Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1410

Cover Renegade Immortal 1

1410. การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึง

เพลิงสีแดงโลหิตเต็มไปทั่วท้องฟ้าของบททดสอบมนุษย์ ก่อเกิดคลื่นความร้อนทรงพลังและพรั่งพรูใส่หวังหลิน พลังข้างในเพลิงนี้มากพอจะเผาไหม้สวรรค์ได้ด้วยซ้ำ

หวังหลินยืนอยู่บนวิหคศักดิ์สิทธิ์ทมิฬซึ่งอยู่ในเปลวเพลิง เขาสัมผัสความร้อนของเปลวเพลิงได้ และเมื่อคลื่นความร้อนเข้าใกล้จึงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกเผา

วิบากกรรมแรกคือสีแดง มันแสดงถึงการเข่นฆ่าทั้งหมดที่หวังหลินทำลงไปเพื่อความหลงใหล วิบากกรรมสังหารพรั่งพรูและเผาไหม้อย่างรุนแรง

วิหคศักดิ์สิทธิ์ด้านใต้หวังหลินส่งเสียงร้องโหยหวนภายใต้ความร้อนและเปลวเพลิง แม้แต่หวังหลินที่เพิ่งคืนรูปร่างวิญญาณขึ้นมาใหม่ยังแทบแตกสลายและกำลังจะ ถูกเผาทั้งเป็น

แม้เขาจะลองคาดเดาพลังของวิบากกรรมทั้งเก้าไปแล้ว หวังหลินไม่คิดว่า วิบากกรรมแรกจะยากยิ่งเกินทนได้ขนาดนี้

ภายในเปลวเพลิงสีแดงนี้ เพียงแค่ชั่วขณะเดียวเหมือนเป็นนานนับปี วิหคศักดิ์สิทธิ์ทมิฬไม่สามารถทนได้ ร่างกายหดลงอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงสีดำบนร่างเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง

หากมันเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงทั้งหมด วิหคศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิบากกรรมแรก จากนั้นพลังของมันจะเพิ่มพูนและคงจะกลืนกินหวังหลิน!

หวังหลินร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ในสายตาแฝงความบ้าคลั่ง วิบากกรรมแรกทรงพลังเกินจะคาดคิดและพบว่ามันยากเกินต้านทาน อย่างไรก็ตามหวังหลินไม่มีวันยอมแพ้ สะบัดแขนทั้งสองและสูดอากาศเข้าไป

“วิบากกรรมแรก มาดูกันว่าเจ้าจะเผาไหม้ข้าทั้งเป็นหรือข้าจะกลืนกินเจ้าได้ก่อน!!” อารมณ์บ้าคลั่งผุดขึ้นภายในหวังหลิน ยิ่งอันตรายเขาก็ยิ่งไม่ย่อท้อ!

ตอนนี้ในเพียงแค่สูดไปหนึ่งลมหายใจ เปลวเพลิงสีแดงทั้งหมดเข้าไปในปากหวังหลินและกลืนมันไปทันที!

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา เปลวเพลิงสีแดงทั้งหมดหายไปจากท้องฟ้าแต่กลับปะทุขึ้นในร่างกายเขา ร่างกายเหมือนชุ่มโลหิต แสงสีแดงโลหิตแทงทะลุผ่านร่างกายราวกับพยายามฉีกกระชากร่างออกเป็นชิ้นๆ

ร่างกายนี้ถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณหวังหลิน ตอนนี้มีเปลวเพลิงสีแดงกำลังเผาไหม้อยู่ในวิญญาณ

บนดาวมหาจักรพรรดิ ก้านธูปดอกแรกบนหลังเต่าเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง เบื้องหน้าสายตาทุกคนนั้นควันสีดำที่ออกมาจากก้านธูปแรกพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง ควันสีแดงล้วนมหึมาและส่องสว่างขึ้นไปทั้งดวงดาว

