1558. ร่างสีรุ้ง
ร่างฉิงชุ่ยสั่นเทารุนแรง หนามในหน้าอกถูกหวังหลินดึงออกมาหลายนิ้ว พลังดึงดูดโผล่ออกมาจากรอยแผลจนหวังหลินสัมผัสได้
กลิ่นอายประหลาดจากหนามพุ่งเข้าสู่จิตใจหวังหลิน อัตราเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น เสียงหัวใจเต้นดังดุจรัวกลอง
อัตราเต้นหัวใจที่เพิ่มขึ้น ไม่นานจึงกลายเป็นความเจ็บปวดท่วมไปทั่วร่าง
วินาทีนั้นเสียงน่าขนลุกดังออกมาจากด้านหลังหวังหลิน “หนามแรกผนึกหัวใจเขา!”
หวังหลินหยุดชั่วขณะ เขาไม่สังเกตเห็นใครที่นี่มาก่อน ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงนี้ รูม่านตาหดเล็กและค่อยๆ หันกลับมา
ภูเขาที่ฉิงชุ่ยอยู่กำลังลอยในอากาศและแยกห่างจากดัชนีเจ็ดสี เมื่อวิญญาณของฉิงชุ่ยกลับคืนมา ดัชนีเจ็ดสีเบื้องหน้าจึงหายไปจากดินแดนเจ็ดสีแห่งนี้
ทว่าตอนที่หวังหลินมองกลับไป ดัชนีเจ็ดสีที่หายวับพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง แสงจากดัชนีอ่อนแอยิ่ง แทนที่มันจะพังทลายหายไปแต่กลับก่อตัวขึ้นกลายเป็นร่าง สีรุ้งเลือนลาง
แม้ร่างนี้จะพร่ามัวแต่สายตาของมันมองมาที่หวังหลินอย่างชัดเจน
หวังหลินขบคิดเงียบๆ ดาวเทพโบราณและดาวมารโบราณหมุนอย่างรวดเร็ว แขนซ้ายสร้างผนึก แขนขวาคลายจากหนาม
ร่างสีรุ้งเอ่ยขึ้นอย่างเงียบงัน “ไม่ต้องกังวล เจ้าช่วยเขาต่อไปได้ ข้าจะไม่หยุดเจ้า…”
หวังหลินไม่ผ่อนคลายเลย เขาจำได้ว่าร่างสีรุ้งนี้เป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นในภาพภายในหมอกโลหิต
หวังหลินเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับสีทั้งเจ็ดนี้อย่างมาก เขามีรูปปั้นเจ็ดสี เขาเห็นการหลอมจิตวิญญาณเต๋าและยังเห็นเซียนเต๋าเจ็ดสีในภาพมายาที่อยู่ในสุสานโบราณ
พอมองไปที่ร่างสีรุ้ง หวังหลินไม่มั่นใจว่าเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกด้านชาหรือไม่ อย่างไรก็ตามกลิ่นอายที่ซึมออกมาจากร่างนี้ช่างสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง
“สืบทอดมรดกโบราณ…ร่างเทพอมตะ…ห้าแก่นแท้…ภายในตัวเจ้ามีความลับมากมาย” เสียงเงียบงันยังคงดังออกมาจากร่างสีรุ้ง
“ท่านเป็นใคร?” จิตใจหวังหลินสั่นไหวแต่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง หากคนผู้นี้รู้ว่าหวังหลินเป็นใครจริงๆ ก็คงไม่ประหลาดใจที่รู้ความลับพวกนี้
“หนึ่งในความลับของเจ้าถือว่าเป็นโชคลาภอันมหาศาลของคนอื่นแล้ว…แต่สำหรับข้า พวกมันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในตอนนี้…” ร่างสีรุ้งพร่าเลือนกำลังส่ายศีรษะ เขาชี้ใส่ ฉิงชุ่ยพลางมองหวังหลินและเอ่ยขึ้น “เจ้าทำต่อไปได้ นี่คือโอกาสที่ข้ามอบให้ หากเจ้าสามารถช่วยเขาได้ก็พาเขาไปได้เลย หากเจ้าทำไม่ได้ก็จงจากไป…นี่คือโอกาสเดียว”
หวังหลินหยุดสร้างผนึกในแขนขวาก่อนจะคว้าหนามในหน้าอกฉิงชุ่ยโดยไม่ได้หันกลับมา วินาทีนั้นกลิ่นอายในใจฉิงชุ่ยล้อมรอบเขาอีกครั้ง
กลิ่นอายแผ่กระจายรอบหวังหลิน เขารู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างรุนแรงแต่ก็ต้องระงับเอาไว้ หวังหลินดึงหนามออกมาอย่างช้าๆ
ยิ่งดึงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดในใจตัวเองมากขึ้น ราวกับมีมือพยายามบีบหัวใจเขาให้แตกสลาย! โชคดีที่เขามีร่างเทพโบราณซึ่งมีพลังฟื้นฟูอันน่าอัศจรรย์ ขณะที่ความเจ็บปวดท่วมท้นในร่าง เขาฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว
ร่างเจ็ดสีมองหวังหลินและเอ่ยขึ้นช้าๆ “ร่างเทพโบราณของเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ…ตอนนั้นเย่โม่กระจายโลหิตไปสามพันหยดเพื่อเก็บมรดกตัวเองเอาไว้ นับว่าไม่เสียเปล่า…”
ยามที่ความเจ็บปวดในใจหวังหลินพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ดวงตาส่องสว่าง แขนขวาดึงหนามแรกออกมาอย่างรุนแรง! ฉิงชุ่ยกัดฟันแน่น ร่างกายสั่นเทาแต่ไม่มีเสียง ทว่าใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้เรือนผมกำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส!
