Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1195

Cover Renegade Immortal 1

1195. ลิ่มเจ็ดสี

หลังจากผ่านไปนานพอควรร่างศพเงินก็ถอนสายตา ความสับสนงุนงงยิ่งมีมากขึ้น นางคล้ายจะจดจำบางอย่างได้แต่มันก็เลือนลางมาก ยกเรียวแขนขึ้นมาสะบัดไปตามความทรงจำ เกิดแสงกะพริบเจือจางและมีเขตอาคมหนึ่งร่อนลงบนทางเข้าถ้ำ

หากหวังหลินตื่นขึ้นมาเห็น คิ้วคงขมวดเป็นปม เขตอาคมนี้คือเขตอาคมแห่งชีวิตและความตาย! เคล็ดนี้เหนือล้ำกว่าที่หญิงชราสร้างขึ้นมาอีกเพราะมันชำนาญมาก

หวังหลินไม่ได้ตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่นานเกินไปนัก ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ลืมตาขึ้นมา พอเห็นทางเข้าจึงตกตะลึง มองร่างศพเงินแต่ไม่ได้เอ่ยถาม ทว่านั่งลงและเริ่มบ่มเพาะแทน

เวลาค่อยๆผ่านไป เพียงกะพริบตาก็ผ่านไปสามวัน

ในช่วงสามวันนี้โลกด้านนอกสงบนิ่งไร้ความผันผวน ราวกับเซียนทั้งหมดในดินแดนเจ็ดสีกำลังฟื้นฟูตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

หลังวันที่สามไม่เพียงแต่ท่าทางหวังหลินจะไม่ฟื้นตัว เขายังซีดเผือดมากไปอีก ไหล่ขวามีแสงเจ็ดสีเรืองรองจางๆออกมา รอยแผลสมานตัวแล้วแต่มีลิ่มที่ยังเสียบอยู่ในกระดูก ลิ่มเจ็ดสีทำให้กระดูกเขาแตกเสียหายแต่เนื่องจากมีพลังชีวิตเทพโบราณอันทรงพลัง กระดูกที่แตกเสียหายจึงฟื้นคืนมาอย่างรวดเร็ว

กระบวนการซ้ำไปมาอย่างต่อเนื่องนี้นำพาให้หวังหลินเกิดความเจ็บปวดรุนแรง

สิ่งที่เคร่งเครียดยิ่งกว่าก็คือไม่เพียงแต่ลิ่มเจ็ดสีจะฝังอยู่ในกระดูกเขา มันยังทำให้รู้สึกเหมือนแทงเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิมหวังหลินด้วย วิญญาณเขาอ่อนแอและเชื่องช้า

หากแค่นี้คงไม่เป็นปัญหา แต่หวังหลินตกตะลึงเมื่อพบว่าลิ่มเจ็ดสีกำลังดูดพลังชีวิตเขาราวกับจะไม่หยุดลงจนกว่าจะดูดซับพลังชีวิตทั้งหมดไป

‘สมบัติอะไรกันถึงมีพลังขนาดทำลายกระบี่สวรรค์ดับสูญให้หักครึ่งได้แบบนี้?’ จิตใจหวังหลินเจ็บปวด กระบี่เหล็กอยู่กับเขามาหลายปีและมีประโยชน์ยิ่ง ตอนนี้มันแตกหักไปแล้ว

‘ยังมีลูกปัดที่คังจงซื่อโยนออกมาอีก แต่ละอันสามารถเรียกใช้วิชาในโลกเจ็ดสีแห่งนี้ได้ มันประหลาดยิ่งแม้แต่ดัชนีชะตาสวรรค์ก็โผล่ออกมาได้…’ หวังหลินอดทนต่อความเจ็บปวด เริ่มขบคิด

เขาคิดถึงตอนที่วิญญาณรบของเทียนหยุนปรากฏขึ้นมา มันมองไปบนท้องฟ้าด้วยความงุนงง

‘ที่นี่ต้องเชื่อมต่อกับเทียนหยุน…’

หลังขบคิดเล็กน้อยเกิดแสงเย็นชากะพริบในตาหวังหลิน

‘อย่างไรก็ตามปรมาจารย์คังจงซื่อก็บาดเจ็บสาหัสด้วย ร่างกายแตกสลายจากประทับวิญญาณสงคราม หนีรอดได้แค่วิญญาณดั้งเดิม เขาถูกกระบี่เหล็กทำให้บาดเจ็บสาหัสและใช้สมบัติไปเยอะมาก ข้าต้องฟื้นฟูตนเองให้เร็วที่สุด ครั้งต่อไปที่เจอกัน เขาจะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย!’

