Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1623

Cover Renegade Immortal 1

1623. ปรมาจารย์ซูเฉิน

“แก่นแท้ของข้าคือ เวรกรรม ฝ่ามือข้าคือเหตุแห่งกรรม และปิดฝ่ามือคือผล แห่งกรรม…ในเมื่อเจ้าบรรลุระดับบ่มเพาะเท่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้ข้าจะไม่สังหารเจ้า ข้าจะเอาแก่นแท้ของเจ้ามาและผนึกมันไว้หนึ่งพันปี ตอนนี้เจ้าออกไปจากสนามรบ ได้แล้ว!” ดวงตาหวังหลินดูราวกับมีฟ้าดินอยู่ภายใน กลิ่นอายทรงพลังปะทุออกมาจากร่างกายและร่อนลงไปในดวงตาของชายหนุ่มชุดเขียว

ชายหนุ่มชุดเขียวตัวสั่นเทา ความคิดขาวโพลน เขากระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง เพียงแค่หวังหลินสะบัดแขน เขาก็ถูกบังคับให้ถอยกลับไปมากกว่าหมื่นฟุต ดวงตาหมองลงและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขั้นสุด

“เจ้า…นี่…มันวิชาแบบไหนกัน!?!”

หวังหลินหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเอ่ยคำพูดเรียบนิ่ง “ไปซะ!” เขาไม่ได้คำรามและสงบนิ่งเป็นอย่างมาก แต่เมื่อชายหนุ่มชุดเขียวได้ยินไป ราวกับโลกรอบตัวกำลังแตกสลาย ความคิดสั่นเทาราวกับมีพลังสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในร่างและต้องการ ฉีกกระชากวิญญาณเขาเป็นชิ้นๆ

ชายหนุ่มชุดเขียวรู้สึกหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิงและหลบหนีอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับ มีโลหิตไหลออกมาจากปาก

เขาไม่ได้สูญเสียแก่นแท้ไปหมด แต่หวังหลินเอาส่วนใหญ่ไปซึ่งทำให้เขาหวาดกลัวจนหัวหด เขาไม่เคยได้ยินว่ามีวิชาเช่นนี้มาก่อน แต่พอจะรู้ว่าวิชาตกจันทราในบ่อน้ำของราชันย์ก็มีพลังคล้ายๆ กัน

จิตใจของเขาสั่นเทาและล่าถอยด้วยความไม่เต็มใจ เขาคิดว่าหากรักษาระดับ บ่มเพาะของตัวเองให้ถึงจุดสูงสุด คงไม่เสียท่าให้หวังหลินแยกแก่นแท้ไปได้ง่ายๆ

‘ข้ามีระดับบ่มเพาะถึงแก่นแท้ดับสูญ ข้าไม่ยอม!!’ เขาร้องคำรามในใจ แต่ก็รีบถอยหนีโดยไม่ได้เผยอะไรออกมา

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินบังคับให้ชายหนุ่มชุดเขียวถอยกลับไปได้ จากนั้นหันหน้ากลับมาที่ปรมาจารย์ซูเฉินผู้ถูกวิชายับยั้งชะลอตัวเอาไว้และเต็มไปด้วยจิตสังหาร

“มาจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้นกันเถอะ” สายตาของหวังหลินเย็นวาบแต่เขาสงบนิ่ง เขามองปรมาจารย์ซูเฉินและก้าวเข้าไป

“เต๋าสรรพเมฆาดับสูญ!” ปรมาจารย์ซูเฉินร้องคำราม สองฝ่ามือสร้างผนึก จากนั้นสะบัดแขนปรากฏรอยแยกขนาดยักษ์ขึ้นด้านหลัง เปลวเพลิงนรกานต์นับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมากลายเป็นก้อนเมฆเรืองแสงสีแดงมากมาย รูปปั้นขนาดยักษ์หลายตนปรากฏขึ้นมาจากภายในก้อนเมฆสีแดง