โลหิตที่ปกคลุมร่างฉิงชุ่ยกำลังระเบิด หวังหลินรีบวางผนึกบนรอยแผล ผนึกส่องสว่างและโลหิตค่อยๆ หายไป
หวังหลินขบคิดเงียบๆ ขณะที่พลังต่อต้านในร่างกายส่งเสียงดังลั่น การปะทะกันของพลังเทพโบราณและพลังเทพได้ทำให้เกิดเสียงดังออกมาจากร่างกาย หนามข้างนอกร่างหวังหลินพังทลายลงไปเพราะพลังต่อต้านนี้
เหลือเพียงหนามที่ฝังลึกอยู่ภายในร่างเขา ราวกับพวกมันแทงไปถึงต้นตอ
ตอนที่หลังเต่าดำแตกกระจายและมีหนามทั้งแสนพุ่งใส่หวังหลิน เขาใช้ทั้งพลังแห่งเทพโบราณและโล่เงาแสง ทั้งหมดนี้เพื่อซ่อนหนามและทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก
อย่างไรก็ตามเขายังไม่สามารถหยุดการโจมตีจากหนามได้ ทำได้เพียงชะลอลงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่หวังหลินยืนนิ่งๆ ฟื้นคืนลมหายใจ ความเจ็บปวดในหัวใจค่อยๆ หายไป เขามองร่างสีรุ้งก่อนจะเอามือคว้าหนามที่ติดอยู่ตรงลำคอของฉิงชุ่ย
“หนามที่สองคือการผนึกกล้ามเนื้อ!”
หวังหลินหรี่ตาแคบและเอ่ยขึ้น “ข้าสงสัยว่าโลหิตสามพันหยดของเย่โม่ที่ท่านกล่าวถึงคืออะไร!”
ร่างสีรุ้งหัวเราะพลางส่ายศีรษะ “หากเจ้าสามารถดึงหนามออกมาได้สามชิ้น ข้าจะบอกความลับเรื่องเผ่าบัญชาโบราณให้…”
หวังหลินไม่เข้าใจความคิดของร่างสีรุ้ง เห็นได้ว่าอีกฝ่ายใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อสังเกตฉิงชุ่ยตั้งแต่เกิดจนบังคับให้ตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวังและเศร้าโศก ท้ายที่สุดเขาก็วางค่ายกลนี้ขึ้นมาเพื่อเก็บเกี่ยวแก่นแท้สังหาร
อย่างไรก็ตามจากที่หวังหลินเห็นร่างสีรุ้งทำลงไปและเอ่ยออกมา เขาดูเหมือนไม่ได้สนใจเลย นี่ยิ่งทำให้หวังหลินคาดเดาการสังเกตก่อนหน้านี้
น้ำเสียงไม่แยแสของร่างสีรุ้งดูไม่เหมือนกำลังโกหก เขาไม่สนอะไรจริงๆ…
‘เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร…’ หวังหลินขบคิด คว้าหนามที่สองในลำคอของฉิงชุ่ยและดึงออกมา เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างเขากำลังถูกดึงไปด้วย ซึ่งเจ็บปวดเหมือนตอนที่ดึงคันศรก่อนหน้านี้และสามารถอดทนได้
หวังหลินดึงหนามที่สองออกมาอย่างรุนแรง!
