Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1633

Cover Renegade Immortal 1

1633. ลงทัณฑ์ตัวเอง

ดังนั้น หลังจากทดลองไปหลายครั้งจึงตัดสินใจใช้วิชายับยั้งเพื่อหยุดความคิดของแต่ละฝ่าย เพื่อผนึกจิตใจตัวเองไม่ให้ศัตรูอ่านได้

นาทีนี้หวังหลินจึงรีบสรุปความคิดและค้นหาทางแก้ไข

เขาไม่มั่นใจว่าชายหนุ่มผมขาวจะสามารถอ่านความคิดเขาได้หรือไม่หากว่าคิดนานเกินไป ดังนั้นจึงคิดเพียงชั่วครู่ก่อนจะทำจิตใจให้โล่งและไม่คิดสิ่งใดอีก

ขณะที่ทั้งคู่กำลังแล่นลงบนพื้น วิชายับยั้งของทั้งสองจึงคลายออก เมื่อเป็นอิสระได้จึงทำแบบเดียวกัน ทั้งสองไม่ได้ล่าถอยแต่กะพริบแววตาเย็นเยียบและเริ่มการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

เพียงชั่วเวลาสั้นๆ พวกเขาใช้วิชาที่มีชื่อเสียงไปมากกว่าสิบวิชา ซึ่งรวมถึง วิชาเทพของป๋ายฟ่าน วิชาของฉิงชุ่ยและวิชาที่หวังหลินคิดค้น

เหล่าวิชาพวกนี้ล้วนทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ส่งผลให้เกิดเสียงดังกึกก้องออกไปไกล โลกอันมืดมนจึงตกอยู่ภายใต้การกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่อง

แม้กระทั่งแก่นแท้เพลิงและแก่นแท้สายฟ้ายังถูกใช้ด้วยกำลังเต็มที่ ทว่าในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็พบเจอกับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งสองกระอักโลหิตและดูมืดมนยิ่ง สีหน้าซีดเซียวและดูอ่อนแรง

หวังหลินรีบถอยพร้อมกับเสียงดังปัง เขาหอบหายใจ เพียงชั่วเวลาสั้นๆ เขารู้แล้วว่าการต่อสู้กับตัวเองมันยากแค่ไหน หวังหลินกำลังเจอความรู้สึกเหมือนที่คนอื่นรู้สึกตอนที่ต่อสู้กับเขา

เขามีร่างเทพโบราณ ชายหนุ่มผมขาวก็มีเหมือนกัน เขามีระดับบ่มเพาะ ขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง ชายหนุ่มผมขาวก็มีเหมือนกัน

แม้หวังหลินจะนำสมบัติออกมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงก็คือชายหนุ่มผมขาวก็นำสมบัติเดียวกันออกมาด้วย ต่อจากนั้นหวังหลินจึงไม่นำสมบัติอันใดออกมาอีก เขาเข้าใจแล้วว่าทุกอย่างที่ชายหนุ่มผมขาวมีล้วนมาจากเขา

“ไร้ประโยชน์ ข้าคือเจ้า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!” ชายหนุ่มผมขาวล่าถอย หยุดลงพลางปาดโลหิตออกจากปาก เขาเริ่มหัวเราะอย่างน่ากลัว

หวังหลินไม่เอ่ยตอบ แต่จิตสังหารในแววตารุนแรงและเย็นเยียบ พลันพุ่งไปข้างหน้าดุจลำแสงอีกครั้ง

ชายหนุ่มผมขาวพุ่งใส่หวังหลินพร้อมกับเผยแววตาเยาะเย้ย

ทั้งสองประชิดกันเสียงดังปัง ใช้วิชาหลายอย่างแลกเปลี่ยนกระบวนท่าจนเกิดอาการบาดเจ็บแบบเดียวกัน ทว่าหลังจากที่ทั้งคู่กระเด็นออกมา หวังหลินร้องคำรามและพุ่งใส่อีกครั้ง

วงโคจรดำเนินไปหนึ่งรอบ สองรอบ สามรอบ…จนมากกว่าสิบรอบ แต่ละฝ่าย ไม่มีความคิดอื่นนอกจากการสังหาร แววตาหวังหลินแดงฉานและชายหนุ่มผมขาวก็แววตาแดงฉานไปด้วยเช่นกัน

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!!” หวังหลินร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกและยิงแก่นแท้สายฟ้าออกไปนับไม่ถ้วน

ชายหนุ่มผมขาวร้องคำรามออกมาด้วยคำพูดเดียวกัน สายฟ้าเดียวกันผุดขึ้นมายิงใส่หวังหลิน

พริบตาเดียวทั้งสองก็ปะทะกันเป็นครั้งที่สิบเก้า สายฟ้าจำนวนมากเข้าปะทะจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างแต่ละคนสั่นเทา ดวงตาขวาแทบพังทลาย

