Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1649

Cover Renegade Immortal 1

1649. ยังไม่พอ!

วินาทีที่หวังหลินเอ่ยออกมา ศีรษะหลายร้อยหัวด้านหลังพลันเปล่งแสงสว่าง ขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องโหยหวนเริ่มดังกึกก้อง

เสียงกรีดร้องโหยหวนเผยความเจ็บปวดเกินคำบรรยาย มันมากมายมหาศาลจนใครที่เป็นคนขี้กลัวถึงกับต้องสลบไป แม้แต่คนที่มีความกล้ายังต้องตกใจและใบหน้าซีดเผือด

คงจินตนาการไม่ออกว่าต้องเกิดความเจ็บปวดแบบไหนถึงทำให้เกิดเสียงกรีดร้องโหยหวยขนาดนั้นได้ ขณะที่เหล่าศีรษะกรีดร้อง โลหิตสีดำไหลออกมาทั้งหู ทั้งตา ทั้งจมูกเต็มไปหมด

กลิ่นคาวโลหิตรุนแรงแผ่กระจายคละคลุ้ง

ศีรษะเหล่านี้มีวิญญาณดั้งเดิมและวิญญาณเจ้าของร่างผนึกไว้ข้างใน ร่างกาย ไร้หัวของพวกเขาตายตกไปหมดแล้ว พวกเขากำลังทนทุกข์กับการเวียนว่ายตายเกิดจากเวรกรรม ชีวิตและความตาย และจริงเท็จ!

ศีรษะแต่ละคนมีแก่นแท้นามธรรมทั้งสามแบบของหวังหลินอยู่ด้วย แก่นแท้เหล่านี้จึงทำให้พวกเขาเหมือนตกอยู่ในความฝันที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ อยู่ในที่ที่ พบเจอกับความตายอันน่าสยดสยองหลายครั้งหลายครา

หวังหลินผนึกพวกเขาด้วยแก่นแท้นามธรรมเพื่อให้พวกเขาได้เจอกับ ความเจ็บปวดรุนแรงแสนสาหัส ไม่ใช่เพราะหวังหลินต้องการทรมาน แต่นี่เป็นขั้นแรกของการไล่ล่าสังหารของเขาเท่านั้น

จุดเริ่มต้นนั้นเกี่ยวข้องกับค่ายกล เป็นค่ายกลที่เขารู้แจ้งหลังจากได้รับความเข้าใจในสามแก่นแท้นามธรรม เขาไม่เคยใช้มันมาก่อนและนี่เป็นครั้งแรก

ค่ายกลนี้เรียกว่า ค่ายกลแก่นแท้!

ชื่อฟังดูเรียบง่าย แต่มันเรียกกันว่าเป็นค่ายกลเวรกรรม ชีวิตและความตาย จริงและเท็จ!

ฉากเหตุการณ์นี้ช่างน่าเศร้าสลดยิ่ง มีเพียงความเกลียดชังฝังลึกเท่านั้นถึงจะทำให้คนทำอะไรแบบนี้ แม้หวังหลินจะเกลียดดินแดนชั้นนอก ความเกลียดชังของเขาก็ไม่ได้รุนแรง แต่หลังจากรู้ความจริงเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ว่าเป็นถ้ำ จึงกระตุ้น ความเกลียดชังรุนแรงขึ้นในใจ

ความเกลียดชังคือต้นตอของการล่าสังหาร ความเกลียดชังคือความอาฆาตที่มีต่อสวรรค์และเหล่าราชันย์เทพผู้คุมโชคชะตา ซึ่งเหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกเข้ามารุกรานในครั้งนี้จึงต้องโดนหางเลขเจอกับความโกรธเกรี้ยวของเขาไปด้วย!

“มีคนมากมายสิ้นชีพในการรบนี้แล้ว ดังนั้นข้าหวังหลิน ไม่สนว่าจะสังหารขึ้นอีก กี่มากน้อย ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดตั้งใจเข้ามาสังหาร ข้าหวังหลินจะช่วยเจ้าเอง ข้าอยากเห็นว่าพวกเจ้ากำลังค้นหาอะไรอยู่!”

