Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1417

Cover Renegade Immortal 1

1417. การบ่มเพาะก็เหมือนมือ

หลังจากผ่านสิบลมหายใจ อักขระสายฟ้ารอบหวังหลินจึงส่องประกายเจิดจ้า รวมถึงเพลิงจากการตื่นครั้งที่สี่ด้วย

“ราชันย์แห่งแดนสวรรค์โบราณเกี่ยวข้องอะไรกับจักรพรรดิสวรรค์โบราณ?”

“ในโลกของเจ้าเรียกเขาว่าจักรพรรดิสวรรค์โบราณ ในยุคข้าเขาถูกเรียกว่าราชันย์สวรรค์โบราณ…” วิหครุ่นแรกค่อยๆตอบ คำพูดเขาไม่มีอารมณ์อะไรแอบแฝง

ทว่าเมื่อเขากล่าวจบ เพลิงในฝ่ามือหวังหลินเพิ่มพูนยิ่งขึ้น เปลวเพลิงเปลี่ยนกลายเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์ตัวยักษ์อย่างรวดเร็ว วิหคตัวนี้เก่าแก่มากและดูเหมือนมีชีวิตอยู่มานาน มันส่งเสียงร้องน่าขนลุกพร้อมกับพุ่งหาหวังหลิน

ลมหายใจที่สิบเอ็ด!

หวังหลินเผยสายตาบ้าคลั่ง อักขระสายฟ้ามีเปลวเพลิงขยายออกไป ขณะที่ วิหคศักดิ์สิทธิ์เข้าใกล้ หวังหลินยืนขึ้นและผลักขึ้นไปทันที

พริบตานั้นวิหคศักดิ์สิทธิ์โบราณจึงปะทะกับอักขระสายฟ้าและเกิดเสียงคำรามดังสนั่นกึกก้อง คลื่นกระแทกทรงพลังแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง

ร่างหวังหลินสั่นเทาอย่างรุนแรง วิญญาณครึ่งหนึ่งระเบิดและสลายไป ร่างกายที่อยู่บนดาวมหาจักรพรรดิสั่นสะเทือนไปด้วย

ร่างเขากระอักโลหิตและเซไปมา ใบหน้าขาวซีด หมอกโลหิตจำนวนมากผุดออกจากร่างกายและเกิดการระเหย

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้เซียนรอบด้านทั้งหมดตกตะลึง วิหครุ่นที่สองหรี่สายตาพลางร้องคำรามและมาอยู่ข้างๆก้านธูปสวรรค์ ส่งสัมผัสวิญญาณเข้าใส่บททดสอบสวรรค์

เมื่อสัมผัสวิญญาณเข้าไป เขาเอ่ยเสียงคำรามในบททดสอบสวรรค์

“บรรพชน!!! นี่มันหมายความว่าอะไร!?! หรือว่าเขาไม่ใช่คนของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์?! เขาถูกคนอื่นสร้างขึ้นมาหรือ?!”

“เจ้า ออกไป!” น้ำเสียงพึมพำดังลั่นและเกิดเป็นพลังที่มองไม่เห็นร่อนลงใส่สัมผัสวิญญาณของวิหครุ่นที่สอง บังคับให้เขาออกจากบททดสอบสวรรค์

“ข้ามีแผนของตัวเอง!”

ลมหายใจที่สิบสอง!

อักขระสายฟ้าพังทลายกลายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนกลับคืนสู่ตาของหวังหลิน เปลวเพลิงจากวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองพังทลายและเขากระเด็นกลับไปหลายร้อยฟุต

หวังหลินสะบัดแขนขวาและเปิดมิติเก็บของ แสงสีแดงโลหิตกะพริบวาบปรากฏกระบี่โลหิต หวังหลินชี้ใส่ท้องฟ้าอย่างดุร้าย กระบี่โลหิตไล่ตามหลังวิหคศักดิ์สิทธิ์ทันที

เสี้ยวนาทีนี้หลังจากกระบี่โลหิตพุ่งออกไป หวังหลินใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและ ร้องตะโกน “ในนามแห่งสายฟ้าสวรรค์ จงควบแน่นสายฟ้าไร้ขอบเขตแห่งสวรรค์เพื่อเปิดแดนสายฟ้าโบราณ!!”

ลมหายใจที่สิบสาม!