ขณะที่ถอยร่น หวังหลินร้องคำรามใส่ท้องฟ้าและหลับตา เต๋าแห่งจริงเท็จเต็มไปทั่วร่าง ยามที่หลับตาทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้กลายเป็นเรื่องเท็จ

ชายหนุ่มผมขาวร้องคำรามออกมาและหลับตาเช่นกัน เข้าสู่ดินแดนแห่งจริงเท็จไปด้วย

อย่างไรก็ตามขณะที่เขาหลับตา หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมา ในแววตาไม่มีความบ้าคลั่ง ราวกับความบ้าคลั่งจากก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด

ชายหนุ่มผมขาวตัวสั่นเทา สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่การเคลื่อนไหวของเขาไม่เหมือนกับหวังหลิน เขาถอยร่นอย่างรวดเร็วและพยายามลืมตา

อย่างไรก็ตามหวังหลินรอเวลานี้มานานแล้ว ดังนั้นจะปล่อยให้หนีรอดไปได้อย่างไร? หวังหลินพุ่งออกไป ฝ่ามือประทับใส่หน้าอกของชายหนุ่มผมขาว ดัชนีงองุ้มและดึงออกมา

“ประทับเวรกรรม!”

แก่นแท้ถูกดึงออกมา ชายหนุ่มผมขาวกรีดร้องโหยหวนก่อนจะกระอักโลหิต เขาพยายามลืมตา แต่ขณะนั้นแขนซ้ายหวังหลินบรรจุพลังแห่งชีวิตตรงเข้าใส่กลางหน้าผากอีกฝ่าย

พอแขนซ้ายร่อนลงไป แขนขวาดูดซับแก่นแท้ที่แยกออกมาก่อนหน้านี้ จากนั้นตรงเข้าใส่กลางหน้าผากชายหนุ่มผมขาวอีกครั้ง ประทับฝ่ามือบรรจุพลังแห่งความตาย!

“ผนึกแห่งชีวิตและความตาย!”

“เป็นไปไม่ได้!!” ชายหนุ่มผมขาวหน้าซีด ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขากระอักโลหิต ร่างกายถอยร่นจนแทบแตกสลาย

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วเวลาสั้นๆ เมื่อประทับแห่งเวรกรรมและผนึกแห่งชีวิตและความตายทำให้ชายหนุ่มผมขาวบาดเจ็บสาหัส หวังหลินพลันหลับตา ก้าวไปข้างหน้าแล้วลืมตาอย่างสงบนิ่งและน่ากลัว

สายตาจับจ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มผมขาว ทำให้อีกฝ่ายความคิดสั่นเทา เขารู้สึกหวาดกลัวจริงๆ และเกิดการลังเล เขาไม่รู้ว่าควรจะหลับตาดีหรือไม่ เพราะถ้าหากหลับตาและหวังหลินหายไปจากสัมผัส นั่นคงเป็นหายนะ!

อย่างไรก็ตามหากไม่หลับตาและหวังหลินใช้เต๋าแห่งจริงเท็จ เขาก็คงบาดเจ็บสาหัสด้วยเต๋าแห่งจริงเท็จ

ด้วยความลังเลนี้ หวังหลินหลับตาอีกครั้ง คราวนี้ทุกอย่างในโลกกลายเป็นเรื่องเท็จและเขาสะบัดแขนขวา

ชายหนุ่มผมขาวกรีดร้องโหยหวนและรีบล่าถอย เสียงดังสนั่นกึกก้องออกมาจากร่างและกระอักโลหิตอย่างต่อเนื่อง เสื้อผ้าสีขาวถูกย้อมด้วยสีแดง พร้อมกับพุ่งเข้าหาม่านวารี

ร่างกายเขาพร่ามัวภายใต้เต๋าแห่งจริงเท็จ ดูราวกับสามารถหายไปได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตามเขาฝืนรั้งตัวเองไว้และส่งเสียงกรีดร้องบีบคั้นหัวใจ

“เป็นไปไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ ข้าสามารถลอกเลียนทุกอย่างที่เจ้ามี ความทรงจำของเจ้า ความคิดของเจ้าไม่สามารถซ่อนตัวจากข้าได้ ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้ ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้!!!!”

“เจ้าไม่สามารถหลอกลวงข้าได้ เจ้าไม่สามารถหลอกลวงข้าได้ ข้าคือเจ้า เว้นแต่เจ้า…จะสามารถหลอกตัวเองได้ก่อน…ข้าเข้าใจแล้ว…เต๋าแห่งการหลอกลวง!!!”

