1224. ฝ่ามือ
เสียงนั้นดุจสายฟ้าผ่าลงมาจากสวรรค์ พื้นดินสั่นสะเทือนเกิดรอยแตกร้าวคล้ายกำลังพังทลาย เสียงแตกพังทลายถูกซ่อนอยู่ในความมืดมิดและโผล่ออกมาจากทุกทิศทาง
เมื่อเสียงนี้ปรากฏขึ้นมา แรงกดดันถาโถมเข้ามาจากทุกทิศและค่อยๆตกลงมา ดินแดนเจ็ดสีดูเหมือนจะกลายเป็นอากาศที่มีพลังไร้ขอบเขตเริ่มทะลักเข้ามาทุกทิศทาง
เฉินเทียนจุนเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดที่นี่ ขณะที่อยู่ใต้แรงกดดันนี้ วิญญาณดั้งเดิมของเขาสั่นเทา โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวพลางสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล นำเม็ดยาออกมากินเพื่อช่วยต่อต้านแรงกดดัน
จ้าววิญญาณเมฆาจ้องมองท้องฟ้าด้วยใบหน้าซีดเผือด มองดูดวงตาคู่นั้นและรู้สึกเหมือนตัวเองเปลือยเปล่า เสียงดังปะทุดังออกมาจากร่างกาย หน้าตาซีดยิ่งกว่าเดิม
สตรีชุดเขียวหดสายตาแคบ ใบหน้าซีดเผือด ภาพมายาปรากฏขึ้นรอบตัวนางพลันสลับเปลี่ยนระหว่างร่างหญิงชรา และหญิงวัยกลางคนสุดสวย
มีเพียงหวังหลินที่ยืนแน่นิ่ง ขณะที่แรงกดดันตกลงมาใส่ พื้นที่รอบตัวเริ่มบิดเบี้ยวราวกับมีกฎหนึ่งรอบๆตัวเขาที่ไม่ได้ผสานกับโลกนี้
หวังหลินจ้องมองดวงตาคู่นั้นในวังวนและเงียบสงบ แต่ฝ่ามือค่อยๆเลื่อนมากำหมัด
“ข้าจะไม่กลั่นแกล้งเจ้าแล้วกัน หากเจ้ารอดจากฝ่ามือนี้ไปได้ ข้าจะไว้ชีวิต!” น้ำเสียงจากในวังวนดูคล้ายเหน็ดเหนื่อย เมื่อเสียงนี้หลุดออกมา วังวนในท้องฟ้าหมุนอย่างรวดเร็ว
ความเร็วการหมุนเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดทันที ขณะนั้นแม้แต่ดวงตาก็ซ่อนอยู่ในวังวน วังวนส่งเสียงดังคำราม โลกคล้ายจะเริ่มพังทลายเบื้องหน้าสายตาหวังหลิน
วินาทีนั้นวังวนก็พลันตกลงมาพร้อมกับพลังอำนาจทำลายล้างโลก ราวกับชีวิตทั้งหมดกำลังจะถูกฉีกกระชากและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวังวน
พื้นดินสั่นไหวรุนแรง เสียงฉีกกระชากไม่มีหยุดดังออกมาในความมืดมิด
เฉินเทียนจุนกระอักโลหิต วิญญาณดั้งเดิมสั่นสะท้านรุนแรง ส่วนจ้าววิญญาณเมฆาและหญิงชราชุดเขียวต่างก็สั่นสะท้านเช่นกัน ดวงตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
วังวนตกลงมาเร็วขึ้น กดทับลงบนพื้น แววตาหวังหลินกะพริบเยือกเย็นและกระโดดขึ้นไปในอากาศดุจอุกกาบาต พุ่งตรงเข้าไปในท้องฟ้าและชกกำปั้นสั่นสะเทือนสวรรค์ออกไปใส่วังวน!
เสียงดังสนั่นคับฟ้าดังสะท้อนไปทั่วดินแดนเจ็ดสีดุจเสียงสายฟ้าคำราม ประกายสายฟ้ามากมายกะพริบวูบวาบพร้อมกับกำปั้น ราวกับอสรพิษสีเงินนับล้านส่องสว่างขึ้นในโลก!
