Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1415

Cover Renegade Immortal 1

1415. สุสานบัญชาโบราณ…เปิด!

ชั่วขณะที่หวังหลินลืมตา เพลิงเก้าสีในตาซ้ายได้กลายเป็นไร้รูปร่างและหมุนอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาดูแปลกประหลาดยิ่ง!

เพลิงไร้ลักษณ์ระเบิดออกมาจากร่างกาย เป็นเพลิงที่สั่นสะเทือนสวรรค์และแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง

เรือนผมสะบัดโดยไร้แรงลมและเริ่มพัดกระพือ เขาถอนมือออกมาจากก้านธูปดอกแรกและมองรอบๆด้าน

ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วยังจ้องมองหวังหลิน เมื่อหวังหลินลืมตานางจึงเห็นตาซ้ายเขาได้ชัดเจน นางถึงกับดวงตาเบิกกว้างและหรี่ม่านตาแคบ หวาดกลัวสุดขีด

ร่างกายสั่นเทาและเริ่มล่าถอย ราวกับประกายสายฟ้านับล้านแล่นวาบในใจ นางสูญเสียพลังงานในร่างจนหมด ใบหน้าขาวซีดดุจคนตาย!

‘สายตานี่…นี่…’ ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วไม่มีวันลืมภาพที่นางเพิ่งเห็น สายตาจากร่างที่หันมาและมองนางขณะกำลังจะตาย!

ดวงตาซ้ายของร่างพร่ามัวคนนั้นมีวังวนเก้าสี!

ปรมาจารย์ซือโม่จ้องหวังหลินและขบคิดเงียบๆ

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินมองหวังหลินอยู่เช่นกัน ในตาซ้ายเผยแสงประหลาดและท่าทีเยาะเย้ยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองยืนขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ รู้สึกผ่อนคลายเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามจากทุกอย่างที่เกิดขึ้น หวังหลินทำให้เขาตกตะลึงยิ่งกว่าการมีแก่นแท้ห้าอย่างเสียอีก!

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองหัวเราะ “เจ้าเผาไหม้เพลิงแห่งเวรกรรมเก้าสีเพื่อจุดการตื่นครั้งที่สี่และเข้าสู่ขอบเขตของเพลิงไร้ลักษณ์ เยี่ยม เยี่ยมมาก!”

ชายชราที่นั่งอยู่บนกิ้งก่ากำลังมองหวังหลินด้วยสายตาที่แตกต่าง เขาต่อสู้กับวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมาหลายครั้งและรู้จักความแข็งแกร่งของเพลิงไร้ลักษณ์เป็นอย่างดี ตอนนี้หวังหลินบรรลุเข้าสู่ขอบเขตของเพลิงไร้ลักษณ์ จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจหวังหลิน

หลี่เฉียนเหมยมองหวังหลินอย่างเงียบๆ ทางปรมาจารย์เต๋าความฝันมองท่าทีของลูกสาวและถอนหายใจอยู่ในใจ

‘หากข้าไม่ได้ลบแค่ความทรงจำของเยว่เอ๋อร์และทำให้หวังหลินพักอยู่เพื่อช่วยเขาบ่มเพาะ…แทนที่ข้าจะมอบสามวิชาให้…’ ปรมาจารย์เต๋าความฝันรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรกกับสิ่งที่เขาทำลงไป

หวังหลินกวาดสายตาผ่านทุกคนและถอนหายใจยาว เขาเห็นการไหลเวียนของอารมณ์จากคนทั้งหมด หากหวังหลินต้องการเขาสามารถเปลี่ยนอารมณ์พวกนั้นให้เป็นเพลิงไร้ลักษณ์ได้

เมื่อสายตาหวังหลินเลื่อนไปที่ยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว นางก้มหน้าทันทีและค่อยๆล่าถอย ทว่าหวังหลินยังเห็นอารมณ์ของนางที่เข้มข้นยิ่งกว่าคนอื่นๆ

หวังหลินถอนสายตาและคำนับฝ่ามือให้กับวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สอง “ผู้น้อยโชคดีและผ่านการตื่นครั้งที่สี่ได้แล้ว!”

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นสองยิ้มกว้างยิ่งขึ้น จากนั้นสะบัดแขนและโยนเจ้ามังกรออกไปไกล “เจ้าเป็นอิสระแล้วมังกรน้อย!” พลางหัวเราะ

เจ้ามังกรเกือบตายเพราะสูญเสียโลหิตจำนวนมาก เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาจึงส่องสว่างและส่งเสียงร้องคำรามดิ้นรนทะยานหายวับไปในเส้นขอบฟ้า

“การทดสอบยังไม่จบ มีคนกำลังรออยู่ในก้านธูปสวรรค์ ไปได้!” วิหคศักดิ์สิทธิ์ รุ่นที่สองมองหวังหลินอย่างสื่อความหมาย

“ก้านธูปมนุษย์มอดดับและก้านธูปปฐพีถูกแบ่งครึ่ง แต่ก้านธูปสวรรค์ไม่ได้ดับหรือทำลาย ก้านธูปดอกนี้ได้รับการคุ้มครองจากบรรพชนรุ่นแรกด้วยตัวเองและสิ่งที่ทดสอบข้างในนั้นคุ้มค่า! ยิ่งเจ้าประคองมันไว้ได้นาน ยิ่งคุ้มค่ามากมายมหาศาล.. .ข้าประคองไว้ได้สิบสองลมหายใจ รุ่นที่สี่ได้สิบสี่ลมหายใจ…ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะประคองไว้ได้นานแค่ไหน! หากเจ้าทำให้ข้าตกตะลึงได้อีกครั้ง ข้าจะมอบเขตอาคมที่อยู่ในร่างเจ้ามังกรโง่นั่นให้ เจ้าสามารถหาได้ง่ายๆว่ามันหนีไปไหน”

