1192. ตรีศูล
ขณะที่หวังหลินเคลื่อนกาย เขาพยายามเก็บขวดหยกไว้ในมิติเก็บของแต่มีบางอย่างประหลาดเกิดขึ้น ไม่ว่าเขาพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถเก็บมันไว้ในมิติเก็บของได้ คิดว่าเป็นเพราะมันไม่สามารถเก็บไว้ในมิติเก็บของได้จริง ไม่เช่นนั้นคังจงซื่อคงไม่ต้องถือเอาไว้
เขาเคลื่อนร่างดุจประกายสายฟ้าด้วยผลลัพธ์ของยันต์เซียนเพิ่มความเร็วและพุ่งไปข้างหน้า
ดัชนียักษ์ที่สร้างจากแสงเจ็ดสีตกลงมาพร้อมเสียงคำรามสั่นสะเทือนปฐพี มันใกล้ขึ้นและเข้าใกล้หวังหลิน!
เขตอาคมแห่งชีวิตและความตายของหญิงชราก็กำลังตามหลังมาติดๆ
ภายใต้การโจมตีของเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับกลางทั้งสองคนรวมกัน หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เมื่อเขากล้าขโมยมาจากปากเสือ เขาก็ต้องมั่นใจว่าจะถือเอาไปได้
หวังหลินหันกลับมา ร่างกายเริ่มบวม กลิ่นอายเทพโบราณหนาแน่นเต็มไปทั่วโลกเจ็ดสี จากนั้นเกิดระลอกคลื่นขึ้นรอบร่างเขาพร้อมกับร่างกายขยายขนาดไปถึงร้อยฟุต ห้าร้อยฟุต พันฟุต…พริบตาเดียวเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นยักษ์สูงสามพันฟุต!
ดาวเทพโบราณห้าดาวหมุนติ้วกลางหน้าผาก ดวงที่หกเริ่มปรากฏ ผิวหนังบนร่างกายหยาบกร้านและเป็นลักษณะเหมือนอักขระ
ร่างยักษ์ของเขาทำให้ทุกคนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวตั้งแต่ในวิญญาณ!
ปรมาจารย์คังจงซื่อหรี่ตาแคบ เขาไม่เคยเห็นวิชานี้มาก่อน จิตใจตกตะลึง
หญิงชราดวงตาส่องสว่างเจิดจ้าและไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น
หวังหลินเปลี่ยนร่างเป็นเทพโบราณโดยไม่ลังเล เขาหันกลับมามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ชกกำปั้นเข้าใส่ดัชนีชะตาสวรรค์เข้าตรงๆ
นี่คือกำปั้นจริงของเทพโบราณ พลังอำนาจสั่นคลอนทั่วโลก พอเป็นกำปั้นในร่างเทพโบราณที่แท้จริงมันจึงมีพลังอำนาจฝืนลิขิตสวรรค์ไปด้วย
กำปั้นยักษ์ของหวังหลินปะทะเข้ากับดัชนีชะตาสวรรค์ส่งเสียงดังสนั่นกึกก้องอย่างรวดเร็ว แรงกระแทกกระจายออกไปโดยไม่อาจคาดการณ์ได้
ดัชนีชะตาสวรรค์เริ่มแตกสลายและหายไปพร้อมกับการปะทะอันรุนแรง แสงเจ็ดสีกระจัดกระจายเป็นเศษละอองและพังทลายเร็วขึ้น ทั้งดัชนีสูญสลายอย่างไม่คาดคิด ละอองแสงเต็มไปทั่วโลก
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ร่างหวังหลินสั่นเทา หยิบยืมพลังเพื่อกระโจนออกไปข้ามผ่านระยะที่ไม่อาจวัดได้และมาถึงตีนภูเขาคล้ายกำแพง หวังหลินแตะพื้นและกระโจนขึ้นเหนือภูเขาเบื้องหน้าโดยไม่ลังเล!
