1567. ไม่ได้ทำอะไรเลย
ณ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของดาวเคราะห์ มีเทือกเขาแห่งหนึ่งที่มีพลังปราณอุดมสมบูรณ์ เทือกเขาล้อมรอบด้วยป่าหนาแน่นสุดลูกหูลูกตา ใบไม้บดบังแสงอาทิตย์จนทำให้พื้นที่ด้านล่างเปียกชื้นตลอดทั้งปี
ลึกเข้าไปในป่าแห่งนี้มีภูเขาทอดยาวและสูงตระหง่าน แต่ล้อมรอบด้วยสายหมอกจนทำให้ภูเขาดูพร่ามัว
แสงค่ายกลหนึ่งโผล่ออกมาจากภูเขาและทะลุผ่านหมอกออกมา
แสงนี้คงอยู่หลายลมหายใจก่อนจะค่อยๆ อ่อนแอลง
ในภูเขามีถ้ำอยู่หนึ่งแห่งซึ่งทั้งสลัวและเปล่งสัมผัสมืดมน
ข้างในถ้ำมีค่ายกลเคลื่อนย้ายและมีแสงโผล่ออกมาจากค่ายกล ขณะที่แสงอ่อนลงพลันมีสามคนก้าวเดินออกมา เป็นเหลียนต้าวเฟยและอีกสองคน
เหลียนต้าวเฟยมองดูถ้ำและพึมพำ “ข้างุนงงหมดแล้วนะ บัดซบ ที่นี่ที่ไหน?”
ฉวี่ลี่กั๋วระงับความตื่นเต้นในใจและรีบเดินออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย เขากระแอมแห้งๆและเผยรอยยิ้มประจบ “ท่านราชา ท่านรอที่นี่ ข้าจะไปดูว่า สาวน้อยคนนั้นพร้อมหรือไม่”
พอเหลียนต้าวเฟยได้ยินคำว่า “สาวน้อย” เขาจึงไม่สับสนอีก ดวงตาเปล่งประกาย คำนับฝ่ามือและร้องคำราม “ฮ่าๆ เยี่ยม ข้าอยากเห็นว่ามันจะดีเหมือนที่เจ้ากล่าวหรือไม่ หากข้าพึงพอใจ ราชาผู้นี้จะมีรางวัลตอบแทน”
หลิวจินเปียวโผล่ออกมาจากค่ายกล สะบัดแขนเสื้อให้เก้าอี้หินลอยเข้ามาพอ เหลียนต้าวเฟยนั่งลง เขาเผยรอยยิ้มเยินยอเช่นกันและเริ่มนวดไหล่ของ เหลียนต้าวเฟย
หลิวจินเปียวนวดด้วยความพยายามอย่างมาก แรงฝ่ามือดีเยี่ยมจนเหลียนต้าวเฟยรู้สึกสบาย เขาหลับตาและดื่มด่ำ
ครู่ต่อมาหลิวจินเปียวก็หยุดลงและยืนข้างๆเหลียนต้าวเฟย จากนั้นปั้นท่าทีเคารพ คุกเข่าลงพลางยื่นแขนออกมาและก้มศีรษะเล็กน้อย
เหลียนต้าวเฟยรอไปชั่วครู่และลืมตาด้วยท่าทีงงงวย เขามองหลิวจินเปียวและเอียงศีรษะ “จบแล้ว? เร็วปานนั้น?”
หลิวจินเปียวไม่คล้อยตาม เอ่ยขึ้นทั้งที่ยังอยู่ท่าเดิม “ท่านราชา โปรดมอบรางวัลให้ข้าด้วย!”
เหลียนต้าวเปยตกตะลึงไปชั่วขณะและพึมพำ “แค่นวดนิดเดียวจะเอารางวัล? ข้าจะไม่มอบอะไรให้เจ้า โลหิตของข้าล้ำค่ามาก ตอนนั้น…”
ก่อนจะกล่าวจบ หลิวจินเปียวเงยศีรษะขึ้นมองเหลียนต้าวเฟยด้วยท่าทีขึงขัง เอ่ยขึ้น “ท่านราชา โปรดมอบรางวัลให้ข้าด้วย!”
เหลียนต้าวเฟยโกรธเกรี้ยว ลุกขึ้นและร้องคำราม “ไม่ให้ ไม่ให้ ข้าไม่ให้อะไรทั้งนั้น!”
