Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1531

Cover Renegade Immortal 1

1531. คันศรอยู่นี่

หากเป็นอดีตคงทำให้จิตวิญญาณค่ายกลปรากฏขึ้นมาแล้ว แต่เกาทัณฑ์ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยเจตนาอันบ้าคลั่ง เป็นแรงกดดันรุนแรงที่ทำให้จิตวิญญาณ ค่ายกลต้องล่าถอย! ราวกับพวกมันกลัวจนไม่กล้าสู้หน้า!

ค่ายกลดินแดนปิดผนึกเกิดการสั่นเทา ช่องว่างขนาดห้าร้อยฟุตถึงกับหยุดปิดลงกระทันหันราวกับโดนแช่แข็ง ทำให้เกาทัณฑ์สีขาวพุ่งตรงมาที่หวังหลิน!

หวังหลินอยู่ในสภาวะเพ่งสมาธิถึงขีดสุดและลืมเลือนทุกอย่างนอกจากเกาทัณฑ์สีขาว ขณะที่ถอยร่น ร่างกายหายวับไปอย่างรวดเร็ว

ความเจ็บปวดกลางหน้าผากแพร่กระจายออกมาราวกับมีมือที่มองไม่เห็นต้องการฉีกเปิดกะโหลกหวังหลิน เกาทัณฑ์สีขาวส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งทะยานผ่าน ค่ายกลดินแดนปิดผนึกและห่างจากหวังหลินไม่เกินหมื่นฟุต!

เสียงเกาทัณฑ์คมกริบ จิตสังหารในเส้นเสียงทำให้เซียนดินแดนชั้นในต้องหน้าซีด

ระยะห่างหมื่นฟุตดูเล็กน้อยไปเลย ขณะที่เสียงดังกึกก้อง ศีรษะบัญชาโบราณเบื้องหน้าหวังหลินเริ่มบิดเบือนรุนแรง ราวกับมีพลังไร้เทียมทานกำลังเข้ามาใกล้!

เกาทัณฑ์มุ่งสังหาร!

เกาทัณฑ์พุ่งเข้าไปในศีรษะบัญชาโบราณในพริบตา เสียงดังสนั่นกึกก้อง แม้แต่ศีรษะบัญชาโบราณของหวังหลินก็ไม่สามารถต้านทานได้นานนัก ศีรษะถูกเจาะทะลวงและเกาทัณฑ์กำลังเจาะเข้าหาหวังหลิน!

ร่างหวังหลินไม่ได้ผสานเข้ากับโลกอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เกาทัณฑ์เข้าใกล้ สัมผัสความเป็นตายเพิ่มพูนขึ้น หวังหลินเผยสายตามุ่งมั่นและสะบัดแขน!

แขนของร่างเทพโบราณเข้าไปในศีรษะบัญชาโบราณและคว้าเกาทัณฑ์สีขาวเอาไว้!

วินาทีที่แขนสัมผัสกับเกาทัณฑ์สีขาว หวังหลินรู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งเข้าสู่ร่างกาย แม้จะมีร่างเทพโบราณเจ็ดดาวก็ยังรู้สึกว่าจัดการกับมันได้ยากยิ่ง ร่างกายหวังหลิน สั่นเทาและกระอักโลหิต เขาฝืนออกจากการผสานเข้ากับโลกและต้องล่าถอย

ทุกก้าวถอยห่างไปหลายสิบฟุตและทำให้เกิดแรงสั่นกระเพื่อม หวังหลินยึดแขนไว้กับเกาทัณฑ์และต้องถอยไปมากกว่าหมื่นฟุตด้วยท่าทีดุดัน!

โลหิตไหลออกมาเป็นทาง เขาบาดเจ็บอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งอาการย่ำแย่ขึ้นไปอีก

เสียงดังสนั่นกึกก้องอีกครั้ง หวังหลินก้าวเข้าสู่พื้นที่ของเซียนดินแดนชั้นนอกซึ่งถูกใบไม้โบราณปิดผนึก วินาทีที่ย่างเข้าไป หมอกสีดำจำนวนมากโผล่ออกมาจาก แผ่นหลัง ไม่นานเซียนดินแดนชั้นนอกเข้าสัมผัสกับหมอกสีดำ ร่างกายเหี่ยวแห้งจากการถูกดูดพลังชีวิตไปหาหวังหลิน

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ขณะที่หวังหลินต้านทานเกาทัณฑ์ด้วยการใช้วิธีนี้ ชายชุดขาวด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึกถึงกับมีสีหน้ามืดมนและรั้งสายอีกครั้ง!

