1428. ความคิดบ้าๆ!
บรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงเป็นเซียนขั้นที่สาม แม้จะเป็นขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้นแต่เขาสามารถทำให้สวรรค์สั่นสะเทือนเพียงโบกฝ่ามือ เขาสามารถใช้บิดมิติกลับไปที่สาขาหลักของเผ่าพร้อมกับหลิวจินเปียว
บรรพชนก้าวออกมาจากนอกดาวเคราะห์หลักของเผ่านกกระจอกเพลิง สายตาเต็มไปด้วยความยินดี พริบตานั้นเขาเหาะเหินเข้าหาใจกลางดาวเคราะห์ที่ล้อมรอบด้วยเปลวเพลิง
เขาเข้ามาถึงสถานที่ที่ปกติบ่มเพาะฝึกตนตลอดเวลา
อุณหภูมิที่นี่ช่างน่าหวาดกลัว เพียงแค่ประกายเปลวเพลิงก็มากพอจะฆ่าเซียนได้แล้ว อย่างไรก็ตามบรรพชนเผ่าล้วนปกติดีและถือหลิวจินเปียวมาด้วย
หลิวจินเปียวสีหน้ามืดมนราวกับสายน้ำพลางจ้องมองบรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงอย่างเย็นชา เขาลืมอดีตไปอย่างสิ้นเชิงและเชื่ออย่างยิ่งว่าตนเองคือ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก!
หลังจากครอบครองพลังมานาน สุดท้ายเขาก็ถูกเผ่านกกระจอกเพลิงจับตัวไป ทว่าในฐานะวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก เขามีศักดิ์ศรีของตนเอง แม้แต่ตอนจะตายก็ไม่วิงวอนขอความเมตตา
ลึกเข้าไปภายในทะเลเพลิงมีประตูมายาอยู่แห่งหนึ่ง คนปกติไม่สามารถก้าวไปข้างในได้แม้แต่ก้าวเดียว นอกจากนี้ด้วยการที่มีบรรพชนป้องกัน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างดี
แม้เขาจะออกไป ประตูภายในทะเลเพลิงก็มีเขตอาคมทรงพลังวางเอาไว้ เขตอาคมนี้เขาไม่ได้เป็นคนวางแต่เป็นนายท่านของตน เซียนขั้นที่สามยังยากจะทะลวงเข้าไปข้างในได้ในระยะเวลาอันสั้น
หลังจากมาถึงประตู บรรพชนเผ่าถึงกับตื่นเต้นและคุกเข่าลงบนพื้น ทำให้ หลิวจินเปียวต้องหรี่ตาแคบ
บรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิง เซียนขั้นที่สาม กำลังคุกเข่าอยู่หน้าประตู!
“นายท่าน ข้าจับวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หกมาเป็นของขวัญให้ท่านฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแล้ว!”
‘นายท่าน?’ หลิวจินเปียวศีรษะด้านชา สายตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง จ้องมองประตูพร่ามัวนั้นแล้วจึงเกิดคลื่นรุนแรงขึ้นในใจ!
‘นายท่านของเซียนขั้นที่สาม…นี่…นี่…’
ประตูเงียบสนิท บรรพชนเผ่าคุกเข่าอย่างนิ่งเงียบ รอคอยอยู่นานและไม่ใจร้อนเลย เขารออยู่อย่างเคารพ ยิ่งเขาอยู่นานแบบนี้ยิ่งทำให้หลิวจินเปียวตกตะลึงและเผยอาการตื่นจากเต๋าแห่งการหลอกลวง
เขากำลังตื่นกลัว!
“วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก?” ขณะนั้นน้ำเสียงพร่ามัวดังออกมาจากประตู
บรรพชนของเผ่าถึงกับสั่นเทาและมีความเคารพยิ่งขึ้น รีบเอ่ยขึ้นด้วยสายตาตื่นเต้น “ข้าตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน กลืนกินโลหิตและค้นวิญญาณ ดังนั้นไม่ผิดตัวแน่! เขาคือวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก!”
“ข้าจับเขาได้ในดินแดนตกสวรรค์!”
น้ำเสียงดูเหมือนขบคิดเงียบๆ กลิ่นอายที่มองไม่เห็นค่อยๆแพร่กระจายทำให้ร่างหลิวจินเปียวสั่นเทา ความภาคภูมิใจหายไปและถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
เขาตื่นมาเพราะหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!
‘ในที่สุดข้าก็ทำได้! ในที่สุดข้าก็มาได้ไกลขนาดนี้!’ หลิวจินเปียวรู้สึกลำคอแห้งผาก สายตาตื่นตระหนก กรีดร้องในใจอย่างบ้าคลั่ง ‘การมีเซียนขั้นที่สามเป็นทาสรับใช้…เขาเป็นใครกันนี่? หวังหลินจัดการพาข้ามาที่นี่และบอกว่าเขาสามารถช่วยข้าได้ แต่ถึงแม้เขาจะมา ข้ากลัวว่าเขาจะตายเสียก่อน…’
หลังจากเงียบไปสักพัก น้ำเสียงพร่ามัวนั้นดังออกมาจากประตูอีกครั้ง
“ส่งมันเข้ามาข้างใน!”
