Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1297

Cover Renegade Immortal 1

1297. เร็วเข้า!!!

ทว่าโลกในรอยแยกอวกาศนี้มีสีม่วง และสีม่วงก็เข้มข้นยิ่ง คลื่นใต้น้ำอันเย็นเยียบกำลังเคลื่อนไหวและก่อกวนจนทำให้โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหยั่งถึง

ขณะที่หลี่เฉียนเหมยเริ่มจะเช็ดน้ำตา นางลืมตาขึ้นมามองไปยังต้นตอของเสียงหัวเราะ แสงยักษ์พลันเข้ามาใกล้และพุ่งเข้าใส่แสงสีฟ้าอย่างรุนแรง!

แสงสีฟ้าสั่นเทาและพังทลายไปชั่วขณะ อสูรดุร้ายหลายตัวพุ่งคำรามเข้าหาหลี่เฉียนเหมย!

หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นและมองออกไปไกล เขาไม่อาจเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่พอจะเห็นความผันผวนของวิชาได้จากตรงนั้น!

ภายในความผันผวนมีกลิ่นอายที่เขาคุ้นเคย เป็นกลิ่นอายของหลี่เฉียนเหมย!

ความคิดจิตใจหวังหลินสั่นเทา พุ่งเข้าหาต้นกำเนิดความผันผวนอย่างไม่ลังเล อสูรดุร้ายมากมายมหาศาลพุ่งเข้าหาหวังหลินอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเขาแดงฉานพลางใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและโบกสะบัด พลังดั้งเดิมควบแน่นส่งเสียงกึกก้องไปทั่วโลก

อสูรดุร้ายสลายกลายเป็นหมอกโลหิตทีละตัว จากนั้นเขาก็ทะยานให้เร็วขึ้น อสูรยุงนับหมื่นล้อมรอบเขาด้วย เปลี่ยนหวังหลินให้กลายเป็นวังวนสังหาร ยามที่เขาผ่านไปจะไม่มีอสูรตัวใดเหลือรอดแม้แต่ตัวเดียว!

“ตาย ตาย ตาย ตาย!!” ดวงตาหวังหลินบ้าระห่ำ อสูรรอบด้านตายอย่างต่อเนื่อง มีเสียงร้องโหยหวนมากยิ่งขึ้น

การเข่นฆ่าดำเนินต่อไป ความเร็วของหวังหลินเพิ่มขึ้น เขาฆ่าล้างพวกอสูรนับไม่ถ้วนทะยานทะลุผ่านไป!

มีโลหิตและกลิ่นคาวเต็มไปทั่วทุกที่ แม้กระทั่งสีม่วงเองยังดูเหมือนจะเป็นสีแดงเข้ม! ด้วยความเร็วนี้หวังหลินจึงเข้าไปใกล้ตำแหน่งความผันผวนของวิชาได้ เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายอ่อนแอออกมาจากตรงนั้น ดูเหมือนหลี่เฉียนเหมยกำลังเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวง!

หวังหลินร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึก พลังดั้งเดิมรวมกันในฝ่ามือและส่องสว่างเจิดจ้า เขายิงมันเข้าไปในอากาศและพังทลายกลายเป็นก้อนเมฆส่องสว่าง ทำให้โลกอันมืดมิดแห่งนี้สว่างขึ้นมาในทันที

วินาทีที่โลกส่องสว่าง หวังหลินจึงเห็นเหตุการณ์ที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต!

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ความคิดจิตใจสั่นเทา ส่งเสียงร้องคำรามสั่นสะเทือนจนสามารถทำให้โลกพังทลายลงได้ ร่างกายสั่นสะท้านและความบ้าคลั่งรุนแรงระเบิดออกมา!

เขาเห็นสตรีชุดขาวใบหน้าซีดเผือดกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนเข้าหาเขาที่กำลังถูกอสูรนับไม่ถ้วนล้อมรอบ

ทว่ารอยยิ้มนี้ดูเหมือนจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ รอบๆตัวนางมีแสงสีฟ้าเบาบางแต่เงาเหมือนแส้ยักษ์นั้นก็ฟาดเข้าใส่แสงสีฟ้า

แสงสีฟ้าพลันหายไป แส้ทะลุผ่านแสงเข้าไปและพุ่งหาหลี่เฉียนเหมย! เมื่อแส้นั้นแตะถึงตัวนาง หลี่เฉียนเหมยก็จะตาย!

กาลเวลาดูเหมือนจะเชื่องช้าลง หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาร้องคำราม เผยท่าทีดุดันและบ้าคลั่งชี้ใส่แส้ยักษ์ ร้องตะโกนว่า “หยุด!”

กฎที่มิอาจบรรยายได้เต็มไปทั่วโลกและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นด้ายมากมายพัวพันรอบแส้ยักษ์ แส้นั้นเชื่องช้าลงแต่ไม่ได้หยุดนิ่ง!