“มีเจ้ามังกรคุ้มกัน เมื่อเจ้าออกไปจากที่นี่ข้าก็จะสบายใจ” คำพูดของ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองเข้าสู่จิตใจหวังหลิน แต่ไม่มีใครคนอื่นได้ยิน

หวังหลินพยักหน้าและมองตำแหน่งที่เจ้ามังกรทะยานไป เจ้ามังกรที่เพิ่งออกไปจากดาวมหาจักรพรรดิต่างก็ตื่นเต้นยิ่ง

‘อิสระ ในที่สุดก็อิสระ!! กรรรรร!! ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระจากกรงเล็บพวกปิศาจ กี่ปีแล้ว กี่ปีกันแล้วนะ!!’ หยาดน้ำตาผุดขึ้นมาในดวงตามังกร มันไม่รู้ว่าโดน วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกหลอกลวงและถูกวิหครุ่นที่สองยกเป็นของขวัญ…หวังหลินถอนสายตาออกมา ไม่ได้มองฝูงชนอีกแต่มองก้านธูปสวรรค์ ขบคิดชั่วขณะ สูดหายใจลึกและยื่นมือไปบนก้านธูปสวรรค์

‘บรรพชนวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรก…บรรพชนของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์…หนึ่งในสี่ยอดขุนพลภายใต้จักรพรรดิแห่งแดนสวรรค์โบราณ…เขาอาจจะรู้ความลับหลายอย่าง…’

‘หากเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์อยู่ในดาราจักรโบราณ ทำไมถึงมีเผ่านกกระจอกเพลิง?’

‘ในเมื่อเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จนถึงวันนี้ ข้าเดาว่าเผ่ามังกรฟ้า เต่าดำและพยัคฆ์ขาวก็ยังอยู่ พวกเขาอยู่ที่ไหน…’

‘ราชันย์แห่งแดนสวรรค์โบราณ เป็นคนเดียวกันกับจักรพรรดิโบราณที่จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกกล่าวถึงหรือไม่? หากไม่ใช่ พวกเขาเกี่ยวข้องอะไรกัน…’

หวังหลินหลับตาพลางครุ่นคิด

บททดสอบสวรรค์นั้นแตกต่างจากอีกสองบททดสอบ มันคือโลกที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีขาวและมีอยู่สิ่งเดียวนอกเหนือจากก้อนเมฆ!

คือรูปปั้นยักษ์ มันขนาดใหญ่และปกคลุมส่วนหนึ่งของโลกเอาไว้ เป็นรูปปั้น ชายชราที่ดูเหมือนวิหคศักดิ์สิทธิ์ จมูกเหมือนจะงอยและกระทั่งมีปีกอยู่ด้านหลัง!

เขาหลับตาและมีเพลิงเก้าสีกำลังเผาไหม้อยู่กลางหน้าผาก

แขนขวายื่นออกมาเปิดฝ่ามือ ร่างหวังหลินถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและปรากฏตัวอยู่ในฝ่ามือนี้

ในดาราจักรโบราณ ภายในเขตดวงดาวที่สงบนิ่ง เกิดระลอกเสียงดังกึกก้อง ระลอกพวกนี้ดุจคลื่นและแพร่กระจายไปทุกทิศทางอย่างช้าๆ หลังจากนั้นไม่นานมีแสงน่ากลัวกะพริบวาบ ก่อนที่แสงน่ากลัวจะผ่านไปมีดาวเคราะห์รกร้างอยู่ที่นี่ หนึ่งดวง บนดาวไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ไม่มีทั้งพลังปราณ ถือว่าเป็นดาวไร้ค่า

หากเซียนคนใดเข้ามาใกล้คงไม่แม้แต่จะสนใจ แต่ดาวรกร้างแห่งนี้ตกอยู่ในลำแสงน่ากลัว เมื่อแสงผ่านไป ดวงดาวก็แตกสลาย ทิ้งไว้เพียงแต่ระลอกคลื่นที่แพร่กระจายอย่างช้าๆ

ทว่าในวินาทีนั้นใจกลางระลอกคลื่นเกิดรอยแตกร้าวขนาดร้อยฟุต กลิ่นอายแห่งความตายไร้ก้นบึ้งโผล่ออกมาจากในรอยแตกร้าว ทำให้รอยแตกยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ผ่านรอยแตกไปจะเจออีกโลกหนึ่งข้างใน มันเต็มไปด้วยก้อนหินลอยล่องอยู่มากมาย…บนก้อนหินพวกนี้มีศีรษะขนาดใหญ่ยักษ์…บางส่วนเป็นเทพโบราณ บางส่วนเป็นมารโบราณและบางส่วนเป็นปีศาจโบราณ…รอยแตกขยายออกไปถึงพันฟุตก่อนจะหยุดการขยาย ราวกับปากยักษ์ที่รออาหารเข้ามา…การปรากฏตัวของมันก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในดาราจักรโบราณ สั่นสะเทือนเซียนนับไม่ถ้วน…เพราะสุสานบัญชาโบราณ…เปิด!

………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version