1302. ปกคลุมผืนฟ้าด้วยมือเดียว
เสียงสายฟ้าคำรามดังสะท้อนอย่างบ้าคลั่งออกมาจากก้อนเมฆ พวกมันเชื่อมต่อกันไม่มีที่สิ้นสุดก่อตัวเป็นเสียงอึกทึกรุนแรง!
เสียงของสายฟ้านี้เกินคำอธิบายไปแล้ว เสียงแพร่กระจายไปตามอวกาศและผลักสายหมอกออกไป พวกอสูรหมอกจำนวนมากตายไปเพราะคลื่นกระแทกด้วยซ้ำ
แผ่นดินป่าล่มสลายทีละจุด แม้กระทั่งค่ายกลสำนักมารยังกะพริบวูบวาบเนื่องจากต้านทานพลังอำนาจที่เพิ่มขึ้นของสายฟ้าที่ดูเหมือนอยู่มาตั้งแต่บรรพกาล!
เหล่าเซียนนับไม่ถ้วนในสำนักมารต่างก็ตัวสั่นเบื้องหน้าสายฟ้านี้และไม่กล้าต่อต้านมันเลย ราวกับพวกเขาเป็นแค่มดปลวกอยู่ใต้อำนาจสวรรค์และไม่อาจทนยืนไหวใต้อำนาจนี้!
‘ทัณฑ์สวรรค์แบบนี้…ทัณฑ์สวรรค์แบบนี้…’ วินาทีนี้สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์แกะสลักลงไปในใจเซียนทุกคนและเกิดเป็นตราประทับที่ไม่อาจลบเลือนออกไปได้!
หากพวกเขาไม่สามารถทะลวงผ่านตราประทับนี้ได้ก็จะทำให้ระดับบ่มเพาะหยุดลงตลอดชีวิตที่เหลือ แต่หากสามารถทะลวงผ่านออกไปได้ ระดับบ่มเพาะแต่ละคนจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล!
เสียงสายฟ้ารุนแรงหนาแน่นไปทั่วอวกาศ วินาทีต่อมาเสียงดังขึ้นจนฉีกกระชาก สายฟ้าแพร่กระจายผ่านเขตระดับเก้า แม้แต่เขตระดับแปดยังได้ยินชัดเจน!
“เสียงแห่งการลงโทษ…เสียงแห่งการลงโทษ…” สายฟ้าดูเหมือนจะดังกึกก้องด้วยสองคำนี้ เมื่อสายฟ้ากดทับทุกเสียงในโลก ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากก้อนเมฆและห่อหุ้มไปทั่วเขตระดับเก้า
เหล่าสายฟ้าเป็นสีม่วงและพุ่งออกไปอย่างงดงามเข้าหารอยแยกอวกาศนอกสำนักมาร! ประกายสายฟ้าสีม่วงแทนที่ทุกอย่างในท้องฟ้าและดึงดูดความสนใจของเซียนทุกคนในเขตระดับเก้า
มีสายฟ้ามาเกินไปทั้งยังหนาแน่นยิ่ง ส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!
ขณะที่เหล่าสายฟ้าพุ่งออกไป ดูเหมือนพวกมันจะข้ามผ่านระยะทางอันห่างไกลในพริบตา ราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถหยุดพวกมันได้และระยะทางไม่มีอยู่จริงสำหรับพวกมัน!
เหล่าสายฟ้าไร้ขอบเขตได้ทะลุผ่านก้อนเมฆจนก่อหุ้มทั้งเขตระดับเก้าในพริบตา ก่อตัวเป็นตาข่ายยักษ์ล้อมรอบรอยแยกอวกาศและควบแน่นเป็นสายฟ้ายาวหมื่นฟุต!
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
สายฟ้าพุ่งเข้าหารอยแยกพร้อมด้วยจิตสังหารที่หวังจะทำลายทุกอย่างที่มันตกลงไป! สายฟ้าดึงดูดความสนใจของทุกคนจนความคิดขาวโพลน สิ่งเดียวในหัวคือสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์นี้มันเหนือคำบรรยาย!
