Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1494

Cover Renegade Immortal 1

1494. หลิงตงปรากฏ

“เจ้ากล้ารับประลองเต๋าหรือไม่?” ปรมาจารย์ลั่วฟู่มีสีหน้ามืดมน น้ำเสียงดังกึกก้องในดวงดาว

“ข้าเหนื่อยกับการประลองปัญญานี้แล้ว” หวังหลินส่ายศีรษะ สายตาจรดลงบนเทพโลหิตที่หน้าซีดอยู่ด้านหลังปรมาจารย์ลั่วฟู่ เขากำลังจะเคลื่อนผ่านปรมาจารย์ ลั่วฟู่และตรงเข้าไปจับเทพโลหิต!

ปรมาจารย์ลั่วฟู่โกรธเกรี้ยวเนื่องจากการประลองแรกอยู่แล้ว เขาเริ่มหัวเราะขึ้นมาจากการกระทำของหวังหลิน สะบัดแขนและระเบิดระดับบ่มเพาะเต็มที่ ยืนอยู่ที่นั่นราวกับยืนอยู่เหนือดวงดาว!

จังหวะเปลี่ยนไปราวกับพายุ สั่นสะเทือนพื้นที่ดวงดาวด้วยแก่นแท้สายลม ในตอนนี้กลับปรากฏมังกรสายลมขนาดแสนฟุตขึ้นเก้าตัวและร้องคำราม!

เสียงคำรามแต่ละตัวสั่นสะเทือนสวรรค์ ราวกับพายุทรงพลังเข้ากวาดผ่าน ดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

สายลมหวนร้องไปทั่วโลก!

“หวังหลิน!! เจ้าคิดว่าข้ากลัวการต่อสู้กับเจ้าหรืออย่างไร!? ในเมื่อเจ้าอยากต่อสู้ ก็มาสู้กันเลย!” ปรมาจารย์ลั่วฟู่เผยรอยยิ้มโกรธเกรี้ยวและสะบัดแขนขวา ปรากฏ รอยแยกอวกาศและมีกระบี่หักขึ้นเบื้องหน้าปรมาจารย์ลั่วฟู่!

กระบี่หักเล่มนี้มีแค่ครึ่งกระบี่แต่ด้วยความคมของมันสามารถฟาดฟันใส่โลกและสร้างปราณกระบี่อันเหนือล้ำเกินคำอธิบายและพุ่งเข้าใส่หวังหลิน!

ราวกับกระบี่เล่มนี้สามารถแทงทะลุร่างเทพโบราณแปดดาวของตู่ซือได้ทีเดียว!

หลังจากกระบี่หักปรากฏ ปรมาจารย์ลั่วฟู่สร้างผนึกชี้ใส่ท้องฟ้า ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นแพร่กระจายและผลักเหล่าเซียนหลายหมื่นคนออกไปไกล

ขณะเดียวกันมีภาพเงามายาหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังปรมาจารย์ลั่วฟู่ ภาพเงานี้ไม่ใช่คนแต่เป็นดินแดน!

แดนสวรรค์วายุ!

ทั่วทั้งแดนสวรรค์วายุปรากฏขึ้นด้านหลังปรมาจารย์ลั่วฟู่!

ทว่าแดนสวรรค์วายุนี้แตกต่างจากดินแดนที่หวังหลินเคยเห็น แม้จะมีสายลมโหมกระหน่ำแต่มันไม่แตกหักเลย มันเต็มไปด้วยพลังปราณและมีเหล่าเทพเคลื่อนไหว ไปมา พื้นดินไม่ได้แตกสลาย!

เขามองเห็นประตูหินขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางแดนสวรรค์ได้ชัดเจน เหล่าเทพนับไม่ถ้วนกำลังคุกเข่าอยู่ใต้ประตูหินราวกับกำลังเคารพบูชา!

คลื่นพลังปราณสวรรค์แพร่กระจายออกมาและในไม่นานก็ห่อหุ้มทั่วทั้งดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

เสียงเพลงไพเราะผุดขึ้นมาด้วย ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นทันทีที่ได้ยิน! รวมไปถึงเหล่าสัตว์เทพจำนวนมาก!