น้ำเสียงเขาดังขึ้นจนกระทั่งสั่นสะเทือนสวรรค์ หวังหลินสะบัดแขนใส่อากาศเบื้องหน้า

โลกส่งเสียงดังสนั่นและเกิดการบิดเบี้ยว รอยแยกอวกาศขนาดยาวหมื่นฟุตเปิดออก เสียงคำรามมากมายดังกึกก้องออกมาจากรอยแยกและมีร่างมังกรสายฟ้าโบราณหลายตัวกำลังขยับอยู่ภายใน

เปิดแดนสายฟ้าโบราณ เป็นวิชาของหัวหน้าผู้อาวุโสแห่งเผ่าสายฟ้ากระจาย ทว่าหลังจากค้นวิญญาณหัวหน้าผู้อาวุโสและมีแก่นแท้สายฟ้า หวังหลินจึงสามารถใช้วิชาสายฟ้าอันทรงพลังยิ่งนี้ได้!

มังกรสายฟ้าส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวและกำลังออกมาจากรอยแยก ทว่าวินาทีนั้นเสียงวิหครุ่นแรกดังกึกก้อง

“ผนึกวิหคศักดิ์สิทธิ์ ผนึก!” น้ำเสียงไม่แยแสดังกึกก้อง วิหคศักดิ์สิทธิ์โบราณส่งเสียงซี่ๆและพุ่งเข้าใส่รอยแยกขนาดหมื่นฟุต เปลวเพลิงพรั่งพรูและประทับใส่รอยแยก

วิหคศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนกลายเป็นผนึกยักษ์และผนึกรอยแยกที่เปิดสู่แดนสายฟ้าโบราณ!

เหล่ามังกรสายฟ้าโบราณดิ้นรนอยู่ข้างในเพื่อทะลวงออกมา แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถทำลายผนึกวิหคศักดิ์สิทธิ์ได้

ลมหายใจที่สิบสี่!

ร่างหวังหลินสั่นเทาและสะบัดแขนโดยไม่ลังเล กระบี่โลหิตในท้องฟ้าเปลี่ยนทิศทางและพุ่งใส่รูปปั้นยักษ์ เสี้ยววินาทีนี้รูปปั้นจึงพลันลืมตาขึ้นมา

ดวงตาคู่นั้นไร้อารมณ์ใดๆ กระบี่โลหิตถูกล้อมรอบด้วยพลังที่มองไม่เห็น มันถูกแช่แข็งอยู่นอกคิ้วของรูปปั้นและไม่สามารถขยับต่อไปได้

“กระบี่เล่มนี้อยู่ในมือเจ้า!” เป็นครั้งแรกที่เกิดน้ำเสียงตกตะลึงขึ้นของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรก

บนดาวมหาจักรพรรดิ สีหน้าวิหครุ่นที่สองกำลังมืดมน แขนขวากระเด็นออกจากก้านธูป ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและมองหวังหลินด้วยท่าทีซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าทำไมบรรพชนถึงทำเช่นนี้

“สิบสี่ลมหายใจ…จักรพรรดิน้อยทำได้สิบสี่ลมหายใจ!!”

“สิบสี่ลมหายใจคือขีดจำกัดของเขาแล้ว เจ้าเห็นได้ว่าเลือดเนื้อเขาถูกทำลายไปเกือบหมดและโลหิตก็เกือบระเหยไปหมดด้วย!”

ปรมาจารย์ซือโม่หรี่ดวงตา ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาจึงเห็นท่าทีมืดมนของ วิหครุ่นที่สองได้เป็นธรรมดา ในใจเกิดการเยาะเย้ย

‘ดูเหมือนเกิดเหตุบังเอิญขึ้น ไอ้เด็กสารเลวนี่ขึ้นๆลงๆในบททดสอบไปหลายรอบ ตายไปในบททดสอบนี้ก็ดี ช่วยข้าขจัดปัญหาไป’

ก้านธูปสวรรค์เผาไหม้ลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เหลืออยู่แค่ไม่กี่สิบฟุตเท่านั้น!

ในบททดสอบสวรรค์ หลังจากผ่านไปได้สิบห้าลมหายใจ ฝ่ามือใต้หวังหลินสั่นเทาและเริ่มขยับ!