“ดินแดนชั้นในสูญเสียไปมากเกินไป ตอนนี้ถึงตาของดินแดนชั้นนอกบ้าง!” เสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึกก้องในหูหวังหลิน สีหน้าท่าทางสงบนิ่งพลางก้าวเข้าสู่ดาราจักรอัญเชิญนที

ดาราจักรอัญเชิญนทีตกอยู่ภายใต้การครอบครองของดินแดนชั้นนอกถึงสองครั้ง จึงมีเซียนจากดินแดนชั้นนอกหลายคนประจำการที่นี่

เหล่าเซียนที่นี่ล้วนโหดเหี้ยม พวกเขาขโมยทรัพยากรไปมากมาย รวมถึงนำเซียนสตรีไปละเลงด้วยกามารมณ์ โลหิตของเหล่าเซียนย้อมกระจายอยู่หลายแห่งในดาราจักรนี้

เพียงแค่หวังหลินเข้ามาในดาราจักรอัญเชิญนที กลิ่นคาวโลหิตหนาแน่นเตะใส่จมูกทันที แววตาเขาเผยจิตสังหารรุนแรงขึ้น แก่นแท้ที่หกคือแก่นแท้สังหาร พลันระเบิดขึ้นจากร่างกาย เกล็ดหิมะสีแดงนับไม่ถ้วนทั้งดูจริงและไม่จริงพลันปรากฏรอบตัวหวังหลิน

เกล็ดหิมะสีแดงล้อมรอบไปทั่วบริเวณ ขณะที่หวังหลินทะยานไปข้างหน้าจึงเกิดเสียงแตกร้าวดังกึกก้อง อวกาศด้านหลังเขาถูกแช่แข็งและเริ่มเรืองแสงสีแดง จากนั้นความเย็นเยียบมหึมาจึงเริ่มแผ่กระจาย

แววตาหวังหลินเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ สัมผัสวิญญาณแผ่ออกไปล้อมรอบทั้งดาราจักรอัญเชิญนที ขณะที่สัมผัสวิญญาณของเขาปกคลุมทั่วทั้งหมด กลิ่นอายของเซียนขั้นที่สามผู้หนึ่งจึงโผล่ออกมาจากส่วนลึก

กลิ่นอายนี้เผยความรู้สึกตกตะลึง ราวกับถูกสัมผัสวิญญาณของหวังหลินจับได้ หากเป็นก่อนหน้าที่หวังหลินจะเข้าสู่เต๋าความฝัน หวังหลินอาจต้องขมวดคิ้ว แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวอีกฝ่ายจับสัมผัสได้เลยแม้แต่น้อย

กลิ่นอายนี้เป็นของเซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง แต่หวังหลินเป็นถึงคนที่กล้าสังหารแม้แต่เซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญ เช่นนั้นเขาไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจอะไรกับเซียนขั้นวิญญาณดับสูญนักหรอก!

หวังหลินเมินเฉยกลิ่นอายของเซียนขั้นที่สามและมาถึงด้านนอกดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ดาวเคราะห์ดวงนี้มีเหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกอยู่หลายพันคน

เหล่าเซียนพวกนี้ส่วนใหญ่กำลังหลับตาบ่มเพาะ บางส่วนกำลังบังคับให้เซียนสตรีเล่นสนุกกัน บางส่วนกำลังหัวเราะกว้างๆ พร้อมกับสังหารคนธรรมดา ส่วนคนอื่นๆ กำลังกลืนกินระดับบ่มเพาะของเซียนดินแดนชั้นในที่จับมาได้

หวังหลินเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้ผ่านสัมผัสวิญญาณ

เมื่อแสงสีแดงผสานเข้ากับดวงตาจึงเปล่งประกายและดูโหดเหี้ยมอำมหิต ด้วยศีรษะเซียนหลายร้อยด้านหลัง หวังหลินจึงดูเหมือนปีศาจที่เพิ่งก้าวออกมา จากขุมนรก

“คนพวกนี้สมควรตาย!” หวังหลินสะบัดแขนขวาและยื่นออกไปจากแขนเสื้อ ทำเป็นฝ่ามือและกดลงไปบนดาวเคราะห์

