1556. สายตาประหลาด
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผู้เยาว์เติบโตขึ้นและกลับสู่แคว้นที่โดนทำลาย ดวงจันทร์สีแดงตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องฟ้าเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน โลหิตไหลนอง…แสงเจ็ดสียังอยู่ที่เดิม
อีกด้านของภาพ โลหิตไหลเป็นสายน้ำจากมีเซียนจำนวนมากที่ถูกสังหาร จากนั้นชายหนุ่มเศร้าโศกก็จากมา
หวังหลินมองดูภาพเหล่านั้นด้วยจิตใจที่สั่นเทา เขาเห็นอดีตของฉิงชุ่ย เห็นฉิงชุ่ยเข้าไปในแดนสวรรค์ เห็นใบหน้าของฉิงชุ่ยที่มีแต่ความสุขแทนที่จะเป็นจิตสังหาร
ด้านข้างเขาเป็นสตรีผู้หนึ่ง นางไม่ได้สวยสดงดงามเกินใครแต่กลับมีสัมผัสแห่งความอ่อนโยน นางมองฉิงชุ่ยและเผยรอยยิ้มหวาน
เบื้องหน้าทั้งสองคนเป็นชายชราผู้หนึ่ง เขาคือป๋ายฟ่าน เขามองทั้งสองคนอย่างเมตตา ดูเหมือนจะกล่าวอะไรบางอย่าง
ทว่าในภาพนี้ แสงเจ็ดสียังคงปรากฏอยู่ในท้องฟ้า มีสายตาที่ไม่แยแสจากแสงเจ็ดสีกำลังจ้องมองฉิงชุ่ย สายตาคู่นี้ปรากฏขึ้นมาหลายครั้ง ยิ่งหวังหลินเห็นมันก็ยิ่งรู้สึกประหลาด ราวกับมีคนกำลังมองจากอีกฝั่งเข้ามาในกระจก
หมอกโลหิตพรั่งพรู ภาพเปลี่ยนแปลงไป ภาพใหม่กลับน่าตกตะลึงยิ่งจนทำให้หวังหลินต้องหรี่ตาแคบและเต็มไปด้วยความเศร้า
ในภาพนั้นฉิงชุ่ยกำลังนั่งอยู่บนยอดเขา ร่างเจ็ดสีในท้องฟ้าพลันยกแขนขึ้นมาชี้ลงเบื้องล่าง
ฉิงชุ่ยตัวสั่นเทา แววตาของเขาถูกแทนที่ด้วยความกระหายเลือดและจิตสังหาร เขาร่ำร้องคำรามออกมากึกก้องไปทั่วทั้งแดนสวรรค์! ป๋ายฟ่านจ้องมองไปยังท้องฟ้าไกลด้วยความไม่เชื่อ เขาเองก็สัมผัสบางอย่างได้เลือนลาง!
ฉิงชุ่ยบ้าคลั่งไปแล้ว!
การฆ่าฟันที่เขาฝังไว้ในร่างมานานพลันอุบัติขึ้นและจุติลงมาในแดนสวรรค์อัสนี หวังหลินเห็นเทพจำนวนมากตายไปเพราะฉิงชุ่ย เขาเป็นเสมือนมารร้ายกระหายเลือดที่ยิ่งสังหารก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น!
จากนั้นคนรักของฉิงชุ่ยปรากฏขึ้นเบื้องหน้า แววตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าแต่อ่อนโยน นางตายเพราะฉิงชุ่ยแต่ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้และมองคนรักด้วยความอ่อนโยน เรียวแขนของนางพยายามสัมผัสใบหน้าคนรักแต่ก็ไร้เรี่ยวแรง นางดูเหมือนได้พูดบางอย่าง…
สิ่งที่นางพูดและโลหิตไหลท่วมออกมานั้นได้ทำให้ฉิงชุ่ยมีสติ เขาส่งเสียงร้องโศกเศร้าเท่าที่คนสิ้นหวังจะร้องออกมาได้!!
ขณะที่เสียงร้องโศกเศร้าดังกึกก้อง ภาพจึงสูญสลายไป หมอกโลหิตพรั่งพรูและทุกอย่างหมุนวนซ้ำเดิมที่ภาพรูปแรก วนเวียนต่อไปเรื่อยๆ
ดูเหมือนจะมีพลังอำนาจหนึ่งที่กำลังใช้วิธีอันโหดเหี้ยมนี้เพื่อบังคับให้ฉิงชุ่ยรื้อฟื้นคืนความทรงจำจนเขาถูกขังไว้ในความโหดเหี้ยม ความบ้าคลั่งและความเศร้าอยู่ตลอดเวลา กักขังเขาไว้ในวงโคจรนี้ไปตลอดกาล
วิธีนี้กระตุ้นให้แก่นแท้สังหารของฉิงชุ่ยเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น…
หวังหลินรู้สึกเห็นใจ เขาพอจะรู้เรื่องของฉิงชุ่ยมาคร่าวๆ แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเองจึงรู้สึกเศร้ามากกว่าเดิม เขารู้สึกเศร้ากับชีวิตของฉิงชุ่ยและรู้สึกรันทดที่ฉิงชุ่ยต้องมาเจออะไรเช่นนี้
‘ศิษย์พี่ฉิงชุ่ย ข้าหวังหลินจะทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยท่าน!’ หวังหลินหันกลับมาและไม่มองภาพในหมอกโลหิตอีก เขาพุ่งเข้าหาเต่าดำที่กำลังขังฉิงชุ่ยเอาไว้!