เขตอาคมแห่งชีวิตและความตายติดตามไปติดๆและเข้าใกล้หวังหลินในพริบตา
ตอนนี้หวังหลินอยู่เหนือภูเขา แขนขวายื่นออกไปปรากฏรอยแยกขนาดยักษ์คล้ายเขากำลังฉีกกระชากโลกให้เป็นชิ้นๆ
ตรีศูลยักษ์สีดำสนิทโผล่ออกมาจากรอยแยก ตรีศูลนี้ขนาดยาวสี่พันฟุตและแทงถึงท้องฟ้า วินาทีนั้นกลิ่นอายสั่นสะเทือนปฐพีแพร่กระจายออกมา
กลิ่นอายเทพโบราณหนาแน่นเต็มไปทั่วบริเวณ หวังหลินคว้าตรีศูลและกวาดมันเบื้องหน้า เส้นสีดำสามเส้นโผล่ออกมาจากปลายยอดตรีศูลราวกับโลกกำลังถูกแบ่งเปิดออก
หวังหลินถือตรีศูลยืนอยู่ราวกับเทพบนยอดภูเขา กวาดตรีศูลเข้าใส่เขตอาคม
เขตอาคมเข้ามาใกล้ แบ่งตัวเป็นสามส่วนกำลังจะพุ่งใส่หวังหลิน แต่วินาทีนั้นตรีศูลก็กวาดผ่านมา พลังอำนาจเทพโบราณในร่างหวังหลินพุ่งเข้าใส่ตรีศูลจนปลดปล่อยแสงสีดำกวาดข้ามเขตอาคมไป
เขตอาคมทั้งสามส่วนถูกตัดแบ่งครึ่งในทันที แสงจากตรีศูลเข้มข้นยิ่งขึ้นและเปลี่ยนกลายเป็นมังกรสามตัวกลืนกินเขตอาคมเข้าไป จากนั้นตรีศูลก็สั่นเทาปรากฏอักขระสามรอย
ราวกับหวังหลินกำลังถือมังกรดำสามตัวเอาไว้ ทั้งสามตัวดุร้ายยิ่งและร้องคำรามพลางร่างกายบิดเบี้ยว พวกมันเผยสายตาโหดเหี้ยมเข้าหาปรมาจารย์คังจงซื่อและหญิงชราชุดเขียว
สายตาหวังหลินตกลงบนทั้งสองคนที่กำลังไล่ตามเขามา พอสายตากวาดผ่านเข้าไปราวกับมีสายลมเย็นเยียบแทงใส่ร่างและทำให้รู้สึกหนาวเย็นเยียบ
“ทุกคนสามารถเอาสมบัติสวรรค์ไปได้ หาว่าขโมยได้อย่างไร? หากเจ้าสองคนเดินหน้าต่อ เช่นนั้นจะเหมือนดัชนีสวรรค์และเขตอาคม ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งสองซะ!” คำพูดของหวังหลินดังกึกก้อง เขาหันตัวและพุ่งออกไปไกล
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ปรมาจารย์คังจงซื่อและหญิงชราชุดเขียวต้องอ้าปากค้าง!
‘นี่…นี่มัน…’ คังจงซื่อความคิดสั่นเทาและไม่อาจสงบจิตสงบใจได้นานนัก เขาบ่มเพาะมานานและรู้จักเคล็ดการฝึกฝนร่างกายหลายอย่าง แต่ไม่มีอันไหนสามารถสร้างร่างกายใหญ่ยักษ์ได้ขนาดนี้ สิ่งที่เขาตกตะลึงมากที่สุดคือไม่รู้สึกว่าร่างกายนั้นเป็นของปลอม มันคือของจริงล้วนๆ!
