1191. ชะตาสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หญิงชราชุดเขียวไม่ได้อธิบายแต่ก้าวเท้าและพ่นลมหายใจ ฝ่ามือสร้างผนึกและสูดลมหายใจเข้าสร้างเป็นแรงดึงดูดที่รุนแรง ปรมาจารย์คังจงซื่ออยู่ภายในระยะแรงดึงดูดและรู้สึกเหมือนพลังชีวิตกำลังถูกดูดออกไป
แต่สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นปกติทันที เขาเยาะเย้ยและกำขวดหยกในมือแน่น มันไม่สามารถเก็บไว้ในมิติเก็บของได้
เขาไม่เสียเวลากับหญิงชราอีกและใช้ระดับบ่มเพาะของตนเองหนีออกไปจากที่นี่ แม้เขาจะตกตะลึงกับวิชาบรรพชนหยินหยางของนางแต่เขาก็มั่นใจว่าจะออกไปได้
ขณะนั้นแขนซ้ายยื่นออกไปปรากฏแสงสีทองเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่เหินนับหมื่นเล่ม เพียงแค่ชี้นิ้วเขาก็ส่งพวกมันเข้าหาหญิงชราชุดเขียวได้แล้ว
ขณะเดียวกันปรมาจารย์คังจงซื่อตีเข้าหน้าผากด้วยมือซ้าย ลำแสงสีแดงสายหนึ่งโผล่ออกมา แสงสีแดงเหมือนวิญญาณแรกกำเนิดแต่หากมองใกล้ๆมันไม่ใช่แน่นอน!
มันเป็นคนร่างเล็กส่งเสียงแหลมพร้อมกับห่อหุ้มแสงสีแดงเอาไว้และพุ่งตรงใส่หญิงชรา!
เมื่อนางเห็นคนตัวเล็กผู้นี้ สีหน้าท่าทางพลันเปลี่ยนไป นางสะบัดแขนขวาปรากฏถ้วยทองแดงโบราณขึ้นมาและโยนเข้าหาทันที
เมื่อถ้วยทองแดงปรากฏมันเริ่มหมุนและลอยเข้าหาคนร่างเล็ก ดวงตาอีกฝ่ายปลดปล่อยแสงโลหิตพร่ามัว เสียงกรีดร้องสลายได้กระทั่งเหล็ก
ถ้วยทองแดงแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ขณะเดียวกันกระบี่ทองนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าหานางพร้อมกับคนร่างเล็กด้วย
เวลาเป็นสิ่งล้ำค่าและปรมาจารย์คังจงซื่อไม่มีเวลาพอจะต่อกรกับนาง รอบตัวปรากฏระลอกคลื่นและกำลังจะจากไป
ทว่าขณะที่ก้าวเข้าไปในระลอกคลื่นได้เพียงครึ่งก้าว แขนแห้งเหี่ยวโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าและยื่นเข้าหาแขนขวาของเขา!
‘ไม่คาดคิดว่าจะเป็นบรรพชนขั้นที่สี่!’ คังจงซื่อหรี่ตาแคบลงแต่ก็คิดสายเกินไปแล้ว แขนซ้ายยื่นเข้าหาแขนแห้งเหี่ยว เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง คังจงซื่อร้องครวญคราง ใบหน้าซีดเผือดทันที
‘ขั้นทลายสวรรค์ระดับกลางสูงสุด!’
แขนซ้ายของคังจงซื่อรู้สึกด้านชาและเป็นสีดำสนิท หยดสีเหลืองหลั่งออกมาจากท่อนแขนทันที เขาได้รับพิษ! ซึ่งคังจงซื่อยืมพลังนี้ก้าวเข้าไปในระลอกคลื่น
แม้แต่หญิงชราก็ก้าวออกมาจากระลอกคลื่นด้วย นางดูเหมือนพึ่งก้าวออกมาจากโลงศพ สวมเสื้อสีเขียวเช่นกันแต่ศีรษะโล้นทำให้ดูน่าหวาดกลัวมาก!
ดวงตาเปล่งแสงชั่วร้าย โลหิตไหลออกมาจากมุมปาก โบกแขนขวาทำลายฝนกระบี่ทองทั้งหมดและคว้าร่างเล็กคนนั้นไว้ หลังจากผนึกไปนางก็ไล่ตามคังจงซื่อผ่านระลอกคลื่น
คังจงซื่อหน้าซีด ไม่คิดว่านางจะซ่อนระดับบ่มเพาะได้สมบูรณ์แบบเช่นนี้และสามารถลอบโจมตีเขาได้โดยไม่ให้รู้ตัว วิชาของนางแฝงพิษประหลาดซึ่งพยายามโคจรไปทั่วร่างเขา แต่เขาก็ฝืนระงับเอาไว้
‘ตราบใดที่ข้าสามารถออกไปจากรอยแยกนี้ได้ ข้าจะมีเวลาไม่จำกัด ด้วยสมบัติวิเศษของข้านับไม่ถ้วน นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ข้าแน่!’