ภายในแดนสวรรค์มีเพลิงนรกานต์แฝงอยู่และถูกปรมาจารย์ลั่วฟู่ดูดซับ! แดนสวรรค์วายุแห่งนี้คือกุญแจสำคัญในการที่ปรมาจารย์ลั่วฟู่กลายเป็นเซียนขั้นที่สาม!

เพลิงนรกานต์ที่จำเป็นต่อการกลายเป็นเซียนขั้นที่สามมาจากภาพเงาแดนสวรรค์วายุแห่งนี้!

“แดนสวรรค์วายุคือรากฐานการบ่มเพาะและเป็นต้นตอเพลิงนรกานต์ของข้า ถึงแม้เจ้าจะมีร่างกายแข็งแกร่ง เจ้ายังไม่ได้บรรลุขั้นที่สาม หากไร้เพลิงนรกานต์ ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะต่อสู้กับข้าได้อย่างไร!”

“เวลานี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าทำไมเซียนขั้นที่สามจึงเป็นเซียนที่ทรงพลังที่สุดในโลกนี้ มันเป็นเพราะเพลิงนรกานต์ และมีแต่เซียนขั้นที่สามเท่านั้นที่สามารถใช้ เพลิงนรกานต์ได้!” ปรมาจารย์ลั่วฟู่คิดเรื่องการต่อสู้ขึ้นในใจ ตอนนี้เงาภาพ แดนสวรรค์วายุทำให้เขามั่นใจที่สุด เขามีแรงกดดันที่มีแต่เซียนขั้นที่สามเท่านั้น!

ดวงตาหวังหลินสงบนิ่งดุจสายน้ำ เฝ้าดูปรมาจารย์ใช้วิชาหลายอย่าง กลิ่นอายของปรมาจารย์ลั่วฟู่บรรลุถึงขีดสุดในทันทีแต่หวังหลินก็สงบนิ่ง

ในสายตาเขา ปรมาจารย์ลั่วฟู่ยังบกพร่อง

ความสงบนิ่งของเขาทำให้ปรมาจารย์ลั่วฟู่เกิดความรู้สึกอันลึกลับ ปรมาจารย์ลั่วฟู่ดวงตาส่องสว่าง เขามองไม่ออกว่าทำไมหวังหลินถึงสงบนิ่งอยู่ได้!

‘ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนคงไม่สามารถข่มระดับบ่มเพาะจนข้ามองไม่ออกได้ ความสงบนิ่งช่างน่าประหลาด! ข้าอยากจะรู้จริงๆว่ามันสงบนิ่งได้อย่างไร!’

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา กระบี่หักพุ่งไปข้างหน้าและภาพเงาแดนสวรรค์วายุปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์มหึมา เพลิงนรกานต์ล้อมรอบร่างเขาไปด้วย

ตอนนี้ปรมาจารย์ลั่วฟู่ราวกับเทพจริงๆ แรงกดดันของเขายิ่งใหญ่มหาศาล

แขนขวาสร้างผนึกและชี้ไปที่ค่ายกลดวงดาวด้านล่าง ดวงดาวหลายร้อยเริ่มขยับและมีกลิ่นอายของวิญญาณดาวเคราะห์แพร่กระจายออกมา

ขณะที่ค่ายกลดวงดาวเคลื่อนไหวจนกลิ่นอายของวิญญาณดาวเคราะห์รุนแรงขึ้นและสั่นสะเทือนดาราจักรทุกชั้นฟ้า ยิ่งมันมากขึ้นก็ยิ่งทำให้อีกสามดาราจักรสัมผัสอำนาจของค่ายกลดวงดาวได้!

“ข้าเตรียมการค่ายกลนี้เพื่อต่อสู้กับศัตรูในดินแดนชั้นนอก ในเมื่อเจ้าอยากจะสู้ ข้าเองก็อยากเห็นว่าเจ้าจะต่อสู้ในค่ายกลดวงดาวนี้ได้อย่างไร!” เสื้อคลุมของปรมาจารย์ลั่วฟู่พัดพลิ้ว กลิ่นอายวิญญาณดาวเคราะห์รุนแรงยิ่งขึ้นจนเกิดวังวนและล้อมรอบบริเวณด้วยแรงกดดัน

แค่ชำเลืองสายตามอง ทั่วทั้งพื้นที่ดวงดาวกลับเต็มไปด้วยวิญญาณดาวเคราะห์ วิญญาณเหล่านี้ดูเหมือนจะสร้างโลกของมันเองที่นี่!

