1180. ความพิเศษ
ท้องฟ้าดาราปกคลุมอยู่ในสายหมอก ลำแสงหกสายเหาะเหินผ่านท้องฟ้า ปรมาจารย์คังจงซื่อคล้ายจะคุ้นเคยกับเส้นทางนี้ เขาไม่ได้นำหินหยกออกมาตรวจสอบเส้นทาง เพียงแค่เหาะเหินไปอย่างรวดเร็ว!
ด้วยระดับบ่มเพาะขั้นทลายสวรรค์ ยามที่เหาะด้วยความเร็วขีดสุดจึงเหมือนประกายสายฟ้า ทุกคนด้านหลังเขาจึงใช้ระดับบ่มเพาะเต็มที่เหาะเหินให้เร็ว
หวังหลินตกอยู่ด้านหลัง อีกทั้งระดับบ่มเพาะจริงๆของเขาไม่ใช่ขั้นทลายสวรรค์ จึงนำยันต์เซียนออกมาแปะไว้บนร่างกาย ปรากฏสายลมกรรโชกชึ้นรอบตัวและพุ่งออกไป
ทั้งหมดเหาะด้วยความเร็วสูงสุด สองสามวันสายหมอกก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น พวกเขาเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของเขตระดับห้า มองเห็นแต่เงาแผ่นดินป่าอันเลือนลาง
“ถึงแล้ว” ปรมาจารย์คังจงซื่อพุ่งออกไปใกล้แผ่นดินป่า แผ่นดินป่าแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่นักแต่มีอสูรดุร้ายจำนวนมาก เพียงแค่ยืนอยู่ด้านบนก็ได้ยินเสียงพวกมันคำรามอย่างต่อเนื่องแล้ว
“มีไม่กี่คนที่รู้จักแผ่นดินป่าแห่งนี้ แม้แต่คนที่รู้จักก็คงไม่รู้ว่ามีความลับที่ข้าซ่อนไว้ที่นี่” ปรมาจารย์คังจงซื่อยิ้มออกมาพลางมองแผ่นดินป่าด้วยสายตาหวนรำลึก
“สหายเซียนผาง ข้าสงสัยว่าท่านสามารถค้นหาเซียนบนแผ่นดินป่านี้ได้หรือไม่ และ…ฆ่าทั้งหมดซะ!” ปรมาจารย์คังจงซื่อมองชายชราที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล
เซียนผางพยักหน้าและหายตัวไป ส่งสัมผัสวิญญาณแพร่กระจายออกไปในแผ่นดินป่าและค้นหาต่อไป เขาสังหารทุกคนที่พบ ไม่ว่าจะระดับไหนหรือสำนักอะไร
หวังหลินมองแผ่นดินป่าด้านล่าง เกิดความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร เขานั่งย่อลงและคว้าฝุ่นขึ้นมาตรวจสอบหนึ่งกำมือ
หญิงชราชุดเขียวดวงตาส่องสว่างเช่นกัน นางมองไปรอบๆอย่างเคร่งขรึม
จ้าววิญญาณเมฆามองหวังหลินและเยาะเย้ย ความลับของแผ่นดินป่าแห่งนี้ไม่สามารถมองทะลุออกมาได้เว้นแต่จะอาศัยอยู่ที่นี่มานานพอดู
ชายหนุ่มร่างเล็กขมวดคิ้วพลางมองไปรอบๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ มีเพียงเฉินเทียนจุนเท่านั้นที่ไม่ขยับไปไหน เขานั่งบ่มเพาะหลับตาอยู่ที่เดิม
ใช้เวลาไม่นานเซียนเผิงก็กลับมา เขาพยักหน้าให้ปรมาจารย์คังจงซื่อ
ปรมาจารย์คังจงซื่อตื่นเต้นเล็กน้อยและสูดหายใจลึก ฝ่ามือสร้างผนึกและสะบัดแขน พลังดั้งเดิมจำนวนมากรวมกันรอบตัว ปั่นสายหมอกและเปลี่ยนกลายเป็นวังวนยักษ์เบื้องหน้า
เส้นผมของปรมาจารย์คังจงซื่อพลิ้วไหวโดยไร้แรงลม ร่ำร้องออกมา สองแขนกดลงบนพื้นดินอย่างรุนแรง!
พื้นดินสั่นเทาเสียงดังปัง กึกก้องอย่างยาวนานทั้งยังมีเสียงแตกร้าวดุจมังกรกำลังขยายออกไปไกล
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้น ภูเขาตระหง่านทางทิศตะวันออกพลันเรืองแสงรุนแรง จากนั้นก็ภูเขาทางทิศเหนือ ใต้และตะวันตกที่ปลดปล่อยแสงคล้ายๆกัน
แสงจากภูขาสี่มุมกล้าแข็งมากขึ้นและแพร่กระจายออกไปทันที หากมองจากเบื้องบนจะเห็นได้ว่าแสงทั้งสี่ภูเขาเชื่อมต่อกันเป็นค่ายกลภูเขาสี่ลูก!