“กักขังมัน กักขังมันเข้าไปในโลกแห่งการเกิดใหม่ ปล่อยให้มันตกลงไปในขุมนรกท่ามกลางดวงดาวที่วิญญาณไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว!” ปรมาจารย์ซูเฉินร้องคำรามพลางชี้นิ้วออกไป เหล่ารูปปั้นเรืองแสงพร้อมกระแทกลงใส่หวังหลิน ราวกับพยายามฝังเขาไปในดวงดาว

นาทีนั้นวังวนยักษ์ปรากฏขึ้นเบื้องล่างหวังหลิน วังวนนี้ถูกสร้างขึ้นจากวิชาและ มีเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วนลอยออกมา พวกมันส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างกายขยายตัวออกและล้อมรอบหวังหลิน ต้องการดึงหวังหลินเข้าไปในวังวน

ในตอนนี้วังวนจากประตูดับสูญล่มสลายยังอยู่ที่เดิม มองไกลๆ มันเป็นฉากเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงยิ่งเพราะหวังหลินมีวังวนจากด้านบนและด้านล่าง รวมถึง รูปปั้นเรืองแสงนับหมื่นตนที่กำลังกระแทกเข้ามาใส่

ราวกับหวังหลินถูกวิชาของปรมาจารย์ซูเฉินกักขังเอาไว้อย่างสิ้นเชิง

“ตายไปซะ!!” ปรมาจารย์ซูเฉินมีสีหน้าดุดันและยกแขนขวาขึ้น หมอกสีม่วงรวมกันกลายเป็นหอก เขาคว้าเอาไว้และโยนใส่หวังหลิน

ตัวหอกพาเอาหมอกมากมายมหาศาลไปด้วยและพุ่งเข้าหาหวังหลินที่ถูกกักขังเอาไว้

ชายหนุ่มชุดเขียวหยุดชะงักชั่วครู่อยู่ไกลๆ พยายามหันกลับมามองหวังหลินที่ถูกกักขัง เขาร้องคำราม ล้มเลิกการหลบหนีและก้าวไปหาหวังหลิน

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่ง ขณะที่รูปปั้นนับหมื่นทุ่มเข้ามาหา หวังหลินเพียงหลับตาและก้าวไปข้างหน้า เขาไม่ได้ช้าแต่รูปปั้นหลายร้อยเข้ามาใกล้เขาได้แล้ว

แต่ขณะที่พวกมันมาถึง กลับทะลุผ่านร่างเขาไป ไม่รู้ว่าเป็นหวังหลินที่กลายเป็นภาพลวงตาหรือว่าพวกมันเองที่เป็นภาพลวงตา

เสียงดังสนั่นกึกก้องพร้อมกับเหล่ารูปปั้นนับไม่ถ้วนกระหน่ำเข้าไป แต่เมื่อ พวกมันเข้าไปใกล้หวังหลิน ดูราวกับกลายเป็นอากาศธาตุและผ่านเลยไป จากนั้น เกิดเสียงดังสนั่นต่อเนื่องด้านหลังหวังหลิน

ซึ่งทำให้ปรมาจารย์ซูเฉินต้องหรี่ตาแคบ

การก้าวเท้าของหวังหลินไม่ได้เร็วแต่มาถึงเบื้องหน้าปรมาจารย์ซูเฉินในพริบตา เขายกแขนขวาและไม่แม้แต่จะสนว่าปรมาจารย์ซูเฉินกำลังใช้วิชาอะไรอยู่ แขนขวาหวังหลินกดทับลงไป

“ผนึกแห่งชีวิตและความตาย!”