‘ยังมีหญิงชราชุดเขียวที่ถูกขังไว้ในเขตอาคมอีก แม้นางจะเชี่ยวชาญด้านเขตอาคมแห่งชีวิตและความตาย ด้วยการมีเขตอาคมทำลายล้างของข้าผสมกัน การออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้นางจะออกมาด้วยกำลังได้ นางก็จะบาดเจ็บสาหัส!’

‘ยังมีจ้าววิญญาณเมฆาด้วย ตอนที่เขาถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ได้ถูกสุ่มไปที่อื่น ข้าไม่รู้ว่าที่ไหนแต่สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายและการสุ่มเข้ามานับว่าอันตรายมาก แม้แต่การคุ้มครองตัวเองยังไม่ได้ด้วยซ้ำ’

‘ทั้งสามคนต่างก็ถูกข้าจัดการแต่เฉินเทียนจุนจากไปก่อน แม้จะสัมผัสถึงวิชาของเขาก่อนหน้านี้ การพิสูจน์ว่าเขาตายเป็นเรื่องยากอยู่ดี…’

ทุกคนที่นี่ต่างก็วางแผนใส่กันเอง ไม่มีใครต้องการให้อีกฝ่ายจากไปพร้อมกับสมบัติ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเรียกกันว่า “แม้จะไม่อยากทำร้ายเสือ เสือก็ยังต้องการทำร้ายคนอยู่ดี” หากอยู่เฉยๆคงถูกคนอื่นวางแผน หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขามองทั้งหมดนี้ออกได้มานานแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงลงมือก่อนและบังคับให้จ้าววิญญาณเมฆาเคลื่อนที่ไปที่อื่น จากนั้นก็ขังหญิงชราเอาไว้ในเขตอาคมเพื่อที่เขาจะสามารถต่อสู้กับปรมาจารย์คังจงซื่อได้

ขณะที่ขบคิด ความเจ็บปวดรุนแรงผุดออกมาจากไหล่ขวา เม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผาก เผยสายตามุ่งมั่น ใช้แขนซ้ายปาดบนไหล่ขวา รอยแผลหนึ่งปรากฏขึ้นและขยายออกไปจนเผยให้เห็นลิ่มเจ็ดสีฝังอยู่ในกระดูก

วินาทีนั้นแสงเจ็ดสีปกคลุมไปทั่วทั้งถ้ำ ฉวี่ลี่กั๋วเลียปากพลางมองหวังหลินและคิดขึ้น ‘เจ้าอสูรนี่เป็นอสูรจริงแท้ ไม่เพียงแต่จะโหดเหี้ยมอำมหิตต่อคนอื่น เขายังโหดเหี้ยมกับตัวเองด้วย’

หลังจากสูดหายใจลึก หวังหลินกัดฟันแน่นจับไปที่ลิ่มเจ็ดสีและพยายามดึงออกมาพร้อมเสียงคำรามลั่น! ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นไปทั่วร่าง หวังหลินร้องอื้ออึ้งในลำคอ เสื้อผ้าชุ่มโชกด้วยเม็ดเหงื่อ ร่างกายสั่นเทาและไม่สามารถดึงมันออกมาได้!

ลิ่มนี้ดูเหมือนจะผสานเข้ากับกระดูกเขาไปแล้วจนไม่สามารถแยกมันออกมาได้! สิ่งน่าประหลาดก็คือแสงเจ็ดสีดูเหมือนจะเข้าไปในกระดูกเขา กระดูกไหล่ขวาคล้ายจะกลายเป็นเจ็ดสีไปด้วย

หวังหลินหน้าซีด วินาทีที่แสงเจ็ดสีเข้าไปในร่าง ความคิดว่างเปล่า เขากำลังจะบ้า

แม้ความรู้สึกนี้จะหายไปในวินาทีถัดมา มันได้ทำให้หวังหลินต้องอ้าปากค้างแล้ว

ณ วินาทีนั้นความบ้าคลั่งทำให้เขาหลุดจากการควบคุม ราวกับความคิดเขาได้ตกลงไปในนรกหลายสิบชั้นและถูกผนึกไว้ข้างใน เขาไม่ได้เป็นตัวเองอีกต่อไป…

พอมองไหล่ขวา ลิ่มเจ็ดสีจมไปครึ่งนึงแล้ว

หวังหลินจ้องมองลิ่มเจ็ดสี รู้สึกว่าหากลิ่มนั่นหายไปอย่างสมบูรณ์ กระดูกเขาก็จะเปลี่ยนกลายเป็นเจ็ดสี ถึงตอนนั้น…ความบ้าคลั่งคงไม่แค่ชั่วร้ายแต่อาจจะถาวร