พื้นดินภายในค่ายกลสั่นเทาและแตกกระจาย ก้อนดินก้อนกรวดลอยขึ้นในอากาศ พริบตาเดียวราวกับชั้นหินถูกลอกออกมาพร้อมกับมีก้อนกรวดลอยไปมากขึ้น
หวังหลินหรี่สายตามองก้อนกรวดที่กำลังลอยในอากาศ พื้นดินเรียบเนียนราวกับแผ่นกระจก ไม่มีส่วนเว้าแหว่งเลยแม้แต่น้อย
มีอักขระเวทย์ขนาดยักษ์ซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน!
อักขระเวทย์ถูกประทับบนพื้นดินด้วยวิชาหนึ่งและครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่แห่งนี้ ก้อนหินก้อนกรวดถูกเพิ่มเติมมาทีหลัง
พอเห็นมันลอยขึ้นไปในอากาศและหายไป หวังหลินรู้สึกเหมือนประกายสายฟ้าตีเข้าใส่ใบหน้า เขามองตำแหน่งที่ก้อนกรวดพวกนั้นลอยออกไปและพลันตกตะลึง! คิดถึงเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้แปลกประหลาด!
แผ่นดินป่าแห่งนี้ไร้การเคลื่อนไหว! แผ่นดินในทะเลเมฆานั้นไม่ได้ลงหลักปักฐานแต่เคลื่อนไปในอวกาศอย่างช้าๆ การเคลื่อนไหวนี้ช้ามาก ตรวจพบได้ยากแต่ยังมีอยู่ เหล่าคนธรรมดาไม่มีวันรู้สึกได้แต่หลังจากบรรลุระดับบ่มเพาะประมาณนึงก็จะพอรู้สึกได้เลือนลางหากสงบนิ่งพอ
หวังหลินไม่ได้เป็นเซียนของทะเลเมฆา ดาราจักรดวงดาวที่เขาจากมามีแต่ดาวเคราะห์และไม่มีแผ่นดินลอยฟ้าพวกนี้ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกชัดเจนกับเขา หากเป็นเซียนที่นี่คงพลาดเรื่องนี้ได้ง่ายๆ
‘แผ่นดินป่าไร้การเคลื่อนไหว…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง
บนพื้นดินไม่เหลือแม้แต่เศษก้อนกรวด ปรมาจารย์คังจงซื่อนั่งลงยื่นแขนขวาออกไปเปิดมิติเก็บของ หยกสวรรค์พลันลอยออกมา เมื่อหยกสวรรค์ร่อนลงพื้น พลังปราณสวรรค์ทั้งหมดข้างในจึงถูกดูดซึมและเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผง
ขณะที่หินหยกสวรรค์แตกสลายต่อไป พื้นดินจึงดูดซับพลังปราณหนาแน่นและมีอักขระเวทย์ชัดเจนขึ้น เรืองแสงอ่อนๆ
ผ่านไปสิบห้านาที หินหยกสวรรค์แสนก้อนถูกใช้ไปหมด อักขระเวทย์ส่องสว่างขึ้นจนกระทั่งทั่วทั้งแผ่นดินป่าส่องสว่าง!
“ค่ายกลเทพ เปิดใช้งาน!” ปรมาจารย์คังจงซื่อร้องคำรามน้ำเสียงดุจสายฟ้าดังกังวาล ตอนนี้อักขระเวทย์บนพื้นส่องสว่างรุนแรงและเกิดการสั่นเทาแตกกระจาย
หวังหลินสัมผัสถึงอักขระเวทย์ที่ดูดซับพลังปราณสวรรค์ได้อย่างชัดเจน มันแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินจนแผ่นดินป่าแห่งนี้เริ่มเคลื่อนไหว
มันไม่ได้สั่นเทาแต่กำลังเคลื่อนไหว!
แผ่นดินแห่งนี้กำลังเคลื่อนไหวไปทางเหนือ! การเคลื่อนไหวของมันเป็นที่สังเกตได้ ลองจินตนาการว่ามันกำลังเคลื่อนที่ไปได้เร็วขนาดไหน! ไม่เพียงแต่หวังหลินเท่านั้นแต่เด็กหนุ่ม เฉินเทียนจุนและหญิงชราชุดเขียวต่างก็ตกตะลึง แต่ละคนแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณและสังเกตอย่างละเอียด
ขณะที่อักขระเวทย์ส่องแสง แผ่นดินก็เคลื่อนที่เร็วขึ้น เคลื่อนออกห่างจากที่อยู่เดิมอย่างสมบูรณ์
ตำแหน่งใจกลางแผ่นดินป่าพลันปรากฏรอยแยกเจ็ดสี! รอยแยกนี้ไม่ได้ใหญ่นัก ขนาดกว้างเพียงห้าฟุตเท่านั้น แสงเจ็ดสีช่างโดดเด่นในอวกาศเป็นอย่างยิ่ง!