ประกายสายฟ้านี้ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดจะขัดขวางหรือต่อต้านได้ ขณะที่มันตกลงไปบนรอยแยกอวกาศ ร่างสีแดงตนหนึ่งก้าวเดินออกมา
เมื่อร่างนั้นปรากฏ กลิ่นคาวเลือดมหาศาลตามติดมาด้วย ทั้งจากเสื้อผ้าบนร่างและกลิ่นอายของเขา ราวกับเขาสังหารไปเยอะมากในรอยแยกอวกาศจนกลิ่นคาวเลือดรวมกันรอบตัวเขา!
เขาปรากฏตัวในขณะที่สายฟ้าตกลงมา มันเข้าประชิดรวดเร็วเกินไป มันกำลังจะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่านและทำให้หายวับไปจากโลกนี้!
ร่างสีแดงนั้นคือหวังหลิน!
วินาทีที่สายฟ้าเข้ามาใกล้ หวังหลินใช้แขนขวาปกป้องหลี่เฉียนเหมยและแขนซ้ายต้านทานกับสายฟ้า!
หนึ่งคนหนึ่งฝ่ามือและสองดวงตาไม่แยแสนั้นดูเหมือนจะปกคลุมผืนฟ้า วินาทีที่เขาก้าวเดินออกมาจากรอยแยก ดูเหมือนเขาจะท้าทายสวรรค์และอำนาจแห่งทัณฑ์สวรรค์ไปแล้ว!
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!
สายฟ้าและฝ่ามือหวังหลินเข้าปะทะกันก่อเกิดเป็นเสียงดังรุนแรงยิ่ง อวกาศรอบๆหวังหลินพังทลาย รอยแยกอวกาศด้านหลังเขาฉีกขาดจนเปิดกว้างออกไปหลายเท่า!
ร่างกายเขาสั่นเทา แขนซ้ายสั่นไหวเล็กน้อย ทว่าสีหน้าเป็นปกติธรรมดาและบีบมืออย่างรุนแรง!
“สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์มันไร้ประโยชน์ที่จะสู้กับข้า!” ขณะที่บีบรัด เสียงดังสนั่นกึกก้อง สายฟ้าคำรามอย่างบ้าคลั่ง อำนาจที่ไม่คาดคิดโผล่ออกมาจากแขนซ้ายหวังหลิน เขากำลังจะต่อสู้เพื่อควบคุมสายฟ้าจากสวรรค์!
สองอำนาจในสายฟ้าเข้าปะทะกันจนสายฟ้าระเบิดออกมาโดยมีหวังหลินเป็นจุดศูนย์กลาง วินาทีนั้นทั่วทั้งโลกดูเหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นแอ่งสายฟ้า!
เสียงดังสนั่นดำเนินต่อไป ถึงแม้สายฟ้าจะพังทลาย หวังหลินไม่เหมือนกับที่ผ่านมาแล้ว เขาไม่ได้จะต่อต้านเสียงทัณฑ์สวรรค์แต่จะทะลวงทัณฑ์สวรรค์ไปด้วย
มือขวาจับหลี่เฉียนเหมยเหวี่ยงนางไว้ข้างหลัง พลังดั้งเดิมก่อตัวเป็นเชือกผูกทั้งสองไว้ด้วยกัน หลังจากทำเช่นนี้แล้วหวังหลินใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างสร้างผนึกและโบกสะบัด แอ่งสายฟ้าที่มีเขาอยู่ตรงกลางพลันร้องคำรามอีกครั้ง!
“ข้าคือสายฟ้า ด้วยสิทธิ์การควบคุมสายฟ้า สายฟ้าทั้งมวลจงฟังคำสั่งข้า ยกขึ้น!” คำพูดหวังหลินเต็มไปด้วยอำนาจ เสียงดังสนั่นกึกก้อง สายฟ้าสีม่วงร้องคำรามและพุ่งเข้าหาเขา
แสงสายฟ้าไร้ขอบเขตและหมุนเป็นวงกลมรอบหวังหลิน ผู้คนในสำนักมารต่างก็หวาดกลัวและตะลึงงันกับเรื่องทั้งหมดนี้!