“บัดซบ นี่มันเต๋าแห่งการหลอกลวงของหลิวจินเปียว!!!” ชายหนุ่มผมขาวเข้าใจแล้ว แต่เขาทะยานเข้าหาม่านวารีให้เร็วขึ้น เขารู้ว่าตราบใดที่สามารถกลับไปตรงนั้นได้ เขาคงไม่ต้องกลัวหวังหลิน ตราบใดที่หวังหลินไม่ได้สังหารเขา หวังหลินไม่สามารถผ่านม่านวารีไปได้

เป็นจริงตามที่ชายหนุ่มผมขาวได้กล่าวเอาไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่หวังหลินทำลงไปเพื่อใช้เต๋าแห่งการหลอกลวง! อันดับแรกหวังหลินโจมตีต่อเนื่อง จากนั้นใช้วิชายับยั้งเพื่อซื้อเวลาให้สรุปสถานการณ์

การหาข้อสรุปนี้ไม่ใช่กุญแจสำคัญ แต่เป็นการทำให้เขาใช้เต๋าแห่งความฝันเพื่อพาตัวเองไปอยู่ในสภาวะเหมือนฝันไป ต้องขอบคุณสิ่งนี้เขาจึงสามารถหลอกตัวเองหลังจากที่วิชายับยั้งคลายตัวออก

หวังหลินตกอยู่ภายใต้การหลอกลวงตัวเองระหว่างการต่อสู้อันรุนแรง ราวกับความคิดเขาแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งคือหลอกตัวเองให้เข้าต่อสู้กับชายหนุ่มผมขาวอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกหนึ่งคือรอคอยอย่างสงบนิ่งเพื่อหาโอกาสสังหาร!

โอกาสนี้โผล่ออกมาตอนที่ชายหนุ่มผมขาวหลับตาเพราะคิดว่าหวังหลินกำลังจะใช้เต๋าแห่งจริงเท็จ!

นี่คือข้อสรุปทั้งหมดตอนที่หวังหลินตกอยู่ใต้ผลลัพธ์ของวิชายับยั้ง และเขาก็ปรับเปลี่ยนโดยไม่ลังเลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดังเช่นตอนนี้

หากไม่ใช้วิธีนี้การสังหารทัณฑ์สวรรค์ตัวเองคงยากยิ่ง กระนั้นหวังหลินก็ไม่มีทางสังหารชายหนุ่มผมขาวในชั่วเวลาสั้นๆ ได้ เขารับรู้อย่างลึกซึ้งแล้วว่ามันยากแค่ไหน และการสู้กับตัวเองก็น่าอึดอัดยิ่งนัก

ตอนนี้ชายหนุ่มผมขาวหาเหตุผลได้แล้ว หวังหลินหรี่ตาแคบตอนที่เห็นอีกฝ่ายถอยเข้าไปหาม่านวารี

เมื่อเข้าไปในม่านวารีและเข้าใจวิธีการของหวังหลิน การต่อกรด้วยคงยากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มผมขาวสามารถโดนหลอกได้เพียงครั้งเดียว และไม่มีเป็นครั้งที่สอง!

พอจ้องชายหนุ่มที่กำลังถอยร่น หวังหลินกะพริบแววตาเย็นเยียบ เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีไปได้ เขาต้องสังหาร!

หวังหลินไม่ได้ใช้วิชาอื่นเพื่อหยุดยั้งชายหนุ่มผมขาว เพราะแม้กระทั่งวิชายับยั้งก็คงไม่มีผล ชายหนุ่มผมขาวกำลังจะเข้าไปในม่านวารี หวังหลินกัดฟันแน่นและเผยสายตาตัดสินใจ ยกแขนขวาขึ้นมาและตีใส่ขาขวาตัวเองโดยไม่ลังเล

การตีใส่ครั้งนี้ทำให้ขาขวาของเขาสั่นเทาและกลายเป็นก้อนเลือด กระดูกในขาขวาเกิดเสียงราวกับแตกหัก ชายหนุ่มผมขาวกรีดร้องโหยหวน ขาขวาจึงกลายเป็น ก้อนเนื้อเหมือนของหวังหลิน

ราวกับหวังหลินตีฝ่ามือใส่ขาตัวเอง

“เจ้าเข้าใจได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เจ้า…” ชายหนุ่มผมขาวเต็มไปด้วยแววตาหวาดกลัว เขากระอักโลหิตและเนื่องจากบาดเจ็บอยู่แล้ว ขาขวาแตกกระจายจึงทำให้ช้าลงไปอีก

พอเขาช้าลง หวังหลินจึงพุ่งไปข้างหน้าดุจสายฟ้าสวรรค์ เขามาถึงเบื้องหน้าชายหนุ่มผมขาวและกระแทกเข้าไปในร่างกาย

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างของชายหนุ่มผมขาวแตกสลายอย่างสิ้นเชิง ม่านวารีที่ขัดขวางหวังหลินพลันบิดเบือนและหายไป

หวังหลินไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าแต่หลับตาลง ระดับบ่มเพาะพรั่งพรู พลังเทพโบราณรวมกันในขาขวา ใช้ระดับบ่มเพาะขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางและพลังเทพโบราณเพื่อฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว

ชั่วขณะต่อมา หวังหลินพลันลืมตาขึ้นและก้าวเข้าไปในม่านวารีที่กำลังแตกสลาย ทว่าขณะที่ก้าวไปในม่านวารีได้เพียงครึ่งก้าว พลันหยุดชะงัก

เขาเห็นมัน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version