‘นี่มันสมบัติแบบไหนกัน?!’ รอยแผลบนไหล่ขวาสมานตัวกันอย่างรวดเร็วและหายไป ปกคลุมไปบนลิ่มเจ็ดสี

หลังจากมองแผลที่กำลังฟื้นตัวอย่างเงียบๆ หวังหลินลับตา ดวงวิญญาณดั้งเดิมเริ่มสั่นเทา เมื่อไม่สามารถดึงออกมาด้วยพลังด้านนอกได้ เขากำลังจะพยายามใช้พลังดั้งเดิมและใช้พลังเทพโบราณบังคับให้ออกมา

วันเวลาผ่านไปและอีกสามวันก็ผ่านไป หวังหลินลืมตาขึ้นมา ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาจึงทำได้เพียงระงับมันเอาไว้เท่านั้น เขาไม่สามารถบังคับให้แสงเจ็ดสีออกไปได้ นับประสาอะไรกับลิ่มเจ็ดสี

‘หากข้าแค่สามารถระงับมันได้ นั่นจะไม่ใช่วิธีจัดการเด็ดขาด ตอนนี้ข้าเพียงต้องการตัวช่วย…หากมีตัวช่วยเพียงพอ ข้าสามารถบังคับให้ลิ่มและแสงเจ็ดสีออกไปได้!’ หวังหลินมองขวดหยกอย่างเงียบๆ นี่คือเป้าหมายสูงสุดของการมาดินแดนเจ็ดสีของปรมาจารย์คังจงซื่อ

หวังหลินถือขวดหยก แพร่สัมผัสวิญญาณออกไป ขวดนี้มีของเหลวสีดำอยู่ครึ่งขวด ดูคล้ายเลือดแต่ไม่มีกลิ่นคาว

‘เมื่อข้าได้วิญญาณของปรมาจารย์คังจงซื่อมา ข้าจะรู้แน่ว่ามันคืออะไร หากข้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเกี่ยวข้องกับการช่วยเขาเพิ่มระดับบ่มเพาะ’ หวังหลินเก็บขวดหยกไว้ในเสื้อผ้า ยืนขึ้นมองเขตอาคมแห่งชีวิตและความตายตรงทางเข้าถ้ำ จากนั้นมองร่างศพเงิน

“เจ้ารู้จักเขตอาคมแห่งชีวิตและความตายด้วยหรือ?”

นางขบคิดอยู่นาน พลางเอ่ยเบาๆ “มี…มีความทรงจำบางส่วน…”

“เปิดเขตอาคม” หวังหลินพยักหน้าเล็กน้อย

นางเดินไปใกล้ๆทางเข้าถ้ำ ฝ่ามือเรียวหยกค่อยๆแตะเบาๆ เขตอาคมหายไปอย่างช้าๆไม่เหลือร่องรอยเอาไว้

หวังหลินโบกแขนโดยไม่เอ่ยถาม ฉวี่ลี่กั๋วกำลังจะพูดขึ้นมาแต่ก่อนที่มันจะได้อ้าปาก พลันถูกเก็บเข้าไปในมิติเก็บของพร้อมกับร่างศพเงิน

หลังออกมาจากถ้ำ หวังหลินสูดลมหายใจลึกพลางอดทนต่อความเจ็บปวดที่แขนขวาและมุ่งหน้าออกไป เขาไม่ได้จะไปส่วนลึกของดินแดนเจ็ดสีแต่เป็นเทือกเขาส่วนนอกด้านบนหุบเขา

สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยยอดภูเขาที่มีอสูรหมอกดุร้ายหลายตัว

อสูรพวกนี้คือตัวช่วยชั้นดีที่หวังหลินคิดขึ้นมา!

เขาเหาะเหินผ่านหุบเขาไปหลายแห่ง เดินทางผ่านเส้นทางที่มา มุ่งหน้าเข้าหาเขตชั้นนอกของดินแดนเจ็ดสี ไม่นานนักก็เห็นอุโมงค์ที่นำทางสู่ชั้นนอกและมองขึ้นไป จ้องมองหมอกหนาแน่นบนยอดนั้นพร้อมกับดวงตาส่องสว่าง

หวังหลินวางแผนในหัวอย่างระมัดระวังและเผยสายตามุ่งมั่น แม้การเดินทางครั้งนี้จะอันตราย หากสามารถบังคับให้ลิ่มเจ็ดสีออกไปได้ ทั้งหมดถือว่าคุ้มค่า!