แขนซ้ายคือชีวิต แขนขวาคือความตาย แขนขวาหวังหลินห่อหุ้มด้วยควันสีดำร่อนลงไป แม้ฝ่ามือเขาจะร่อนใส่ความว่างเปล่าแต่กลับทำให้สีหน้าท่าทางของปรมาจารย์ซูเฉินต้องเปลี่ยนแปลง

เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าฝ่ามือของหวังหลินมีกลิ่นอายแห่งความตาย เมื่อฝ่ามือร่อนลงไป ราวกับอาณาเขตดวงดาวรอบด้านขาดพลังชีวิต ราวกับพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่แห่งความตาย

นาทีนั้นเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนขึ้นในอวกาศรอบตัวและพังทลาย กลิ่นอายแห่งความตายมากมายมหาศาลพุ่งเข้าหาเขา

ร่างของปรมาจารย์ซูเฉินกระเด็นกลับไปหลายร้อยฟุตพร้อมเสียงดังปัง จากนั้นเขามองขึ้นไป แต่หวังหลินชี้ใส่เขาก่อน

“หยุด!” ร่างของปรมาจารย์ซูเฉินชะลอลงอีกครั้ง เขาร้องคำรามและกำลังจะทะลวงวิชายับยั้งรอบตัวและออกจากสภาวะโดนถล่มแบบนี้

แต่หวังหลินจะปล่อยให้เขามีโอกาสได้อย่างไร? หวังหลินเข้าประชิดในพริบตา ยกดัชนี้ขึ้นมาชี้ใส่กลางหน้าผากของปรมาจารย์ซูเฉิน

“สายฟ้า!”

เพียงแค่นั้นนิ้วชี้ขวาราวกับเปลี่ยนเป็นสายฟ้านิรันดร์หนึ่งสาย สายฟ้าทำลายล้างนี้ มีพลังของสายฟ้าทั้งหมดจากดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอก ถึงจุดที่มีพลังมากพอจะสังหารเซียนขั้นที่สามได้หลายคน

แม้ปรมาจารย์ซูเฉินจะเป็นหนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์และมีระดับบ่มเพาะสูงลิ่ว แต่นี่เป็นเพียงหนึ่งในร่างอวตารเท่านั้น เป็นขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้นเท่านั้น!

ซึ่งพลังของสายฟ้านี้ยังทำให้เขาบาดเจ็บได้!

เพียงแค่ชี้นิ้ว ร่างปรมาจารย์ซูเฉินสั่นสะท้าน แสงสีเงินกะพริบวาบกลางหน้าผากและแพร่กระจายออกไปนับไม่ถ้วน พริบตาเดียวมันท่วมไปทั่วร่างและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง โลหิตไหลย้อนออกมาจากมุมปากและเขากระเด็นกลับไปอีก

ขณะที่ถอยร่นไป หวังหลินก้าวเท้าไปอีกครั้ง นิ้วโป้งขวายื่นออกมาและร่อนลง ใส่กลางหน้าผากปรมาจารย์ซูเฉินอีกรอบ

“เปลวเพลิง!”

เปลวเพลิงทำลายล้างแพร่กระจายออกมาจากกลางหน้าผากดุจสายฟ้าสีเงิน เปลวเพลิงแพร่กระจายทั่วร่างกาย เข้าหาจิตใจและเผาไหม้ดวงวิญญาณ

ความเจ็บปวดจากการโดนโจมตีทั้งภายในและภายนอกได้ทำให้ร่างเขาเผาไหม้จนใบหน้าปรมาจารย์ซูเฉินต้องบิดเบี้ยว เขากระอักโลหิตออกมาคำโต

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น แววตาหวังหลินกะพริบจิตสังหาร เขายกแขนขวาขึ้นมาและกำเป็นฝ่ามือ จากนั้นประทับลงไปบนหน้าผากของปรมาจารย์ซูเฉิน ห้านิ้วมือ หุบเข้าเพื่อกำหมัด

“เวรกรรม!”

แก่นแท้ถูกหวังหลินถึงออกมา!

การโจมตีต่อเนื่องขนาดนี้ไม่ยอมมอบโอกาสให้ปรมาจารย์ซูเฉินได้ต่อต้าน ด้วยการใช้วิชายับยั้ง หวังหลินเสมือนเป็นเทพผู้บงการความเป็นความตาย!