ฝ่ามือกำหมัดพร้อมกับเปลวเพลิงลุกโชน หวังหลินไม่มีแม้แต่โอกาสถามคำถามที่สาม แรงกดดันจากห้านิ้วตกลงใส่

พลังลึกลับทุ่มลงมาทำให้หวังหลินไม่สามารถหนีไปไหนได้ พอเห็นเช่นนั้น หวังหลินจึงร้องคำราม เกิดเสียงปะทุออกมาจากร่างกาย ห้านิ้วนั้นกดลงใส่แขนทั้งสองของเขา

หวังหลินรู้สึกว่าทั้งร่างกำลังแตกสลาย หวังหลินมีท่าทีดุดันและร้องคำราม ครึ่งท่อนล่างแตกสลายภายใต้พลังอันแข็งแกร่งนี้

สิบหกลมหายใจ!

สิบเจ็ดลมหายใจ!

สิบแปดลมหายใจ!

ร่างหวังหลินแตกสลายต่อไป เขามองไม่เห็นท้องฟ้าอีกแล้วเนื่องจากห้านิ้วบดบังจนมิด เมื่อหวังหลินมาถึงลมหายใจที่สิบเก้าจึงเกร็งแขนแน่น!

ทว่าขณะนั้นวิหคศักดิ์สิทธิ์ร้องออกมาเป็นครั้งแรกพร้อมกับเพลิงไร้ลักษณ์ วิญญาณหวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์

วิหครุ่นแรกเผยสายตาเป็นแสงประหลาด เขามองดูกำปั้นของตัวเอง สายตามองทะลุไปเห็นวิญญาณวิหคศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังดิ้นรนของหวังหลิน

เพลิงเก้าสีกลางหน้าผากกะพริบวูบวาบ เพลิงไร้ลักษณ์พุ่งเข้าหากำปั้นของตัวเอง

เพลิงไร้ลักษณ์นี้มองไม่เห็นแต่เมื่อมันเข้าไปในกำปั้น ทั้งฝ่ามือจึงห่อหุ้มอยู่ในเปลวเพลิง

“ข้าสามารถตัดสินได้ว่าเจ้าจะอยู่หรือตายเพียงแค่คิด แต่เจ้าก็ยังไม่บอกความจริงข้า แม้แต่ตอนนี้ข้ามองทะลุความลับเจ้าตอนที่เจ้าอยู่ในเผ่ามังกรหุ้มเกราะ ข้าปล่อยเจ้ารอดไปเพราะข้าต้องการรู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า! ข้าแต่งตั้งให้เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิน้อยเพื่อพาเจ้ามาที่นี่ ข้าให้รุ่นที่สองปรากฏตัวเพื่อนำทางเจ้ามาที่บททดสอบแห่งนี้!”

“ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ จงบอกข้ามาว่าเจ้าเป็นใคร! ทำไมเจ้าถึงแอบอ้างว่าเป็นคนของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์!? พวกผู้เยาว์อาจจะไม่สามารถมองทะลุความลับของเจ้าได้ แต่เจ้าไม่สามารถซ่อนสิ่งใดจากข้าได้!”

หลังจากกล่าวเช่นนั้น เพลิงมหึมาผุดขึ้นในดวงตาวิหครุ่นแรกพร้อมกับจ้องมองหวังหลินกำลังดิ้นรนและสังเกตการณ์ท่าทีหวังหลินอย่างละเอียด

หลังได้ยินเช่นนี้ หวังหลินตกตะลึงไปชั่วขณะพลางดิ้นรนและหัวเราะอย่างโกรธเกรี้ยว

“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอกความจริงข้า เช่นนั้นวิหคศักดิ์สิทธิ์จะมอบความตายให้เจ้า!” ดวงตาของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกเผยแสงประหลาดพลางจ้องมองหวังหลินในกำปั้น หลังจากเอ่ยขึ้นมา เพลิงไร้ลักษณ์พุ่งเข้าหาใจกลางกำปั้นและเข้าสู่วิหคศักดิ์สิทธิ์ของหวังหลิน

วินาทีที่เพลิงไร้ลักษณ์เข้าไปในวิหคศักดิ์สิทธิ์ของหวังหลิน เขาได้เห็นภาพมากมายกะพริบผ่านได้ชัดเจน ภาพเหล่านี้รวมถึงวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นห้าที่ทิ้งอักขระวิหคศักดิ์สิทธิ์ไว้บนตัวหวังหลิน เขาเห็นหวังหลินผ่านการตื่นครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกไม่เพียงแค่มองผ่านความทรงจำพวกนี้ในคราเดียวแต่กลับมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สังเกตอย่างละเอียดหลายพันครั้ง ท้ายที่สุดก็ถอนหายใจลึกและแสงลึกลับในแววตาก็หายไป เผยเป็นร่องรอยความเมตตาที่หาได้ยาก