‘มาดูกันว่าร่างเทพโบราณของข้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน!’ หวังหลินเปลี่ยนร่างเป็นลำแสงพุ่งเข้าหายอดเขา

ก่อนที่เขาจะได้เข้าใกล้ เสียงคำรามหนึ่งดังออกมาจากสายหมอก เหยี่ยวสูงพันฟุตพุ่งออกมา ร้องคำรามพุ่งใส่หวังหลินและมีสายหมอกติดตามมาด้วย

มันเร็วมากและเข้าประชิดได้ในพริบตา เจ้าเหยี่ยวพุ่งเข้ากระทุ้งใส่หวังหลิน หวังหลินไม่หลบเลี่ยง ใช้ร่างกายเข้าต่อต้านแทน!

หนึ่งคนหนึ่งวิหคเข้าปะทะใส่กันเกิดเป็นเสียงดังสนั่น หวังหลินถอยหลังไปหลายก้าว ไม่พยายามลดผลกระทบ พลังทั้งหมดพุ่งเข้าไปในไหล่ขวาซึ่งทำให้แสงเจ็ดสีจากไหล่ขวารุนแรงขึ้นจนมันแทงเข้าผิวหนัง มองไกลๆเหมือนหวังหลินถูกปกคลุมอยู่ในแสงเจ็ดสี

อสูรเหยี่ยวร้องคำรามโกรธเกรี้ยวและถูกกระเด็นกลับไปเช่นกัน มันหมุนตัวในท้องฟ้าหนึ่งครั้งและพุ่งใส่หวังหลินอีก

หวังหลินความคิดสั่นเทาแต่ไม่หยุดความพยายาม พุ่งเข้าหาสายหมอกอีกครั้ง คราวนี้มีเสียงคำรามก้อง เหยี่ยวอีกตัวพุ่งออกมาจากสายหมอก เจ้าตัวนี้ก็สูงพันฟุตเช่นเดียวกัน เหยี่ยวสองตัวจากลำแสงสีดำสองสายพุ่งเข้าหาหวังหลิน

เสียงปะทุดังขึ้น หวังหลินรู้สึกเหมือนภูเขามากมายกำลังกระแทกเข้าใส่เขา ใบหน้าซีดเซียว โลหิตไหลออกมาจากมุมปากแต่แววตาส่องสว่างยิ่งขึ้น!

อสูรดุร้ายสองตัวนี้ต่างก็เป็นระดับสิบสอง แรงกระแทกของมันนั้นทรงพลังยิ่ง อย่างไรก็ตามหวังหลินได้ส่งแรงทั้งหมดนั้นไปที่ไหล่ขวา แม้ร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็ต้องบังคับให้แสงเจ็ดสีออกไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!

ครึ่งร่างถูกปกคลุมอยู่ในแสงเจ็ดสี ด้วยวิธีการของหวังหลินจึงราวกับอสูรเหยี่ยวสองตัวกำลังช่วยเขาบังคับให้แสงเจ็ดสีออกมา ขณะที่แสงเจ็ดสีกะพริบวาบ มันก็รวมกันเข้าหาไหล่ขวา

แสงสีดำกะพริบวาบพร้อมกับอสูรเหยี่ยวสองตัวโจมตีใส่ร่างหวังหลินอย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บเขาแย่ลง โลหิตไหล่ออกมาจากปาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี

ตราบใดที่รากฐานไม่ได้บาดเจ็บ ร่างเทพโบราณสามารถฟื้นฟูได้ทันที แม้จะประคองอาการบาดเจ็บสาหัสได้ หวังหลินก็ไม่สนใจถ้าตราบใดสามารถบังคับลิ่มเจ็ดสีออกไปได้ เขาพุ่งเข้าหายอดเขาทันที

นาทีนั้นร่างหวังหลินก็ถึงขีดจำกัด แสงเจ็ดสีบนไหล่ขวาได้ควบแน่นทั้งหมดกลับเข้าไปในลิ่มเจ็ดสี

ด้วยการกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่อง ลิ่มดูเหมือนจะคล้ายตัวและแสดงอาการว่าจะถูกดันออกไป

วินาทีนั้นเสียงคำรามอีกหนึ่งโผล่ออกมาจากยอดภูเขา เหยี่ยวตัวที่สามพุ่งออกมาเป็นลำแสง กระแทกใส่หน้าอกหวังหลินอย่างรุนแรง

หวังหลินร่างสั่นเทา แรงกระแทกอันแข็งแกร่งนี้ทำให้ร่างกายที่บาดเจ็บอยู่แล้วรู้สึกเหมือนกำลังแตกสลาย แต่แววตาเต็มไปด้วยความสุข เขาหัวเราะพร้อมกับไหล่ขวาฉีกเปิด โลหิตลอยออกไปทั่ว ลิ่มเจ็ดสีอยู่ในโลหิตนั้นด้วย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version