“มันจบแล้ว!” ขณะที่ชายหนุ่มเอ่ยคำพูดออกมา ใบหน้าแก่ชราจากชายหนุ่มไปเป็นชายชรา แขนรั้งคันศรโก่งเป็นดวงจันทร์ จากนั้นปล่อยออกไปด้วยเกาทัณฑ์สีขาวดอกที่สอง!

เสียงหอนแหลมพุ่งเข้าสู่ช่องว่างในค่ายกลดินแดนปิดผนึก มุ่งตรงเข้าหาหวังหลิน!

หวังหลินเสียเปรียบจากการเผชิญหน้าเกาทัณฑ์ดอกแรกอยู่แล้ว สองดอกคือ ห้วงความเป็นความตายสำหรับเขา!

หวังหลินหรี่ตาแคบ เปลวเพลิงในตาซ้ายหมุนติ้วอย่างบ้าคลั่ง สายฟ้าในตาขวากะพริบอย่างรุนแรง แก่นแท้ในร่างกายพลันระเบิดออก ตอนนี้มันสายเกินกว่าจะมาคิดมากแล้ว

เขารู้ว่าหากไม่ได้ทำลายเกาทัณฑ์ในมือนี้ก่อนที่ดอกที่สองจะมาถึง หวังหลินคงตายแน่นอน กลิ่นอายบ้าคลั่งผุดขึ้นในดาราจักรทะเลเมฆาและพุ่งเข้ามา เมื่อกลิ่นอายเข้ามาใกล้ เงาร่างของชายวัยกลางคนเท้าเปล่าปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน!

หวังหลินรู้จักชายเท้าเปล่าคนนี้ เขาคืออสูรทรงพลังที่ถูกจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกคนก่อนได้ปิดผนึกเอาไว้ ไท่หลัว!

ไท่หลัวเลือกเผชิญกับเกาทัณฑ์ดอกที่สองด้วยเหตุผลบางอย่าง เพื่อซื้อเวลาอันมีค่า ให้หวังหลินมีชีวิตรอด!

วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นมา พลันส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ สองฝ่ามือสร้างผนึกและก้าวเท้าเข้าหาเกาทัณฑ์ดอกที่สอง

เกล็ดเริ่มผุดขึ้นตามตัวไท่หลัว เกล็ดเหล่านี้เป็นสีดำและเบาบาง ไม่นานจึง ปกคลุมเต็มไปทั่วร่างกาย

“ข้ายื้อให้เจ้าได้สามลมหายใจเท่านั้น!” เสียงดังสนั่นกึกก้องพร้อมกับสองแขนเข้าปะทะกับเกาทัณฑ์ พลังจากเกาทัณฑ์เข้าไปในร่างเขา โลหิตไหลย้อนออกมาจากมุมปาก สองแขนเริ่มบิดเบี้ยวราวกับไม่สามารถต้านทานเกาทัณฑ์ได้และกำลังฉีกขาด!

เขาร้องคำราม ร่างกายสั่นเทา เกล็ดบนร่างหลุดออกกลายเป็นโล่ในทันที!

ใจกลางโล่มีเกล็ดสีทองประหลาดอยู่สามเกล็ด สองฝ่ามือพังทลายกลายเป็น เศษเนื้อเศษโลหิต จากนั้นเกาทัณฑ์ดอกที่สองพุ่งชนเข้ากับโล่เกล็ด!

เสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือนสวรรค์ โล่เกล็ดสั่นเทา ตามขอบเริ่มแตกสลาย พริบตาเดียวเหลือเพียงเกล็ดสีทองสามชิ้น

นี่คือลมหายใจสุดท้าย!

