1303. ค่ายกลดินแดนปิดผนึก
กระบี่โลหิตดูดซับเลือดจำนวนมากจากเหล่าอสูรดุร้ายและหล่อเลี้ยงในทะเลโลหิต พอปรากฏขึ้นมาจึงปลดปล่อยแสงโลหิตมหึมา แม้กระทั่งก้อนเมฆในท้องฟ้ายังถูกแสงสีแดงโลหิตเจาะทะลวง
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง กวัดแกว่งกระบี่โลหิตในมือ เมื่อกระบี่เขียวเป็นอิสระได้และพุ่งเข้าหา หวังหลินกวาดกระบี่โลหิตใส่ทันที!
วินาทีนั้นเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง รอยแยกอวกาศฉีกขาดชนเข้ากับกระบี่เขียว!
กระบี่เขียวส่งเสียงฟู่แหลมๆ แสงสีเขียวแตกสลาย แสงโลหิตจำนวนมากที่พัวพันกับมันถอยกลับไปอย่างรวดเร็วด้วย
กระบี่โลหิตถูกชักออกจากฝักและส่งเสียงดังกระหึ่ม ปลดปล่อยกลิ่นอายดุร้ายเกินพรรณนาและทำการไล่ล่า!
วินาทีนั้นเกิดรอยแตกร้าวขึ้นบนกระบี่อีกเล่มด้านหน้ารูปปั้นบนตำหนักหยกขาว มันระเบิดปลดปล่อยแสงสีฟ้าทรงพลัง ลอยละล่องออกมาและเริ่มต่อต้านกระบี่โลหิตร่วมกับกระบี่เขียว!
สามกระบี่ปะทะกันจนทำให้อวกาศเกิดการสั่นสะเทือน!
ต้นกำเนิดของกระบี่โลหิตนั้นลึกลับมากและยังแฝงพลังอันไร้ขอบเขต ทำได้กระทั่งเทียบชั้นกับสองกระบี่ของทัณฑ์สวรรค์ได้ ไม่ด้อยกว่าทั้งยังดุร้ายยิ่งยวด!
ยามกระบี่ทั้งสามปะทะกันจึงเกิดเสียงสายฟ้าคำรามดังออกมา คลื่นแรงกระแทกโผล่ออกมาจากก้อนเมฆ แรงกดดันแทบก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ตำหนักหยกขาวเบียดช่องออกมาได้อีกเล็กน้อย!
ด้านหลังรูปปั้นบนตำหนักยังมีกระบี่อีกสองเล่ม หนึ่งในนั้นพลันแตกร้าวและมีกระบี่สีดำพุ่งออกมา ทั้งสามร่วมมือกับกระบี่เขียวและกระบี่ฟ้าเข้าข่มกระบี่โลหิต
การโจมตีของกระบี่ลึกลับทั้งสามเล่มเพียงแค่ทำให้กระบี่โลหิตคลุ้มคลั่งมากขึ้น แสงสีแดงมีจำนวนมหาศาลแต่มันก็ค่อยๆถดถอยราวกับชัดเจนว่าไม่คู่ควร
กระบี่โลหิตมีจิตวิญญาณของตัวเอง มันส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวใส่กระบี่ทั้งสามที่เห็นได้ชัดว่าด้อยกว่ามัน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินก้าวไปข้างหน้า ดวงดาวเทพโบราณกลางหน้าผากหมุนติ้วอย่างบ้าคลั่ง เมื่อการหมุนถึงขีดสุด หวังหลินชี้นิ้วใส่กลางหน้าผาก โลหิตหนึ่งหยดลอยออกมา
โลหิตนี้ไม่ใช่แก่นโลหิตของเขา มันถูกสร้างขึ้นจากดาวเทพโบราณ โลหิตลอยออกไปใส่กระบี่โลหิตและถูกมันดูดซับ กระบี่ปลดปล่อยแรงกดดันอันน่าตกตะลึง แสงโลหิตหนาแน่นขึ้นหลายเท่า
เงาโลหิตยักษ์ปรากฏขึ้นจากตัวกระบี่โลหิต ร่างเงาพร่ามัวและดูเหมือนมนุษย์ หลังจากปรากฏขึ้นมา กระบี่โลหิตกวาดไปข้างหน้า กระบี่สีสันทั้งสามเล่มล่าถอยทันที ส่งเสียงปะทุกึกก้องและเห็นได้ชัดว่าไม่คู่ควร
วินาทีนี้กระบี่หินเล่มสุดท้ายพลันแตกสลายและเรืองแสงสีทอง ใช้แรงกดดันทรงพลังและปราณกระบี่เข้าปะทะกับกระบี่โลหิต
ปัง!