เต่าดำตัวนี้ขนาดใหญ่มากเท่ากับดินแดนเจ็ดสี แม้มันจะกลายเป็นหินไปแล้ว แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาทรงพลังยิ่งยวด หวังหลินสัมผัสกลิ่นอายที่ออกมาได้ชัดเจน
กระทั่งมีภาพมายาหนึ่งบอกว่าเต่าดำตัวนี้ไม่ได้ตายแต่กำลังหลับใหล!
‘เพื่อช่วยฉิงชุ่ย ข้าต้องทำให้วิญญาณเขาเป็นอิสระ!’ ด้วยความเข้าใจด้านเขตอาคมของหวังหลิน เขาจึงเห็นได้ชัดเจนว่าเต่าดำตัวนี้คือกุญแจสำคัญในการทำลายค่ายกล!
หากการกักขังวิญญาณของฉิงชุ่ยบนเต่าดำไม่ได้ถูกทำลาย มันคงไม่สามารถถอนหนามทั้งสิบจากร่างฉิงชุ่ยได้! หวังหลินมั่นใจ!
เขาพุ่งลงไป แขนขวากำหมัด พลังเทพโบราณรวบรวมในกำปั้นก่อเกิดเป็นเงากำปั้นพุ่งเข้าใส่เต่าดำ
สายลมกรรโชกรุนแรงผุดขึ้นมาร่อนลงใส่เต่าดำ ร่างเต่าสั่นไหวแต่ไม่มีความเสียหาย
พลังสะท้อนอันแข็งแกร่งโจมตีกลับมาใส่หวังหลิน บังคับให้เขาถอยไปหลายร้อยฟุต
‘ทำลายไปซะ!!’ ดวงตาหวังหลินสีแดงฉานและร้องคำรามอีกครั้ง ยกแขนขวาและโยนออกไปสิบกำปั้น! แต่ละกำปั้นบรรจุพลังจากร่างเทพโบราณเจ็ดดาวเต็มกำลัง กำปั้นทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นพายุเข้ากระแทกใส่เต่าดำ
เต่าดำหินสั่นไหวและส่งเสียงดังกึกก้อง แต่แผ่นหลังของมันแข็งอย่างเหลือเชื่อ หลังจากส่งไปสิบกำปั้นกลับไม่มีสัญญาณแตกหัก ขณะเดียวกันกลับมีพลังสะท้อนที่รุนแรงพุ่งใส่หวังหลินแทน
แขนขวาหวังหลินเกิดเสียงปริแตกและเขากระเด็นกลับไปพันฟุต โลหิตไหลย้อนออกมาจากมุมปาก แต่สีหน้าท่าทางดุดันยิ่งกว่าเดิม
ขณะนั้นเสียงดังลั่นสะท้อนไปทั่วดินแดนเจ็ดสี เสียงพึมพำดังออกมาจากร่างของเต่าดำ มันไม่ได้ยินจากโสตประสาทแต่สัมผัสได้ภายในใจ
เมื่อเสียงพึมพำนี้ผุดขึ้นมา เซียนนับแสนบนภูเขาเริ่มร้องคำราม ร่างกายแต่ละคนได้รับอิสระ หนามทั้งหมดที่ฝังอยู่ในร่างถูกดึงออกมา โลหิตสาดกระจายไปทั่วทุกที่ รอยแผลบนร่างฟื้นฟูในทันที
มองข้างนอกแล้ว นอกจากเสื้อผ้าที่ฉีกขาด พวกเขาไม่มีอาการบาดเจ็ยเลย เหล่าเซียนนับแสนร้องคำรามใส่ท้องฟ้าด้วยความบ้าคลั่ง จากนั้นพุ่งมาหาหวังหลินจากทุกทิศทาง วิชาเซียนพุ่งออกมาล้อมรอบไปทั่วดินแดนเจ็ดสี
หวังหลินกะพริบแววตาจิตสังหาร เพลิงสีทองพุ่งออกมาจากตาซ้าย แม้เพลิงนี้จะเป็นสีทองแต่มันยังเป็นเพลิงไร้ลักษณ์ มันพุ่งใส่เซียนที่กำลังเข้ามาหาทันที
อย่างไรก็ตามกลับไม่มีเพลิงไร้ลักษณ์เผาไหม้จากเซียนแสนคนนี้ นั่นหมายความได้อย่างเดียว เหล่าเซียนนับแสนไม่ใช่คนที่มีชีวิตและได้ตายไปนานแล้ว แม้จะดูเหมือนมีชีวิตแต่ความจริงถูกควบคุมด้วยพลังลึกลับ
ถึงจะไม่มีเพลิงไร้ลักษณ์ เพลิงสวรรค์ของหวังหลินก็ทรงพลังมากกว่าช่วงการสู้รบครั้งแรกกับดินแดนชั้นนอก เปลวเพลิงแพร่กระจาย แสงสีทองพรั่งพรูออกไปรอบทิศ
แต่ในจังหวะนั้นเหล่าเซียนนับแสนคนกลับระเบิดตัวเองก่อนที่เพลิงและสายฟ้าจะมาถึง เลือดเนื้อควบแน่นเข้าด้วยกันจนกลายเป็นดาบยักษ์!
ดาบเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อ มันถูกสร้างขึ้นจากเซียนนับแสนคน เมื่อมันยกขึ้นไปในท้องฟ้าจึงกลายเป็นเงาขนาดใหญ่
มองไกลๆ จะเห็นว่ามีใบหน้าบิดเบี้ยว ชิ้นส่วนแขนและขาบนใบดาบ ดาบฟาดฟันใส่หวังหลินโดยมีเหล่าเซียนนับแสนร้องคร่ำครวญ!
เสียงร้องของพวกเขาเต็มไปทั่วจิตใจหวังหลิน ยามนี้เขายังสามารถล่าถอยและออกไปจากดินแดนเจ็ดสีโดยไม่สนเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉิงชุ่ยได้ แต่เขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไร? เขาทำไม่ได้!
หวังหลินเอาแขนขวาตีใส่หน้าผาก ดวงดาวเทพโบราณเจ็ดดวงเริ่มหมุนติ้ว พริบตาเดียวเขาเปลี่ยนกลายเป็นร่างเทพโบราณขนาดหมื่นฟุต!
ร่างหวังหลินสั่นเทา สัมผัสได้ถึงเสียงคำรามโหยหวนที่เต็มไปด้วยความแค้นและจิตสังหารนับไม่ถ้วนจากตัวดาบได้ชัดเจน พลังจากดาบอันแข็งแกร่ง ทำให้ร่างของเขาสั่นคลอน!
นี่คือพลังทางกายภาพของเซียนนับแสนที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากวิชาอันลึกลับ ซึ่งมากพอจะทำร้ายเทพโบราณเจ็ดดาวได้ทีเดียว!
อย่างไรก็ตามหวังหลินก็ไม่ถอยสักก้าว พลางฝืนให้พลังนี้อยู่ในร่างกาย เขาร้องคำราม สะบัดแขนขวาผลักดาบให้ถอยไปอีกครั้ง
“ยังแข็งแกร่งไม่พอ อีกครั้ง!” หวังหลินเอ่ยเสียงคำรามกึกก้อง ดาบที่กระเด็นกลับไปได้กลับมาอีกครั้ง!
ดาบนั้นฟันลงมาใส่หวังหลินหนึ่งร้อยครั้งในคราเดียวจนส่งเสียงดังสนั่นกึกก้องต่อเนื่อง! การฟาดฟันร้อยครั้งเปลี่ยนกลายเป็นหนึ่งดาบที่ต้องการฟันหวังหลินให้ ขาดครึ่ง!
หวังหลินปลดปล่อยพลังต่อต้านทั้งหมดและยอมให้ร่างกายระเบิดพลังสิบเท่า การผสานกันของพลังเทพโบราณและพลังสวรรค์ได้ทำให้หวังหลินมีพลังพอจะสังหารเซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางได้เลยทีเดียว นี่เป็นเหตุผลว่าเขาสามารถสังหารเทียนจ้าวได้อย่างไร!
ร่างหวังหลินสั่นสะท้าน กลืนโลหิตที่ย้อนคืนมาในลำคอ เขากระแทกเข้าใส่เต่าดำ ยืมพลังจากกระบี่เลือดเนื้อนั้นเข้ากระแทกใส่
หวังหลินรวดเร็วยิ่งจนตกลงใส่เต่าดำในพริบตา วินาทีนั้นเขาหันกลับมา สองแขนกำหมัดกระหน่ำเข้าใส่เต่าดำหิน!
“ถูกทำลายไปซะ!!”
ทั้งดินแดนเจ็ดสีสั่นไหว โลกใบนี้ดูเหมือนกำลังจะพังทลาย เมื่อกำปั้นแรกของหวังหลินกระแทกใส่หลังเต่าดำ เกิดเสียงแตกร้าวดังกึกก้อง!