ฉิงชุ่ยกัดฟันแน่นและส่งเสียงคร่ำครวญ หยาดเหงื่อปกคลุมทั่วร่างเนื่องจากอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัส
หวังหลินหน้าซีด แขนขวาคว้าหนามที่สามที่อยู่บนแขนซ้ายของฉิงชุ่ย
“หนาที่สามและสี่อยู่บนแขนขวาเป็นการผนึกสัมผัสวิญญาณ!” ร่างสีรุ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
หวังหลินร้องคำรามพลางคว้าหนามที่สามและดึงขึ้นมา สัมผัสวิญญาณของเขาถูกพลังรุนแรงตีใส่ รู้สึกเหมือนสัมผัสวิญญาณได้รับความเสียหายอย่างหนัก
หวังหลินกระอักโลหิตและดึงหนามที่สามด้วยท่าทีดุดัน เขาคว้าหนามที่สี่ในแขนขวาของฉิงชุ่ยโดยไม่ลังเลและดึงพรวดรุนแรง
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินที่บาดเจ็บอยู่แล้วจึงถูกพลังแข็งแกร่งเข้าใส่อีกครั้ง ความคิดจิตใจดังลั่นและกระอักโลหิตอีก พลังต่อต้านในร่างพรั่งพรูขึ้นมาทำให้ร่างกายสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง
แขนของฉิงชุ่ยหย่อนลง เขามองมาที่หวังหลิน ดูเหมือนสายตาเขาไม่ได้มองเห็นร่างสีรุ้งแต่เห็นเพียงหวังหลินเท่านั้น ในสายตามีความโศกเศร้า ปลดปล่อยและตื่นเต้น
หวังหลินปาดโลหิตออกจากมุมปากและยิ้มให้กับฉิงชุ่ย ทว่าไม่นานก็หรี่ตาแคบ สายตาของฉิงชุ่ยสะท้อนสิ่งรอบด้านของหวังหลิน หวังหลินมองเห็นแต่ตัวเองแต่ไม่เห็นร่างสีรุ้ง
“เขามองไม่เห็นข้าหรอก…มีแต่เจ้าเท่านั้นที่เห็นข้าที่นี่ เจ้าเป็นเซียนจิตวิญญาณที่น่าสนใจมาก เหมือนเซียนน้อยจางคนนั้นที่ทำให้ข้าประหลาดใจ…ถ้าไม่ใช่เพราะข้ามั่นใจว่าเจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า ข้าคงไม่เชื่อว่าได้สร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ได้” ร่างสีรุ้งถอนหายใจ
‘เขาพูดว่าข้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา…นั่นหมายความว่าอะไร…คนชื่อจางหรือ? หรือเขากำลังพูดถึงจางกงเล่ยที่ตายไปแล้ว หรือ…ผีเฒ่าจาง?’ หวังหลินไม่ได้มองร่างสีรุ้ง ดวงตาส่องสว่างและเอ่ยถาม “โลหิตสามพันหยดของเย่โม่ที่ท่านกล่าวถึงคืออะไร?”
ร่างสีรุ้งยิ้มออกมามองหวังหลิน เขาเริ่มพูดด้วยความคิดถึง
“แรกเริ่มไม่มีเซียนจากแคว้นโบราณ มีเพียงเย่โม่อยู่คนเดียว…แต่เขาก็ยังเข้ามา ก่อนเขาตายจึงได้กระจายโลหิตสามพันหยดออกไป หนึ่งพันหยดกลายเป็น เทพโบราณ หนึ่งพันหยดกลายเป็นมารโบราณและหนึ่งพันหยดกลายเป็น ปีศาจโบราณ ขณะที่เวลาผ่านไป หยดโลหิตทั้งสามพันได้ผสานกันหรือไม่ก็ เบาบางลง”
“นั่นคือต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์โบราณทั้งสามที่นี่”
ความคิดของหวังหลินสั่นเทา เขาไม่อาจเชื่อคำพูดของคนผู้นี้ได้อย่างสิ้นเชิง แต่มันคล้ายกันกับวิญญาณปีศาจโบราณที่อยู่ในกลองซึ่งได้กล่าวเอาไว้ในดินแดนวิญญาณปีศาจ!
ปีศาจโบราณเป้ยหลัวได้พูดเอาไว้ครั้งหนึ่งว่าบัญชาโบราณเป็นเหล่าเซียนฝืนลิขิตสวรรค์รุ่นแรก เขาตายไปในการต่อสู้กับเต๋าสวรรค์ หลังจากนั้นมาจึงปรากฏเหล่า เทพโบราณ มารโบราณและปีศาจโบราณ
สามเผ่าพันธุ์โบราณคือเหล่าเซียนฝืนลิขิตฟ้ารุ่นที่สอง!
แม้จะไม่เหมือนกับสิ่งที่ร่างสีรุ้งพูดเอาไว้ หากทั้งสองเรื่องเอามารวมกันจะเกิดเป็นภาพชัดเจน!
‘เย่โม่ถูกจักรพรรดิสวรรค์โบราณล่อลวงมาที่นี่หรือไม่ก็ร่างสีรุ้งล่อมาที่นี่ การต่อสู้ครั้งนั้นคือการรบเก่าแก่ที่บัญชาโบราณต่อสู้กับสวรรค์ซึ่งเป้ยหลัวได้กล่าวถึง!’
‘ท้ายที่สุดโลหิตสามพันหยดได้เปลี่ยนกลายเป็นเผ่าพันธุ์โบราณทั้งสามเผ่า หยดโลหิตที่ผสานกันได้กลายเป็นสายเลือดราชวงศ์! เรื่องนี้จริงแท้แค่ไหน?’ หวังหลินสูดหายใจลึก