สายฟ้านับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นนี้เนื่องมาจากกำปั้นของหวังหลิน เมื่อกำปั้นเข้าปะทะใส่ สายฟ้าทั้งหมดรวมกันในหมัดขวา ก่อตัวเป็นแรงกระแทกเหนือจินตนาการพุ่งขึ้นใส่ท้องฟ้า!
การสั่นสะเทือนนี้ดำเนินต่อไปแต่วังวนไม่หยุดเลย แรงกดดันรุนแรงกดลงใส่หวังหลิน! เสื้อผ้าสั่นพรึบพั่บจนเกิดเสียง เขาสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดออกมาจากวังวน มันต้องการดูดวิญญาณเขาออกไป รวมถึงพลังดั้งเดิมและบดขยี้ร่างให้แหลกเป็นจุล!
“พวกเจ้าจะรอตายอยู่ที่นี่หรือออกไปพร้อมกับข้า!?” คำพูดของหวังหลินดังก้องดุจสายลมหนาวเหน็บเข้าสู่หูของทั้งสามคนด้านล่าง จ้าววิญญาณเมฆากัดฟันแน่นและกระโจนมาด้านซ้ายหวังหลิน สะบัดแขนเสื้อปรากฏเศษวิญญาณขึ้นนับไม่ถ้วน พวกมันส่งเสียงคร่ำครวญ ส่วนจ้าววิญญาณเมฆามีสีหน้าเคร่งเครียด
หญิงชราชุดเขียวหน้าซีดแต่นางพุ่งออกมาโดยไม่ลังเลและยืนอยู่ด้านขวาหวังหลิน ฝ่ามือสร้างผนึกปรากฏสายหมอกขึ้นรอบตัว สายหมอกนี้เป็นสีแดงโลหิตและแฝงกลิ่นอายแห่งชีวิตและความตายไว้ด้วย! ข้างในมีเขตอาคมจำนวนมากกะพริบวูบวาบ
เฉินเทียนจุนเหาะออกมาเป็นคนสุดท้าย ยืนอยู่ด้านล่างหวังหลิน สะบัดแขนออกไป รูขุมขนทั้งหมดในร่างเปิดออก กลิ่นอายของวิญญาณอสูรปรากฏขึ้นจนมีวิญญาณอสูรมากกว่าสิบดวงอยู่รอบๆ! ในท่ามกลางนั้นมีวิญญาณอสูรระดับสิบสองอยู่สองดวง แม้จะอ่อนแอมากแต่ตอนที่ยังมีชีวิตถือได้ว่าไม่อ่อนแอ และยังน่าตกตะลึง
หวังหลินไม่ได้มองไปที่สามคนรอบตัว ดวงดาวที่สร้างขึ้นจากกฎพลันกะพริบอยู่กลางหน้าผาก จากนั้นสะบัดแขนขวาปรากฏตรีศูลขึ้นมา เขาคว้ามันไว้ในมืออย่างแน่นหนา
“พลังของหนึ่งฝ่ามืออะไรกันเล่า?” หวังหลินพุ่งออกไปพลางส่งเสียงหัวเราะใส่วังวนที่กำลังตกลงมา มันดูเหมือนท้องฟ้ากำลังพังทลายและกำลังบดขยี้ลงใส่โลก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดคงโดนบีบ! ไม่มีโอกาสรอดชีวิต!
ขณะที่หวังหลินพุ่งตัวออกไป สายฟ้ารอบตัวกะพริบวูบวาบอย่างบ้าคลั่ง เจตนาต่อสู้เต็มไปทั่วร่าง ความต้องการต่อสู้ต้านทานโลกเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างไม่คาดคิด แม้ท้องฟ้าจะล่มสลาย เขาก็จะหาทางผ่านเข้าไปเข่นฆ่าสวรรค์!