กำปั้นค่อยๆผ่อนลงอย่างช้าๆ

“เจ้ายังยึดมั่นอยู่อีกหรือ?” น้ำเสียงเขาไม่เย็นเยียบอีกแล้ว ตอนนี้แฝงความชื่นชม

วิหคศักดิ์สิทธิ์ของหวังหลินจ้องมองบรรพชนรุ่นแรก

“ก่อนนี้เพราะข้าได้ทำผิดไปกับคนผู้หนึ่งและคิดว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ข้าต้องจบลงเช่นนี้…ข้ากระทั่งไม่สามารถก้าวออกไปจากบททดสอบสวรรค์ได้…เจ้ากลับปรากฏตัวขึ้นมาและถึงแม้ลักษณะทั้งหมดของเจ้าจะตรงกับเผ่าพันธุ์ แต่ข้าต้องระมัดระวัง ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”

หวังหลินขบคิดเงียบๆพร้อมกับวิหคศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสร้างขึ้นค่อยๆสลายไป หวังหลินกลับมาเป็นรูปร่างมนุษย์และกล่าวขึ้น “วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สามน่ะหรือ?”

“ใช่แล้ว หลังจากข้าค้นวิญญาณเขาก็ยังไม่สามารถหาข้อผิดพลาดอันใดได้ ไม่ว่าข้าจะสังเกตมากแค่ไหนก็ไม่เจอแม้แต่เบาะแสสักชิ้น จนท้ายที่สุดข้าก็พบว่าเขาถูกคนอื่นสร้างมา…” ในคำพูดของวิหครุ่นแรกมีความเกลียดชังฝังลึก

“เจ้ามีห้าแก่นแท้แล้ว แม้ทั้งห้าแก่นแท้จะเพิ่งสร้างขึ้นมา ปรากฏการณ์นี้หาได้ยากยิ่ง แต่เส้นทางของเจ้ามันผิด!” วิหครุ่นแรกกล่าวช้าๆ

“แก่นแท้สายฟ้าของเจ้าก่อเกิดประตูดับสูญ แต่เจ้าไม่สามารถเปิดมันได้…เจ้าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่งไม่พอ นั่นทั้งถูกและผิด เจ้าคิดว่าควรรอให้แก่นแท้เพลิงสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงพยายามเปิดประตูดับสูญอีกครั้ง ในใจเจ้าแม้แต่ขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้าก็ไม่มีค่าด้วยซ้ำ เจ้าไม่ต้องการผ่านขั้นทะลวงสวรรค์ เจ้าต้องการตรงเข้าทำลายประตูดับสูญด้วยขั้นทลายสวรรค์สูงสุด! ถ้าเจ้าคิดว่าทำมันได้ เจ้าก็ผิดแล้ว!”

หวังหลินตกตะลึงแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปาก

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกถอนหายใจและค่อยๆหลับตา เอ่ยน้ำเสียงดังกึกก้องในโลก

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมแขนมนุษย์ถึงมีห้านิ้ว? ในยุคข้าก็มีห้าทะลวงสวรรค์เช่นกัน เพียงแต่มันถูกเรียกว่าห้าทลายดัชนี…การบ่มเพาะ การฝึกเซียน โดยเนื้อแท้แล้วเจ้าและข้าก็กำลังบ่มเพาะฝ่ามือ ขั้นแรกคือฝ่ามือ ขั้นที่สองคือรอยนิ้วมือ รอยนิ้วมือก็คือกฎ และทุกคนต่างมีรอยนิ้วมือต่างกัน ดังนั้นกฎแต่ละคนจึงต่างกันไปด้วย”

“ห้าทลายดัชนีหรือห้าทะลวงสวรรค์ต่างก็เป็นนิ้วมือบนฝ่ามือเจ้า หากเจ้าต้องการ ปกคลุมผืนฟ้าด้วยฝ่ามือด้วยฝ่ามือเจ้า เจ้าต้องมีครบทั้งห้านิ้ว หากเจ้าเข้าใจมัน เจ้าก็จะเข้าใจ หากไม่เข้าใจก็ไม่มีโอกาสที่เจ้าจะทะลวงไปได้”

………………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version