เมื่อมันช้าลง ความคิดหวังหลินขาวโพลน สิ่งเดียวในใจเขาตอนนี้คือช่วยหลี่เฉียนเหมยเท่านั้น เขายกเท้าขวา ปรากฏระลอกคลื่นใต้ฝ่าเท้า พลันหายไปและผสานเข้ากับโลกด้วยวิชาบิดมิติ!

แส้ยักษ์มีพลังลึกลับและไม่ยอมหยุดแม้จะเป็นกฎก็ตามที วิชายับยั้งรอบๆมันพังทลายพร้อมกับเสียงปะทุ แส้เข้ามาให้หลี่เฉียนเหมยมากขึ้นและมากขึ้น

หลี่เฉียนเหมยไม่สามารถหลบหรือต่อต้านได้เลย ตอนนี้พลังชีวิตของนางแทบจะหมดแล้ว นางเป็นเหมือนตะเกียงน้ำมันแห้ง ถึงแม้แส้จะไม่ได้ตีเข้ามาแต่นางก็คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อาการบาดเจ็บของนางทำให้วิญญาณดั้งเดิมพังทลายไปแล้ว เหตุผลเดียวที่นางยังมีชีวิตรอดคือความต้องการที่อธิบายออกมาไม่ได้

หลังจากนางเห็นหวังหลิน จึงเผยรอยยิ้มออกมา นางพอใจและสามารถตายได้แล้ว นางเพียงแค่อยากจะเห็นหวังหลินเท่านั้น พอเห็นว่าเขาเป็นอยู่ดี เห็นเขาตื่นขึ้นมาก็เพียงพอสำหรับนางแล้ว

นางเหนื่อยและหนาวเย็นมาก ดูเหมือนสิบปีที่ผ่านมานางใช้ไปทุกอย่าง ตอนนี้ทั้งหมดนั้นกำลังระเบิดและกำลังจะถาโถมเข้าใส่

แส้ยักษ์เข้ามาใกล้แล้ว เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พู่กันสีทองในมือเกิดการแตกสลาย แส้ฟาดเข้าใส่ร่างหลี่เฉียนเหมย

อย่างไรก็ตามตอนที่แส้อยู่ห่างจากร่างนางได้เจ็ดนิ้ว เสียงคำรามบ้าคลั่งดังกึกก้อง ฝ่ามือทรงพลังปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าข้างๆหลี่เฉียนเหมยและคว้าแส้เอาไว้!

หวังหลินก้าวเดินออกมาจากความว่างเปล่า เส้นเลือดบนร่างปูดบวม ดวงตาแดงเข้ม เขายืนอยู่เบื้องหน้าหลี่เฉียนเหมยราวกับภูเขาที่ขวางทางลมและฝน รวมถึงชีวิตและความตายด้วย!

หลี่เฉียนเหมยมองหวังหลิน รอยยิ้มของนางยิ่งอ่อนโยน อย่างไรก็ตามดวงตาหมองแม่น แสงจากแววตาค่อยๆหายไป

วินาทีที่มือหวังหลินคว้าแส้เอาไว้ พลังอันแข็งแกร่งเข้าสู่ร่างเขาราวกับรถม้าสิบล้านตันกระแทกใส่ แม้กระทั่งหวังหลินยังสั่นสะเทือนและกระอักโลหิต แต่เขาไม่ยอมก้าวถอยหลังเพราะด้านหลังคือคนที่เขาต้องช่วยชีวิต สตรีนามว่าหลี่เฉียนเหมย!

ในทั้งชีวิตหวังหลินทำเพื่อหวานเอ๋อร์คนเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้มีสตรีอีกคนที่เขาติดค้างมากเกินไป หากเขาไม่ทำเช่นนี้คงไม่อาจเรียกตัวเองว่าบุรุษได้!

ใบหน้าเผยความดุร้าย จังหวะพลังแข็งแกร่งเข้ามา ร่างกายหวังหลินเกิดเสียงปะทุดังสนั่น เขาร้องคำราม แขนขวาดึงแส้อย่างรุนแรง! ดวงดาวเทพโบราณปรากฏขึ้นมาและหมุนอย่างรวดเร็ว พลังเทพโบราณเต็มไปทั่วร่างและรวมกันในมือขวา เงาร่างเทพโบราณปรากฏขึ้นรอบตัวเขา หวังหลินส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือน!

“แหลกไปซะ!!!” ยามที่หวังหลินคำราม เสียงดังลั่นออกมาจากแส้ จากนั้นมันก็พังทลายทันที!

ทว่าตอนที่มันพังทลาย กลิ่นอายทรงพลังกวาดเข้าหาหวังหลิน เขายังไม่ถอยและยืนอยู่เบื้องหน้าหลี่เฉียนเหมย หวังหลินกระอักโลหิตแต่แววตาเย็นเฉียบรุนแรง!

“ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเอาชีวิตของนางไป!”

หลี่เฉียนเหมยยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้น นางมองหวังหลินและกล่าวเสียงเบา “ขอบคุณ…” นางค่อยๆหลับตาลงราวกับกำลังหลับใหล

หวังหลินสั่นสะท้านและหันตัวกลับทันที แขนขวาสร้างผนึกและชี้ใส่หลี่เฉียนเหมย พลังดั้งเดิมเข้าไปในร่างกายนางและผนึกพลังชีวิตที่กำลังสลายไปทั้งหมด

ทว่าไม่มีอะไรจะหยุดกลิ่นอายแห่งความตายและพลังชีวิตที่กำลังสลายได้ วิญญาณดั้งเดิมของนางอ่อนแอเกินไป วิญญาณเริ่มจะแตกสลาย ร่างกายสูญเสียความงามไปหมดสิ้น เพียงรอยยิ้มของนางก็ประทับอยู่ในความทรงจำหวังหลินตลอดกาล

“ห้ามตาย! เจ้าห้ามตายนะ!” หวังหลินเผยความเศร้าออกมา อีกครั้งแล้วที่เขารู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้ พันกว่าปีก่อนเขาก็เฝ้ามองดูหญิงสาวแก่ชราในมือตัวเองและค่อยๆตาย สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือร่างกายและวิญญาณของนางที่กำลังหลับใหล

ผ่านไปอีกพันปี เขาเห็นสตรีอีกคนที่กำลังเหี่ยวแห้งเหมือนดอกไม้อยู่เบื้องหน้า

“หากมีวันหนึ่งข้าไม่อยู่ที่นี่แล้ว ท่านจะจำได้ไหมว่าในชีวิตท่านมีสตรีคนหนึ่งนามว่าหลี่เฉียนเหมยที่ผ่านเข้ามา…”

“หากข้าไม่กลับมาแล้ว…ข้าหวังว่าท่านจะจำได้…”

ความเศร้าท่วมท้นในแววตาหวังหลิน วินาทีนี้เขาคิดถึงลี่มู่หวาน คนรักที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ในโลงศพเลี่ยงสวรรค์ อย่างไรก็ตามโลกนี้โหดร้ายและทำให้ความรู้สึกเศร้ากลับมาอีกครั้ง!

“ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย!!” หวังหลินเอ่ยคำพูดที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจ เขายกมือขวาขึ้นมาชี้ใส่หลี่เฉียนเหมย!

“ห้วงเวลา!”

วิชาห้วงเวลาปรากฏขึ้นทันทีเผยเป็นประตูหินยักษ์ตั้งตระหง่านเหนือโลก กลิ่นอายเก่าแก่แพร่กระจายออกมาและมีพลังแห่งเวลาห่อหุ้มหลี่เฉียนเหมย

วินาทีนี้ พลังชีวิตของนางที่กำลังมอดดับไปไม่คาดคิดว่าจะ…ช้าลง! อย่างไรก็ตามวิชาห้วงเวลาไม่สามารถหยุดการไหลของเวลาได้ เมื่อมันหยุดลง พลังชีวิตของหลี่เฉียนเหมยจะสลายไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น จากนั้นอาจจะมีคนอื่นชื่อหลี่เฉียนเหมยแต่จะไม่มีใครเป็นแบบนาง!

วิชาห้วงเวลาจากแขนขวาหวังหลินทำการสูบเอาพลังดั้งเดิมของเขาไปเรื่อยๆโดยที่หวังหลินอุ้มหลี่เฉียนเหมยไว้ในอ้อมแขน เขามองโลกอันมืดมิดรอบๆตัวและเผยจิตสังหารมหึมา!

วินาทีนี้พลันเกิดเสียงคำรามดังออกมาจากห้วงอวกาศ ปรากฏเงาเหมือนแส้ยักษ์ขึ้นมาสองสายและฟาดใส่หวังหลินอย่างรุนแรง!

ห่างออกไปไกลมีอสูรดุร้ายไม่มีที่สิ้นสุดกำลังร้องคำรามกระหายเลือดและพุ่งใส่หวังหลิน! ห่างออกไปไกลกว่านั้นมีอสูรร่างยักษ์หลายคนที่มองหวังหลินด้วยสายตาชั่วร้าย

ยังมีฝูงอสูรอีกมากมายรอบตัวเขา!

“เฉียนเหมย ข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่นี่!” หวังหลินหลับตาและวางแขนขวาตรงกลางหน้าผาก เขตอาคมอันซับซ้อนกะพริบวูบวาบ

แขนซ้ายยื่นออกไปหาคิ้วและฉีกลงมาอย่างรุนแรง! หวังหลินได้เปิดผนึกที่เขาวางเอาไว้ในระดับบ่มเพาะหลังจากออกมาจากดินแดนเจ็ดสี วินาทีนี้หวังหลินจึงแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่บ่มเพาะฝึกเซียนมาสองพันปี!

……………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version