“นี่มัน!” เด็กหนุ่มตัวเตี้ยอ้าปากค้างจ้องมองรอยแยกเจ็ดสีและตื่นเต้น รูปร่างเขาบิดเบี้ยวอยู่แล้ว ตอนนี้พอมาตื่นเต้นก็ยิ่งน่ากวาดกลัวยิ่งกว่า
“การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อะไรกัน!” เฉินเทียนจุนจากสำนักอสูรรบมองดูปรมาจารย์คังจงซื่อก่อนจะหันสายตากลับไปบนรอยแยกเจ็ดสี
“แผ่นดินป่าเดิมทีไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าบังเอิญผ่านมาตอนที่รอยแยกเปิดไว้อยู่แล้ว หลังจากนั้นข้าก็ทำการซ่อนมัน เคลื่อนย้ายแผ่นดินมาไว้ที่นี่เพื่อปกปิดคนภายนอกไม่ให้พบ!” ปรมาจารย์คังจงซื่อพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
หญิงชราชุดเขียวมองดูรอยร้าวและเอ่ยขึ้น “รอยแยกเจ็ดสีนี้นำทางไปที่ไหน?”
“เข้าไปแล้วเจ้าก็จะรู้เอง!” ปรมาจารย์คังจงซื่อหัวเราะพลางควบคุมแผ่นดินด้านล่างให้ขยับเร็วขึ้น พริบตาเดียวมันก็ออกไปไกลจากรอยแยก
“รอยแยกนี้ไม่เสถียรและไม่สามารถเข้าไปได้ตรงๆ หากเราสองคนเข้าไปมันจะแตกสลาย แม้จะไม่แตกสลายมันก็จะหดลงทันทีจนกลับมาได้ยากยิ่ง! ดังนั้นเราต้องใช้แผ่นดินป่านี้เป็นเครื่องนำทางและกระแทกมันเข้าไป ด้วยวิธีนั้นรอยแยกจะไม่แตกสลายและเนื่องด้วยผนึกบนแผ่นดินนี้ ผลกระทบก็จะอ่อนแอลงเมื่อเรากลับมา”
ขณะที่ปรมาจารย์คังจงซื่ออธิบาย รอยแยกเจ็ดสีค่อยๆหายวับเข้าไปไกล แผ่นดินใต้ฝ่าเท้าพวกเขาเคลื่อนที่เร็วขึ้นแต่ทันใดนั้นมันก็หยุดลง
ปรมาจารย์คังจงซื่อสร้างผนึกชี้ไปที่แผ่นดิน มันเริ่มเร็วขึ้นมากกว่าก่อนพลางกระแทกเข้าใส่รอยแยกเจ็ดสี!
มันเคลื่อนที่เร็วขึ้น พริบตาเดียวมันก็พุ่งถึงขีดจำกัด ความเร็วของมันทำให้แผ่นดินสั่นไหวรุนแรง ก้อนหินจำนวนมากหลุดลอยออกไปขอบๆ
หากมองจากเบื้องบนจะเห็นได้ชัดเจนว่าความเร็วของแผ่นดินแห่งนี้ไม่ได้ช้าไปกว่าเซียนขั้นทลายสวรรค์เลย ตามจริงมันเร็วกว่าด้วยซ้ำ!
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วหมู่ดาว ผู้คนบนแผ่นดินเริ่มเคร่งเครียดขณะที่จ้องมองรอยแยกเจ็ดสีที่กำลังปิดลง ทั้งหมดต่างก็ระมัดระวัง!
แม้จะฟังดูเชื่องช้าแต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา แผ่นดินกระแทกเข้าใส่รอยแยกเจ็ดสีเข้าทันที! ตอนนี้แสงเจ็ดสีทวีความรุนแรงมากขึ้นและดูเหมือนจะส่องสว่างไปทั่วบริเวณ!
พอการกระแทกดำเนินต่อไป รอยแยกจึงฉีกขาดออกมาด้วยกำลังและขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น
“ไป!” ปรมาจารย์คังจงซื่อพุ่งเข้าหารอยแยกพร้อมกับร้องตะโกน ทุกคนใช้ความเร็วเต็มที่เข้าไปในรอยแยกเช่นกัน
ณ ตอนนี้เหลือคนด้านนอกอยู่สองคนคือจ้าววิญญาณเมฆาและหวังหลิน จ้าววิญญาณเมฆามองหวังหลินอย่างเย็นชา ส่วนหวังหลินพ่นลมหายใจอยู่ในใจ ศีรษะมุ่งหน้าเข้าหารอยแยก อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะเข้าไปพลันเกิดแสงเย็นเยียบกะพริบในตาหวังหลินและเขาหันกลับมาทันที!
จ้าววิญญาณเมฆาหรี่สายตา วินาทีที่หวังหลินหันกลับมา แขนขวายื่นใส่อากาศและปรากฏกระบี่เหล็กขึ้นในมือ!
กระบี่เต็มไปด้วยสนิมแต่มันเป็นกระบี่ที่แฝงกลิ่นอายสั่นสะเทือนสรวงสวรรค์!