Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1622

Cover Renegade Immortal 1

1622. โจมตีด้วยสุดยอดเต๋า

หวังหลินไม่รู้ว่ามันคือประตูกระดูกหมื่นดับสูญ แต่เขารู้สึกว่าประตูบานนี้ประหลาดและจึงหรี่สายตา เขามองประตูขนาดยักษ์เบื้องหน้า แววตากะพริบจิตสังหาร

ไม่ว่าประตูบานนี้ประหลาดเพียงใด ทั้งหมดมันก็เหมือนกัน เป็นแค่ประตูสำหรับบรรลุขั้นที่สาม เขาเอนตัวไปข้างหน้าและยกแขนขวาขึ้น เกล็ดหิมะสีแดงที่กระจายไปทั่วบริเวณพลันรวมกันมาที่แขนขวา

เสี้ยววินาทีต่อมา แขนขวาของหวังหลินเปล่งแสงสีแดงไร้ขอบเขตจนกลายเป็น ฝ่ามือโลหิต แสงสีแดงแพรวพราวเปล่งจิตสังหารเย็นเยียบแทรกซึมทั่วบริเวณ เหล่าเซียนรอบด้านทั้งหมดตกตะลึงกับกลิ่นอายนี้และไม่กล้าถอยหนี

“แก่นแท้สังหาร…” หวังหลินพึมพำพลางผลักไปข้างหน้าเข้าหาประตูกระดูก พริบตาเดียวหวังหลินก็เข้าไปใกล้ แขนขวากระแทกใส่ประตู

ปัง! เสียงดังสะเทือน ประทับฝ่ามือโลหิตขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบน ประตูกระดูกหมื่นดับสูญ ประทับฝ่ามือโลหิตนี้มีจิตสังหารของหวังหลินและของฉิงชุ่ยรวมอยู่ด้วย การสังหารได้เปลี่ยนกลายเป็นรูปแบบแก่นแท้ ราวกับมีภูตผีนับไม่ถ้วนร้องโหยหวนอยู่ในประทับโลหิต พวกมันต้องการออกมาแต่ไม่สามารถหนีออกมาได้และพุ่งไปใส่ประตูดับสูญ

เสียงดังสนั่นกึกก้องอย่างบ้าคลั่ง ประตูกระดูกหมื่นดับสูญแท้จริงแล้วไม่ธรรมดา เบื้องหน้าแก่นแท้สังหารและเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วน ทำได้แค่ทำให้มันสั่นเทา เกิดรอยแตกร้าวเล็กน้อยแต่ไม่ได้แตกสลาย

ไม่เพียงแต่จะไม่แตกสลาย มันยังมีพลังสะท้อนระเบิดออกมาใส่หวังหลิน

หวังหลินกะพริบแววตาเย็นเยียบ ยิ่งประตูเปิดยากขึ้น เขายิ่งสนใจ หวังหลินถอยร่นมาหลายก้าว ส่งเสียงหัวเราะก่อนจะชี้ใส่ท้องฟ้าด้วยสายตามุ่งมั่น

“สายฟ้า!” พริบตานั้นสายฟ้าทั่วโลกพุ่งมาหาประตูดับสูญ

“เปลวเพลิง!” เปลวเพลิงโหมกระหน่ำดุจพายุและเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่าง!

“ประทับเวรกรรม!” หวังหลินกางมือออกและหุบมือเข้า

“ผนึกแห่งชีวิตและความตาย!” เขายกแขนซ้าย สองฝ่ามือเข้าหากัน

“เต๋าแห่งจริงเท็จ!” หวังหลินหลับตา พอลืมตาขึ้นมากลิ่นอายทรงพลังเต็มไป ทั่วร่างกาย มันคือกลิ่นอายแห่งมหาบัณฑิต กลิ่นอายได้ผสานเข้ากับกลิ่นอาย ขั้นวิญญาณดับสูญระดับต้น จากนั้นเขาก้าวเท้าไปข้างหน้า แขนขวากำหมัดและ ชกเข้าใส่ประตูดับสูญ

“หกแก่นแท้ เปิดประตูดับสูญ!” หวังหลินร้องคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าใกล้ประตูดับสูญ แขนขวาร่อนลงใส่ประตูกระดูกหมื่นดับสูญจนเกิดเสียงดังปัง

กำปั้นนี้บรรจุความคาดหวังของการบ่มเพาะฝึกเซียนเป็นเวลาสองพันปีของหวังหลิน

กำปั้นนี้คือพลังเต็มที่ที่มีหกแก่นแท้สมบูรณ์ของเขา

กำปั้นนี้คือความมุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเพื่อชุบชีวิตลี่มู่หวาน

กำปั้นนี้คือหนทางสู่ขั้นที่สาม!

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วดวงดาว ประตูกระดูกขนาดยักษ์สั่นเทาและเกิดรอยแตกร้าวกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในวินาทีนั้นมันจึงแตกสลาย!

เป็นประตูบานที่หก!

เขาทะลวงเปิดประตูดับสูญหกบานในคราเดียว! ไม่มีพลังใดจะหยุดยั้งหวังหลินไม่ให้ก้าวเข้าสู่ขั้นที่สามไปได้!