ภายใต้เจตจำนงการต่อสู้นี้ จ้าววิญญาณเมฆาร้องคำราม วิญญาณรอบตัวเริ่มรวมกันกลายเป็นสว่านสีดำและพ่นโลหิตเข้าใส่เพื่อปลดปล่อยผนึก สว่านสีดำเปล่งกลิ่นอายโบราณออกมาทันทีพร้อมกับพุ่งไปตามหลังหวังหลินเข้าใส่วังวน!
เลือดของจ้าววิญญาณเมฆาดูเหมือนจะเดือดปุดๆ หากเขาสามารถพุ่งออกไปได้เขาก็อาจจะรอด หากไม่ได้ก็คงตาย!
หญิงชราชุดเขียวใบหน้าซีดไร้สีเลือด แต่ดวงตาส่องสว่างและมุ่งมั่น นางสะบัดแขนขวา หมอกรอบตัวแบ่งออกเป็นสอง หนึ่งคือชีวิตและอีกหนึ่งคือความตาย พวกมันหมุนรอบตัวนางดุจมังกรสองตัว หมอกมังกรพุ่งออกไปพร้อมกับนางที่ติดตามหวังหลิน
เฉินเทียนจุนติดตามมาพร้อมวิญญาณอสูรทั้งหมดที่รวมกันรอบตัว พวกมันดิ้นรนร้องคำรามเพื่อเอาตัวรอดพลางพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ลำแสงทั้งสี่เส้นเข้าใกล้วังวนในท้องฟ้าโดยมีหวังหลินเป็นคนนำทาง พวกเขาใกล้ขึ้นและใกล้มากขึ้น!
วินาทีต่อมาพวกเขาก็เข้าปะทะ หวังหลินเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้อันแรงกล้า พลางสะบัดตรีศูลและเริ่มโจมตีใส่วังวน ร่างกายเต็มไปด้วยพลังอำนาจของเทพโบราณที่สามารถทะลวงผ่านม่านพลังทั้งหมดในโลกได้!
เขาฉีกกระชากเปิดหลุมขึ้นในวังวน
ทว่าวังวนนั้นใหญ่เกินไป เมื่อมันห่อหุ้มพวกเขา เฉินเทียนจุนเป็นคนแรกที่ไม่อาจต้านทานได้ วิญญาณอสูรรอบตัวพังทลาย ร่างกายสั่นสะท้านก่อนจะระเบิดและถูกวังวนดูดซับ วิญญาณดั้งเดิมดิ้นรนหลบหนี แต่วังวนแข็งแกร่งเกินไปและกำลังจะถูกดึงเข้าไปข้างใน
“เจ้าสัญญาว่าจะพาข้าออกไป!! เจ้าสัญญาแล้ว!!” วิญญาณของเฉินเทียนจุนปลดปล่อยข้อความสัมผัสวิญญาณอย่างโหยหวน
เมื่อข้อความของเขาสะท้อนออกมา หวังหลินหันกลับและยื่นมือออกไปคว้าวิญญาณของเฉินเทียนจุนทันทีและเริ่มต่อสู้กับพลังของวังวน
ปัง!
วิญญาณของเฉินเทียนจุนถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งถูกวังวนดูดเข้าไปและอีกส่วนถูกหวังหลินดึงออกมา หวังหลินพุ่งเข้าไปหาช่องว่างในวังวนต่อ
จังหวะที่จ้าววิญญาณเมฆาพุ่งเข้าไปในวังวน ร่างกายเกิดเสียงปะทุและพลันกระอักโลหิต เศษวิญญาณทั้งหมดรอบตัวเขาล้มหายตายจาก แม้กระทั่งสมบัติวิเศษก็ยังพังทลาย ทว่าสมบัติวิเศษไม่ใช่ของธรรมดา การที่มันพังทลาย เขาจึงสามารถพุ่งเข้าไปในช่องว่างที่หวังหลินเปิดออกมาได้
สตรีชุดเขียวกัดฟันแน่นและพุ่งเข้าไปในช่องว่าง ภายใต้พลังดึงดูดอันทรงพลัง เขตอาคมแห่งชีวิตและความตายทั้งหมดของนางพังเสียหายและกระอักโลหิต เมื่อเห็นว่าพลังดึงดูดเพิ่มขึ้นและช่องว่างกำลังปิดอย่างรวดเร็ว นางสร้างผนึก ชี้ใส่กลางหน้าผากทำให้ร่างกายสั่นไหว ปรากฏร่างหนึ่งด้านขวาและอีกร่างด้านซ้าย
หนึ่งเป็นหญิงชรา และอีกหนึ่งเป็นหญิงวัยกลางคน
จังหวะที่ทั้งสองร่างปรากฏตัว พวกนางเลือกที่จะทำลายตัวเอง นางสามารถหาทางรอดในช่วงวิกฤตนี้ได้ ด้วยพลังการทำลายล้างสองเท่า หญิงชราชุดเขียวจึงสามารถพุ่งทะลุผ่านช่องว่างในวังวนได้
แต่นี่ยังไม่จบ มันพึ่งแค่เริ่มต้น!