เกล็ดสีทองทั้งสามพังทลายในชั่วเวลาสองลมหายใจ ไท่หลัวถอยกลับไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น เกาทัณฑ์ดอกที่สองไม่ได้มีเป้าหมายมาที่เขา ดังนั้นจึงสามารถล่าถอยได้โดยที่ไม่สาหัสมากนัก

ไท่หลัวทำลงไปตามคำสัญญาและชะลอเวลาได้สามลมหายใจ สามลมหายใจนี้มีค่ายิ่งต่อหวังหลินมาก ลมหายใจแรกหวังหลินกัดปลายลิ้นและพ่นหมอกโลหิตมาเบื้องหน้า

ลมหายใจที่สอง เพลิงทำลายล้างจากร่มบรรพกาลเผาดินแดนได้รวมกันเข้าหาหวังหลินจากทุกทิศทาง เปลวเพลิงล้อมรอบเขาและผสานเข้ากับโลหิตเบื้องหน้า ก่อเกิดเป็นพลังทำลายล้างเข้าเผชิญกับเกาทัณฑ์ที่อยู่ในมือ!

ลมหายใจที่สาม หมอกสีดำด้านหลังหวังหลินแผ่กระจายอย่างบ้าคลั่งเข้าหา เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกด้านหลัง เมื่อจบสิ้นสามลมหายใจ เกาทัณฑ์จึงปะทะกับเพลิงทำลายล้างที่ผสานโลหิตบัญชาโบราณของหวังหลิน เกาทัณฑ์แตกสลายไปทีละชั้นแต่แรงกระแทกยังคงน่าหวาดกลัว

หลังจากพังทลายไป เกาทัณฑ์จึงเหลือพลังอยู่เพียงสองในสิบส่วนจากของเดิม มันทะลวงผ่านการปิดล้อมของหวังหลินและพุ่งเข้าหาพื้นที่กลางหน้าผาก ช่วงระหว่างนี้เกาทัณฑ์สูญเสียพลังไปมากยิ่งขึ้นจนตอนที่มันห่างจากหน้าผากหวังหลินเพียงแค่สามนิ้ว มันเหลือพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนจากของเดิม

เสียงปังดังลั่นออกมาจากเศษเกาทัณฑ์เข้าปะทะพื้นที่กลางหน้าผากของหวังหลิน

เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วโลก ไม่ใช่มาจากหวังหลินแต่มาจากเหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกด้านหลัง! เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยหมอก สีดำจนเหี่ยวแห้งกลายเป็นซากศพ!

เกาทัณฑ์แตกหักพังทลาย ร่างกายหวังหลินชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อ ทว่าอันตรายยังไม่จบ เกาทัณฑ์ดอกที่สองเข้ามาแล้ว!

การหลบมันนับว่าเป็นไปไม่ได้ หวังหลินถอยด้วยท่าทีบ้าคลั่ง ลำคอส่งเสียงคำราม แขนขวาชี้ใส่ท้องฟ้า ในชั่ววินาทีวิกฤตนี้เขาไม่สนถึงผลกระทบที่ตามมาอีกแล้ว แขนขวายื่นออกไปให้ร่มหดลงและลอยเข้ามาหา จากนั้นหวังหลินคว้าร่มเอาไว้!

พอถือมันไว้ในมือ พลังชีวิตของหวังหลินไหลเข้าไปในร่มบรรพกาล ร่างเทพโบราณเต็มไปด้วยพลังชีวิต นาทีนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมากความ ร่างเทพโบราณเผยอาการเหี่ยวแห้งในทันที!

ร่มบรรพกาลที่เดิมทีเปิดได้แค่หนึ่งในสิบส่วน ตอนนี้หวังหลินเติมพลังชีวิตเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เปลวเพลิงข้างในโหมอย่างรุนแรง เมื่อเกาทัณฑ์ดอกที่สองอยู่ห่างไม่ถึงร้อยฟุต หวังหลินร้องคำรามและผลักร่มให้เปิดออกรุนแรง!

สองในสิบส่วน!

เสี้ยวนาทีนี้ร่มบรรพกาลที่ถูกเปิดออกได้สองในสิบส่วนเป็นการฆ่าตัวตายของ หวังหลินโดยแท้!