นาทีนั้นวังวนขนาดใหญ่มหาศาลผุดขึ้นมา พลังจากประตูดับสูญพรั่งพรูดุจท้องทะเลพุ่งออกมาและเข้าสู่ร่างหวังหลิน

ด้วยพลังจากประตูดับสูญนี้ ร่างกายเขาจึงส่งเสียงดังรุนแรง หกแก่นแท้ในร่างกายผสานกันอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายรอบตัวเพิ่มพูนขึ้น

พุ่งขึ้นจากขั้นวิญญาณดับสูญระดับต้นไปถึงระดับกลาง!

ขณะที่พลังจากประตูดับสูญเข้าไปในร่างเขา ร่างกายหวังหลินกำลังถูกหลอมรวมอย่างต่อเนื่อง ทะลวงเกินขีดจำกัดและก้าวข้ามทะลุผ่านขั้นสูงสุดของขั้นที่สอง

การก้าวข้ามครั้งนี้คือก้าวเข้าสู่ขั้นที่สาม ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มกลิ่นอายแต่ระดับ บ่มเพาะของเขายังเพิ่มขึ้นจนบรรลุขั้นที่สามไปด้วย!

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หวังหลินคือ เซียนขั้นที่สาม!

เสียงปะทุดังลั่นออกมาในร่างกาย เสียงคำรามไร้ก้นบึ้งเกิดขึ้นในจิตใจและ เกิดความรู้สึกสะดวกสบายยิ่งราวกับเขากำลังผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ร่างกายเขากำลังวิวัฒน์!

ในขั้นแรกของการฝึกเซียน ตั้งแต่ขั้นรวบรวมลมปราณไปถึงขั้นเทวะ คือการทำให้ร่างของเซียนผู้นั้นเสมือนเป็นการเกิดใหม่ จากนั้นเมื่อบรรลุขั้นส่องสวรรค์ ก็จะสามารถดูดซับพลังดั้งเดิมได้!

ขั้นที่สามเป็นการถือกำเนิดใหม่รอบสอง ร่างกายจะขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขตจนไม่แตกต่างอะไรจากจักรวาลแห่งนี้เลย

ขั้นนี้คือการฝืนลิขิตฟ้าเป็นอย่างยิ่งดุจมันหลอมละลายพรสวรรค์ของเซียน สำหรับเซียนขั้นที่สามนั้นไม่มีคำว่าพรสวรรค์อีกต่อไปแล้ว มีแต่เพียงการรู้แจ้ง!

หกแก่นแท้ผสานกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อแก่นแท้สายฟ้าและเปลวเพลิงผสมผสานกัน ระดับบ่มเพาะจึงพุ่งขึ้นจากขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้นสู่ระดับกลาง!

เมื่อแก่นแท้เวรกรรมผสานเข้าไป ระดับบ่มเพาะจึงบรรลุขั้นสวรรค์ดับสูญระดับปลาย!

ตามมาด้วยแก่นแท้ชีวิตและความตาย และแก่นแท้จริงเท็จผสานเข้าไป ระดับ บ่มเพาะของหวังหลินจึงพุ่งทะลวงสู่ขั้นวิญญาณดับสูญระดับต้น!

ระดับบ่มเพาะของหวังหลินยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ แรงกดดันแผ่กระจายออกมาจับความสนใจของทุกคน ปรมาจารย์ซูเฉินเผยจิตสังหาร ส่งเสียงคำรามและพุ่งไปข้างหน้า ด้วยประตูดับสูญก่อนหน้านี้เขาจึงไม่สามารถโจมตีได้ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้วเขาต้องสังหารหวังหลิน เขารู้สึกว่าหากไม่สังหารหวังหลินในวันนี้ เขาจะไม่มีโอกาสอีก การปรากฏขึ้นของประตูกระดูกหมื่นดับสูญได้ทำให้เขาศีรษะด้านชา

ตอนนี้เขายอมทุ่มครั้งสุดท้าย แม้จะต้องสูญเสียร่างอวตารก็ไม่สนใจ ความบาดหมางระหว่างเขาและหวังหลินคือ ความเป็นความตายเท่านั้น หากหวังหลินไม่ตายวันนี้ ก็ต้องตายในภายภาคหน้า!

‘ตอนนี้มันกำลังผสานแก่นแท้ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสังหาร! เมื่อมันผสานได้สมบูรณ์ ข้ากลัวว่าแม้แต่เซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้นก็คงเทียบไม่ได้ เราไม่สามารถปล่อยให้มันมีชีวิตต่อไปได้!’