หญิงชราชุดเขียวใบหน้าซีดเล็กน้อยจ้องมองร่างยักษ์ที่กำลังหายตัวไปเหนือภูเขา นางกัดฟันแน่นและไล่ตาม
แม้คังจงซื่อจะตกตะลึงเขาก็เตรียมการมาเป็นพันปี ใช้สมบัติมากมาย เขาจึงไม่ยอมถูกขโมยไปแบบนี้! นาทีนั้นดวงตาแดงฉานและไล่ตามด้วย แขนขวาชี้ใส่ไหล่ซ้ายหลายครั้ง สร้างแขนขึ้นมาใหม่จากแสงเจ็ดสี
หวังหลินกระโจนร่างขึ้นไปเหนือภูเขา เคลื่อนออกไปไกลโดยไม่หยุดพัก ขณะนั้นเขามาถึงตรงหุบเขาที่วางเขตอาคมเอาไว้แล้ว
หวังหลินข้ามมันไปเพียงแค่ก้าวเดียวและกำลังจะพุ่งไปต่อ
ขณะนั้นหญิงชราที่ไล่ตามหลังมาเผยสายตาดุดัน ฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ใส่เขตอาคมที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้
ต้นไม้ใบหญ้าใต้ฝ่าเท้าหวังหลินแห้งเหี่ยวทันที ขี้เถ้าสีดำลอยขึ้นไปในอากาศเปลี่ยนกลายเป็นวังวนยักษ์และกำลังจะล้อมรอบหวังหลิน
หวังหลินร้องครางในลำคอพลางชนเข้ากับเขตอาคมและฝ่าออกไป วังวนจากขี้เถ้าสีดำไล่ตามหวังหลินไปด้วย
ขณะเดียวกันหญิงชราเผยแววตาแสงประหลาดและเร่งความเร็ว นางกระโจนออกมาจากภูเขาและเข้าไปในเขตอาคมในหุบเขา
ปรมาจารย์คังจงซื่ออยู่ด้านหลังและตามมาอย่างรวดเร็ว แต่ดวงตาส่องสว่าง ลังเลอยู่ข้างนอกเขตอาคมและไม่เข้ามาเต็มตัว
ไม่ใช่ว่าเขามองทะลุจุดอ่อนแอได้แต่เขาระมัดระวังหญิงชราชุดเขียวไปด้วย
ขณะที่หญิงชราชุดเขียวเข้าไปในเขตอาคม หวังหลินหันกลับมาและชี้ใส่วังวน วังวนสีดำเปลี่ยนไปและพุ่งหานางทันที
หลังจากนั้นไม่นานแสงเขตอาคมนับไม่ถ้วนส่องสว่างขึ้นในหุบเขาที่หญิงชราเข้ามา แสงพวกนี้พร่าเลือนและเกิดเสียงดังสนั่นมากมายพอให้จิตใจสั่นไหว!
เขตอาคมนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาจากพื้นดินและล้อมรอบนางไว้ทันที เพียงแค่ชำเลืองมองก็นับได้ประมาณหมื่นตำแหน่งได้แล้ว!
เขตอาคมเหล่านี้ปลดปล่อยแสงชั่วร้าย หลังจาผสานเข้ากับเขตอาคมแห่งชีวิตและความตาย และเขตอาคมทำลายล้าง พลังอำนาจของมันจึงสั่นสะเทือนฟ้าดิน วินาทีที่หวังหลินกระตุ้นพวกมัน ทั้งหมดจึงพุ่งหาหญิงชรา
มีวังวนสีดำอยู่ในนั้นด้วย มันล้อมรอบพื้นที่ไว้ทันทีจนมองเห็นข้างในไม่ออก อย่างไรก็ตามพลันเกิดเสียงคร่ำครวญและเสียงคำรามดังสนั่นออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน
นาทีนี้พื้นดินสั่นไหว เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของหญิงชรายิ่งหนักแน่นขึ้น ข้างในวังวนเกิดแสงสีแดงโลหิตกะพริบวูบวาบ เสียงคำรามดำเนินต่อไปเห็นได้ชัดว่าการออกมาเป็นไปได้ยากยิ่ง นางตกอยู่ในวิกฤตแห่งชีวิตและความตาย
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ปรมาจารย์คังจงซื่อมีท่าทางเปลี่ยนไปยิ่ง ด้วยปัญญาของเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่าเขตอาคมที่ถูกนางวางเอาไว้นี้ได้ถูกหวังหลินจัดการไปแล้ว หวังหลินนำพานางเข้าสู่ค่ายกลสังหารอย่างแท้จริง!