ร่างหลิวจินเปียวสั่นเทาและกำลังจะเอ่ยปากอธิบาย ทว่าบรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงคว้าเขาและลากเข้าหาประตูโดยตรง!
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วเกินไป ก่อนที่เขาจะทันได้อธิบาย รู้สึกร่างกายสั่นเทาและถูกลากเข้าประตูไปเสียแล้ว!
เขตอาคมบนประตูโดนระงับเอาไว้และไม่ได้รับการกระตุ้น ทำให้บรรพชนเผ่าเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเข้าไป สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าหลิวจินเปียวเป็นสิ่งที่เขาไม่มีวันลืม!
มันเป็นโลกที่ไม่มีท้องฟ้าหรือพื้นดิน สิ่งเดียวที่มีอยู่ตรงนั้นคือเปลวเพลิงหนาแน่น! เปลวเพลิงครอบครองพื้นที่ในโลกไปถึงเจ็ดในสิบส่วนและดังสนั่นกึกก้อง
รอบๆไม่มีดวงดาวแต่มีเส้นสายหนาเท่าท่อนแขนแผ่กิ่งก้านไปทั่วอากาศ แค่ปรายตามองดูเหมือนจะก่อเป็นรูปใยแมงมุม!
เปลวเพลิงอยู่ตรงกลางของใยแมงมุม! คล้ายกับเป็นอุโมงค์แต่มีหลายอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในเข้าหาเปลวเพลิง
เปลวเพลิงมีเจ็ดสีไร้สีดำและสีขาว! เพลิงเจ็ดสีเผาไหม้อย่างเจิดจ้าและมีร่างเลือนลางนั่งอยู่ข้างใน!
ร่างนี้สวมเกราะและมีวิหคศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีกะพริบอยู่ด้านหลัง
“เจ้าออกไปได้…” น้ำเสียงพร่ามัวดังกึกก้องในท้องฟ้าพร้อมกับมีก้อนเปลวเพลิงเจ็ดสีขนาดเท่ากำปั้นลอยเข้าหาบรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิง เปลวเพลิงเข้าสู่กลางหน้าผากบรรพชนในทันที
บรรพชนตัวสั่นและมีสายตาปิติยินดี
“ไปบ่มเพาะและดูดซับมัน…” บรรพชนโค้งตัวอย่างเคารพและหายวับไป
ตอนนี้มีเพียงแค่หลิวจินเปียวและร่างที่อยู่ในเปลวเพลิง
ร่างหลิวจินเปียวสั่นสะท้าน เขาสัมผัสถึงแรงกดดันหนักหน่วงออกมาจาก เปลวเพลิงเจ็ดสีที่มีคนนั่งข้างใน แรงกดดันนี้มากพอจะฆ่าเขาได้เป็นล้านๆครั้ง!
“เจ้าไม่ใช่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก…” เสียงพร่ามัวดังกึกก้องและทุ่มน้ำหนักลงบนความคิดหลิวเจินเปียว ทำให้ศีรษะด้านชาและความคิดว่างเปล่า
หลิวจินเปียวคุกเข่าบนพื้น ดวงตาท่วมท้นด้วยความหวาดกลัวหนาแน่น เขาอ้อนวอนโดยไม่ลังเลทันที “ท่านเทพยกโทษให้ข้า ท่านเทพยกโทษให้ข้าเถิด…ผู้น้อย หลิวจินเปียวเป็นแค่เซียนตัวน้อยและถูกคนอื่นบังคับมาที่นี่ หากข้าไม่มาก็คงตาย ข้าหวังว่าท่านเทพจะมีความเมตตา ผู้น้อยจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อรับใช้ท่านเทพ…”
น้ำเสียงพร่ามัวนั้นขัดจังหวะหลิวจินเปียว “แต่มีบางอย่างที่น่าสนใจในร่างเจ้า…” กิ่งก้านสาขามากมายเคลื่อนไหวเข้าหาและห่อหุ้มรอบหลิวจินเปียว พริบตาเดียวมันก็ทะลุผ่านเลือดเนื้อและเริ่มดูดซับทำให้หลิวจินเปียวกรีดร้องโหยหวน
ร่างกายแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว โลหิตจำนวนมากถูกดูดออกไปเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเคลื่อนอยู่ภายในกิ่งก้านสาขาเข้าหาเปลวเพลิง
นอกจากเลือดแล้ว พลังชีวิตของเขาก็ถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็วด้วย เมื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตความตายเช่นนี้หลิวจินเปียวจึงกรีดร้องและพ่นแก่นออกมาจากปาก!
เมื่อแก่นนี้โผล่ออกมา พลังปราณกระบี่มหึมาผุดขึ้น ฉวี่ลี่กั๋วปรากฏเป็นกระบี่ยักษ์แต่ไม่ได้แทงเข้าหาเปลวเพลิงกลับกลายเป็นพายุกระบี่!