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมาจากดาวเคราะห์ ฝุ่นผงจำนวนมากลอยขึ้นไปในอากาศและห่อหุ้มทั่วทั้งดาวเคราะห์

ขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องน่าตกตะลึงดังระงม เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกจำนวนมากที่กำลังบ่มเพาะอยู่พลันลืมตาตื่น พวกเขาหวาดหวั่นและทะยานออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ยามที่ปรากฏตัวในท้องฟ้า จึงได้เห็นพายุฝุ่นโหมกระหน่ำนับไม่ถ้วนเข้าเชื่อมกับท้องฟ้า จนภาพทัศนวิสัยพร่ามัว ดูราวกับเป็นจุดจบของโลก!

แรงกดดันหนึ่งห่อหุ้มพวกเขาจนต้องสั่นเทา ก่อตัวเป็นแรงกดทับจนเซียนดินแดนชั้นนอกมากกว่าครึ่งถึงกับกระอักโลหิต แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“นี่มันเป็นพลังแบบไหนกัน?!”

“ใคร มันเป็นใคร?!”

“หรือว่าเป็นเซียนขั้นที่สามจากดินแดนชั้นใน? แต่เซียนขั้นที่สามทั้งหมดฝั่งนั้นอยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้า ใครกันจะฝ่าการปิดล้อมมาถึงที่นี่!?”

เซียนดินแดนชั้นนอกหลายคนที่กำลังเล่นกับเซียนสตรีหรือไม่ก็กำลังดูถูกเหยียดหยามเซียนดินแดนชั้นใน ถึงกับตกตะลึง ขณะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าถึงกับชุ่มไปด้วยเหงื่อ เย็นเยียบ

เพียงแค่พวกเขามาถึงบนท้องฟ้า จึงได้เห็นฉากเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัว!

ฝ่ามือยักษ์ปรากฏขึ้นในท้องฟ้า ฝ่ามือนี้แทบปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าจนราวกับเป็นกลางคืน

แสงทั้งหมดถูกฝ่ามือนี้ปิดจนมิด ผืนดินตกอยู่ในความมืด

ฝ่ามือยักษ์มีอักขระหนึ่งที่กำลังกะพริบ อักขระนี้บางครั้งก็ชัดเจน บางครั้งก็พร่ามัว หากมองดีๆ ความคิดคงจะปั่นป่วน

อักขระนี้คือประตู เป็นประตูกระดูกหมื่นดับสูญที่สร้างขึ้นจากกระดูกสีขาวนับไม่ถ้วน

หลังจากประตูบานนี้ถูกทำลาย มันจึงถูกประทับบนฝ่ามือของหวังหลิน!

ชั่วขณะที่เหล่าเซียนหลายพันคนได้เห็นประตู ดัชนีบนฝ่ามือค่อยๆ เข้ามาใกล้ราวกับมันกำลังกำหมัด เหล่าเซียนสัมผัสได้ถึงสายใยกลิ่นอายที่กำลังถูกแยกออกมาจากร่างและดึงขึ้นไปในท้องฟ้า

เมื่อใดที่ประทับเวรกรรมสัมผัสถูกเซียนขั้นที่สาม มันจะแยกแก่นแท้ของพวกเขาออกมาและไม่ส่งผลถึงชีวิต แต่หากไม่ใช่เซียนขั้นที่สาม ประทับเวรกรรมจะดึงวิญญาณ วิญญาณดั้งเดิม พลังชีวิตและสิ่งที่ไร้ตัวตนหลายอย่างออกมาจากร่างกาย!

ประทับเวรกรรมนั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อปรากฏขึ้นมาท้องฟ้าจึงเปลี่ยนสี ก้อนเมฆกระจัดกระจาย ยามนี้การโจมตีของหวังหลินเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและจิตสังหารจนทำให้น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม!