ผู้อาวุโสระดับสูงมีแววตาเปล่งประกายเจิดจ้าและสูดหายใจลึก!
หวังหลินชี้นิ้วไปที่ก้อนเมฆในท้องฟ้าและร้องคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ “จงทำลายทัณฑ์สวรรค์ให้ข้าซะ!”
สายฟ้าดังสนั่นกึกก้องดูบ้าคลั่ง จากนั้นก่อตัวเป็นสายฟ้าขนาดหมื่นฟุต พุ่งเข้าหาก้อนเมฆด้วยอำนาจหวังหลินอยู่เต็มเปี่ยม
ก้อนเมฆและสายฟ้าปะทะกันส่งเสียงดังสนั่นคึกคะนอง เสียงรุนแรงกว่าครั้งไหนๆและแพร่กระจายไปทั่วเขตระดับเก้า!
ณ สำนักเทพเจ้า มู่ปิงเหมยตื่นจากการบ่มเพาะฝึกฝนในระยะเวลาสิบปี นางมองออกไปข้างนอกและพบว่าท้องฟ้ามืดมิดและสั่นเทารุนแรงราวกับกำลังล่มสลาย!
หวังซานซานด้านข้างนางหน้าซีดและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ลึกเข้าไปในสำนักเทพเจ้า ในห้องที่ฉุยต้าวอยู่ แสงเจ็ดสีตรงกลางหน้าผากทุเลาลง ปลายลิ่มเจ็ดสีเผยตัวมันเองออกมา เส้นเลือดบนร่างกายเขาปูดพอง เขากำลังบังคับลิ่มเจ็ดสีออกมา!
สายฟ้าดังสั่นจากก่อนหน้านี้ไม่ได้รบกวนเขาเลย เขากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตและถึงแม้ท้องฟ้าจะล่มสลาย เขาก็คงไม่มองดู สมาธิทั้งหมดของเขากำลังเพ่งบังคับให้ลิ่มเจ็ดสีออกมา
ทว่าวินาทีนั้นสายฟ้าดังสนั่นกึกก้องอีกครั้ง ทั้งยังแฝงอำนาจของหวังหลินอยู่ในเสียงด้วย มันตกเข้าถึงหูของฉุยต้าว ลิ่มเจ็ดสีที่หมองหม่นไปแล้วและกำลังจะถูกดันออกมา วินาทีนั้นพอมีอำนาจหวังหลินดังสะท้อนกึกก้องจึงเปล่งประกายเจิดจ้าอีกครั้ง!
แสงกะพริบรุนแรงทำให้ฉุยต้าวสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล เขากระอักโลหิต สิ่งที่ทำไปอย่างยากลำบากกลับไม่เสร็จสิ้น!
เขาจ้องไปข้างหน้าและร้องคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!
สำนักทะลวงสวรรค์ในเขตระดับเก้าต่างก็ได้ยินเสียงสายฟ้านี้และเห็นก้อนเมฆกำลังม้วนตัว พวกเขาเปิดค่ายกลป้องกันสำนักขึ้นมาทันที!
จ้าวสำนักทะลวงสวรรค์นั่งอยู่ในห้องปิด จ้องมองบนท้องฟ้าดวงดาราอย่างเงียบเชียบ หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ถอนหายใจและสะบัดแขนเสื้อ ทะลวงเปิดค่ายกลสำนักและพุ่งเข้าหาก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ที่กำลังพุ่งเข้าหารอยแยกในสำนักมาร!