พอเผชิญกับเสียงคำรามของเหลียนต้าวเฟย หลิวจินเปียวมีท่าทีเป็นปกติ “นับตั้งแต่ที่ท่านราชามาที่นี่ ทุกอย่างที่ท่านกิน ทุกอย่างที่ท่านใช้และเอาไปเล่นล้วนเป็นข้าที่จ่ายออกไป ข้าใช้หินวิญญาณไปเยอะมาก…”
“ข้าจะไม่มอบอะไรให้เจ้าทั้งนั้น!” แม้เหลียนต้าวเฟยยังคงร้องคำราม เห็นได้ชัดว่าเสียงของเขาอ่อนลงมาก
“นอกจากนี้ เงินที่ใช้ในเมืองมนุษย์ต่างก็เป็นของข้า…ข้าจำได้ว่าเงินถูกใช้ไปหมดแล้ว” หลิวจินเปียวเอ่ยเสียงสงบนิ่ง
“เอ๋ ใช้มากอะไร…พวกเจ้าต่างหากที่พูดให้ข้าใช้จ่าย…” เสียงของเหลียนต้าวเฟยยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ
“ท่านราชาอยู่ที่นี่ทั้งหมดสิบสามวัน ใช้หินวิญญาณทั้งสิ้น 730,000 ก้อนและ เงินจำนวน 9,850,000 เหรียญ ท่านราชา ท่านต้องการให้ข้าแจกแจงรายละเอียดหรือไม่?” หลิวจินเปียวสงบนิ่งและมอบรายงานอย่างละเอียด
เหลียนต้าวเฟยเบิกสายตา ความทรงจำของเขาฝ้าฟางเล็กน้อย ในช่วงเวลามากกว่าสิบวันนี้เขารู้สึกเหมือนใช้ไปไม่มากนัก เพียงแค่ทุกครั้งที่เขาเจอบางอย่างสนุกหรือน่าอร่อย เขาจึงให้ฉวี่ลี่กั๋วและหลิวจินเปียวไปเอามันมา
ตอนนี้เมื่อได้ยินหลิวจินเปียวแจกแจงรายการทั้งหมด จึงเริ่มเหงื่อตก
“แน่นอนว่านายท่านสั่งการให้เราดูแลรับใช้ท่านราชา ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องธรรมดา ท่านราชาเองก็ไม่ใช่คนขี้เหนียวอยู่แล้ว ตอนนี้ท่านยังไม่ได้จ่ายหินวิญญาณสักก้อน บางทีสมบัติทั้งหมดของท่านราชาอาจจะอยู่กับน้องแดงหรือคนอื่น” หลิวจินเปียวเปลี่ยนหัวข้อ
“ใช่แล้ว ไปหาน้องแดง ฮ่าฮ่า ไปหาน้องแดงสิ ข้าจะขี้เหนียวได้อย่างไร? ข้าไม่ ขี้เหนียวเลย…เจ้าไปตามหาน้องแดงดีกว่า น้องแดงมีสมบัติของข้าทั้งหมด” เหลียนต้าวเฟยปาดเหงื่อโดยไม่รู้ตัวและพยักหน้า
“ท่านราชาเป็นคนฉลาด ท่านคงไม่ให้ข้าออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ได้อะไรตอบแทน เรื่องหินวิญญาณและเหรียญเงิน แม้ของเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ข้าสะสมเอาไว้มากกว่าพันปีได้มอบมันให้แก่ท่านราชา ไม่จำเป็นต้องไปหาน้องแดงหรอก” หลิวจินเปียวส่ายศีรษะและถอนหายใจ เขาไม่กล่าวอีกและก้าวเดินไปข้างๆ จ้องมองกำแพงหินตรงหน้าราวกับเศร้าเสียใจอย่างยิ่ง
พอเหลียนต้าวเฟยเห็นหลิวจินเปียวเป็นแบบนี้ จึงลูบจมูก รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเล็กน้อย เขาเกาศีรษะก่อนจะกัดปลายนิ้ว บีบหยดโลหิตยื่นให้หลิวจินเปียว
เหลียนต้าวเฟยรู้สึกหัวใจเจ็บปวด แต่เขาแกล้งทำเป็นใจกว้าง “เจ้าเป็นคนดี เจ้าเป็นคนดีเหมือนฉวี่ลี่กั๋ว ท่านราชาผู้นี้ไม่ใช่คนขี้เหนียว ข้าจะไม่ทารุณเจ้า!”