วังวนผ่านทุกคนไปและร่อนลงบนพื้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับพื้นดินสั่นสะเทือนและเริ่มเคลื่อนตัว ภูเขาสูงทั้งห้าแห่งพลันปรากฏขึ้นมา
หวังหลินมองลงไปจากจุดที่ตัวเองอยู่ เขาจึงเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน!
‘นี่…นี่มัน…’ โลหิตไหลรินออกมาจากมุมปาก การหลบหนีอยู่พลันไม่เกิดความยินดี เขาจ้องมองพื้นดิน เผยดวงตาไม่เชื่อและหวาดกลัว
หญิงชราด้านข้างบาดเจ็บมากเกินไปและดูท้อแท้ แต่แววตาหวาดกลัวเหมือนกัน
พื้นดินทั้งหมดทั้งมวลกลายเป็นฝ่ามือยักษ์โดยไม่คาดคิด! ยอดภูเขาทั้งห้าแห่งกลายเป็นนิ้วของฝ่ามือ! รอยแตกร้าวที่ผุดขึ้นมาบนพื้นคือลายมือ!
ขนาดของฝ่ามือนี้เหนือล้ำเกินจินตนาการ ฝ่ามือสร้างขึ้นจากดินแดนเจ็ดสี ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังมากกว่าวังวนเสียอีก
พลังอำนาจของฝ่ามือจะมีมากขนาดไหนกัน? ดินแดนเจ็ดสีคือฝ่ามือ ภูเขาคือนิ้วและรอยแตกร้าวคือลายมือ มันคือพลังอำนาจของฝ่ามือที่น้ำเสียงเก่านั้นแกล่าวถึง!
ตอนนี้หวังหลิน จ้าววิญญาณเมฆาและหญิงชราชุดเขียวยังอยู่ในดินแดนเจ็ดสีซึ่งอยู่ในฝ่ามือนี้ด้วย!
คำพูดเหนื่อยอ่อนนั้นยังคงกึกก้องในหัวหวังหลิน ความหมายของคำพูดยังคงชัดเจน!
รอดจากฝ่ามือได้ พวกเขาจะมีชีวิตรอด!
ขณะนั้นฝ่ามือจากดินแดนเจ็ดสีได้เริ่มเข้าใกล้ กลิ่นอายยิ่งใหญ่แพร่กระจายออกมาพร้อมกับดัชนีที่กำลังใกล้ขึ้น ราวกับฝ่ามือต้องการบีบขยี้มดที่อยู่ตรงกลาง!
แววตาหวังหลินไม่มีความหวาดกลัว เจตนาต่อสู้อันทรงพลังเต็มไปทั่วร่างกาย โลหิตดูเหมือนเดือดพล่าน ตรงกลางหน้าผากมีดวงดาวเทพโบราณหกดาวพร่ามัวหมุนอย่างรวดเร็ว ใจกลางนั้นคือดาวที่สร้างขึ้นจากกฎของเขตแดนเขา เพียงแค่ชำเลืองมองจึงเหมือนกับเขาเป็นเทพโบราณเจ็ดดาว!
“มาสู้กัน!” หวังหลินถือตรีศูลและกวาดมันไว้ด้านล่าง ราวกับเทพแห่งการต่อสู้ที่ทรงพลังพุ่งลงไป!