กระบี่โลหิตถอยร่นอีกครั้ง
กระบี่ทั้งสี่เล่ม สีเขียว ฟ้า ดำและทองต่างลอยขึ้นไปในอากาศ พวกมันเริ่มหมุนเป็นวงกลมก่อตัวเป็นวังวนยักษ์ ราวกับมีอีกโลกที่ปั่นป่วนอยู่ข้างใน!
โลกข้างในพร่ามัวแต่เห็นชัดว่ามีดวงดาวมากมายที่มีคนธรรมดาอยู่บนนั้น พวกเขาต่างก็พึมพำและมีเสียงประหลาดดังออกมาจากวังวนอาจสั่นสะเทือนจิตใจทุกคนได้
น้ำเสียงดังไปทั่วทั้งเขตระดับเก้าและเจาะใส่ค่ายกลป้องกันสำนัก เข้าสู่จิตวิญญาณเซียนทุกคนรวมถึงเหล่าสัตว์อสูร!
“ดินแดนพารามีตาหนึ่งเปิดโทษทัณฑ์ หนึ่งสิ้นสุดโทษทัณฑ์…เหล่าผู้มีชีวิตอันนิรันดร์และได้รับเต๋าอันยิ่งใหญ่ จักสามารถขจัดความเจ็บปวดทั้งหมดและดิ้นรนกลายเป็นศิษย์ของข้า…”
“เข้าสู่ดินแดนแห่งพารามีตาของข้าและเจ้าจะกลายเป็นความภาคภูมิใจของสวรรค์ เหนือล้ำกว่าคนอื่นและได้รับเต๋าแห่งสวรรค์…”
“เข้าสู่ดินแดนแห่งพารามีตาของข้า คนรักของเจ้าจักฟื้นคืนชีพและมีชีวิตอยู่ตลอดกาล เจ้าจะอยู่อย่างสบายใจและบรรลุเต๋าที่แท้จริง…”
“เข้าสู่ดินแดนแห่งพารามีตาของข้า วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ของเจ้าจะล่มสลาย จะไม่มีชีวิตและความตาย…”
“เข้าสู่ดินแดนแห่งพารามีตาของข้า จิตใจเจ้าจะสมบูรณ์และความคิดจะน้อมรับ…”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยแรงกดดันออกมาจากโลกในวังวน เสียงนี้ทรงพลังยิ่งจนบางคนเกิดความรู้สึกอบอุ่นเชื่อถือมัน
เหล่าเซียนที่เข้าไปในสำนักมารซึ่งหลบเลี่ยงทัณฑ์สวรรค์ต่างก็งุนงงสับสน ผู้เยาว์หนึ่งในนั้นมีแววตาพร่ามัวและถูกวังวนแทนที่ เขาดูยิ้มและมีความสุข
รอยยิ้มแปลกประหลาดยิ่ง วินาทีนั้นแสงก็ล้อมรอบตัวเขาและหายวับไป
พอเขาหายตัวไป เหล่าเซียนหลายร้อยคนรอบๆด้านเผยรอยยิ้มประหลาดแบบเดียวกัน แสงรอบตัวเขาและต่างก็หายไปทีละคน
“นี่มันคือการเรียกขานพารามีตาแห่งทัณฑ์สวรรค์ไร้จุดจบ จงเพ่งสมาธิตัวเอง ไม่เช่นนั้นจิตใจแห่งเต๋าของพวกเจ้าจะไม่มั่นคงและถูกเรียกเข้าไปในโลกในวังวน!” ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักมารจ้องมองวังวนอยู่นอกค่ายกล สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดยิ่ง