หลิวจินเปียวระงับอาการตื่นเต้นในใจ เขารับโลหิตมาโดยไม่ลังเลและกล่าวขอบคุณเบาๆ
พอทำแบบนี้ เหลียนต้าวเฟยรู้สึกเหมือนตัวเองติดค้างบุญคุณหลิวจินเปียว เขาบีบหยดโลหิตออกมาอีกเจ็ดถึงแปดหยด มอบมันทั้งหมดให้หลิวจินเปียว
หลิวจินเปียวร่างสั่นเทา ท่าทีตื่นเต้นจนปิดไว้ไม่มิด เขารีบเก็บทั้งหมดไปและ โค้งให้เหลียนต้าวเฟย
ขณะนั้นฉวี่ลี่กั๋วออกมาจากถ้ำ พลางยิ้มและเอ่ยขึ้น “ท่านราชา สาวน้อยพร้อมแล้ว เราไปตอนนี้เลยหรือไม่?”
หลังได้ยินเช่นนี้ เขาลืมความเจ็บปวด ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นและพยักหน้า
ฉวี่ลี่กั๋วเผยรอยยิ้มซุกซน เขามองเหลียนต้าวเฟยเหมือนกำลังมองสมบัติเคลื่อนที่ เขาและหลิวจินเปียวนำทางเหลียนต้าวเฟยไปยังส่วนลึกของถ้ำ
ข้างในถ้ำมีห้องอยู่แห่งหนึ่งและมีม่านกั้นขวางประตูเอาไว้ มองเห็นโครงร่างพร่ามัวเหมือนจะมีคนนั่งอยู่ข้างใน
หลังจากมาถึงด้านนอกประตู ฉวี่ลี่กั๋วเผยรอยยิ้มซุกซนและเอ่ยกระซิบ “ท่านราชา สาวน้อยรอท่านอยู่ข้างใน รีบไปเถอะ เราสองคนจะเฝ้าระวังอยู่ข้างนอก”
เหลียนต้าวเฟยมีสีหน้าพึงพอใจ เขากำลังจะเข้าไปในห้อง พลันหันกลับมาหา ฉวี่ลี่กั๋วและถามด้วยท่าทีจริงจัง “มันสนุกเหมือนที่เจ้าพูดจริงๆ ใช่หรือไม่?”
ฉวี่ลี่กั๋วตบหน้าอกตัวเองและพยักหน้า “ข้าน้อยไม่เคยโกหก ท่านราชาจะรู้เองเมื่อท่านได้ลอง”
เหลียนต้าวเฟยถึงกับมีแววตาตื่นเต้นและก้าวเข้าไปในห้อง เพียงชำเลืองสายตามองเขาเห็นชายหนุ่มสวมชุดดำนั่งห่างไปไม่ไกล เขาหล่อเหลามาก
“ฮ่าฮ่า สาวน้อย เอ่ยนามเจ้าให้ราชาผู้นี้ได้ยิน ข้าจะตบรางวัลให้!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วและเอ่ยอย่างเย็นชา “ผู้น้อยชื่อ ฟ่านฮั่ว”
ด้านนอกห้อง ฉวี่ลี่กั๋วลูบมือและดูตื่นเต้นมาก เขายิ้มให้กับหลิวจินเปียว “เฒ่าหลิว เจ้าหลอกได้เก่งมาก แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายหลายสิบที่จากก่อนหน้านี้ทำให้เราได้โลหิตมาเยอะมาก สบายใจได้ จากข้อตกลง เราจะแบ่งกันเจ็ดต่อสาม!”