ชายหนุ่มชุดเขียวคิดแบบเดียวกัน เขาล่าถอยก่อนแล้วตอนที่เห็นปรมาจารย์ ซูเฉินลงมือ พลันกัดฟันแน่น ดวงตาแดงฉาน ล้อมรอบตัวเองด้วยน้ำแข็งและพุ่งใส่หวังหลิน

ทั้งยังมีโจวจินด้วยเช่นกัน เขาหวาดกลัวจนแทบไม่มีสติ แต่เป็นถึงเซียนขั้นที่สามและเป็นบรรพชนของเผ่าหมาป่าสวรรค์ ด้วยความหมดหวังนี้จึงร้องคำราม หมาป่าโลหิตขนาดหมื่นฟุตปรากฏตัวขึ้นมา

การกระทำนี้ได้ทำให้จ้าวเมฆาใต้และพรรคพวกต้องรุดหน้าไปโดยไม่สนอาการบาดเจ็บของตัวเอง แต่ในยามนั้นน้ำเสียงอ่อนโยนดังกึกก้องในหูของแต่ละคนดุจสายลมเบาๆ

“ไม่มีปัญหา!”

แม้เสียงนี้จะบางเบา แต่กลับแฝงพลังหยุดยั้งจ้าวเมฆาใต้และพรรคพวกจนโต้แย้งไม่ได้ พวกเขามองวังวนที่ปรากฏขึ้นมาหลังจากประตูดับสูญล่มสลาย หวังหลินกำลังดูดซับพลังจากประตูดับสูญขณะที่กลุ่มเซียนทั้งสามของปรมาจารย์ซูเฉินเข้าไปใกล้

หวังหลินกำลังใช้พลังของประตูดับสูญเพื่อผสานแก่นแท้สังหาร วินาทีที่สาม คนนั้นเข้ามาใกล้ หวังหลินเพียงแค่ชี้ออกไป

“หยุด!” วิชายับยั้งถูกใช้ออกมาหลังจากบรรลุขั้นที่สามและกำลังดูดซับพลังของประตูดับสูญ โลกพลันเปลี่ยนไปราวกับดาราจักรดวงดาวถูกแช่แข็ง

หวังหลินยังใช้เจตนาแห่งเต๋าอันปั่นป่วนจากผลไม้เต๋าทั้งสามในวิชายับยั้งนี้ด้วย

เพียงเท่านี้ ร่างของโจวจินจึงสั่นเทาและไม่สามารถก้าวเข้าไปแม้เพียงครึ่งก้าว ด้านชายหนุ่มชุดเขียวพลันสัมผัสถึงเจตนาแห่งเต๋าอันไร้ขอบเขตเข้ารั้งเขาเอาไว้และไม่สามารถขยับไปไหนได้

มีเพียงปรมาจารย์ซูเฉินที่ยังเคลื่อนไปข้างหน้าได้ แต่วิชาของเขาชะลอตัวลง

เพียงเท่านั้น หวังหลินจึงเคลื่อนไหว เขาใช้ชีวิตอยู่ในการเข่นฆ่าและไม่หวาดกลัวการต่อสู้ พุ่งตรงเข้าใส่ชายหนุ่มชุดเขียว เพียงแค่หลับตาและลืมตาขึ้นมาจึงทำให้ ชายหนุ่มชุดเขียวเกิดแววตางุนงงสับสน ช่วงเวลานั้นหวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาและเปิดฝ่ามือ จากนั้นประทับใส่ราวกับกำลังคว้าจับบางอย่าง

“ประทับเวรกรรม!”

ชายหนุ่มชุดเขียวตัวสั่นสะท้าน จากนั้นกระอักโลหิตและกระเด็นกลับไป เขาเป็นเซียนในขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้น แต่ต่อสู้มาหลายปีและอาการบาดเจ็บยังไม่ฟื้นฟูจึงสามารถใช้ได้เพียงระดับขั้นวิญญาณดับสูญระดับสูงสุดเท่านั้น ตอนนี้ถูกแช่แข็งด้วยวิชายับยั้งจึงไม่มีโอกาสต่อต้าน

ขณะที่หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมา ก้อนสายหมอกลอยเข้าไป ไม่มีใครบอกได้ว่ามันคืออะไรแต่เมื่อสายหมอกออกมาจากร่างของชายหนุ่มชุดเขียว ร่างเขาสั่นสะท้านรุนแรง ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

สิ่งที่ดึงออกมาคือ พลังแห่งเวรกรรม พลังแห่งเต๋า สิ่งที่ดึงออกมาจากชายหนุ่ม ชุดเขียวคือแก่นแท้ของเขา!!

หมอกนั้นเปลี่ยนไปในฝ่ามือของหวังหลิน เพียงชั่วเวลาสั้นๆ มันกลับกลายเป็นน้ำแข็งหลายครั้ง พยายามหลบหนีแต่ก็ถูกหวังหลินกุมเอาไว้แน่น

ประทับเวรกรรมช่างเป็นวิชาที่โหดเหี้ยมอำมหิต!

แก่นแท้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเวรกรรมเช่นกัน ผู้คนคือเหตุแห่งกรรม ระดับบ่มเพาะคือชะตากรรม การสร้างแก่นแท้และบรรลุขั้นที่สามคือผลแห่งกรรม! นาทีนั้นเส้นผม สีขาวของหวังหลินสะบัดพลิ้ว เขาสงบนิ่งทำเหมือนกันกับที่ราชันย์ทำเอาไว้ในอดีต!

โจมตีด้วยสุดยอดเต๋า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version