“ชีวิตและความตาย” หวังหลินยกแขนขึ้นสองข้าง แขนซ้ายคือชีวิต กดลงใส่หน้าอกของปรมาจารย์ซูเฉิน ร่างแก่ชราของปรมาจารย์ซูเฉินพลันอ่อนเยาว์ขึ้นเรื่อยๆ

ทว่าในขณะที่แขนขวาของหวังหลินร่อนลงไป ความเยาว์วัยพลันทลาย ชีวิตและความตายปะทุขึ้นข้างในร่างปรมาจารย์ซูเฉินราวกับต้องการฉีกกระชากร่างเขา เป็นชิ้นๆ

ปรมาจารย์ซูเฉินมีโลหิตหลั่งไหลออกจากรูทวารทั้งเก้า สีหน้าท่าทางโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น เขาคือหนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ เขามีศักดิ์ศรีที่ไม่ยอมจำนน พอส่งเสียงคำราม ร่างกายสั่นเทาและเป็นอิสระจากวิชายับยั้ง

เมื่อวิชายับยั้งถูกทำลาย ระดับบ่มเพาะระเบิดออกมาทั้งหมด

ทว่าหวังหลินยังคงสงบนิ่ง นาทีที่ปรมาจารย์ซูเฉินทะลวงวิชายับยั้งออกมาได้ หวังหลินเพียงแค่ชี้นิ้วขวา

“หยุด!”

“ไม่!!” ร่างปรมาจารย์ซูเฉินสั่นเทาและเกิดแววตาสิ้นหวัง!

“จริงเท็จ” หวังหลินหลับตา ทุกอย่างในโลกนี้กลายเป็นเรื่องเท็จ จากนั้นลืมตาขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นจริง แต่เมื่อหลับตาอีกครั้ง แขนขวาฟันลงไป

“สังหาร!”

ฝ่ามือของหวังหลินดุจคมกระบี่ เรืองแสงสีแดงแห่งการสังหาร มันพุ่งตรงใส่ ศีรษะของปรมาจารย์ซูเฉินและตัดผ่านไปอย่างโหดเหี้ยม

เสียงดังปังสั่นสะเทือนสวรรค์ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน ร่างของปรมาจารย์ซูเฉินถูกแบ่งออกเป็นสองซีกเท่าๆ กัน จากนั้นเปลี่ยนกลายเป็นหมอก สีม่วงและถอยไปทั้งด้านซ้ายและด้านขวา

อย่างไรก็ตามแม้หวังหลินจะหลับตาอยู่ เขายังสามารถสัมผัสได้ว่าหมอกที่กำลังแบ่งตัวนี้เสมือนการปลดเปลื้องเสื้อผ้า ร่างกายดั้งเดิมของร่างอวตารกำลังถูกปลดปล่อย!

มันคือก้อนเมฆที่มีพลังล่องหน พลังล่องหนนี้ยากจะตรวจจับได้และหวังหลินตรวจจับได้ด้วยการใช้เต๋าแห่งจริงเท็จเท่านั้น

พลังล่องหนนี้คือแก่นของร่างอวตารของปรมาจารย์ซูเฉิน! ร่างอวตารนี้ความจริงแล้วเป็นหนึ่งลมหายใจที่ปรมาจารย์ซูเฉินปลดปล่อยออกมา

ปรมาจารย์ซูเฉินถูกเรียกว่า “เทพไร้ตัวตน” เพราะร่างกายเขาเสมือนความว่างเปล่า กล่าวได้ว่าร่างกายเขาไม่ใช่ความจริงและเป็นเพียงก้อนพลังงานเท่านั้น!

นาทีนี้ก้อนเมฆพลังงานที่หวังหลินมองเห็นกำลังพยายามหนีโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น

ปรมาจารย์ซูเฉินไม่ได้มีระดับบ่มเพาะสูงที่สุดในห้ายอดปรมาจารย์ แต่เขาคือ คนที่สังหารได้ยากที่สุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version