หลิวจินเปียวยิ้มและส่ายศีรษะ “นี่ไม่ใช่กลโกง ข้าไม่เคยโกงคนบ้ามาก่อน คนที่ข้าใช้เล่ห์กลต่างก็มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าทั้งนั้นและพวกเขาก็เจ้าเล่ห์ยิ่ง การต่อกรด้วยจำเป็นต้องเตรียมการและไม่อาจผิดพลาดได้”
“ส่วนคนบ้านี่ ความคิดเรียบง่าย กลโกงซับซ้อนช่างไร้ประโยชน์กับเขา มันเหมือน สีซอให้ควายฟัง ครั้งนี้ข้าใช้วิธีที่เรียบง่ายที่สุด แม้จะมีข้อผิดพลาดแต่มันก็ได้ผล”
ฉวี่ลี่กั๋วหัวเราะและพยักหน้า “เราต้องยืดเวลาแล้ว หลังจากนี้ยังมีอีกสองสามที่ ที่ต้องไป ดังนั้นจะต้องจบเรื่องนี้ให้เร็ว เราต้องทำงานให้ดี ไม่เช่นนั้นพอเจ้าอสูรร้ายนั่นกลับมา…” ฉวี่ลี่กั๋วตัวสั่น ความจริงแล้วเขากลัวมาก เขาคำนวณเวลาที่ผ่านไปและบีบหินหยกให้แตก
พอหินหยกแตกสลาย ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้างในถ้ำจึงส่องสว่างอีกครั้ง เหล่าเซียนปรากฏขึ้นมากกว่าสิบคนและต่างมีท่าทีดุร้าย หัวหน้าเป็นสตรีสาว สีหน้าท่าทาง เย็นชา ทั้งหมดพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ
หลังจากพบฉวี่ลี่กั๋วและหลิวจินเปียว สองฝั่งยิ้มให้กัน ฉวี่ลี่กั๋วก้าวไปข้างๆประตูและส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน
“ท่านราชา ไม่ดีแล้ว คู่ฝึกเต๋าของฟ่านฮั่ว กลับมาแล้ว!” ขณะนั้นเขากระอักแกนพลังออกมา ดูไร้เรี่ยวแรงและฟุบลงข้างๆ
หลิวจินเปียวตีหน้าอกและกระอักโลหิต
เซียนสตรีพ่นลมหายใจ นางฉีกม่านพร้อมกับมีเซียนอีกมากกว่าสิบคนอยู่ด้านหลัง
ข้างในม่าน เหลียนต้าวเฟยกำลังนั่งตรงข้ามกับฟ่านฮั่ว เขาจ้องมองเซียนกลุ่มใหญ่ด้วยความคิดขาวโพลนและตกตะลึง
“เจ้า…เจ้ากำลังทำอะไร? ข้า…ราชา…” เหลียนต้าวเฟยเต็มไปด้วยสายตาหวาดกลัว เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
“หุบปาก! เจ้ากล้าดีอะไรถึงทำแบบนี้?” นางจ้องมองเหลียนต้าวเฟยอย่างเย็นชา เซียนคนอื่นๆ จ้องมองเขาด้วยความดุดันและเต็มไปทั่วห้อง
เหลียนต้าวเฟยถึงกับกระวนกระวายและรีบอธิบาย “หา? เราไม่ได้ทำอะไร ข้า…ข้าแค่ถามชื่อเขาเท่านั้น…ข้า…”
ชายหนุ่มชุดดำที่นั่งตรงข้ามเหลียนต้าวเผยจึงเผยความอับอาย เขาลุกขึ้นและเดินไปข้างๆ
“หุบปาก! เติมโลหิตเจ้าให้เต็มสิบหม้อนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารพวกมันก่อน!” แววตาของนางเต็มไปด้วยความรังเกียจ นางสะบัดแขนเสื้อปรากฏหม้อหยกขึ้นเบื้องหน้าเหลียนต้าวเฟยจำนวนสิบหม้อ จากนั้นฉวี่ลี่กั๋วและหลิวจินเปียวถูกพาเข้ามา ฉวี่ลี่กั๋วมีกระบี่หลายเล่มแทงใส่ร่างและเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน
“ท่านราชา ไม่ต้องห่วงข้า หนีไป!”
หลิวจินเปียวเต็มไปด้วยคราบโลหิตเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉวี่ลี่กั๋วจึงลอบสาปแช่งและส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนในทันที
“ท่านราชา เราพัวพันไปด้วยก็เพราะท่าน ท่านราชาเป็นคนมีคุณธรรม ท่านต้องช่วยเรา…”
ไม่มีใครรู้ว่าขณะที่พวกเขากำลังทำเช่นนี้ ร่างสวมชุดสีขาวพร้อมสายตาเย็นชากำลังปรากฏขึ้นด้านหลัง
“ฉวี่ลี่กั๋ว หลิวจินเปียว เจ้าสองคนกล้ามาก! เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก!!”