พอปรมาจารย์คังจงซื่อก้าวออกมาจากระลอกคลื่น เขาต้องการจะจากไปแต่นางก็ไล่ตามมาทันได้ทันที ทั้งสองโจมตีกันอย่างต่อเนื่องส่งเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์ดังกึกก้องไปทั่วภูเขา
พวกเขาเข้าไปใกล้รอยแยกในเขตอาคมม่านทมิฬมากขึ้น ขณะนั้นรอยแยกกว้างเพียงแค่ยี่สิบฟุตเท่านั้นและกำลังฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ปรมาจารย์คังจงซื่อดวงตาส่องสว่างและเอ่ยบทร่ายประหลาด
แสงเจ็ดสีในท้องฟ้ากะพริบรุนแรงและตกลงมาจากท้องฟ้า ลำแสงเจ็ดสายเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่เจ็ดเล่มพุ่งเข้าหาหญิงชราชุดเขียว
นางใช้ฝ่ามือสร้างผนึกปรากฏโล่แสงขึ้นเบื้องหน้า กลิ่นอายเก่าแก่โบราณโผล่ออกมาและแฝงพลังมารอยู่ข้างใน!
แสงเจ็ดสีปะทะเข้ากับโล่ในทันทีและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง นางกระอักโลหิตแต่สีหน้าท่าทางดุร้ายยิ่งขึ้น แขนขวาตีเข้าหน้าผากตัวเองทำให้ร่างกายสั่นเทา วิญญาณดั้งเดิมลอยออกมา
เมื่อวิญญาณดั้งเดิมลอยออกมา สตรีชราชุดเขียวและหญิงวัยกลางคนซึ่งพึ่งจะก้าวออกมาจากระลอกคลื่นก็ตีเข้าหน้าผากตนเอง วิญญาณแต่ละคนลอยออกมาผสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
สามดวงวิญญาณผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์ในพริบตาและกลายเป็นลำแสงแทงเข้าหาปรมาจารย์คังจงซื่อ!
คังจงซื่อมีท่าทางโหดเหี้ยม กัดฟันแน่นพลางขยับขวดไปที่แขนซ้ายและสะบัดแขนขวา ปรากฏลูกปัดเม็ดหนึ่งขึ้นในมือ
คังจงซื่อโยนลูกปัดออกไปหาวิญญาณดั้งเดิมของนางโดยไม่ลังเล
“อัญเชิญ ผู้ฝืนลิขิต!” คังจงซื่อร้องคำราม ลูกปัดเรืองแสงชั่วร้ายและทำให้แสงเจ็ดสีที่พุ่งเข้ามาได้ถูกลูกปัดดูดซับ
หลังจากนั้นไม่นานลูกปัดก็แตกสลาย ประกายสายฟ้าเจ็ดสีพุ่งเข้าหาวิญญาณของนางแทน
ขณะเดียวกัน วิญญาณของนางส่งเสียงกรีดร้อง เขตอาคมสามแบบลอยออกมา โลกพลันเปลี่ยนสีสัน กระทั่งเขตอาคมม่านทมิฬยังสั่นเทา
สามเขตอาคมนี้คือเขตอาคมที่ทรงพลังยิ่งในหมู่เขตอาคมแห่งชีวิตและความตาย
“ชีวิต ชีวา ความตาย!” สามเขตอาคมผสานกันกลายเป็นพลังทำลายล้างที่ทำลายได้แม้กระทั่งสวรรค์ มันปะทะเข้ากับแสงเจ็ดสีในทันที
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
ภูเขาสั่นสะเทือน พื้นที่จำนวนมากเริ่มแตกสลาย สายหมอกถูกผลักกลับไป ร่างทั้งหมดลอยหยุดชะงักในอากาศ ผู้รู้แจ้งทั้งหมดลอยเข้าหาต้นตอของการสั่นสะเทือน
ภายใต้ผลกระทบอันรุนแรงนี้ วิญญาณดั้งเดิมแบ่งออกเป็นสาม ทั้งหมดโปร่งใสและรีบกลับเข้าร่างตนเองอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์คังจงซื่อไม่คาดว่าเขตอาคมของนางจะทรงพลังเพียงนี้ ร่างกายเขาถูกผลักกลับไปด้วยพลังรุนแรงและกระอักโลหิตออกมา
แขนซ้ายเขาได้รับผลกระทบจากพิษรุนแรงไปแล้ว เลือดเนื้อเปลี่ยนกลายเป็นหยดสีเหลือง กระทั่งกระดูกยังเริ่มละลาย ภายใต้พลังนี้แขนซ้ายจึงฉีกขาดและหายไป
ขวดหยกลอยออกไปเข้าหารอยแยกที่ตอนนี้กว้างเพียงแค่สิบฟุต
ปรมาจารย์คังจงซื่อดวงตาแดงฉานพลางพุ่งตามหลังขวดหยกไป ส่วนหญิงชราดวงตาส่องสว่างและพุ่งเข้าหารอยแยกไปติดๆ
เสี้ยววินาทีนั้นร่างสีขาวหนึ่งพุ่งออกมาเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุดของเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับกลาง มันเคลื่อนผ่านหญิงชราชุดเขียวและปรมาจารย์คังจงซื่อไป คว้าขวดหยกและพุ่งออกไปจากรอยแยกโดยไม่ลังเล
เมื่อเขาโผล่ออกไปจากรอยแยก แขนขวาวางไว้ที่รอยแยกและส่งเขตอาคมออกไป ความเร็วการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นมหาศาล
“หลิวจื่อฮ่าว!” คังจงซื่อตกตะลึงก่อนจะร้องคำราม เขาพุ่งออกไปจากรอยแยก กำลังจะไล่ตามหลังร่างสีขาว
ทว่าในจังหวะที่ก้าวออกไปจากรอยแยก เขาก้าวเข้าไปในเขตอาคมที่หวังหลินวางเอาไว้ก่อนหน้านี้ เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องเนื่องจากเขตอาคมมากมายที่ถูกวางเอาไว้และทำให้คังจงซื่อหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะ
ร่างทั้งสามของหญิงชราผสานกลายเป็นหนึ่งและพุ่งออกไปจากรอยแยกราวกับประกายสายฟ้าและไล่ตามหลังหวังหลิน!