ฝ่ามือกำหมัดเบื้องหน้าเหล่าเซียนหลายพันคนที่กำลังงุนงง หมัดนี้ไม่ได้ตกลงมาแต่ดึงกลับไปแทน เสียงกรีดร้องโหยหวนของเหล่าเซียนหลายพันคนดังกึกก้องในเวลาเดียวกัน

เสียงกรีดร้องแผ่กระจายไปทั่วดาวเคราะห์เซียนจนกลายเป็นคลื่นเสียงทรงพลัง ร่างกายเหล่าเซียนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าทั้งหมดแตกสลาย ศีรษะถูกแยกออกมาจากร่างกายและลอยเข้าไปในท้องฟ้า

ศีรษะลอยเข้าหาหวังหลินเป็นลำแสงและตามไปอยู่ด้านหลัง

ด้านนอกดาวเคราะห์เซียน หวังหลินกำหมัดขวา พลังชีวิต วิญญาณและ วิญญาณดั้งเดิมนับไม่ถ้วนถูกรวบรวมไว้ในฝ่ามือ เขาสะบัดแขนให้เหล่าวิญญาณดั้งเดิมหลายพันดวงกลับเข้าสู่ศีรษะพวกมันซึ่งจะถูกผนึกไว้ด้วยแก่นแท้ทั้งสามอย่างอีกครั้ง

เสียงกรีดร้องโหยหวนเริ่มดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง ดังสะท้านออกไปในดวงดาว

‘แค่หลักพัน ยังไม่พอ!’ หวังหลินเดินหน้าต่อไปอีกดาวเคราะห์หนึ่งที่เขาเห็นในสัมผัสวิญญาณ

ลึกเข้าไปในดาราจักรอัญเชิญนที สัมผัสวิญญาณของเซียนขั้นที่สามซึ่งประจำการอยู่ในดาราจักรแห่งนี้พลันพุ่งออกมา มันควบแน่นเป็นร่างเงาและเกิดร่างดั้งเดิมลอยออกมา เขาจับจ้องไปที่หวังหลินและทะยานเข้ามาหา

หวังหลินต้องการให้คนผู้นี้เข้ามาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงยอมให้จับสัมผัสวิญญาณมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่คู่ควรที่จะตามหาหวังหลิน!

‘หากมาหนึ่ง ข้าก็จะฆ่าหนึ่ง หากมาเป็นกลุ่ม ข้าก็จะฆ่าทั้งหมด!’ หวังหลินดวงตามืดมนและจิตสังหารเพิ่มพูนมหาศาล เขายังสังหารได้ไม่มากพอ พลางเดินหน้าต่อไปจนปรากฏเบื้องหน้าดาวเคราะห์อีกดวง

ดาวเคราะห์ดวงนี้แทบเป็นซากปรักหักพัง กลิ่นอายแห่งความตายที่นี่รุนแรงยิ่ง เห็นได้ชัดว่าครั้งหนึ่งมันเคยเต็มไปด้วยชีวิต แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความตาย

ในดาราจักรโบราณมีเผ่าหนึ่งเรียกกันว่าเผ่านรก สมาชิกของเผ่านี้ดูดซับกลิ่นอายแห่งความตายเพื่อบ่มเพาะ สถานที่ที่พวกมันรวมตัวกันมักจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ดาวเคราะห์แห่งนี้ถูกสภาราชันย์มอบให้พวกมันหลังจากทำคุณงามความดีไปมากมาย

เผ่านรกเป็นเผ่าเล็กในดาราจักรโบราณ สมาชิกส่วนใหญ่ในเผ่ารวมกันที่นี่และสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมา

ในดาวเคราะห์มีฟองน้ำสีเทาลอยอยู่นับไม่ถ้วน ฟองเหล่านี้มีเชลยของดินแดนชั้นในและส่วนใหญ่เป็นสตรี หนึ่งในนั้นคือโจวจื่อหง!

นางหลับตาและไร้สติ แต่เสื้อผ้าหน้าผมยังอยู่ครบถ้วน

ชั่ววินาทีนั้น เสียงดังลั่นออกมาจากดาวเคราะห์และปรากฏรอยแยกขนาดยักษ์ เกิดเป็นพลังดึงดูดเพื่อดึงฟองน้ำนับสามร้อยก้อนเข้าไป โจวจื่อหงเป็นหนึ่งในนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version