“นายท่าน ทางผ่านเปิดขึ้นแล้ว!!” ฉวี่ลี่กั๋วหวาดกลัวสุดขีดเช่นกัน หลังจากปรากฏตัวขึ้นมาจึงเริ่มร้องคำรามอยู่ในใจ
‘ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเจ้าอสูรร้ายนั่น มันคิดว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีแก่นแท้เพลิง แต่กลับมีคนอาศัยอยู่ที่นี่แทน คนที่ทำให้เซียนขั้นที่สามเป็นทาสรับใช้ได้!!’
“น่าสนใจ…” น้ำเสียงพร่าเลือนดูเหมือนจะยิ้ม
บนดาวมหาจักรพรรดิ หวังหลินหลับตาและเห็นค่ายกลเคลื่อนย้าย ความคิดเข้าไปในดินแดนแห่งสายลมและสายฝน มองดูวิญญาณของเทียนหยุน ใช้วิญญาณของเทียนหยุนเพื่อพยากรณ์อนาคต…ตอนนี้ดวงตาพลันเบิกกว้างและเผยจิตสังหาร!
มีคนกำลังฟื้นตัวอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่านกกระจอกเพลิง ก่อนที่เขาจะเข้ามาดินแดนตกสวรรค์เขาก็ไม่มั่นใจ แต่หลังจากพูดคุยกับวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกจึงมั่นใจว่ามีคนอยู่ข้างใน!
หากเขาล้มเลิกตอนนั้น แม้หลิวจินเปียวจะถูกจับไปก็คงกลับมาไม่ได้ แต่กลับมีความคิดบ้าๆขึ้นมาในใจหวังหลิน!
บรรพชนรุ่นแรกเลยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่ามีคนกำลังฟื้นตัวอยู่ข้างในคล้ายกับ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สามผู้ทรยศ วิหครุ่นแรกเกลียดคนผู้นั้นมาก ถ้าไม่ใช่เพราะถูกขังอยู่ในดินแดนตกสวรรค์เขาคงออกมาเข่นฆ่าคนทรยศไปแล้ว!
แม้จะไม่ได้กล่าวเช่นนั้นแต่เขาบอกหวังหลินว่าสามารถสนับสนุนแผนของ หวังหลินและทำให้หวังหลินเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่านกกระจอกเพลิง เขายังให้ขนนกกับหวังหลินเป็นของขวัญด้วย!
ทั้งหมดนี้มีปัญหาเดียว!
สิ่งสำคัญก็คือวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สามผู้ทรยศมีอีกตัวตนในดาราจักรโบราณ ความจริงหวังหลินก็พอจะเดาได้แต่เขามั่นใจแค่เจ็ดส่วน! ไม่สิ เขากระทั่งบอกได้ว่ามั่นใจเก้าในสิบส่วน!
เจ็ดในสิบส่วนก็มากพอจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่สั่นสะเทือนสวรรค์ได้แล้ว! นับประสาอะไรกับเก้าในสิบส่วน! เมื่อเขาทำสำเร็จจะออกไปจากดาราจักรโบราณและกลับสู่ดินแดนชั้นใน!
‘เขาถูกวิหคศักดิ์สิทธิ์โจมตีจนบาดเจ็บและจากนั้นก็บาดเจ็บจากเสียงคำรามลึกลับในดินแดนชั้นใน ท้ายที่สุดจึงถูกบังคับให้ปิดด่านบ่มเพาะเพื่อฟื้นฟูตนเองเป็นเวลาหลายหมื่นปี แต่ทว่าเขาลอบควบคุมหลายอย่างอยู่ลับๆ!! ลูกสาวของเขาเข้าสู่ดินแดนชั้นในเพื่อล่อลวงฉิงหลิน ทำลายแดนสวรรค์ที่ใช้สร้างเพลิงนรกานต์และรวมกองกำลังหลายคนเข้าทำลายร่างของจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก’
‘เขาทำทุกอย่างเพื่อหลอกล่อผู้คนให้เป็นที่สนใจในดินแดนชั้นในเหมือนซือหม่าโม่ ฉิงหลิน และหากข้าเดาไม่ผิด แม้กระทั่งการที่ฉิงชุ่ยบ้าคลั่งต้องเกี่ยวข้องกับเขา! ทั้งยังปลูกฝังเต๋าอันชั่วร้าย…ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาทำ…ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส ข้าต้องใช้โอกาสนี้!!’ แววตาหวังหลินเกิดความบ้าคลั่ง สิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ช่างบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
ค่ายกลกะพริบวูบวาบ เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ค่ายกลหมุนวนจนเกิดเป็นค่ายกลเสียงดังปัง ค่ายกลหายไปจากดาวมหาจักรพรรดิพร้อมกับร่างหวังหลิน!
วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองที่นั่งอยู่ข้างทะเลสาบถึงกับลืมตาขึ้น มองตำแหน่งที่ หวังหลินหายไปอยู่สักพักและเอ่ยเสียงเบา “บรรพชนรุ่นแรก ท่านยังรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่…แม้เขาจะผ่านการทดสอบ…แต่ศิษย์เชื่อว่าเขาใช่…ข้าไม่เชื่อคำสั่งท่านและสอนวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต…นั่นเพราะเขาควรจะได้รับหลังจากการทดสอบจบลง…”
……………………………………………….