น้ำเสียงเขาดุจสายฟ้าฟาด ดังสนั่นกึกก้องไปทั่วสำนัก เซียนทั้งหมดที่ตื่นอยู่ตกอยู่ในอาการงุนงงอีกครั้ง
ที่หายไปไม่ใช่เพียงแค่คนของสำนักมารเท่านั้น ยังมีสำนักภูตผี สำนักเทพเจ้า สำนักทะลวงสวรรค์และเหล่าอสูรหมอกดุร้ายที่หายไปพร้อมพวกเขาด้วย
หวังหลินล้อมรอบด้วยกระบี่โลหิต มองไปยังวังวนที่สร้างขึ้นจากกระบี่สี่เล่ม เสียงประหลาดนั้นเข้าสู่จิตใจเขาเช่นกันแต่เพราะหวังหลินเป็นคนที่กำลังอดทนต่อเสียงทัณฑ์สวรรค์ จึงได้ยินชัดกว่าคนอื่น ทว่าเสียงในหัวนั้นไม่เหมือนเดิมแต่กำลังเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง!
บางครั้งก็เป็นเสียงของแม่ บางครั้งก็เป็นเสียงพ่อ บางครั้งเป็นลี่มู่หวานและหวังผิง บางครั้งเป็นจักรพรรดิวิหคเพลิงคนเก่า น้ำเสียงทั้งหมดนี้เอนเอียงและก่อตัวเป็นน้ำเสียงประหลาดดังกึกก้องในจิตใจเขา
“พารามีตา…” ในแววตากะพริบเย็นเยียบ จิตใจแห่งเต๋าของเขาแข็งแกร่งมากกว่าเซียนทั่วไป แม้กระทั่งเซียนเฒ่าบางคนที่บ่มเพาะมานานหลายพันปียังไม่ดีมากกว่าเขา หวังหลินเผชิญอันตรายมาหลายอย่างในชีวิต แค่ภาพมายานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเขาเลย
“นั่นคือพารามีตา?” เขายกแขนขวาขึ้นและพุ่งตัวออกไป กวัดแกว่งกระบี่โลหิตอย่างรุนแรงเข้าใส่วังวนที่สร้างขึ้นจากสี่กระบี่!
ฟ้าดินร้องคำราม แสงกระบี่วูบวาบตกลงใส่วังวน ทว่ามีพลังแข็งแกร่งโผล่ออกมาจากวังวนและปะทะใส่หวังหลิน
หวังหลินร่างสั่นสะเทือนและก้าวถอยไปหลายก้าว
วินาทีนั้นวังวนพลันหมุนเร็วขึ้นและหายเข้าไปในก้อนเมฆ ก้อนเมฆเริ่มร้องคำรามรุนแรงราวกับกำลังโดนวังวนดูดเข้าไป พวกมันกำลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
นาทีนี้ก้อนเมฆก่อร่างเป็นภูเขาเมฆ! ภูเขาแห่งนี้สูงจนสุดลูกหูลูกตาและเป็นสีม่วงสนิท ปลดปล่อยแรงกดดันสั่นสะเทือนสวรรค์
บนภูเขามีอักขระเวทย์จำนวนมากที่ตัดขวางกันก่อเป็นคำว่า “เต๋า!” ก้อนเมฆทั้งหมดเริ่มรวมกันอย่างบ้าคลั่งทำให้ภูเขาใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น กลายเป็นภูเขายักษ์ที่สามารถค้ำจุนสวรรค์ได้ด้วยตัวเอง!