นอกจากสำนักมาร สำนักเทพเจ้าและสำนักทะลวงสวรรค์ ยังมีสำนักภูตผีอยู่อีกด้วย! ตอนนี้ลึกเข้าไปในก้อนเมฆ มีดาวเคราะห์เซียนดวงหนึ่งที่เปิดค่ายกลป้องกันไว้แล้ว ทว่ามีเงายักษ์ร่างหนึ่งอยู่เหนือค่ายกล เงานี้มีเขาเดียวราวเทพปีศาจ!
มันจ้องไปที่ก้อนเมฆด้วยความโลภและปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้าย ในแววตามีดวงดาวปีศาจทั้งเก้ากำลังหมุนติ้ว ทุกครั้งที่หมุนจะมีพลังลึกลับเข้าไปในร่างมัน
เสียงดังสนั่นแพร่กระจายออกจากเขตระดับเก้าเข้าสู่เขตระดับแปด ทำให้เหล่าเซียนในเขตนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล ความคิดแต่ละคนสั่นไหวและตกอยู่ในอาการสับสน
นอกรอยแยกอวกาศถัดจากสำนักมาร หวังหลินนำพาหลี่เฉียนเหมยและมองขึ้นไปบนก้อนเมฆสีม่วง ทัณฑ์สวรรค์นี้ทรงพลังที่สุด! มันประหลาดยิ่งนัก เขาอดคิดไม่ได้ว่าเหมือนตอนที่อยู่ในดาราจักรพันธมิตรเซียน เขาเห็นโลกประหลาดที่มีทั้งรูปปั้นเหล่ามารโบราณ ปีศาจโบราณและเทพโบราณตั้งอยู่ พร้อมกับมีผู้เยาว์ลึกลับนั่งอยู่บนรูปปั้น!
สายตาเขาเจาะทะลวงก้อนเมฆและเห็นชัดถึงตำหนักหยกขาวซึ่งโผล่ออกมาเกือบสุดเข้าสู่อีกโลกใหม่ เขายังเห็นว่ามีรูปปั้นคนนั่งอยู่บนตำหนักและมีกระบี่หินสองเล่มเบื้องหน้ารูปปั้น!
“ทัณฑ์สวรรค์นี้ยังไม่กระตุ้นอย่างสมบูรณ์ มันไม่มากพอจะทะลวงผ่านค่ายกลดินแดนปิดผนึกได้!”
วินาทีนั้นหนึ่งในสองกระบี่หินด้านหน้ารูปปั้นเกิดการสั่นเทาและปลดปล่อยควันสีเขียวราวกับก้อนเมฆและเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่เขียวทันที มันปลดปล่อยปราณกระบี่สั่นสะเทือนสวรรค์และเกินบรรยายออกมาพร้อมกับทะลวงผ่านก้อนเมฆและพุ่งหาหวังหลิน!
หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ยามกระบี่เขียวเข้าใกล้ เขายกนิ้วและชี้ออกไป กวางสองตัวปรากฏขึ้นมาพร้อมกับพลังปราณกระบี่สิบล้านสายระเบิดขึ้น เสียงคำรามดังกึกก้องแต่ปราณกระบี่ทั้งสิบล้านไม่ได้กระจายไปไหน พวกมันควบแน่นเป็นหนึ่งกระบี่และพุ่งเข้าหากระบี่เขียว
กระบี่เขียวปะทะกับปราณกระบี่สิบล้านสายของหวังหลินจนเกิดเสียงดังกึกก้อง แสงกะพริบวูบวาบ เกิดเสียงปะทุพร้อมกับกระบี่เขียวอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องแต่มันก็ยังไม่สลายหายไป วินาทีนั้นกระบี่ที่ปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมาเกิดการสั่นเทาและเกิดรอยแตกร้าว ท้ายที่สุดกระบี่ก็แตกหักเรืองแสงสีเขียวทรงพลังพุ่งหาหวังหลิน!
หวังหลินหรี่ตาแคบทันที สีหน้าอาการเคร่งเครียด เขาสะบัดแขนขวาจึงเกิดแสงโลหิตกะพริบวาบพร้อมกับกระบี่โลหิตปรากฏขึ้นในมือ!
…………………………………..