 7 ตะเกียงสถิตอยู่

ส่วนบุตรแห่งฝูเสีย จิตใจก็เจ็บปวดแสนสาหัส ผู้คุ้มครองทั้ง 9 คน คือคนสนิทของเขา เคียงบ่าเคียงไหล่มานานหลายปี ทว่าบัดนี้…กลับถูกสวี่ชิงสังหารไปถึง 6 คน

ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ผลลัพธ์เป็นที่แน่ชัดแล้ว

“สวี่ชิง ข้าจะเอาคืนเเจ้าเป็นร้อยเท่าพันทวี!”

บุตรแห่งฝูเสีย ทั้งเสียใจ ทั้งเคียดแค้น ท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงคำรามในใจ

ที่เบื้องหลังของเขา ตะเกียงทั้ง 7 ดับมอด ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งสิ้นชีพ

จากนั้น เสียงกึกก้องดั่งมังกรคำราม นพกาฬสำแดงกาย กายบรรพจารย์ผู้ใช้เวท ผสานรวมกับพิษต้องห้ามและแสงจันทร์ ในยามที่ร่างของสวี่ชิงวูบผ่านไป ผู้บำเพ็ญอีก 1 คนก็พลันสิ้นชีพ

จวบจนกระทั่งครึ่งก้านธูปผ่านพ้น

เมื่อใกล้ถึงชายขอบอเวจีพันลี้แห่งนี้ บุตรแห่งฝูเสียดวงตาแดงก่ำ สภาพยับเยินถึงขีดสุด เขาควบคุมเข็มเล่มนั้นทำลายแสงจันทร์และพิษต้องห้าม ในขณะที่เร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่ง

เข้าใกล้เขตแดนเข้าไปทุกที

ความหวังในใจของเขา ก็ยิ่งทวีมากขึ้น

เขามั่นใจว่า เมื่อถึงเขตแดน ด้วยเข็มเล่มนี้ของตน จะสามารถทำลายผนึก แล้วหนีออกไปได้

เมื่อถึงภายนอกแล้ว ก็จะสามารถสื่อเสียงไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ เขามั่นใจว่ามิว่าจะเป็นบิดาหรือบรรพจารย์ของตน ก็จะมาถึงในเวลาอันรวดเร็ว

ดังนั้นเขาจึงเร่งความเร็วให้มากยิ่งขึ้น

ทว่าในยามที่เขาเหลือระยะห่างจากชายแดนมิถึงพันจั้ง เสียงราบเรียบเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหูของเขา

“ทีนี้ก็เหลือเพียงเจ้าแล้ว”

ร่างเงาสูงโปร่งในอาภรณ์ยาวสีม่วง ผมดำขลับปลิวไสว ใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพเซียน ทว่าแฝงแววเย็นชา ถือศีรษะมนุษย์ก้าวเดินเข้ามาในสายตาของบุตรแห่งฝูเสียทีละก้าว พร้อมกับเสียงนั้น

กระแสน้ำโหมกระหน่ำ ประหนึ่งส่งต่อพลังแห่งความตาย

ทำให้ผู้ที่เดินเข้ามา ดูราวเทพเจ้าแห่งความตาย

พุ่งตรงเข้าทำลายจิตใจของบุตรแห่งฝูเสีย สั่นสะเทือนโลกของเขา

ยืนตระหง่าน ขวางกั้นระหว่างเขาและชายแดน

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version