หวังหลินซ่อนตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบตอนที่เขาเข้ามาในรอยแยก เขาซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆรอคอยโอกาส สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดจึงไม่สามารถปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกไปได้ไกลนัก ซึ่งทำให้เขาใช้โอกาสนี้ซ่อนตัวเองได้ดีเยี่ยม
ขณะนั้นเขาก็ถือขวดหยกและพุ่งผ่านสายหมอกไปอย่างรวดเร็ว เสียงพึมพำประหลาดดังเข้าหูเขาอย่างต่อเนื่อง นาทีนี้มีร่างเงาหลายร่างลอยเข้าหาและผ่านไป
หญิงชราชุดเขียวไล่ตามด้านหลังไปอย่างกระชั้นชิดแต่ด้วยยันต์เซียนเพิ่มความเร็วสองใบ ความเร็วหวังหลินถือว่าเหนือจินตนาการ ขณะที่เคลื่อนไหว ระยะห่างของทั้งคู่ก็ค่อยๆกว้างขึ้น
“ขโมยของของข้า เจ้ารนหาที่ตาย!” หญิงชราชุดเขียวเผยสายตาโหดเหี้ยม นางสะบัดแขนปรากฏหมอกพิษขึ้นมา พริบตาเดียวภาพแมงป่องพิษตัวหนึ่งปรากฏอยู่ในท้องฟ้าเจ็ดสี
แมงป่องพิษตัวขนาดหมื่นฟุต มันฟาดหางออกไปเกิดเป็นภาพลวงตาพุ่งใส่หวังหลิน
หวังหลินหันกลับมา แววตาปรากฏแสงเย็นเยียบ ยกแขนซ้ายขึ้นและส่งกำปั้นเข้าใส่หางแมงป่อง! เกิดเสียงดังสั่นสะเทือนปฐพี หางแมงป่องสั่นสะท้านและพังทลาย
ชั่วขณะนั้นปรมาจารย์คังจงซื่อก็วิ่งออกมาได้เช่นกัน ดวงตาแดงฉาน นำลูกปัดออกมาอีกเม็ดโดยไม่สนว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาโยนมันออกไปและร้องตะโกน “อัญเชิญ ผู้ฝืนลิขิต!”
สิ้นเสียงกล่าว ลำแสงเจ็ดสีทั้งหมดในโลกพลันรวมกันเข้าหาลูกปัดและพุ่งเข้าไปข้างใน ลูกปัดพลันแตกสลายทันที
แสงเจ็ดสีในโลกกะพริบรุนแรงและเกิดระลอกคลื่นดังสนั่นจนก่อเกิดเป็นดัชนียักษ์!
“ดัชนีชะตาสวรรค์!!” สถานที่แห่งนี้เกี่ยวข้องกับเทียนหยุนจริงๆ! ตอนที่หวังหลินเห็นดัชนียักษ์ในท้องฟ้า รูม่านตาเขาจึงหรี่แคบลง
ดัชนียักษ์คล้ายจะดูดซับแสงเจ็ดสีส่วนใหญ่ในท้องฟ้าจนทำให้ท้องฟ้าหม่นลง เสียงคำรามดังสนั่นกึกก้องเข้าหาหวังหลินที่กำลังหลบหนีราวกับมันต้องการบดขยี้เขา!
หญิงชราชุดเขียวดวงตาส่องสว่าง สองฝ่ามือสร้างผนึกก่อนจะชี้ใส่กลางหน้าผากตนเอง เขตอาคมสามแบบลอยออกมาซึ่งเป็นเขตอาคมแห่งชีวิตและความตายระดับสูงสุด!
“ชีวิต ตาย ชีวา!” นางเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่าดังกึกก้อง เขตอาคมทั้งสามผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังเขตอาคมแห่งชีวิตและความตาย มันพุ่งเข้าหาหวังหลินพร้อมกับแฝงแก่นแท้แห่งชีวิตและความตายเอาไว้ด้วย