เซียนรอบด้านทั้งหมดอ้าปากค้างและต้องการถอยโดยไม่รู้ตัว

วินาทีนี้มีแสงสีแดงออกมาจากร่างหวังหลินเข้มข้นมากขึ้น แสงสีแดงเคลื่อนไปภายในร่างกายทำให้เกิดความร้อนถึงขีดสุด

ขณะเดียวกันการเผาไหม้ธูปดอกแรกพลันหยุดลงในชั่วจังหวะ เหมือนมีพลังสายหนึ่งระเบิดขึ้นจากภายในเพื่อหยุดการเผาไหม้

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองจ้องมองก้านธูปดอกแรกด้วยสายตาเป็นกังวล

ในบททดสอบมนุษย์หวังหลินได้กลืนกินเปลวเพลิงสีแดงทั้งหมด เขารู้สึกเหมือนมีสายฟ้าหลายหมื่นสายกำลังระเบิดอยู่ในร่างพร้อมกัน ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขารู้สึกกำลังจะแตกสลาย

หวังหลินร้องคำรามและสะบัดมือ วิหคศักดิ์สิทธิ์สีแดงไปแล้วครึ่งตัวพลันพุ่งเข้าหาหวังหลินและผสานกันเป็นหนึ่ง

หวังหลินยอมให้เปลวเพลิงเผาไหม้ในร่างกาย เขาอดทนต่อความเจ็บปวดมหาศาลต่อไปเพื่อหล่อหลอมเพลิงสีแดง พยายามทำให้เปลวเพลิงกลายเป็นของตนเอง!

ขณะนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนสีและมีแสงสีแสดผุดขึ้นมา ณ เวลานั้นวิบากกรรมที่สองก็ตกลงมา!

หวังหลินไม่มีเวลาหลอมเปลวเพลิงที่เพิ่งกินเข้าไป เพลิงสีแสดเข้าล้อมรอบเขาแล้วและพุ่งเข้าหา

หลังจากเพลิงสีแสดก็เป็นแสงสีเหลืองมหึมา ตามมาด้วยคลื่นเพลิงสีเหลืองขนาดยักษ์!

สิ่งที่ตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือด้านหลังเพลิงสีเหลืองคือแสงสีเขียวดูน่ากลัว ราวกับเป็นม่านที่สร้างขึ้นจากเพลิงสีเขียวกำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว!

เพลิงทั้งสามสีนี้ปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน! สามวิบากกรรมปรากฏพร้อมกัน!

นี่คือความน่ากลัวที่แท้จริงของวิบากกรรมทั้งเก้า มันไม่เหมือนทัณฑ์สวรรค์ที่ยังให้แสงแห่งความหวังและทำลายทัณฑ์แต่ละครั้ง แต่นี่คือวิบากกรรมทำลายล้างและต้องการสังหารในครั้งเดียว!

สามวิบากกรรมปกคลุมท้องฟ้าในบททดสอบมนุษย์ ก้านธูปดอกแรกที่อยู่ข้างนอกพลันตอบสนองสะท้อนสถานการณ์ ควันสีแสด เหลืองและเขียวพรั่งพรูขึ้นไปบนยอดก้านธูป

‘วิบากกรรมแรกยังไม่ผ่านเลย วิบากกรรมแสด เหลืองและเขียวโผล่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน นี่…เขาจะผ่านมันไปได้อย่างไร?!’ สีหน้าวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองเปลี่ยนไปมหาศาล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นวิบากกรรมทั้งเก้าและไม่คาดคิดว่ามันจะรุนแรงเพียงนี้

ปรมาจารย์ซือโม่มีความสุขมากที่สุด เผยรอยยิ้มเหยียดหยันจ้องมองก้านธูป ดอกแรกและคิดขึ้นมา ‘แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนเจ้าเด็กสารเลวนั่นจะหนีรอดความตายไปได้ยากแล้ว! น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถค้นหาความลับของมันได้ แต่ดีแล้วที่มันจะตาย!’

ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วผ่อนคลายเล็กน้อย อาการบาดเจ็บบนนิ้วมือฟื้นฟูขึ้นมาด้วย นางมองดูก้านธูปดอกแรกและคิดขึ้น ‘ดูเหมือนเขาไม่ใช่คนในการทำนายของบรรพชน…’

“ท่านพ่อ…” หลี่เฉียนเหมยกัดริมฝีปากและหันไปหาพ่อตนเอง ในสายตายังคงมีความสับสนแต่ก็มีความเจ็บปวดและวิงวอนไปด้วย

ปรมาจารย์เต๋าความฝันถอนหายใจและเอ่ยเบาๆ “ข้าจะช่วยเขา เจ้าสบายใจได้ แต่ข้ารู้สึกว่าเขาจะผ่านหายนะครั้งนี้ไปได้”

ภายในบททดสอบมนุษย์ ร่างหวังหลินยังคงเรืองแสงสีแดง ดวงตาดิ้นรนต่อต้านโชคชะตา!

“สามวิบากกรรมปรากฏขึ้นในครั้งเดียว เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม! ข้าอยากจะเห็นว่าสามวิบากกรรมนี้จะทำลายวิญญาณข้าได้อย่างไร!” เขาไม่ยอมต่อความเจ็บปวดและหัวเราะขึ้นมาแทน พลางระงับความเจ็บปวดในร่างกายพร้อมกับสะบัดแขนสูดอากาศเข้าไปอีกครั้ง

“ข้าจะสูดเพลิงทั้งสี่เหล่านี้เข้าไปในวิญญาณ พวกเจ้าจะเผาไหม้ข้าจนตายหรือข้าจะกลืนกินเจ้าได้หมด!”

สัมผัสแห่งความเย่อหยิ่งมิอาจบรรยาย ทัศนคติต่อชีวิตที่มิอาจอธิบาย สัมผัสความสูงส่งต่อสรรค์และเต๋าสวรรค์ที่มิอาจบันทึกได้ และวิถีทางความคิดที่ไม่อาจวาดออกมาได้ ทั้งหมดนี้ผสานเข้าด้วยกันในเสียงหัวเราะของหวังหลินก่อเกิดเป็นเสียงฝืนโชคชะตา!

ขณะที่เสียงหัวเราะดังกึกก้อง การบ่มเพาะที่ผ่านสองพันปีแล่นผ่านในสายตา หวังหลิน ความทรงจำทั้งหมดกระแทกผ่านเข้ามาในความคิด ครอบครัวปรากฏขึ้น ในใจ ความขื่นขมของการกลับไปยังบ้านเกิด คุกเข่าต่อหลุมศพพ่อแม่ ค่ำคืนสายฝนตอนที่ครอบครัวเขาถูกปลิดชีวิต เหตุการณ์ทั้งหมดนี้แล่นผ่านความคิดเข้ามา

ขณะที่ความทรงจำผุดขึ้นมา เพลิงสีแสดพุ่งเข้ามาในร่างหวังหลิน ตัดขวางผ่านด้วยแสงสีแดง

หากวิญญาณเต็มไปด้วยความเศร้าก็คงคิดถึงบ้านของตัวเอง หากวิญญาณกลับคืนสู่บ้าน หยาดน้ำตาแห่งความเศร้าคงหลั่งไหลเบื้องหน้าหลุมศพ…ต่อจาก เพลิงสีแสดก็เป็นแสงสีเหลืองพุ่งเข้ามา ก่อเกิดเป็นทะเลเพลิงล้อมรอบเพลิงสีแสดและเผาไหม้ร่างหวังหลินอย่างบ้าคลั่ง

กาลเวลาช่างโหดร้าย โหยหาคนที่แยกกันไปแล้วช่างเป็นความเจ็บปวดที่คงอยู่กับเจ้าไปชั่วชีวิต…เปลวเพลิงสีเขียวดูน่ากลัวได้เข้ามาถึงและปกคลุมทั่วท้องฟ้าเป็น สีเขียว เพลิงสีเขียวเหมือนภูตผีและพุ่งเข้าไปในร่างหวังหลินทันที

ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น ความทรงจำที่หลั่งไหลอยู่ในจิตใจพลันหยุดลง เพลิงสี่รูปแบบเผาไหม้อย่างบ้าคลั่งและเกิดพลังทำลายล้าง ความเร็วการหลอมของหวังหลินเทียบไม่ได้กับเพลิงทั้งสี่เลย ดูเหมือนเขากำลังจะโดนเผาไหม้ทั้งเป็น หวังหลินยกแขนขึ้นมาและสะบัดเปิดมิติเก็บของ

สุราที่เต็มไปด้วยเลือดมังกรปรากฏขึ้นในมือหวังหลิน

เพียงแค่หนึ่งอึกก็ทำให้เพลิงในร่างหวังหลินเพิ่มพลังอำนาจขึ้นมหาศาล ตอนนี้เขาหัวเราะและดื่มไปโดยไม่ลังเล!

หวังหลินดื่มหมดขวดในคราเดียวโดยไม่ให้เหลือสักหยด!

เขาสะบัดแขนและโยนขวดออกไป เปลวเพลิงในร่างหวังหลินพรั่งพรูขึ้นมา โลหิตมังกรนั้นร้อนรุนแรงจนเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิงและเริ่มต่อสู้กับเพลิงสี่สี ในร่างกาย!

ขณะที่เขาต่อต้าน วังวนค่อยๆปรากฏขึ้นมาในส่วนลึกของวิญญาณหวังหลิน วังวนนี้โผล่ออกมาจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่ค่อยๆตื่นขึ้น

‘ข้ากลืนกินวิบากกรรมทั้งสี่เข้าไปในวิญญาณ มันไม่มีอะไรจะเผาไหม้แล้ว ทำไมวิบากกรรมที่ห้ายังไม่ลงมาอีก?’

เปลวเพลิงในร่างได้ถึงขีดจำกัด เขาส่งเสียงคำรามและพุ่งเข้าไปในท้องฟ้า ท้องฟ้าดุจม่านพลังและมาถึงสุดทางอย่างรวดเร็ว

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับท้องฟ้าพังทลาย!

มีอีกดินแดนหนึ่งเบื้องหลังท้องฟ้าที่ร่วงลงมา! ราวกับดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยวิญญาณไร้ก้นบึ้ง ราวกับขุมนรก!

เหล่าเซียนนับหมื่นที่จ้องมองก้านธูปดอกแรกพบว่าเปลวเพลิงบนนั้นหยุดลงไปอย่างสิ้นเชิง มันนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหวอยู่ด้านบนหวังหลินไปร้อยฟุต

วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หนึ่งลมหายใจ หนึ่งลมหายใจ…พริบตาเดียวผ่านไปมากกว่าห้าลมหายใจ!

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สี่ชะลอได้เพียงห้าลมหายใจเท่านั้น แต่ตอนนี้หวังหลินกลับทำได้ห้าลมหายใจได้เช่นกันอย่างไม่คาดคิด!

หกลมหายใจ!

เจ็ดลมหายใจ!

ดวงตาของชายหนุ่มผู้หล่อเหลาถึงกับหรี่แคบและเผยแสงประหลาด

ขณะที่ก้านธูปอยู่มาได้เจ็ดลมหายใจ คลื่นเสียงอุทานดังก้องออกมา ไม่ใช่แค่คนเดียวแต่เป็นหลายพันคน ในไม่นานเสียงก็สั่นสะเทือนไปถึงสวรรค์!

สิ่งที่ทำให้พวกเขาอุทานไม่ใช่ก้านธูปที่คงอยู่ได้เจ็ดลมหายใจ แต่เป็น…เปลวเพลิงบนก้านธูปมนุษย์ไม่คาดคิดว่ามัน…จะมอดดับ!

ก้านธูปมอดดับ!

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วน แม้กระทั่งสายตาของ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองยังต้องเบิกตากว้างและเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“นี่…นี่…”

ปรมาจารย์ซือโม่ตกตะลึงและเต็มไปด้วยสายตาตกใจ

ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วมีสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล นางไม่สนอาการบาดเจ็บบนนิ้วและพยายามทำนายอีกครั้ง

………………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version