‘เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเขตอาคมด้วย!’ คังจงซื่อมองเขตอาคมที่กักขังนางเอาไว้อย่างสมบูรณ์ สัมผัสถึงพลังอำนาจของเขตอาคมได้อย่างชัดเจน เขาสูดหายใจลึกแต่ไม่ยอมแพ้ต่อขวดหยก
‘เซียนจ้าวถูกขังไว้เป็นเรื่องดีสำหรับข้า ตราบใดที่ข้าสังหารเซียนหลิวได้ ข้าสามารถนำหินหยกกลับคืนมาได้ ด้วยความเข้าใจของข้าที่นี่ ไม่มีใครสามารถหาข้าเจอได้!’ แววตาปรมาจารย์จงเฉินกระพริบจิตสังหารและตัดสินใจทันที เคลื่อนตัวเองรอบเขตอาคมนอกหุบเขา ฝ่ามือสร้างผนึก ละอองแสงสีทองหลายหมื่นจุดพุ่งเข้าหาหวังหลิน
หวังหลินแววตาเย็นเยียบ เขากำลังรอคอยโอกาสนี้ เขาไม่สามารถต่อสู้กับเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับกลางสองคนได้ในครั้งเดียว เขาต้องทำให้บาดเจ็บหรือกักขังไว้สักคนหนึ่งก่อนเพื่อให้สู้ได้อย่างปลอดภัย!
ปรมาจารย์คังจงซื่อมุ่งร้ายตั้งแต่อยู่บนเพิ่งหลาย พอเห็นวิชาที่กำลังใกล้เข้ามาหวังหลินพ่นลมหายใจเย็นและสะบัดตรีศูลในมือ มังกรสามตัวร้องคำรามผลักฝนกระบี่ให้กระเด็ดขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกมันไม่สามารถเข้าใกล้หวังหลินได้เลยแม้แต่น้อย
ปรมาจารย์คังจงซื่อเผยแววตาดุดันและยื่นแขนออกไป เปิดมิติเก็บของ กระบี่เหินเล่มหนึ่งลอยออกมา
กระบี่เล่มนี้กระจ่างใสดุจผลึก วินาทีที่โผล่ออกมาจึงมีกลิ่นอายสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญล้อมรอบบริเวณ
หวังหลินหรี่ตาแคบ
วินาทีนั้นปรมาจารย์คังจงซื่อร้องคำรามและโยนกระบี่ผลึกออกไป กระบี่ส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์พุ่งหาหวังหลิน
การต่อสู้จริงๆกับเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับกลางเป็นครั้งแรกทำให้หวังหลินตื่นเต้น เขาไม่ได้ล่าถอยแต่กวาดตรีศูลเข้าหาแทน มังกรสามตัวลอยออกมาจากตรีศูลโดยไม่คาดคิดและพยายามจะกลืนกินกระบี่ผลึก
เรื่องน่าประหลาดยิ่งก็คืออักขระสามรอยที่สร้างขึ้นมาหลังจากกลืนกินเขตอาคมแห่งชีวิตและความตายเข้าไปพลันส่องสว่าง พวกมันลอยออกมาผสานเข้ากับมังกรดำสามตัวทำให้กลิ่นอายเขตอาคมแห่งชีวิตและความตายปรากฏขึ้นมา
นี่คือพลังอำนาจที่แท้จริงของตรีศูล!