โดยมีหวังหลินอยู่ใจกลางค่ายกลดวงดาว!

“เด็กน้อยหวังหลิน มาต่อสู้กับข้าเถอะ!” ปรมาจารย์ลั่วฟู่ร้องคำรามแต่ความสงบนิ่งของเขายังทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ตอนนี้เขาผลักสิ่งที่คาดการณ์ทั้งหมดกลับไปและพุ่งเข้าหาด้วยรอยยิ้ม แดนสวรรค์วายุด้านหลังเกิดการสั่นเทาและมีเงาของเหล่าเทพนับไม่ถ้วนลอยออกมา!

กระบี่หักร้องโหยหวนพลางติดตามปรมาจารย์ลั่วฟู่เข้าหาหวังหลิน!

ค่ายกลดวงดาวหมุนติ้ว วิญญาณดาวเคราะห์หลายร้อยดวงเริ่มหมุนไปด้วย มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพื้นที่ดวงดาวนั้นกำลังกลับตาลปัตร เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่น

หวังหลินยังมีสีหน้าสงบนิ่ง เมื่อปรมาจารย์ลั่วฟู่เข้าใกล้ ดวงดาวเทพโบราณเจ็ดดวงกลางหน้าผากเริ่มหมุนติ้ว พลังอำนาจของเทพโบราณเจ็ดดาวอุบัติขึ้นซึ่งเทียบได้กับเซียนขั้นที่สาม!

นี่คือครั้งแรกที่หวังหลินเผยพลังเทพโบราณเจ็ดดาวอย่างสมบูรณ์ในดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

ปรมาจารย์ลั่วฟู่หรี่ตาแคบแต่เขาไม่มีเจตนาถอย เพียงกะพริบตาเขาก็อยู่ห่างจากหวังหลินไม่ถึงห้าร้อยฟุตแล้ว! ดวงตายังคงสงบนิ่งและความสงบนิ่งนี้ก็มากพอจะทำให้คนอื่นหวาดหวั่นและทำให้ปรมาจารย์ลั่วฟู่ไม่อาจคาดเดาอะไรได้!

‘มันมีวิชาอะไร!? หากมันแค่กลิ่นอายนี้ยังเทียบไม่ได้กับค่ายกลดวงดาวของข้าด้วยซ้ำ!’

ขณะที่ปรมาจารย์ลั่วฟู่เข้ามาใกล้ ความคิดหลายอย่างแล่นอยู่ในใจ หวังหลิน ถอนหายใจจนเขาได้ยิน เขาสะบัดแขนชี้ใส่กลางหน้าผากและปรากฏเตาหลอมจักรพรรดิขึ้นมา

“ทาสโบราณ หลิงตง!” หวังหลินเอ่ยกล่าว แสงหนึ่งลอยออกมาจากเตาหลอมจักรพรรดิและมาถึงเบื้องหน้าหวังหลิน

วินาทีที่หลิงตงปรากฏตัว กลิ่นอายเซียนขั้นที่สามที่แท้จริงปะทุออกมาจากร่างเขา!

รอยแยกอวกาศขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเบื้องบน มีมหาสมุทรสีม่วงมหึมาอยู่ข้างในและมีเพลิงนรกานต์นับไม่ถ้วนเต็มไปทั่วมหาสมุทรสีม่วง!

‘เซียนขั้นที่สาม!!’ ปรมาจารย์ลั่วฟู่เปลี่ยนสีหน้าไปแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เขาหยุดเคลื่อนไปข้างหน้าทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ!

‘มีเซียนขั้นที่สามอีกคน!! นี่คือไพ่ตายของมัน คือเหตุผลว่าทำไมถึงได้สงบนิ่งขนาดนี้!! มัน…เป็นใครกันแน่…ถึงได้มีเซียนขั้นที่สามเป็นทาสรับใช้!?!’