เพลิงทำลายล้างที่สามารถเผาได้แม้แต่อวกาศพลันพุ่งออกมาจากร่ม อวกาศรอบหวังหลินพังทลายกลายเป็นทะลเพลิงราวกับถูกหล่อหลอม เผยให้เห็นความว่างเปล่าด้านล่าง!

ยามที่เกาทัณฑ์ดอกที่สองเข้าใกล้ มันปะทะเข้ากับร่มที่เปิดออกได้สองส่วน เสียงดังสนั่นกึกก้อง เกาทัณฑ์ดอกที่สองสั่นเทาราวกับโดนหล่อหลอม ทว่ามีพลัง สายหนึ่งโผล่ออกมาจากคันธนูซึ่งทำให้เกาทัณฑ์ทะลวงผ่านทะเลเพลิงและพยายามเข้าไปใกล้หวังหลิน!

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ระยะห่างร้อยฟุตที่เหล่าเซียนสามารถข้ามได้ในเสี้ยววินาที นับประสาอะไรกับเกาทัณฑ์ ร่างหวังหลินแห้งเหี่ยวไปแล้วแต่ตอนนี้เขาเติมพลังชีวิตเข้าไปในร่มมากขึ้น หวังหลินดูเหมือนเทพโบราณแก่ชราใกล้จบชีวิต ร่างกายทรงพลังตอนนี้เสมือนเป็นซากศพ!

ร่มบรรพกาลเผาดินแดนดูดซับพลังชีวิตไปมากขึ้นและเปิดออกไปมากขึ้นพร้อมกับหวังหลินส่งเสียงดังคำราม แม้จะไม่ได้เปิดถึงสามในสิบส่วน แต่มันก็ใกล้มาก!

กระนั้นเปลวเพลิงที่โผล่ออกมายิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม เกาทัณฑ์ดอกที่สองพังทลายในขณะที่ห่างจากหวังหลินเพียงสิบฟุต! ทว่าในขณะที่พังทลาย พลังจาก คันศรพุ่งออกมาปะทะเข้ากับหน้าอกหวังหลิน

เกิดเป็นเสียงดังปัง ความเจ็บปวดราวกับถูกฉีกกระชากโผล่ออกมาจากหน้าอก ความเจ็บปวดรุนแรงจนทำให้เขาต้องล่าถอยพร้อมกระอักโลหิตไปด้วย!

ทว่าดวงตาหวังหลินส่องสว่าง เขาไม่ได้บาดเจ็บสาหัสมานานและอาการบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้จิตสังหารของเขาพุ่งถึงขีดสุด ฝ่ามือโบกสะบัดพลางล่าถอยเกิดเป็น กระบี่โลหิตผุดขึ้นมา มันสามารถทำลายได้ทุกอย่างที่มีตัวตนเท่านั้น หากใช้ต้านทานเกาทัณฑ์สีขาวที่สร้างขึ้นจากพลังชีวิต มันคงใช้ไม่ได้มาก

กระบี่โลหิตทะยานเข้าหาช่องว่างในค่ายกลดินแดนปิดผนึกซึ่งตอนนี้เหลือขนาดเพียงแค่สองร้อยฟุต ทว่าในจังหวะนั้นหวังหลินคว้าเอาไว้ หักห้ามจิตสังหารและ สลายแรงผลักดัน

‘มีบางอย่างผิดพลาด!’

‘ข้าต้องสังหารมันและล่อลวงให้ออกมา…’

เซียนชุดขาวซึ่งเปลี่ยนกลายเป็นชายชราไปแล้วกำลังมีสีหน้าไม่เชื่อ ท่าทีมืดมน ที่เขาตกตะลึงคือไม่สามารถสังหารหวังหลินได้หลังจากยิงไปแล้วสองดอก ตอนนี้ เขาสูญเสียพลังชีวิตไปมากเกินไปและทำได้แค่ถอนหายใจด้วยความเสียดาย เขามองหวังหลินผ่านช่องว่างในค่ายกลก่อนจะก้าวเดินออกไป

แต่ในจังหวะที่ล่าถอย พลังมารโผล่ออกมาจากดาราจักรทะเลเมฆา พลังมารนี้รวดเร็วยิ่ง เทียบเคียงได้กับความเร็วของคันศรเมื่อครู่ได้เลย!

มารโบราณจากสำนักภูตผีปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างเงาอยู่ใกล้ๆ กับค่ายกลดินแดนปิดผนึก ในตาซ้ายมีดวงดาวหมุนติ้วอยู่เก้าดวง ดวงตาจ้องมองคันศรในมือชายชราด้วยความโลภ ทว่าร่างกายเป็นแค่ร่างเงานั่นหมายถึงเขาไม่ได้มาด้วยร่างจริง แม้จะมีเก้าดาวแต่เป็นแค่ภาพฉาย

นาทีนั้นเองเซียนที่อยู่ใกล้ชายชราชุดขาวได้ข่วนเข้าใส่อย่างรุนแรง!

เขารอโอกาสนี้มาสักพัก ความจริงเขาอยู่ที่นี่อยู่แล้วตอนที่เซียนชุดขาวปรากฏ แต่หวาดกลัวพลังของคันศร ดังนั้นจึงรอให้ชายชราจากไปเสียก่อน

ยามที่มารโบราณเก้าดาวเข้าไปใกล้เซียนชุดขาว เขาพลันหันกลับมาและเผยรอยยิ้มบังหน้า

“ปลาตัวใหญ่ไม่มา มีแต่ปลาเล็ก!”

แรงกดดันที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมาจากดาราจักรโบราณ เปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือล่องหนเข้ากดลงใส่อย่างเงียบงัน

ร่างอวตารของมารโบราณเก้าดาวถึงกับเปลี่ยนสีหน้า แววตาโลภพลันหายไป เขากรีดร้องและถอยอย่างร้อนรนเพื่อหลบเลี่ยงฝ่ามือ ทว่าตนเองช้าเกินไปจนถูกฝ่ามือคว้าเอาไว้ก่อนจะทันกลับไปยังค่ายกลดินแดนปิดผนึกได้ทัน

ฝ่ามือบีบอย่างรุนแรง ร่างอวตารของมารโบราณเก้าดาวแตกสลายกลายเป็นพลังมารจำนวนมาก ฝ่ามือดูดซับพลังมารทั้งหมดและหายวับไป

“เฟิงยี่ หัวหน้าศิษย์ท่านราชันย์ มาตามคำสั่งอาจารย์เพื่อส่งคันศรนี้ให้แก่สหายเซียนดินแดนชั้นใน!”

“คันศรอยู่ที่นี่ เกาทัณฑ์สองดอกได้แสดงพลังอำนาจของคันศรไปแล้ว หากใครสงสัยพลังของมันก็ลองมาเอาไป!” เซียนชุดขาวคำนับฝ่ามือและปล่อยคันศรไป มันลอยเคว้งคว้างอยู่เบื้องหน้าช่องว่างในค่ายกลดินแดนปิดผนึก

แสงอ่อนๆโผล่ออกมาจากคันศร ทำให้ทุกคนดึงดูดความสนใจอย่างบ้าคลั่ง!

“อาจารย์ส่งคำสั่งมาว่าให้โอกาสดินแดนชั้นในแย่งคันศรได้สามครั้ง เจ้าต้องส่งเซียนดินแดนชั้นนอกของเรากลับมาสามในสิบส่วนในแต่ละครั้ง! เจ้าอยากได้มันหรือไม่?”

แววตาหวังหลินผุดจิตสังหาร หากเขาไม่ได้ทำให้อสูรโลกันตร์กลายเป็นอสูรแก่นแท้ชีวิต เมื่อนั้นการเปิดร่มบรรพกาลคงสูญเสียพลังชีวิตไปถึงเก้าในสิบส่วน ทว่าถึงแม้จะมีอสูรโลกันตร์ด้วย เขาก็ไม่สามารถใช้ได้บ่อยนัก แม้อสูรโลกันตร์แทบจะมีพลังชีวิตมหาศาล มันยังไม่สามารถทนรับการสูบพลังชีวิตของร่มบรรพกาลได้

‘ราชันย์ทำแบบนี้เพื่ออะไร…ดูเหมือนจะหวาดกลัวบางอย่าง…เขาต้องการใช้ คันศรนี้ล่อลวงให้ใครสักคนออกมา…’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version