ภูเขาก้อนเมฆกดทับลงใส่หวังหลินคล้ายกับต้องการบดขยี้หวังหลินให้แหลกเหลว!
แรงกดดันทรงพลังจนทำให้ค่ายกลป้องกันของสำนักมารเกิดอาการพังทลาย เสียงแตกร้าวพร้อมกับรอยแตกแพร่กระจายออกมา
ร่างหวังหลินเกิดเสียงปะทุพร้อมกับแรงกดดันมากมายโผล่ออกมาจากทุกทิศทาง ฝ่าเท้ากดลงต้านกับท้องฟ้าดวงดารา ส่งเสียงเกินจะทนไหว
ใบหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย พลังดั้งเดิมโคจรไปทั่วทั้งร่าง มองไปที่ภูเขาก้อนเมฆและดวงตาส่องสว่าง!
เขากำลังรอคอยจังหวะที่ทัณฑ์สวรรค์ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของมัน ซึ่งเป็นตอนนี้! หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นมา พลังดั้งเดิมทั้งหมดปะทุและกวัดแกว่งกระบี่โลหิตลงด้านล่าง ปรากฏรอยแยกอวกาศขนาดใหญ่พร้อมเสียงดังสนั่น!
รอยแยกอวกาศฉีกขาดเปิดออกทีละชั้น เพิ่มด้วยแรงกดดันทรงพลังจากภูเขากอ้นเมฆ รอยแยกอวกาศจึงพังทลายรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ รอยแยกอวกาศจึงฉีกขาดอย่างสิ้นเชิง!
ซึ่งเผยให้เห็นอวกาศด้านล่างท้องฟ้าดวงดารา!
อวกาศแห่งนี้คือตำแหน่งที่ค่ายกลดินแดนปิดผนึกตั้งอยู่!
เมื่อรอยแยกเปิดออก พลังงานเย็นพุ่งออกมา หวังหลินก้าวไปบนรอยแยกและเข้าไปในอวกาศแห่งนั้น! ภูเขาก้อนเมฆจับเป้าหมายของมันไว้แล้วและตกลงไป รอยแยกถูกฉีกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับภูเขาก้อนเมฆเข้าไป!
ปรากฏโครงสร้างเหมือนตาข่าย ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังหยุดสิ่งมีชีวิตทุกชนิดไม่ให้ทะลวงไป!
แววตาหวังหลินเผยแสงประหลาดและรีบเข้าไปในตาข่าย สองฝ่ามือสร้างผนึกส่งลงไปบนร่างกายจำนวนมาก วินาทีนั้นภูเขาก้อนเมฆไล่ตามมาและร่อนลงบนร่างหวังหลิน
หวังหลินยกแขนขึ้นทันทีราวกับกำลังค้ำจุนภูเขา จากนั้นส่งเสียงคำรามเกินคำอธิบาย ร่างหวังหลินสั่นเทาและกระอักโลหิตพลางเปลี่ยนพลังนี้ลงสู่ค่ายกลดินแดนปิดผนึก
ทั่วทั้งอวกาศพลันส่องสว่างและเผยตาข่ายไร้ขอบเขตจนบอกไม่ได้ว่าจบลงตรงไหน มันล้อมรอบไปทั่วทั้งดินแดนชั้นในและปกคลุมมานานในอดีต ไม่ว่าเซียนดินแดนชั้นในจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่สามารถทะลวงค่ายกลเปิดให้กว้างขึ้นให้คนเข้าไปดินแดนชั้นนอกได้!
มีเพียงเซียนที่แข็งแกร่งเกินบรรยายไม่กี่คนที่สามารถใช้ระดับบ่มเพาะทรงพลังทะลวงผ่านออกไปได้ด้วยตัวเอง!
ทว่าตลอดหลายชั่วอายุคน ไม่มีใครที่ยืมพลังอำนาจของทัณฑ์สวรรค์เพื่อทะลวงผ่านค่ายกลดินแดนปิดผนึกเลย หวังหลินเป็นคนแรก!
………………………………….