ถึงแม้ปรมาจารย์ลั่วฟู่จะมีชีวิตมาหลายหมื่นปี เขายังอดตกตะลึงกับการปรากฏตัวของหลิงตงไม่ได้

เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหวังหลินถึงได้สงบนิ่งตอนที่เผชิญหน้ากับวิชาทั้งหมดของเขา ทำไมเขาถึงไม่สนใจเรื่องหนี้บุญคุณเลย ทำไมเขาถึงได้โอหังจนบอกว่าเหนื่อยกับการประลองปัญญา…ปรมาจารย์ลั่วฟู่เข้าใจเรื่องทั้งหมดก็ตอนที่หลิงตงปรากฏ!

สิ่งที่เขาหวาดกลัวก็คือเพลิงนรกานต์อันมหาศาลที่ปรากฏในรอยแยกอวกาศเหนือหลิงตง จำนวนเพลิงนรกานต์เหล่านั้นมันเกินที่เขาจินตนาการไปไกล!

‘นี่…เพลิงนรกานต์มากขนาดนี้…เซียนขั้นที่สามนี้เป็นใคร?! ข้ารู้จักเซียนขั้นที่สามทั้งหมดในดินแดนชั้นใน ไม่มีคนเช่นนี้อยู่ เขา…’ ปรมาจารย์ลั่วฟู่สีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล หากเขาเป็นเช่นนี้คงไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่นๆ

ปรมาจารย์จงเฉินตกตะลึงอยู่ในวังวน ความตกตะลึงทั้งหมดที่เขารู้สึกตลอดการบ่มเพาะหลายหมื่นปีรวมกันยังเทียบไม่ได้กับที่หวังหลินทำให้เขาตกตะลึง ความแข็งแกร่งของหวังหลินทำให้เขาหวาดกลัวไปแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าหวังหลินจะมีทาสรับใช้!!

ทาสโบราณ ทาสโบราณ!

ใครก็ตามที่ได้ยินสองคำนี้จะไม่รู้จักตัวตนของหลิงตงได้อย่างไร?

เป็นธรรมดาอย่างยิ่งสำหรับเซียนที่มีทาสรับใช้ แต่ทว่าทาสรับใช้นี้…ทาสรับใช้นี้กลับเป็นเซียนขั้นที่สาม!!

แม้กระทั่งในดินแดนชั้นนอก เรื่องนี้คงทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ นับประสาอะไรกับดินแดนชั้นในที่ยากจะเจอเซียนขั้นที่สามสักคนในรอบหลายหมื่นปี!

แม้จะมีใครสักคนบอกปรมาจารย์จงเฉินว่าดาราจักรทุกชั้นฟ้าจะล่มสลาย เขาคงไม่ตกตะลึง!

การปรากฏตัวของหลิงตงทำให้เกิดพลังลึกลับ เป็นแรงกดดันที่ทำให้อวกาศสั่นสะเทือน กลิ่นอายที่ทำให้เหล่าเซียนหวาดกลัว แรงกดดันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า บรรพชนทุกชั้นฟ้า ปรมาจารย์ลั่วฟู่เผยสีหน้าทุกอย่างออกมา!

คนผู้นี้คือเซียนขั้นที่สาม!

ความคิดปรมาจารย์จงเฉินเกิดการสั่นเทาและขาวโพลน ดวงตาทื่อลง

‘เขา…เขาไปเจอโชคอะไรกันนี่…ไม่เพียงแค่สามารถต่อสู้กับเซียนขั้นที่สามได้ แต่ยังได้เซียนขั้นที่สามเป็นทาสรับใช้…ขั้นที่สาม…เซียนขั้นที่สาม!!! ข้าพบเจอแต่ปรมาจารย์ลั่วฟู่ในรอบหลายหมื่นปีที่ข้ามีชีวิต นี่…ข้าไม่เชื่อ…ข้าไม่เชื่อ!!!’ ปรมาจารย์จงเฉินมีความคิดสับสน เขาไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น เซียนขั้นที่สามเป็นทาสรับใช้ของหวังหลิน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version